:: กลิ่นหอมของวิญญาณ ชาเนล่าผู้ขโมยความรัก ::
หลังจากที่เราให้เห็นด้านที่ไม่เอาไหนของอุซางิมาหลายตอน ตอนนี้เราจะได้เห็นบุคลิกด้านที่อ่อนโยนของเธอกันบ้าง อุซางิตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงน้องชายตะโกนลั่นบ้าน เพราะเจอลูน่าที่เข้าห้องผิดมานอนอยู่บนเตียง เขาเคยโดนแมวกัดจมูกตอนเด็ก ๆ ก็ฝังใจจนไม่ชอบแมวเอามาก ๆ แต่อุซางิกลับขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงลูน่าเอาไว้ที่บ้าน ด้านคุณพ่อไม่ได้ว่าอะไร ส่วนชินโงนั้นค้านหัวชนฝาเลยทีเดียว คุณแม่จึงตัดสินใจให้ทั้งสองคนไปตกลงกันเอาเอง
วันนี้อยู่กันพร้อมหน้า อุซางิจึงขออนุญาตเอาลูน่าเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน
บ่ายวันนั้นลูน่าพยายามจะเข้าใกล้เพื่อทำความคุ้นเคยกับชินโง เผื่อว่าเขาจะยอมรับให้เข้าไปอยู่ในบ้านด้วยกัน แต่ชินโงก็ยังไม่ชอบลูน่าอยู่ดี ตอนนั้นมิกะที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของชินโงมาเห็นเข้าได้แนะนำว่าอาจจะมีสัตว์เลี้ยงอื่นที่เหมาะกับชินโงก็ได้ จึงพากันไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงที่เปิดใหม่ละแวกนั้น ชื่อ "เพอร์ฟูม" ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นร้านบังหน้าของสมุนของเจไดท์ที่วางแผนจะรวบรวมพลังจากมนุษย์ตามคำบัญชาของควีนเบรีลที่บอกว่า ความปรารถนาของมนุษย์นั้นมีพลังมากที่สุด สัตว์เลี้ยงที่ขายอยู่ที่ร้านเพอร์ฟูมเรียกว่า "ชาเนล่า" มีรูปร่างคล้ายกระต่ายขนยาว ส่งแต่กลิ่นหอมออกมาจากตัวเท่านั้น และไม่กินอาหาร เมื่อเด็ก ๆ มองตาของชาเนล่าก็จะถูกสะกดจิตให้ซื้อกลับบ้านไปคนละตัว และอยากจะมองดูชาเนล่าอยู่ตลอดเวลาจนไม่ต้องการอย่างอื่น หลัังจากนั้นชาเนล่าก็จะดูดพลังจากเด็ก ๆ ไปเรื่อย ๆ ชินโงเองก็ซื้อชาเนล่ากลับบ้านมาด้วยหนึ่งตัว
เด็ก ๆ ที่ร้านเพอร์ฟูมโดนชาเนล่าสะกดจิตเพื่อดูดพลังงาน
เมื่อมาถึงที่บ้านคุณพ่อก็ยอมให้เลี้ยงทั้งชาเนล่าและลูน่าไว้ที่บ้าน แต่ชินโงไม่ยอมจึงไล่ลูน่าและเตะจนกระเด็น ทำให้อุซางิร้องไห้เพราะเสียใจที่ชินโงรังแกลูน่า ลูน่าไม่ได้ถือโทษโกรธชินโงเพราะไม่คิดว่าอยากจะเป็นแมวบ้านอยู่แล้ว แต่อุซางิยืนยันว่าจะเลี้ยงไว้ที่บ้านเพราะลูน่าติดตามเธออยู่ตลอดเวลา
ชินโงอุ้มชาเนล่าไว้และเตะลูน่าจนกระเด็น
วันรุ่งขึ้นชินโงไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะอยากจะอยู่กับชาเนล่า ทำให้อุซางิเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยิ่งไปกว่านั้นชาเนล่ากลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตที่โรงเรียนด้วย นักเรียนหลายคนนำมันมาโรงเรียนและถ้าไม่ได้เห็นชาเนล่าที่เลี้ยงเอาไว้ก็จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว อุซางิคิดว่ามันไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย จึงชวนนารุจังไปดูที่ร้านเพอร์ฟูมแต่นารุจังไม่ว่าง อุซางิคิดว่าจะไปกับชินโง แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ต้องไปคนเดียว ในขณะที่กำลังยืนกังวลไม่กล้าเข้าไปในร้าน เพราะกลัวเป็นแบบชินโง อุซางิก็ได้พบกับมาโมรุอีกครั้งและทะเลาะกันอีกเล็กน้อย อุซางิรำคาญจึงเผลอเดินเข้าร้านไปจนได้
อุซางิแอบดูว่าทำไมชินโงไม่ยอมไปโรงเรียนก็เห็นว่าเขาเอาแต่นั่งมองชาเนล่า
แต่เมื่อเข้าไปในร้าน แม้แต่อุซางิเองก็ถูกชาเนล่าสะกดจิตเช่นเดียวกันชินโง ลูน่าที่ไปด้วยกันคิดว่าอุซางิมีอาการแปลก ๆ ไปจึงคาบชาเนล่าไปไว้ที่อื่น ทำให้อุซางิคืนสติได้อีกครั้ง เมื่อรู้แล้วว่าชาเนล่าเป็นต้นเหตุของพฤติกรรมประหลาดของพวกเด็ก ๆ อุซางิและลูน่าจึงรีบกลับบ้านเพื่อบอกให้ชินโงทิ้งชาเนล่าไป แต่ชินโงไม่ยอมก็ยื้อแย่งชาเนล่ากับอุซางิ ทำให้อุซางิเผลอตบหน้าของชินโง เธอรู้สึกเสียใจมากที่ทำร้ายน้อง ลูน่าจึงบอกให้อุซางิเข้มแข็งและแปลงร่างเพื่อไปที่ร้านเพอร์ฟูมแทน
อุซางิเองก็ถูกเจ้าชาเนล่าสะกดจิตไปกับเขาด้วย
ที่ร้านเพอร์ฟูมเด็ก ๆ กำลังถูกปีศาจใช้ให้กระจายชาเนล่าไปให้ทั่วเมือง เซเลอร์มูนได้เข้ามาขัดขวาง โดยทำให้เด็ก ๆ หลุดจากอำนาจการสะกดจิตและกำราบเจ้าปีศาจลงได้ ชินโงซึ่งอยู่ในกลุ่มของเด็กเหล่านั้นเห็นอุซางิที่แปลงร่างเป็นเซเลอร์มูนแต่นึกว่าเป็นเซเลอร์วีจึงเข้าไปขอลายเซ็น อุซางิบอกกับเขาว่าตนไม่ใช่เซเลอร์วี แต่เป็นเซเลอร์มูนต่างหากล่ะ และใช้จังหวะนี้ขอร้องให้ชินโงช่วยทำดีกับแมวที่ชื่อลูน่า ชินโงก็รับปากเป็นอย่างดี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาลูน่าก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านสึคิโนะ
อุซางิที่แปลงร่างเป็นเซเลอร์มูนหลอกล่อให้ชินโงช่วยทำดีกับลูน่า โดยบอกว่าต่อไปแมวตัวนั้นจะทำให้เขามีความสุข
Trivia
ฝันของอุซางิเหมือนกับว่าจะเป็นสัญญาณบ่งบอกเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเรื่องได้ (foreshadow) เริ่มต้นตอนนี้อุซางิฝันว่ากำลังวิ่งหนีปีศาจแสนน่ากลัว แต่ก็ได้หน้ากากทักซิโด้มาช่วยไว้ แต่สุดท้ายหน้ากากทักซิโด้ก็หายไปต่อหน้า เพราะเธอได้ยินเสียงชินโงจนตื่นขึ้น และตอนที่เซเลอร์มูนกำลังสู้กับปีศาจ เธอก็แปลกใจที่หน้ากากทักซิโด้ไม่ยอมปรากฏตัวขึ้นมาช่วยเธอ จนลูน่าบอกให้เธอไม่ต้องไปหวังพึ่งคนอื่น ซึ่งตอนนี้เป็นอีกตอนที่ไม่มีหน้ากากทักซิโด้เข้ามาช่วยแล้วจริง ๆ สถานการณ์แบบนี้สามารถพัฒนาตัวละครให้เติบโตขึ้นได้ (character development) คนดูเองก็จะรู้สึกเอาใจช่วยอุซางิให้ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปด้วยตัวเองและติดตามว่าตัวละครนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะไหน
หน้ากากทักซิโด้ในความฝันของอุซางินั้นอบอุ่น อ่อนโยน และพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลา
พัฒนาการอีกอย่างหนึ่งของอุซางิก็คือเธอไม่ตื่นสายอีกแล้วและไปโรงเรียนทันตั้ง 2 วัน แต่ต้องมาคอยดูว่าวันต่อ ๆ ไปจะตื่นสายอีกหรือไม่
วันที่สองอุซางิตื่นไม่สายและมาเรียกให้ชินโงไปโรงเรียน
เราได้เห็นชุดลำลองของอุซางิเวลาอยู่บ้าน หลังจากที่ได้เห็นแต่ชุดนักเรียนกับชุดเซเลอร์มูนมาหลายตอน เซเลอร์มูนเป็นการ์ตูนที่เป็นที่ยอมรับว่ามีสไตล์และแฟชั่นของเครื่องแต่งกายที่ดี ชุดของตัวละครจะสวยงามและดูดี
ชุดลำลองของอุซางิเวลาอยู่บ้าน ดูสบาย ๆ แต่ก็น่ารักดี
ครั้งนี้อุซางิไม่ได้เจอมาโมรุที่แถวร้านเกมแล้ว แต่ได้เจอกันที่หน้าร้านเพอร์ฟูม และเหมือนเขาจะช่วยให้เธอกล้าเดินเข้าไปในร้านโดยทางอ้อมซะด้วย เพราะอุซางิเดินหนีเขามาเพราะขี้เกียจจะทะเลาะด้วย
อุตส่าห์เปลี่ยนสถานที่พบกันทั้งที มาโมรุดันกลับมาใส่ชุดเดิมซะนี่
เนื้อเรื่องเริ่มแสดงพื้นฐานนิสัยและจิตใจของตัวละครหลักให้เราได้เห็นมากยิ่งขึ้น ในตอนนี้เราได้เห็นด้านที่อ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นของอุซางิ เช่น ตอนที่ลูน่าโดนชินโงเตะ เธอถึงกับร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกแย่ที่เขารังแกลูน่า ตอนที่ชินโงบอกว่าจะเลี้ยงชาเนล่า แม้ว่าเธอจะอยากเลี้ยงลูน่าเอาไว้ เธอก็ไม่ได้ดึงดันจะห้ามหรือเรียกร้องให้เลี้ยงลูน่าไว้แค่ตัวเดียว ตอนที่เธอเผลอตบหน้าชินโง อุซางิก็รู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่ทำร้ายน้อง จนลูน่าต้องรีบมาเตือนสติ หรือตอนที่อุซางิติดชาเนล่าจนเดินผ่านเด็กที่ตกจักรยานแล้วไม่ยอมเข้าไปช่วย ทำให้ลูน่าเห็นถึงความผิดปกติของเธอ เพราะลูน่ารู้ดีว่าปกติอุซางิไม่ใช่คนแบบนี้ เพราะตัวเองก็เคยได้รับความช่วยเหลือตอนที่ถูกรังแกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ตรงนี้จะแสดงบุคลิกหรือพื้นฐานนิสัย (character) ของตัวละครหลักเอาไว้อย่างชัดเจน
อุซางิเมินเด็กที่กำลังร้องไห้ ทั้ง ๆ ที่ปกติจะต้องเข้ามาช่วยแล้ว เราจะเห็นว่าเธอกำลังอุ้มชาเนล่าอยู่
เทียร่าของเซเลอร์มูนนั้นมีประโยชน์มากกว่าท่ามูนเทียร่าแอคชั่น ในตอนนี้เราจะได้เห็นท่าใหม่คือ มูนเทียร่าสตาร์ดัสต์ ซึ่งสามารถโปรยละอองที่ทำให้เหยื่อที่ถูกสะกดจิตกลับสู่สภาวะปกติได้
มูนเทียร่าสตาร์ดัสต์ช่วยให้เด็ก ๆ ที่ถูกปีศาจครอบงำกลับสู่สภาวะปกติ
จะเห็นว่าเด็กที่อยู่ตรงกลางคือชินโงนั่นเอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in