เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyq026_
Dear, my love
  • Relationship : Jooheon x Changkyun
    Date : 08 January 2020
    @q026_






    ถึงเธอ, อันเป็นที่รัก





    /





    จอมทัพบอกว่าผมเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับเขา

    แต่เพราะผมชอบเขา

    ผมเลยไม่เคยโกรธเขาเลย

    ไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้

    ผมก็ไม่เคยโกรธจอมทัพได้ลงจริงๆ

     

    .

     

     

    แสงแรกของวันโผล่แสงมาทักทายให้คนบนเตียงได้ตื่นนอน

    ผมปลุกจอมทัพข้างๆตัวเพื่อที่จะได้เตรียมตัวไปโรงเรียนพร้อมกัน

    เราอยู่บ้านหลังเดียวกันมาตั้งแต่อายุประมาณสิบขวบ

    นั่นเป็นเพราะพ่อและแม่ของจอมทัพรับผมมาเลี้ยง

    ทั้งคู่อยากได้ลูกอีกคน ให้มาเป็นเพื่อนกับลูกของเขาแต่เพราะร่างกายที่ไม่ค่อยจะดีนักของแม่จอมทัพ

    ผมจึงถูกหยิบยื่นความใจดีความเมตตาที่แสนจะยิ่งใหญ่มาอยู่กับครอบครัวที่แสนอบอุ่นหลังนี้

     

     

    .

     

     

    ผมนั่งรถออกมาพร้อมเขา

    ผมเป็นเด็กร่าเริง เพราะที่บ้านเลี้ยงผมเหมือนลูกคนหนึ่งไม่ได้ถูกทรีตแย่ๆให้รู้สึกเหมือนไม่ใช่ลูกแท้ๆสักนิด แต่ผมคิดว่ามันคงติดจะร่าเริงไปด้วยซ้ำจนทำให้จอมทัพรำคาญใจอยู่บ่อยๆ

    ผมเลยเก็บมันไว้ ค่อยๆเก็บมันวันละนิด เพราะกลัวว่าสักวันจอมทัพจะรำคาญผมจริงจังเข้าสักวัน

    ผมเว้นระยะห่างการนั่งบนเบาะไว้ประมาณสองคนนั่ง เมื่อใกล้เข้าเขตโรงเรียน

    จอมทัพบอกว่าห้ามมายุ่งกับเขาระหว่างที่อยู่ที่โรงเรียน

    นั่นทำให้ผมได้คุยกับเขาแค่ตอนเช้า ตอนเลิกเรียนและตอนอยู่บ้านเท่านั้น

     

    .

     

     

    ผมเกลียดวิชาพละ..

    ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้ชายจะไม่ถูกจัดไว้เป็นห้องๆเหมือนกับห้องของผู้หญิงเรามักจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันตรงนั้น ซึ่งมันก็ไม่มีใครคิดอะไร

    จนกระทั่งมีเพื่อนในห้องคนหนึ่ง บอกว่าผมเหมือนเด็กผู้หญิง

    ขาเล็กๆไม่ติดกล้ามเนื้อเหมือนอย่างพวกเขาที่มักจะได้เล่นบอลเป็นประจำ

    เอวผอมๆนั่นเพราะผมกินอะไรไม่ค่อยได้ กินได้ทีละนิดมันทำให้ผมน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์

    ใบหน้าที่มักจะมุดหลบสายตาเป็นประจำอย่างกับเด็กผู้หญิงขี้อาย

    และอย่างสุดท้าย

    หน้าอกที่มันดูมีก้อนเนื้อเล็กๆนิ่มๆทั้งสองข้าง นั่นทำให้พวกนั้นแตกตื่นและจ้องมาจนทำให้เขาอายและอยากจะหายไปจากตรงนี้

    ผู้ชายใส่เสื้อกล้ามไม่ผิด แต่เพราะพวกเขาคิดว่าการไม่ใส่จะดูเท่กว่า เป็นผู้ชายควรจะแมนๆเข้าไว้

    นั่นทำให้เขาไม่อยากใส่ตามไปด้วย ทั้งๆที่มันไม่ใช่กฎระเบียบอะไรแต่เพราะนั่นอาจจะทำให้เขาถูกยอมรับ

     

     

    .

     

     

    ผ่านวิชาพละไปแล้ว

    ตอนนี้ผมรอจอมทัพอยู่ที่รถเพื่อรอกลับบ้านพร้อมกัน

    ไม่นานเขาก็กระชากประตูออกสอดตัวเข้ามาพร้อมกับกลิ่นเหงื่อจางผสมกับเครื่องปรับอากาศ

    จอมทัพเล่นบอลเก่ง เขาได้เป็นกัปตันทีมฟุตบอลของโรงเรียน

    เหงื่อตามร่างกายเปียกชุดนักเรียนนั่นทำให้ชุดนักเรียนเนียนไปกับลำตัวหนา

    ผมลอบมองอย่างกล้าๆกลัวๆ

    เขาเท่จริงๆ สาวๆถึงได้ชอบเขาเยอะแยะขนาดนี้

    ผมอยากเท่บ้าง อยากเล่นกีฬาหนักๆจนเหงื่อชุ่มตัว

    แต่ก็ทำไม่ได้

    คุณแม่บอกว่าผมไม่สบาย

     

     

    .

     

     

    วันนี้จอมทัพไม่กลับพร้อมกับผมตอนเย็น

    เขาบอกว่าจะไปกินอะไรกับเพื่อน

    จริงๆผมรู้ว่าเขาไปกับสาวๆของเขานั่นแหละ

    เมื่อตอนกลางวันผมเห็นเขาจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งข้างห้องน้ำมุมหนึ่งในโรงเรียน

     

     

    .

     

     

    จอมทัพนอนดึกขึ้นทุกวัน แถมยังทำตัวติดกับโทรศัพท์ตลอดเวลา

    คืนนั้นผมเลยบอกเขาว่าให้เลิกเล่นได้แล้ว แสงแยงตาและผมนอนไม่หลับ

    เขาโมโห

    ถูกเขาไล่ออกมานอนตรงโซฟาที่ห้องรับแขกเงียบๆกลางดึกคนเดียว

    หลังจากนั้นผมเลยไม่ปริปากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

     

     

    .

     

     

    ผ่านไปหลายสัปดาห์จอมทัพดูมีความสุขขึ้นในขณะที่ผมไม่ต่างกับหมาที่เจ้าของไม่สนใจ

    พักหลังผมไปเล่นอะไรด้วยก็มักจะถูกตวาดหรือตะคอกกลับมาเสมอแน่นอนว่านั่นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่

    ผมมักออกมานั่งเล่นตรงสวนคนเดียวความเงียบทำให้ผมได้ยินทุกๆอย่างที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่อยากได้ยินก็ตาม

     

     

    .

     

     

    เสียงหัวเราะตั้งแต่บ่ายลากยาวจนมาถึงห้องนอนในตอนหัวค่ำ

    ผมคิดว่าแฟนของจอมทัพที่มาหาที่บ้านตั้งแต่เช้าจะกลับไปในตอนเย็นเหมือนทุกครั้ง

    แต่ครั้งนี้ในห้องนอนของเราสองคนกลับมีใครอีกคนแบ่งใช้พื้นที่บนเตียงด้วย

     

     

    .

     

     

    คืนนั้นผมนอนไม่หลับจนถึงเช้า

    การสั่นสะเทือนของเตียงเพราะมีคนขยับไปมา และเสียงหัวเราะคิกคักในช่วงหัวค่ำก่อนจะกลายมาเป็นเสียงหอบกระเส่าของทั้งคู่

    เราห่างแค่ความยาวของคืบนิ้ว แต่เหมือนผมถูกตบกระเด็นไกลไปเป็นกิโล ผมได้แต่นอนตัวชาอยู่ที่นั่น ไม่กล้าแม้แต่จะอนุญาตให้ตัวเองร้องไห้

    ถามว่าทำไมผมไม่ไปนอนที่อื่นนั่นเพราะผมทานข้าวเสร็จแล้วก็ขึ้นมานอนเลยเพราะไม่มีใครเล่นด้วย ผมหลับและตื่น ไม่กล้าลืมตาเมื่อรู้ว่าใครอยู่ในห้องด้วยจนกระทั่งตอนนี้

    เธอมาทีหลัง

    แต่ได้ทุกอย่างไป

    รอยยิ้ม

    เสียงหัวเราะ

    กอดอุ่น

    และความรัก

     

     

    .

     

     

    หลายเดือนผ่านไป

    จอมทัพยังพาแฟนมานอนเหมือนเดิมแต่ผมเลือกพาตัวเองไปนอนโซฟาทุกครั้งที่เธอมา

    จากที่ผมชอบไปเล่นกับจอมทัพ ถึงแม้จะโดนเขาดุด่ามาอยู่บ่อยๆกลายเป็นว่าตอนนี้เราแทบจะไม่ได้คุยกัน

    ไม่ใช่ความโกรธ

    แต่รู้สึกว่าผมไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาอีกต่อไป แค่นั้น

    ถึงผมจะปรับตัวเรื่องจอมทัพได้แต่เรื่องที่ไม่เปลี่ยนไปคือผมยังต้องเปลี่ยนชุดในวิชาพละอยู่

    เพราะมันผ่านมาหลายเดือน ตรงนั้นเลยนูนขึ้นมากกว่าเดิม

    วาจา สายตาคนนับสิบพุ่งตรงมาที่ผมจนพรุน แต่คงทำได้แค่รับมันไว้และเก็บเงียบ

    ผมไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่แม่

    มันไม่ใช่เรื่องปกติของเด็กผู้ชายผอมกะหร่องแบบผมที่จะสามารถมีเนื้อนูนนิ่มขึ้นตรงหน้าอก

    น่าอับอาย และกลัวเกินไปว่าจะถูกรังเกียจจากคนที่รักมากที่สุด

     

     

    Jom’s part

     

     

    อยู่บ้านมึงให้น้องกินอะไร ทำไมนมใหญ่แบบนั้น

    ผมชะงักไม่เข้าใจข้อความจากที่คนไม่ค่อยถูกชะตาพูดแบบนั้นใส่ตอนเดินผ่านกัน

    คนที่โรงเรียนรู้จักมันในนามน้องของผม แต่ที่จริงแล้วเราอายุเท่ากัน

    ไม่รู้ว่ามันไปทำเรื่องอะไรมาอีก คนถึงพูดกันแบบนั้น

    เหมือนทุกวันผมพาตัวเองไปนั่งหลังรถคู่กับคนที่มักจะมารอก่อนแล้วเพื่อกลับบ้าน

    ทั้งผมและมันนั่งเงียบ

    เพิ่งสังเกตว่ามันเงียบขนาดนี้ ปกติไม่มีเวลาสังเกตเพราะผมมักจะแชทกับคนในโทรศัพท์ทุกวัน

    เสียงเขย่าเม็ดยาออกจากกล่องเรียกให้ผมพาสายตาไปอีกฝั่ง

    มันกินยาอะไรสักอย่าง ดื่มน้ำ แล้วก็นั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างเหมือนเดิม

     

     

    .

     

     

    ผ่านไปอีกหลายสัปดาห์

    ผมกับแฟนสาว เราทะเลาะกันหนักเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องในพักหลังนี้และเหมือนวันนี้มันจะหนักกว่าทุกครั้ง

    แจกันที่เคยวางนิ่งๆป่านนี้ถูกผมปัดมันทิ้งแตกกระจายอยู่ที่พื้น

    เสียงโวยวายของผมเรียกแม่บ้านคนสวนรวมถึงมัน มาห้ามผมที่จ้องแต่จะทำลายข้าวของบรรเทาความโกรธ

    สุดท้ายผมตวาดไล่ทุกคนกลับไปทุกคนดูเป็นห่วงผม แต่ก็ยอมกลับเพราะกลัวว่าผมจะอาละวาดไปมากกว่านี้

    ยกเว้นมัน

    มันที่ยืนร้องไห้หนักกว่าผม ห่างออกไปอีกสิบก้าว

     

     

    .

     

     

    ผมอ่อนแอ

    จนสามารถกอดมันได้มาเป็นชั่วโมง มันที่ผมไม่เคยคิดอยากจะดีด้วย

    แต่ตอนนี้ผมโทษตัวเองว่าอ่อนแอเกินไป เลยคงเพี้ยนและรู้สึกไปเองว่ากอดมันก็ดี

    กลุ่มผมนิ่มซุกอยู่ที่คอเสียงสูดน้ำมูกจากการที่ร้องไห้หนักเริ่มเบาบางลง

    แขนเล็กที่ดูจะไม่มีแรงสู้กับอะไรกอดตัวผมไว้หลวมๆ

    ขาเล็กไร้กล้ามเนื้อนั่งคร่อมผมไว้ทั้งตัว

     

     

    .

     

     

    ขอบตาบวมปูดเงยหน้ามามองกันมองเหมือนอยากจะบอกว่าไม่ให้ผมเจ็บปวดได้ไหม

    อย่าเจ็บได้รึเปล่า

    ผมรู้สึกอย่างนั้น

    หลังจากที่มันกุมมือข้างซ้ายผมไว้ด้วยมือมันทั้งสองข้างไว้สักพัก

    ตอนนี้มันขยับ ขยับพร้อมกับพามือข้างนั้นผมไปด้วย

    เข้าไปใต้ชุดนอน ลากผ่านเนื้อร้อนช้าๆราวกับชั่งใจ

    แต่สุดท้ายมันก็หยุด

    หยุดไว้ตรงเนื้อนุ่มๆตรงระดับหน้าอก ขนาดไม่ใหญ่แต่พอดีให้ขยำ

    ผมนึกย้อนไปถึงคำที่เคยได้ยินเมื่อครั้งก่อน

    พวกมันหมายถึงสิ่งนี้หรอ

    คำถามผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ทั้งคนอื่นรู้ได้ไง มันมีสิ่งนี้ได้ไง มันคืออะไร และต่างๆ

    แต่มันมลายหายไปเมื่อผมเผลอลูบไล้และคลึงมันเบาๆ

    ใบหน้าของมันขึ้นสีตรงแก้มทั้งสองด้าน ก้มหน้างุดไม่ให้ผมมอง

    หลังจากนั้นผมลืมเรื่องที่เคยเครียดก่อนหน้านี้ไปจนหมด

    ตอนนี้มีแค่มัน ตรงหน้าผม

    มันที่นอนราบไปกับโซฟา ชุดนอนที่ถูกผมเลิกขึ้นไปถึงคอและหน้าอกเล็กๆทั้งสองข้างของมัน

    มันเบือนหน้าหนีและยกนิ้วขึ้นมากัดเพราะความประหม่า

    ผมก้มลงสำรวจสิ่งนั้น ก่อนหน้านี้ผมเคยสังเกตมาบ้างเวลามันใส่ชุดบางๆ

    เม็ดบัวสองข้างของมันมักจะนูนขึ้นดันเสื้อผ้าขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ

    จนตอนนี้ผมได้เห็นมันกับตา

    ได้ลิ้มรส

    ทั้งบัวเม็ดสีสวย

    และตัวตนของมัน

     

     

    .

     

     

    เช้าหลังจากวันนั้น เราไม่ได้คุยอะไรกันไปมากกว่าเดิมแต่ก็มีบางวันที่ผมทำแบบนั้นกับมัน

    มันเต็มใจ ส่วนผมก็พอใจ

    พ่อกับแม่ทำงานเบาลงแต่ก็ไม่ได้คุยกันมากกว่าเดิม ทั้งคู่มัววนอยู่แถวโรงพยาบาลเพราะมัน

    ผมไม่รู้ว่ามันไม่สบายตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะกลับมาบ้านทำเรื่องอย่างว่า มันก็ดูปกติ แต่มีแค่บางครั้งที่ดูเหนื่อยๆ แต่มันก็จะหายไป มันแค่แวบเดียวซึ่งผมไม่ได้สนใจจะเก็บเอามาใส่ใจอยู่แล้ว

     

     

    .

     

     

    สองเดือนแล้ว

    พ่อบอกผมว่ามันป่วยค่อนข้างหนัก และต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลังจากนอนมาแล้วสองเดือนเต็ม

    ผมไปเยี่ยมมันบ้าง แต่ไม่บ่อย ผมกลับมาคืนดีกับแฟนแล้ว

    แล้วมันก็รู้

    ผมบอกว่าไม่ต้องร้องไห้เหมือนคืนนั้นแล้ว ถ้าเลิกอีกก็ไม่ต้องร้องแล้ว

    มันยิ้ม

    แล้วบอกผมว่า

    ไม่ร้องแล้ว

    ไม่เจ็บอีกต่อไป

     

     

    .

     

     

    เช้านี้พ่อบอกมันจะกลับมาบ้าน

    บอกว่ามันงอแง ร้องไห้อยากกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน

    หลังเลิกเรียนผมกลับถึงบ้านเห็นรองเท้าคู่เล็กกว่าผมวางไว้ตรงชั้นรองเท้า

    มันกลับมาแล้ว พร้อมกับกลิ่นของมัน กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนแป้งเด็กแต่มันเจือกลิ่นโรงพยาบาลอยู่บางเบา

    ผมสูดเข้าไปเต็มปอดแบบที่ไม่รู้ตัวว่าติดจะคิดถึงกลิ่นนี้อยู่เล็กๆ

    แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมผ่อนอารมณ์ที่คุกกรุ่นตอนนี้ได้

    ผมทะเลาะกับแฟนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้โวยวายเหมือนครั้งที่แล้ว

    เหมือนในใจรู้ดีว่าไม่มีแฟนก็ยังมีมันอีกคนที่ยังอยู่ ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่นั่นทำให้เขาวางโทรศัพท์ลงได้

    มื้ออาหารเย็น ผมนั่งเงียบจนแม่ถามว่าเป็นอะไร ผมตอบความจริงไปและทั้งโต๊ะก็ดำเนินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

    .

     

     

    เสียงเปียโนคลอไปทั่วทั้งบ้านยามสามทุ่มกว่าๆ

    ผมที่นอนอยู่ในห้องคนเดียวค่อยๆคลายปมที่ถูกขมวดไว้บนคิ้วเมื่อได้ยินทำนองเปียโนเพราะๆ

    บ้านนี้มีผมกับมันเล่นเปียโนเป็นแค่สองคนเพราะถูกสอนโดยที่คนแม่จ้างให้มาสอนที่บ้านตั้งแต่เด็กๆ

    ตอนนั้นผมเคยบอกมันว่า เสียงเปียโนช่วยให้ผมหายเครียด ผมเลือกซื้อเปียโนมันเลยได้เรียนเปียโนตามที่ผมอยากเรียน

    ไม่รู้ว่าทำไมแต่ถึงจะเล่นเพลงเดียวกัน กดโน๊ตตัวเดียวกัน ยังไงผมก็เล่นได้ไม่เพราะและสวยเท่ามัน

    มันเหมือนกับว่าเปียโนหลังสวยนี้เกิดมาเพื่อมัน อะไรแบบนั้น


    .

     

     

    ไม่รู้ว่าเสียงนั้นจบไปก่อนหรือผมที่ผล็อยหลับไปก่อน

    รู้ตัวอีกทีก็เสียงเอะอะโวยวายข้างล่างที่ดังมากจนทำให้ผมตื่นได้

     

     

    .

     

     

    เหมือนโลกหยุดหมุน

    เหมือนทุกอย่างหยุดดำเนินและทิ้งให้ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวดลำพังบนโลกใบนี้

    ทุกอย่างในความทรงจำไหลตีเข้าหน้าจนทำให้คิดได้ว่า ผมที่เหมือนจะไม่ใส่ใจ จะจำอะไรไม่ได้

    เป็นจำได้ทุกอย่าง

    ทุกอย่างที่มีมัน

    ทุกอย่าง

     

     

    .

     

     

    ผมไม่เคยรู้ว่า มันจะรู้สึกเหงาจนอยากจะร้องไห้ บนเบาะหลังรถที่มีคนให้คุยได้แต่กลับไม่กล้าคุยและคุยไม่ได้


    ผมไม่เคยรู้ว่า มันจะอยากเล่นกีฬาแบบผมแต่เพราะเรื่องสุขภาพเลยทำให้ออกแรงเยอะๆไม่ได้


    ผมไม่เคยรู้ว่า มันจะไปขอยาแก้ปวดทุกเช้าจากแม่บ้านถ้าคืนนั้นนอนที่โซฟา


    ผมไม่เคยรู้ว่ามันจะต้องทนอายตอนเปลี่ยนชุดหรือตอนที่โดนคนอื่นล้อเรื่องหน้าอกของมัน


    ผมไม่เคยรู้ว่า มันต้องฝืนกินยาเกือบสิบเม็ดทุกวันเพื่อที่จะต่อลมหายใจเพื่อปลุกผมไปเรียนในตอนเช้า


    ผมไม่เคยรู้ว่า ตอนมันทำแบบนั้นกับผม มันจะเหนื่อยมากจนอยากจะหลับๆไป แต่มันยอมเพราะตามใจผม


    ผมไม่เคยรู้ว่า คืนแรกที่ผมมีอะไรกับแฟนบนเตียงที่มันก็นอนอยู่ด้วย ผมไม่รู้ว่ามันยังไม่นอน


    ผมไม่เคยรู้เลยว่า มันให้ร่างกายกับผมทำไม ถ้าไม่ใช่มันอยากให้สิ่งที่ให้เหมือนกันได้เหมือนสิ่งที่แฟนผมให้


    ผมไม่เคยรู้ว่า คืนสุดท้ายที่มันเล่นเปียโน มันเล่นเพราะอยากปลอบผม อยากให้ผมไม่ต้องเสียใจเหมือนที่มันเคยบอกผมผ่านดวงตาคู่สวยของมัน

     



    และผมไม่เคยรู้ว่า ที่ผมบอกให้มันไม่ต้องร้องไห้

    มันบอกว่าจะไม่ร้อง

    มันจะไม่เจ็บอีกต่อไป

    คือมันกำลังจะหนีผมไปที่ไกลๆ

     




    แต่สิ่งสุดท้ายที่ผมได้รู้คือ

    ผมรักมัน

    มันไม่เคยรู้เรื่องนี้

    และจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป

     



    ถึงเธอ, อันเป็นที่รัก





    End.

     

     

     

     

     





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
twz_buujoo (@twz_buujoo)
ฮือออออออออ ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ ㅠㅠ เราชอบการบรรยายแบบนี้นะะ ไม่มีบทพูดเลย เหมือนอ่านไดอารี่อยู่ แต่ละคำอ่านแล้วก็เจ็บปวดมากๆ ขอบคุณนะคะ แงงงง ขอบคุณมากเลยค่ะะะ
q026_ (@q026_)
@twz_buujoo ฮือขอบคุณที่ชอบเหมือนกันนะคะ เราบรรยายไม่ค่อยเก่งแต่ดีใจแล้วก็ขอบคุณสำหรับcommentมากๆเลยค่ะT_T