"
"
"
เด็กหนุ่มขยับตัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้วดันร่างไอ้ซันให้ไปอยู่ข้างหลัง เขาพนมมือไหว้พระท่านเพื่อขอแทรกบทสนทนาก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนที่ใบหน้าเริ่มไม่คล้ายเพื่อนของเขามากขึ้นทุกที
"การที่คุณปรารถนาในรัก อยากถููกรัก มันไม่ผิดหรอกครับ มันแค่ไม่แฟร์ที่คุณต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำ" เขาเอ่ย "ผมอาจไม่สามารถพูดไปเต็มปากว่าผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ ผมอาจไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเผชิญ ไม่เข้าใจในความเจ็บปวด แต่ผมอยากให้คุณรู้อย่างหนึ่งนะครับ"
พยัคฆ์สบตา "คุณได้รับความรักที่คุณปรารถนานักหนามาตลอด แม้กระทั่งคุณตายไปแล้ว คุณก็ยังได้รับความรักนั้นอยู่เสมอ"
ดวงตาคลอหยาดน้ำของร่างเพื่อนเขากลิ้งกลอกไปซ้ายทีขวาทีจนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา มือของมันลูบอกตัวเองซ้ำ ๆ จนเกิดภาพติดตา เขาไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร แต่ถ้าหากให้เดาก็คงเป็นตัวไอ้เจเองที่ยังอยู่ในนั้น ในร่างของมันเอง
"พ่อขอโทษนะลูก... พ่อผิดเอง พ่อผิดเองที่ผลักไสลูก" พระสงฆ์ชราเอ่ยขึ้นมาหลังจากท่านเงียบไปพักใหญ่ "พ่อขอโทษที่ไม่ได้แสดงความรักของพ่อให้ลูกได้เห็น พ่อขอโทษที่ใจแคบไม่ยอมรับตัวตนของลูกจนทอดทิ้งให้ลูกอาศัยอยู่กับญาติตามลำพัง พ่อเป็นพ่อที่ล้มเหลว พ่อสมควรตายตามลูกไปจริง ๆ"
"ลูกไม่ต้องให้อภัยพ่อก็ได้ แต่ปล่อยเขาไปได้ไหมลูก" ท่านกล่าวพลางยื่นฝ่ามือเหี่ยวย่นหมายจะแตะสัมผัสบุตรในร่างชายหนุ่มตรงหน้า
"พ่อจะทำทุกอย่าง... ทุกอย่างจริง ๆ เพื่อชดเชยให้ลูก แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับโยมคนนี้ หากลูกเข้าร่างเขานานจะทำให้เขาไม่สบายได้ เขาร้องไห้เพื่อลูกไม่ใช่หรือ เขาเห็นใจลูก... แล้วลูกไม่เห็นใจเขาบ้างหรือ" ฝ่ามือของพระสมรแตะสัมผัสลงที่ข้างแก้มเพื่อนเขาในที่สุด ปลายนิ้วท่านสั่นระริกอย่างควบคุมความรู้สึกไม่ได้
ผีตนหนึ่งคร่ำครวญไม่หยุดแต่ก็ชะงักงันไปเมื่อปลายนิ้วมือที่ไม่ได้สัมผัสมานานแสนนานแตะอย่างอ่อนโยนที่ข้างแก้ม
วิญญาณในร่างเด็กหนุ่มกำลังนึกถึงตนเองตอนยังเป็นเด็กน้อยที่ถูกพ่อลูบแก้มอย่างรักใคร่ยามเอ่ยปลอบใจที่ตัวเธอร้องไห้เพราะหกล้ม นิ้วมือของพ่อสากแต่อบอุ่น เธอเกือบจำสัมผัสนั้นไม่ได้แล้ว น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ไหลออกมา เธอจำได้เพียงความทรงจำที่พ่อแม่พาเธอไปอยู่กับญาติคนหนึ่ง ในวันที่พ่อเธอรู้ว่าเธอชอบเล่นแต่งหน้าทาปากมากกว่าเล่นหุ่นยนต์ เธอจำสายตาที่ผิดหวังของพ่อกับแม่ได้ดี หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็มาหาเธอน้อยลง จนกระทั่งไม่กลับมาหาเธออีกเลย
เธอได้รับเงินให้ใช้สอยมากมายจากญาติผู้ดูแลเธอ แต่ญาติของเธอก็หาได้ดูดำดูดีเธอไม่ คุณป้าคนนั้นยอมดูแลเธอส่ง ๆ เพราะพ่อกับแม่ส่งเงินก้อนใหญ่มาให้ทุกเดือน เธอจึงเติบโตมาด้วยการใช้เงินซื้อความสุขเข้าหาตัวเอง แม้กระทั่งความรัก มันผิดอะไรหากเธอจะปรารถนาในความรักที่เธอไม่ได้รับ มันผิดหรือที่เธอใช้เงินซื้อความรัก แล้วมันผิดมากหรือไรที่เธอแค่อยากถูกรักแต่เธอกลับต้องมาถูกฆ่าตาย
พี่ชายคนนั้นบอกเธอว่าเธอไม่ผิด พี่ชายที่เธอสิงร่างของเขาก็บอกว่าเธอไม่ผิด เขาร้องไห้ปลอบใจเธอ บอกว่าเธอสมควรได้รับความรักมากมายแค่ไหน พ่อของเธอเอาแต่กล่าวโทษตัวเอง น่าเศร้านักที่เขาบอกว่ารักเธอในตอนที่เธอเป็นเพียงวิญญาณดวงหนึ่ง เธอกลับมาคิดทบทวน... เรื่องราวของเธอ เธอก้าวพลาดที่ตรงไหน ตรงที่เธอตัดใจจากการอธิบายกับพ่อแม่ง่ายไปหรือตรงที่เธอเลือกที่จะใช้เงินซื้อความรักทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันจอมปลอม
เธอคิดว่าต่อให้คิดไปจนกระทั่งเธอไปเกิดใหม่เธอก็อาจยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เธอหยุดฟูมฟามเมื่อได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่รับรู้ตัวตนและความรู้สึกของเธอ ความปรารถนาก่อนตายของเธอนั้นเรียบง่าย ส่วนความปรารถนาหลังตาย เธอมีเยอะแยะเลยทีเดียว เธออยากให้มีใครสักคนที่รับรู้ว่าเธอเป็นทุกข์ เธออยากบอกเล่าเรื่องราวของเธอให้ใครสักคนได้รับฟัง อยากถูกบอกว่าเธอสมควรถูกรัก อยากถูกปลอบประโลม อยากถูกมองว่ามีค่า มีความสำคัญและอยากเล่าว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่เธอต้องเป็นผู้ถูกกระทำ
เธอไม่ได้แค้นเคืองในตัวคนที่ฆ่าเธอด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่เธอคิดว่าเคียดแค้น แต่แท้จริงแล้วเธอเวทนาตัวเองเสียมากกว่าที่ต้องมาตายโง่ ๆ โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันส่งผลกระทบต่อครอบครัวขอเธอมากแค่ไหน คนไม่สำคัญอะไรกัน เธอแค่นหัวเราะ หากเธอเป็นลูกที่ไม่ถูกรัก พ่อกับแม่ของเธอจะเป็นทุกข์เช่นนี้หรือ
น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม เธอมองสบตาพ่อของเธอและยื่นมือไปแตะชายผ้าเหลืองแผ่วเบา เธอก้มลงกราบแล้วเอื้อนเอ่ยประโยคที่ทำให้พ่อของเธอน้ำตาไหล "หนูก็รักพ่อเหมือนกัน"
แล้วเธอก็ยินยอมออกจากร่างของพี่ชายคนที่ใจดีกับเธอไป เธอเหลือบมองสร้อยพระที่แตกร้าวบนคอขาวและเบะปากนิดหน่อย ร่างวิญญาณของเธอเป็นตอตะโกไหม้เกรียม มันน่าเกลียดทว่าพี่ชายคนหนึ่งกลับจ้องมองเธอเขม็ง แววตาของเขาอ่อนลงจากทีแรกที่เขาเค้นถามเอาคำตอบจากเธอมากทีเดียว เธอลอยไปใกล้เขาแล้วกระซิบข้างหู
"พี่มองเห็นหนูด้วยเหรอคะ" เธอถามทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่าเขาเห็นเธอ เขาตัวเกร็งจนขยับเข้าไปแนบชิดพี่ชายอีกคน ปลายสายตาเห็นพ่อของเธอมองซ้ายมองขวาหาเธอจนเธออดขำออกมาเล็กน้อยไม่ได้ "ขอโทษที่สร้างความเดือดร้อนนะคะ ฝากบอกพี่คนใจดีด้วยว่าหนูจะไม่มาตามแล้ว ขอบคุณที่ยอมให้หนูทำตามใจ ความปรารถนาก่อนตายของหนูเป็นจริงแล้วล่ะ"
.
.
.
สาทิสกลับมาหอพักของตนเองด้วยความเหม่อลอย วิญญาณลูกพระสมรที่ออกจากร่างไอ้เจมาคุยกับเขาก่อนจะหายวับไปกับตา เขาไม่รู้ว่านั่นคือการไปสู่สุคติหรือเพียงแค่กลับไปยังบ้านพักครูร้างริมสระหลังนั้น เขาถอนหายใจเฮือกขณะนั่งเอนหลังพิงกำแพงห้องนอน โชคดีที่คราวนี้ก็จบสวย โชคดีที่วิญญาณที่พวกเขาเจอไม่ใช่วิญญาณอาฆาตอย่างที่กังวล
แต่พวกเขาจะโชคดีได้นานอีกสักเท่าไรกัน เด็กหนุ่มคิดอยากให้เพื่อน ๆ ของเขากลับไปมองไม่เห็นและไม่จำเป็นต้องเห็นตลอดไป เขากังวลเรื่องความปลอดภัยและสภาพจิตใจของเพื่อนมากกว่าสิ่งใด
เขายอมรับว่าเขากลัวที่จะเข้าไปในโลกที่ครอบครัวของเขาเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ความกลัวนั้นฝักลึกในใจมาตั้งแต่เยาว์วัย เด็กหนุ่มหลับตาลงก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบกระซาบฟังไม่เป็นภาษาอยู่ไม่ไกล เขาขมวดคิ้วแล้วลองแนบหูกับกำแพง
บางทีีข้างห้องอาจจะเปิดโทรทัศน์ก็ได้ สาทิสคิดในใจทว่ายังคงแนบหูกับข้างกำแพงเพื่อฟังเสียง
"ตาย ตาย ตาย!"
อยู่ ๆ เสียงกระซิบก็ดังขึ้นจนเขาสะดุ้งโหยง เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวาเพื่อมองหาว่ามีผีที่ไหนแอบเข้ามาให้ห้องเขาหรือไม่ เขาส่ายหัวไปมาปฏิเสธความคิดนั้นทันที เพราะหอพักแห่งนี้เขาให้ที่บ้านมาดูเรื่องความแรงของเจ้าที่แล้วแท้ ๆ ยิ่งเจ้าที่มากอิทธิฤทธิ์ก็ยิ่งสามารถกำราบวิญญาณเร่ร่อนไมให้เข้ามารบกวนภายในบริเวณที่ท่านคุ้มครองได้
แปลว่าไม่ใช่ผี.... สาทิสมองกำแพงสีขาวที่บางอย่างไม่น่าเชื่อด้วยความชั่งใจ ขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทีเถอะ เขาเหนื่อยจะแย่แล้ว
TBC.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in