สวัสดีค่ะเราเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 (ที่ใกล้จะขึ้นชั้นปีที่ 3 แล้ว) ศึกษาอยู่ที่สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เราเป็น Dek61 ค่ะ เป็นปีแรกเลยที่เอกจีน มธ. เปลี่ยนหลักสูตรใหม่ และรับเข้าเอกโดยตรงเลย ไม่มีการรับเอกรวมเราก็อยากจะมารีวิวสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน แห่งคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจสำหรับน้องๆที่อยากเข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การรีวิวต่อไปนี้เราจะขอเรียกชื่อสาขาวิชาย่อๆเป็น “เอกจีน มธ.” นะคะ
หัวข้อที่เราจะพูดถึงมีดังนี้ค่ะ
- เอกจีน มธ. เรียนอะไรบ้าง?
- เอกจีน มธ. จบไปทำงานอะไรได้บ้าง?
- อยากเข้าเอกจีน มธ. ต้องทำอย่างไรบ้าง?
- ทำไมถึงต้องเอกจีน มธ.?
- เอกจีน มธ. เรียนยากไหม?
- เอกจีน มธ. มีเรียนภาษาอังกฤษไหม?
- เอกจีนมธ. มีไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีนหรือไต้หวันไหม?
- เอกจีนมธ. มีฝึกงานไหม?
เอกจีน มธ. เรียนอะไรบ้าง?
ศึกษาเกี่ยวกับการฟังพูด อ่าน เขียนภาษาจีน เพื่อใช้ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วรรณคดี ภาษาศาสตร์ และอารยธรรมจีนซึ่งเป็นหนึ่งในอารยธรรมหลักของโลกที่ส่งอิทธิพลต่อประเทศไทยมาโดยตลอด
จุดเด่นของหลักสูตร
- หลักสูตรมุ่งพัฒนาทักษะภาษาจีนทางด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน และแปล
- มีรายวิชาที่ศึกษาเนื้อหาทางวัฒนธรรมจีนอย่างเข้มข้น
- มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรนอกชั้นเรียนที่ช่วยพัฒนาทักษะภาษาและวิชาชีพตลอดระยะเวลา4 ปี
- มีคณาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีนจากหลากหลายสาขา
หลักสูตรศิลปะศาสตร์บัณฑิตสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน (ฉบับย่อ)
ติดต่อสอบถาม
Website: http://tcas.arts.tu.ac.th/ch/TH/home
Facebook: https://www.facebook.com/TUChineseMajor/
(ที่มา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรมจีน. สืบค้นจาก https://arts.tu.ac.th/undergraduate)
สามารถกดอ่านหลักสูตรและรายวิชาของสาขาหรือเข้าไปชมเพจเฟซบุ๊คของทางสาขาได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเราชอบหลักสูตรแบบนี้ไหมและเหมาะกับเราหรือเปล่า
ตัวอย่างรายวิชาในเอกจีน มธ.



ที่มา : Facebook Page "TU Chinese Major"
เอกจีนมธ. จบไปทำอะไรได้บ้าง?
เนื่องจากว่าเป็นสาขาที่ไม่ใช่สายวิชาชีพดังนั้นนักศึกษาที่จบการศึกษาจากเอกจีน มธ. จะมีการประกอบอาชีพที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำสิ่งที่ได้เรียนมานั้นประยุกต์ใช้กับการทำงานอย่างไรศิษย์เก่าที่จบไปก็ประกอบอาชีพที่หลากหลาย เช่น นักแปล ล่าม อาจารย์มหาวิทยาลัยติวเตอร์ภาษาจีน นักวิชาการ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เลขานุการประกอบธุรกิจส่วนตัว ฯลฯ
อยากเข้าเอกจีนมธ. ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนเลยว่าเราต้องมีเป้าหมายที่แน่นอนตั้งใจอ่านหนังสือ และทำความเข้าใจกับคุณสมบัติและเกณฑ์การรับเข้าของสาขาให้เข้าใจก่อนเป็นอย่างแรก
เกณฑ์การรับเข้าในปีการศึกษา 2561 (ปีของเรา)

ที่มา :Twitter Account “เมาจีน (@Chinese_fav)”
เกณฑ์การรับเข้าในปีการศึกษา2562

ที่มา : Facebook Page “TUChinese Major”
เกณฑ์การรับเข้าในปีการศึกษา 2563

ที่มา : Facebook Page “TUChinese Major”
จะเห็นได้ว่าจากคุณสมบัติและเกณฑ์การรับเข้าของเอกจีนมธ.นั้นมีส่วนแตกต่างกันแค่ตรงเกณฑ์การรับเข้ารอบ 3 (รับตรง) ของปีการศึกษา 2561กับปีต่อๆ มา คือเกณฑ์การรับเข้ารอบ 3 ในปีต่อๆ มา (ตั้งแต่ 2562) จะเปลี่ยนมาใช้คะแนน 9 วิชาสามัญ 3 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและสังคมแทนคะแนน O-NET และ GAT ดังนั้นเวลาเปรียบเทียบคะแนนแนะนำให้ดูคะแนนตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไปจะดีที่สุดค่ะ ส่วนเกณฑ์การรับเข้าในรอบ 4 (แอดมิชชัน) นั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ น้องคนไหนที่คิดจะเทคะแนน O-NETอย่าเทนะคะ ทำให้เต็มที่ เราไม่มีโอกาสสอบใหม่เหมือน GAT-PAT ค่ะ แนะนำให้สอบ HSK ทิ้งไว้ด้วยจะดีที่สุดค่ะเพราะจะได้เพิ่มโอกาสให้ยื่นได้ตั้งแต่รอบ 3 วางแผนการเรียนดีๆ ค่ะ
“เอกจีน มธ. มีรับรอบพอร์ตไหม?”
ตอบ ไม่มีรับรอบพอร์ตค่ะ มีแค่รอบ 3 (รับตรง) และรอบ 4 (แอดมิชชัน) ค่ะ
“ไม่ได้เรียนจบศิลป์ภาษาจีนมาสามารถยื่นคะแนนเข้าเอกจีน มธ. ได้ไหม?”
ตอบ ได้แน่นอนค่ะเพราะทางเอกไม่ได้กำหนดคุณสมบัติว่าต้องจบสายศิลป์ภาษาเท่านั้น ทั้งนี้เกรดก็ต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 3.00 ค่ะ รวมถึงต้องมีคะแนนแพทจีนขั้นต่ำ 225 คะแนน และเกณฑ์คะแนนอื่นๆ เป็นไปตามที่ทางสาขากำหนดค่ะ (ดูได้จากรูปข้างบนค่ะ)
“ถ้าคะแนนแพทจีนไม่ถึงขั้นต่ำ (225 คะแนน) ยื่นไปจะมีสิทธิ์ติดไหม?”
ตอบ ไม่ติดแน่นอนค่ะเพราะฉะนั้นไม่ต้องยื่นเลยดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่เสียอันดับเพราะต่อให้ยื่นมาแต่ถ้าคะแนนแพทจีนไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำก็จะโดนตัดสิทธิ์อยู่ดีค่ะ
“ถ้าไม่มีผลสอบ HSK หรือ TOCFL สามารถยื่นรอบ 3 ได้ไหม?”
ตอบ ผลสอบ HSK หรือ TOCFL มีไว้เพื่อยืนยันว่าเรามีคุณสมบัติตรงตามที่ทางเอกกำหนดไว้ไม่มีผลต่อคะแนนอื่นๆ ค่ะ ถ้ายื่นรอบ 3 มาแต่ถ้าไม่มีผลสอบ HSK หรือ TOCFL มายืนยัน ก็โดนตัดสิทธิ์อยู่ดีค่ะเพราะคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ แต่ยังสามารถยื่นรอบ 4 ต่อได้ค่ะเพราะรอบ 4 ไม่มีการใช้ผลสอบ HSK หรือ TOCFL ค่ะ
“เกรดไม่ถึง 3.00 ยื่นได้ไหม?”
ตอบ ยื่นได้ค่ะ แต่โดนตัดสิทธิ์อยู่ดีเพราะคุณสมบัติไม่ตรงตามที่เอกกำหนดค่ะ
สรุปนะคะถ้าอยากติดเอกจีน มธ.ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและเกณฑ์การรับเข้าของทางเอกให้เข้าใจดีเสียก่อนเพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเองนะคะ ถ้าขาดคุณสมบัติไปข้อใดข้อหนึ่งหรือคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ยื่นมาก็จะเป็นการเสียอันดับฟรีๆ ค่า และเนื่องด้วยระบบการรับเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆอยากให้น้องๆที่จะเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคตคอยติดตามข่าวสารและทำความเข้าใจกับระบบให้เข้าใจกันด้วยนะคะ
ทำไมถึงต้องเอกจีนมธ.?
จากการที่เอกจีนมธ. ได้มีการเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาใหม่แล้ว ทำให้ไม่มีการรับนักศึกษาจากเอกรวม นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาจึงล้วนเป็นคนที่มีพื้นฐานทางภาษาจีนมาก่อนแล้วจึงทำให้ไม่จำเป็นต้องปูพื้นฐานกันตั้งแต่ต้นกันใหม่ไม่ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่การจำพินอินกันใหม่ สำหรับใครที่มีพื้นฐานแล้วไม่อยากเริ่มต้นใหม่ อยากเรียนแบบเข้มข้นไปเลย เอกจีน มธ.จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีอีกทางหนึ่งค่ะ นอกจากการปรับหลักสูตรการศึกษาใหม่นักศึกษายังสามารถเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนสายภาษา หรือวัฒนธรรมตามความถนัดของตัวเองสายภาษาจะเน้นไปที่การใช้ภาษาจีนในสาขาต่างๆ เช่น ภาษาจีนการโรงแรม ภาษาจีนธุรกิจการอ่านบทความวิชาการ ภาษาจีนในวงการข่าว ฯลฯ ส่วนวัฒนธรรมจะเน้นไปที่การทำความเข้าใจวัฒนธรรมของคนจีนเพื่อทำให้เราเข้าใจคนจีนและภาษาจีนได้มากยิ่งขึ้น เช่น ศิลปะจีนบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีน ปรัชญาจีนโบราณ ฯลฯ
นอกจากหลักสูตรที่เข้มข้นแล้ว อาจารย์ในเอกยังใส่ใจนักศึกษามากๆเนื่องจากเป็นเอกที่ไม่ได้มีจำนวนนักศึกษาเยอะมาก อาจารย์จึงสนิทกับนักศึกษา มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาอาจารย์ได้เรียนรู้กันทั้งสองฝ่าย เมื่ออาจารย์ได้ข้อเสนอแนะจากนักศึกษาว่าต้องการให้สอนอย่างไรอาจารย์ก็พร้อมปรับตามความต้องการของนักศึกษา เวลามีกิจกรรมอะไรดีๆอาจารย์ก็จะมาประชาสัมพันธ์ตลอด ทำให้การเรียนที่เอกจีน มธ. ของเรามีความสุขมาก
ทั้งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราเนื่องจากเราไม่ต้องการเข้าคณะสายภาษาที่มีการรับแบบเอกรวมก่อนแล้วมาเลือกเอกทีหลัง เพราะเรารู้สึกว่ามันเหมือนเป็นการเข้ามหาวิทยาลัยสองรอบ กว่าจะฝ่าฟันมาถึงรอบนี้ก็เหนื่อยพอแล้วเลยไม่อยากฝ่าฟันเพื่อให้ได้เอกที่ต้องการต่อและเราไม่ต้องการเริ่มเรียนตั้งแต่พื้นฐานใหม่ เพราะจะทำให้เรารู้สึกเบื่อเราเลยเลือกที่จะยื่นเอกจีน มธ. เพียงที่เดียว เพราะได้เอกที่เราต้องการเลย สำหรับน้องๆที่กำลังค้นหาตัวเองว่าชอบการเรียนแบบไหน ก็ขอให้พิจารณาดีๆว่าชอบแบบไหนมากกว่ากันการเข้าแบบเอกรวมก็มีความท้าทายอีกแบบตรงที่เราต้องแย่งคนอื่นเพื่อให้ได้เอกที่ต้องการอีกที
เพิ่มเติม : เอกรวมคืออะไร?
เอกจีน มธ.เรียนยากไหม?
สำหรับน้องคนไหนที่ไม่ได้จบสายศิลป์ภาษาจีนมาอาจจะกลัวว่าจะเรียนไหวหรือเปล่าอันนี้อยากให้ถามตัวเองค่ะว่าชอบภาษาจีนจริงๆ ไหมสามารถอยู่กับภาษาจีนได้จนเรียนจบเลยหรือเปล่า เพราะการเรียนภาษาเราไม่ได้เรียนแค่หลักภาษาหรือเรียนเพื่อเพิ่มทักษะการฟัง การพูด การอ่าน หรือการเขียนเท่านั้นแต่ยังต้องเรียนทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อให้เข้าใจถึง “คน” ผู้ซึ่งอยู่ในอารยธรรมนั้นๆ ด้วย
สำหรับเรา เราคิดว่าไม่ยากค่ะย้ำนะคะว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคนด้วย พื้นฐานเราตอนที่เข้าเรียนอยู่ที่ HSK5 ค่ะ เลยไม่มีปัญหากับการฟังอาจารย์สอนเป็นภาษาจีนมาก
การเรียนเอกจีน มธ. ใช้ภาษาไทยและภาษาจีนในการสอน ถ้าเรียนแล้วมีเนื้อหาตรงไหนไม่เข้าใจสามารถยกมือถามอาจารย์ได้เลย อาจารย์ชอบให้ถามค่ะหรือถ้าไม่กล้ายกมือถามระหว่างเรียน พอจบคลาสค่อยไปถามอาจารย์ก็ยังได้ค่ะอาจารย์บางท่านก็เข้มงวดกับการเขียนตัวจีนค่ะเพราะเป็นเด็กเอกจีนต้องเขียนตัวจีนให้ถูก ขีดไหนสั้นขีดไหนยาว หรือแม้แต่พินอินเราเคยเขียนตัว a แบบนี้ ก็คือผิดไปเลย เพราะต้องเขียนแบบนี้ค่ะ ɑ
ในส่วนของวิชาเอกตอนปีหนึ่ง เราจะได้เรียนแค่เทอมละตัวค่ะเป็นอาจารย์คนไทยสอนสลับกับอาจารย์คนจีนพอปีสองก็จะได้เรียนวิชาเอกเพิ่มมากขึ้นค่ะและก็ต้องเตรียมตัวตัดสินใจว่าจะเรียนสายภาษาหรือวัฒนธรรมต่อค่ะซึ่งตรงนี้ถ้าใครตัดสินใจไม่ได้ก็สามารถปรึกษากับอาจารย์เพื่อขอคำแนะนำได้ค่ะ แล้วก็เตรียมใจไว้ได้เลยค่ะว่าได้อ่านหนังสือเยอะแน่ๆเพราะอาจารย์จะมีหนังสือนอกเวลาให้อ่านด้วยค่ะ แล้วก็นำมาออกข้อสอบด้วยนั่นเอง
เรียนเอกนี้ต้องขยันทบทวนบทเรียนบ่อยๆค่ะ ถ้าสามารถเตรียมบทเรียนก่อนเข้าเรียนได้ก็จะดีมาก เพราะจะทำให้เวลาเรียนเข้าใจที่อาจารย์สอนได้มากยิ่งขึ้นแล้วก็อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนคนอื่นในเอกค่ะเพราะจะทำให้รู้สึกกดดันและเครียด อ่านเขียน ทบทวนบ่อยๆ ฟังและพูดเยอะๆจะทำให้ทักษะของเราเพิ่มมากขึ้น และถ้าไม่อยากเหนื่อยมากก็แนะนำให้ทำสรุปเรื่อยๆค่ะ พอใกล้ถึงตอนสอบก็อ่านทวน จะได้ไม่ต้องนอนดึกเพื่ออ่านหนังสือสอบด้วย
เอกจีน มธ. มีไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีนหรือไต้หวันไหม?
มีเป็นโปรแกรมระยะสั้นค่ะ ค่าใช้จ่ายออกเองและในบางครั้งก็สามารถ exempt วิชาเรียนในเอกได้ค่ะก็คือการได้รับการยกเว้นรายวิชา ได้หน่วยกิตเลยค่ะ แบบเป็นทุนก็มีค่ะแต่ต้องคอยติดตามเอาทางเพจเอกหรือการประชาสัมพันธ์จากอาจารย์ค่ะ
เอกจีน มธ. มีฝึกงานไหม?
มีฝึกงานค่ะแต่สามารถเลือกได้ว่าจะฝึกงานหรือทำโปรเจคค่ะ ในส่วนตรงนี้เรายังไม่สามารถรีวิวอะไรได้มากเพราะยังไปไม่ถึงจุดนั้นค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่า การรีวิวนี้เป็นแค่ตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของน้องๆมัธยมปลายเท่านั้น อยากให้น้องๆ ทุกคนถามตัวเอง ค้นหาให้เจอว่าชอบเรียนอะไรเพราะเราคิดว่าการได้เรียนในสิ่งที่ชอบจะทำให้มีแรงจูงใจมากกว่าแล้วก็ไม่เหนื่อยด้วย เพราะเราจะต้องอยู่กับมันไปจนกว่าจะเรียนจบ หรือในอนาคตเราอาจจะได้ใช้ทักษะภาษาจีนนี้ในการทำงานก็ได้ตั้งใจทำเกรดตอนมัธยมปลายให้ดีๆ ตั้งใจเรียนถ้าหากคิดว่าความรู้ที่โรงเรียนสอนไม่พอกับการสอบเข้ามหาลัยให้หาความรู้นอกเหนือจากที่โรงเรียนสอน อ่านหนังสือเพื่อสอบ HSK ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี การมา Open House ของแต่ละมหาลัยก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะปัจจัยในการเลือกคณะและมหาวิทยาลัยไม่ได้มีแค่เราชอบหลักสูตรการศึกษาของคณะนี้เท่านั้นยังต้องดูสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยประกอบด้วย ก็ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดีได้คณะและมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจไว้ค่ะ
ปล. สามารถมาสอบถาม หรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ทวิตเตอร์ @chxmanhua
นักศึกษาเอกจีน มธ. รุ่นที่ 29 คนหนึ่ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in