เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไปเรื่อยไปเซื่อยnoeieieiei
รีวิวการเรียนระบบ Pre-degree มหาวิทยาลัยรามคำแหง


  • สวัสดีค่ะ เราเป็นบัณฑิตรามรุ่นที่
    45จบการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ เมื่อเทอมซัมเมอร์ปีการศึกษา 2561 ค่ะ ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาและวัฒนธรรมจีน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชั้นปีที่ 2 ค่ะ (ใกล้จะขึ้นปี 3 แล้ว) อยากจะแบ่งปันประสบการณ์การเรียนระบบพรีดีกรีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจค่ะ

    Pre-degree คืออะไร?

    เราไม่เคยรู้จักการเรียนระบบนี้ค่ะจนวันหนึ่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่แล้วกระทู้เว็บเด็กดีเกี่ยวกับการเรียนพรีดีกรีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ผ่านหน้าไทม์ไลน์เรามาเราก็เลยกดเข้าไปอ่านค่ะ 
    กระทู้นี้เลย

    พรีดีกรีก็คือการลงทะเบียนเรียนเพื่อเก็บหน่วยกิตไว้ล่วงหน้าค่ะแค่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็สามารถมาสมัครเรียนระบบพรีดีกรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้แต่จะยังไม่นับว่าเรากำลังศึกษาปริญญาตรีนะคะ เพราะยังไม่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ถ้าภายใน 3 ปีที่เราเรียนระดับชั้นมัธยมปลายสามารถสะสมหน่วยกิตได้เยอะเมื่อเราจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว แล้วลาออกจาก Pre-degree สมัครเป็นนักศึกษาปริญญาตรีปกติ ก็จะใช้เวลาเรียนอีกประมาณ 1 ปีก็จะจบการศึกษาพอดีค่ะ แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจบภายใน 4 ปีก็ได้ค่ะ เพราะมหาวิทยาลัยรามคำแหงเรียนได้มากสุดถึง ปี ตั้งแต่รหัส 60 เป็นต้นไป ในแต่ละเทอมลงได้สูงสุดถึง 21 หน่วยกิต และเทอมซัมเมอร์ลงได้ไม่เกิน 9 หน่วยกิต เราสามารถลงเรียนวิชาใดก่อนก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องลงตามแผนการเรียน


    ที่มา การเรียนระบบ Pre-degree มหาวิทยาลัยรามคำแหง


    เรียน Pre-degree ค่าใช้จ่ายสูงไหม?

    ค่าใช้จ่ายในการเรียนไม่สูงเลยค่ะค่าหน่วยกิตถูกมาก ค่าหน่วยกิตของการเรียนพรีดีกรีอยู่ที่หน่วยกิตละ 50 บาทค่ะ ปริญญาตรีอยู่ที่หน่วยกิตละ 25 บาท เราเสียค่าใช้จ่ายตลอด 4 ปี ทั้งหมด 15,235 บาท ทั้งนี้ไม่รวมค่าสอบ e-testing ค่าสอบซ่อม และค่าหนังสือ เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก สามารถเข้าถึงได้ และราคาหนังสือที่สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ไม่ได้แพงมากด้วยค่ะ

    เพิ่มเติม : สอบ e-testing คืออะไร? 

    ที่มา เรียน Pre-degree เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง


    เรียน Pre-degree กระทบการเรียนที่โรงเรียนไหม?

    สำหรับเราไม่กระทบเลยค่ะ เพราะไม่เคยไปเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเลยตลอด 4 ปี เราซื้อหนังสือหรือชีทสรุปหรือที่นักศึกษารามเรียกกันว่าชีทแดงมาอ่านเองค่ะ วิดีโอการสอนเคยดูอยู่แค่ครั้งเดียวค่ะ นอกจากนี้ช่วงสอบของแต่ละภาคการศึกษามักจะสอบหลังจากโรงเรียนปิดเทอมแล้วค่ะ แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องลาเรียนเพื่อไปสอบค่ะ 

    ภาคการศึกษาที่ 1 สอบประมาณเดือนตุลาคม
    ภาคการศึกษาที่ สอบประมาณเดือนมีนาคม 

    Pre-degree เรียนยากไหม?


    ในความคิดเห็นส่วนตัวของเรารู้สึกกลางๆค่ะ ไม่ยากและก็ไม่ง่ายเกินไป ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคนด้วย เราเลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ โทภาษาจีนค่ะ เพราะเราคิดว่าเป็นวิชาที่เราสามารถใช้ความรู้มัธยมปลายไปสอบได้ และตอนมัธยมปลายเราเรียนศิลป์ภาษาจีนด้วย

    เราไม่ค่อยสนใจเกรดเท่าไหร่ และทางบ้านก็ไม่ได้กดดันเราด้วย เราเลยเรียนแบบเท่าที่ไหว เกรดตอนเรียนจบของเราอยู่ที่ 3.xx เกรด 3 ต้นๆ ค่ะ เอกภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยรามจะมีวิชาเอกเลือกทั้งหมด 4สาขา ได้แก่ สาขาภาษาอังกฤษทั่วไป สาขาวรรณคดี สาขาภาษาศาสตร์ และสาขาภาษาอังกฤษเฉพาะด้านเราเลือกเรียนสาขาภาษาอังกฤษเฉพาะด้านค่ะ เพราะในตอนที่เก็บหน่วยกิตวิชาเอกบังคับแล้วรู้สึกไม่ถนัดกับวิชาวรรณคดีหรือภาษาศาสตร์เลยเลือกเรียนสาขาภาษาอังกฤษเฉพาะด้านค่ะ เกรดที่เราทำได้ในสาขานี้ก็ไม่ได้สูงมากเช่นกันค่ะแต่เราไม่รู้สึกเครียดกับการอ่านหนังสือในสาขานี้

    เราไม่ได้อ่านหนังสือตลอดเวลา เรียกว่าไม่ค่อยแบ่งเวลาเลย เรามักจะอ่านก่อนสอบไม่กี่วันด้วยซ้ำแต่บางวิชาก็ต้องใช้เวลาอ่านหน่อย เช่น ภาษาจีน และภาษาเกาหลี เพราะต้องใช้เวลาแปลและทำความเข้าใจค่ะ แนะนำว่าให้แบ่งเวลาดีๆ ถ้าไม่อยากเหนื่อยตอนใกล้สอบค่ะ อาจจะเพราะว่าเรามีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เลยอ่านไม่นานก็ทำความเข้าใจได้ค่ะแต่ถ้าใครที่พื้นฐานไม่แน่นก็ควรอ่านและฝึกเขียนเยอะๆ เพื่อให้ได้เกรดดีๆ ค่ะ

    และจากการที่เราอยู่ในกลุ่มมนุษยศาสตร์ รามคำแหงในเฟซบุ๊ก ทำให้เรารู้แนวข้อสอบของแต่ละวิชาค่ะ เพราะคนที่อยู่ในกลุ่มบางคนที่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจะนำแนวข้อสอบมาบอกค่ะ ต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ในกลุ่มที่คอยแบ่งปันแนวข้อสอบเสมอมาค่ะ 

    ทริคการเรียน

    ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นอัตนัยซึ่งการเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์นั้นสำคัญมากพอๆ กับไอเดียที่เราถ่ายทอดลงไปในการเขียน essay เรื่องที่ต้องแม่นมากๆ คือ Subject - Verb Agreement ประธานและกริยาต้องสัมพันธ์กัน กริยาเติม s/es หรือไม่ต้องเติมและเรื่องกาล (Tense) ก็สำคัญมากเช่นกันในการเขียน essay

    การทำความเข้าใจและทวนไวยากรณ์จะทำให้การเขียนมีข้อผิดพลาดน้อยลงและการใช้เว็บช่วยตรวจทานไวยากรณ์และจำจากการที่เว็บแก้ไขให้ว่าผิดตรงไหนก็จะช่วยปรับปรุงการเขียนของเราไปด้วย

    การจำรูปแบบการเขียน วลีที่พบบ่อยในการเขียน Opinion หรือการเขียนงานอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ควรมีการใช้วลีและคำศัพท์รวมถึง Transition ต่างๆ ให้หลากหลาย เพื่อทำให้งานเขียนดูน่าสนใจมากขึ้นการอ่านและทำความเข้าใจกับงานเขียนภาษาอังกฤษก็จะทำให้งานเขียนของเราพัฒนาได้เหมือนกันค่ะ


    มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสคนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างมากค่ะ นอกจากค่าเทอมจะถูกแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน จึงเอื้ออำนวยให้กับคนที่ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมากๆ และมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ไม่ปิดกั้นโอกาสสำหรับคนที่กำลังศึกษาปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ ด้วย สามารถเรียนควบที่รามฯ ไปด้วยได้ค่ะ คนที่เรียนรามขยันกันมาก ต้องมีวินัยในการอ่านหนังสือมาสอบ ใครที่อยากจบปริญญาตรีไวๆ การเรียนระบบ Pre-degree ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เราหวังว่าสิ่งที่เรานำมาแบ่งปันจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจในการเรียนระบบ Pre-degree ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงนะคะ ขอบคุณค่ะ

    ปล.สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ค Noei Ahtchariya นะคะ หรือถ้าใครเห็นรีวิวนี้ผ่านทางทวิตเตอร์สามารถ Direct Message มาสอบถามได้เช่นกันค่ะ


    บัณฑิตรามรุ่นที่ 45 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษคนหนึ่ง


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Yanisa Pikulthong (@fb8804875924820)
อยากสอบถามเพิ่มรบกวน ขอไลน์หรือเฟสหน่อยได้มั้ยคะ
ถ้าเห็นยังไงรบกวนติดต่อกลับหรือคอมเมนต์บอกช่องทางการติดต่อทีนะคะ
fb.Yanisa Pikulthong
noeieieiei (@nandatouuuuu)
@fb8804875924820 ขออภัยด้วยนะคะ ไม่ได้เข้ามาดูเลย เพิ่งเห็นคอมเมนต์เลยค่ะ ถ้ายังอยากสอบถามอยู่ส่งข้อความมาสอบถามได้ที่เฟซบุ๊ค Noei Ahtchariya ได้เลยค่ะ