จอมทัพบอกว่าผมเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับเขา
แต่เพราะผมชอบเขา
ผมเลยไม่เคยโกรธเขาเลย
ไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้
ผมก็ไม่เคยโกรธจอมทัพได้ลงจริงๆ
.
แสงแรกของวันโผล่แสงมาทักทายให้คนบนเตียงได้ตื่นนอน
ผมปลุกจอมทัพข้างๆตัวเพื่อที่จะได้เตรียมตัวไปโรงเรียนพร้อมกัน
เราอยู่บ้านหลังเดียวกันมาตั้งแต่อายุประมาณสิบขวบ
นั่นเป็นเพราะพ่อและแม่ของจอมทัพรับผมมาเลี้ยง
ทั้งคู่อยากได้ลูกอีกคน ให้มาเป็นเพื่อนกับลูกของเขาแต่เพราะร่างกายที่ไม่ค่อยจะดีนักของแม่จอมทัพ
ผมจึงถูกหยิบยื่นความใจดีความเมตตาที่แสนจะยิ่งใหญ่มาอยู่กับครอบครัวที่แสนอบอุ่นหลังนี้
.
ผมนั่งรถออกมาพร้อมเขา
ผมเป็นเด็กร่าเริง เพราะที่บ้านเลี้ยงผมเหมือนลูกคนหนึ่งไม่ได้ถูกทรีตแย่ๆให้รู้สึกเหมือนไม่ใช่ลูกแท้ๆสักนิด แต่ผมคิดว่ามันคงติดจะร่าเริงไปด้วยซ้ำจนทำให้จอมทัพรำคาญใจอยู่บ่อยๆ
ผมเลยเก็บมันไว้ ค่อยๆเก็บมันวันละนิด เพราะกลัวว่าสักวันจอมทัพจะรำคาญผมจริงจังเข้าสักวัน
ผมเว้นระยะห่างการนั่งบนเบาะไว้ประมาณสองคนนั่ง เมื่อใกล้เข้าเขตโรงเรียน
จอมทัพบอกว่าห้ามมายุ่งกับเขาระหว่างที่อยู่ที่โรงเรียน
นั่นทำให้ผมได้คุยกับเขาแค่ตอนเช้า ตอนเลิกเรียนและตอนอยู่บ้านเท่านั้น
.
ผมเกลียดวิชาพละ..
ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้ชายจะไม่ถูกจัดไว้เป็นห้องๆเหมือนกับห้องของผู้หญิงเรามักจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันตรงนั้น ซึ่งมันก็ไม่มีใครคิดอะไร
จนกระทั่งมีเพื่อนในห้องคนหนึ่ง บอกว่าผมเหมือนเด็กผู้หญิง
ขาเล็กๆไม่ติดกล้ามเนื้อเหมือนอย่างพวกเขาที่มักจะได้เล่นบอลเป็นประจำ
เอวผอมๆนั่นเพราะผมกินอะไรไม่ค่อยได้ กินได้ทีละนิดมันทำให้ผมน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์
ใบหน้าที่มักจะมุดหลบสายตาเป็นประจำอย่างกับเด็กผู้หญิงขี้อาย
และอย่างสุดท้าย
หน้าอกที่มันดูมีก้อนเนื้อเล็กๆนิ่มๆทั้งสองข้าง นั่นทำให้พวกนั้นแตกตื่นและจ้องมาจนทำให้เขาอายและอยากจะหายไปจากตรงนี้
ผู้ชายใส่เสื้อกล้ามไม่ผิด แต่เพราะพวกเขาคิดว่าการไม่ใส่จะดูเท่กว่า เป็นผู้ชายควรจะแมนๆเข้าไว้
นั่นทำให้เขาไม่อยากใส่ตามไปด้วย ทั้งๆที่มันไม่ใช่กฎระเบียบอะไรแต่เพราะนั่นอาจจะทำให้เขาถูกยอมรับ
.
ผ่านวิชาพละไปแล้ว
ตอนนี้ผมรอจอมทัพอยู่ที่รถเพื่อรอกลับบ้านพร้อมกัน
ไม่นานเขาก็กระชากประตูออกสอดตัวเข้ามาพร้อมกับกลิ่นเหงื่อจางผสมกับเครื่องปรับอากาศ
จอมทัพเล่นบอลเก่ง เขาได้เป็นกัปตันทีมฟุตบอลของโรงเรียน
เหงื่อตามร่างกายเปียกชุดนักเรียนนั่นทำให้ชุดนักเรียนเนียนไปกับลำตัวหนา
ผมลอบมองอย่างกล้าๆกลัวๆ
เขาเท่จริงๆ สาวๆถึงได้ชอบเขาเยอะแยะขนาดนี้
ผมอยากเท่บ้าง อยากเล่นกีฬาหนักๆจนเหงื่อชุ่มตัว
แต่ก็ทำไม่ได้
คุณแม่บอกว่าผมไม่สบาย
.
วันนี้จอมทัพไม่กลับพร้อมกับผมตอนเย็น
เขาบอกว่าจะไปกินอะไรกับเพื่อน
จริงๆผมรู้ว่าเขาไปกับสาวๆของเขานั่นแหละ
เมื่อตอนกลางวันผมเห็นเขาจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งข้างห้องน้ำมุมหนึ่งในโรงเรียน
.
จอมทัพนอนดึกขึ้นทุกวัน แถมยังทำตัวติดกับโทรศัพท์ตลอดเวลา
คืนนั้นผมเลยบอกเขาว่าให้เลิกเล่นได้แล้ว แสงแยงตาและผมนอนไม่หลับ
เขาโมโห
ถูกเขาไล่ออกมานอนตรงโซฟาที่ห้องรับแขกเงียบๆกลางดึกคนเดียว
หลังจากนั้นผมเลยไม่ปริปากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
.
ผ่านไปหลายสัปดาห์จอมทัพดูมีความสุขขึ้นในขณะที่ผมไม่ต่างกับหมาที่เจ้าของไม่สนใจ
พักหลังผมไปเล่นอะไรด้วยก็มักจะถูกตวาดหรือตะคอกกลับมาเสมอแน่นอนว่านั่นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่
ผมมักออกมานั่งเล่นตรงสวนคนเดียวความเงียบทำให้ผมได้ยินทุกๆอย่างที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่อยากได้ยินก็ตาม
.
เสียงหัวเราะตั้งแต่บ่ายลากยาวจนมาถึงห้องนอนในตอนหัวค่ำ
ผมคิดว่าแฟนของจอมทัพที่มาหาที่บ้านตั้งแต่เช้าจะกลับไปในตอนเย็นเหมือนทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ในห้องนอนของเราสองคนกลับมีใครอีกคนแบ่งใช้พื้นที่บนเตียงด้วย
.
คืนนั้นผมนอนไม่หลับจนถึงเช้า
การสั่นสะเทือนของเตียงเพราะมีคนขยับไปมา และเสียงหัวเราะคิกคักในช่วงหัวค่ำก่อนจะกลายมาเป็นเสียงหอบกระเส่าของทั้งคู่
เราห่างแค่ความยาวของคืบนิ้ว แต่เหมือนผมถูกตบกระเด็นไกลไปเป็นกิโล
ถามว่าทำไมผมไม่ไปนอนที่อื่นนั่นเพราะผมทานข้าวเสร็จแล้วก็ขึ้นมานอนเลยเพราะไม่มีใครเล่นด้วย
เธอมาทีหลัง
แต่ได้ทุกอย่างไป
รอยยิ้ม
เสียงหัวเราะ
กอดอุ่น
และความรัก
.
หลายเดือนผ่านไป
จอมทัพยังพาแฟนมานอนเหมือนเดิมแต่ผมเลือกพาตัวเองไปนอนโซฟาทุกครั้งที่เธอมา
จากที่ผมชอบไปเล่นกับจอมทัพ ถึงแม้จะโดนเขาดุด่ามาอยู่บ่อยๆกลายเป็นว่าตอนนี้เราแทบจะไม่ได้คุยกัน
ไม่ใช่ความโกรธ
แต่รู้สึกว่าผมไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาอีกต่อไป แค่นั้น
ถึงผมจะปรับตัวเรื่องจอมทัพได้แต่เรื่องที่ไม่เปลี่ยนไปคือผมยังต้องเปลี่ยนชุดในวิชาพละอยู่
เพราะมันผ่านมาหลายเดือน ตรงนั้นเลยนูนขึ้นมากกว่าเดิม
วาจา สายตาคนนับสิบพุ่งตรงมาที่ผมจนพรุน แต่คงทำได้แค่รับมันไว้และเก็บเงียบ
ผมไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่แม่
มันไม่ใช่เรื่องปกติของเด็กผู้ชายผอมกะหร่องแบบผมที่จะสามารถมีเนื้อนูนนิ่มขึ้นตรงหน้าอก
น่าอับอาย และกลัวเกินไปว่าจะถูกรังเกียจจากคนที่รักมากที่สุด
Jom’s part
‘อยู่บ้านมึงให้น้องกินอะไร ทำไมนมใหญ่แบบนั้น’
ผมชะงักไม่เข้าใจข้อความจากที่คนไม่ค่อยถูกชะตาพูดแบบนั้นใส่ตอนเดินผ่านกัน
คนที่โรงเรียนรู้จักมันในนามน้องของผม แต่ที่จริงแล้วเราอายุเท่ากัน
ไม่รู้ว่ามันไปทำเรื่องอะไรมาอีก คนถึงพูดกันแบบนั้น
เหมือนทุกวันผมพาตัวเองไปนั่งหลังรถคู่กับคนที่มักจะมารอก่อนแล้วเพื่อกลับบ้าน
ทั้งผมและมันนั่งเงียบ
เพิ่งสังเกตว่ามันเงียบขนาดนี้ ปกติไม่มีเวลาสังเกตเพราะผมมักจะแชทกับคนในโทรศัพท์ทุกวัน
เสียงเขย่าเม็ดยาออกจากกล่องเรียกให้ผมพาสายตาไปอีกฝั่ง
มันกินยาอะไรสักอย่าง ดื่มน้ำ แล้วก็นั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างเหมือนเดิม
.
ผ่านไปอีกหลายสัปดาห์
ผมกับแฟนสาว เราทะเลาะกันหนักเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องในพักหลังนี้และเหมือนวันนี้มันจะหนักกว่าทุกครั้ง
แจกันที่เคยวางนิ่งๆป่านนี้ถูกผมปัดมันทิ้งแตกกระจายอยู่ที่พื้น
เสียงโวยวายของผมเรียกแม่บ้านคนสวนรวมถึงมัน มาห้ามผมที่จ้องแต่จะทำลายข้าวของบรรเทาความโกรธ
สุดท้ายผมตวาดไล่ทุกคนกลับไปทุกคนดูเป็นห่วงผม แต่ก็ยอมกลับเพราะกลัวว่าผมจะอาละวาดไปมากกว่านี้
ยกเว้นมัน
มันที่ยืนร้องไห้หนักกว่าผม ห่างออกไปอีกสิบก้าว
.
ผมอ่อนแอ
จนสามารถกอดมันได้มาเป็นชั่วโมง มันที่ผมไม่เคยคิดอยากจะดีด้วย
แต่ตอนนี้ผมโทษตัวเองว่าอ่อนแอเกินไป เลยคงเพี้ยนและรู้สึกไปเองว่ากอดมันก็ดี
กลุ่มผมนิ่มซุกอยู่ที่คอเสียงสูดน้ำมูกจากการที่ร้องไห้หนักเริ่มเบาบางลง
แขนเล็กที่ดูจะไม่มีแรงสู้กับอะไรกอดตัวผมไว้หลวมๆ
ขาเล็กไร้กล้ามเนื้อนั่งคร่อมผมไว้ทั้งตัว
.
ขอบตาบวมปูดเงยหน้ามามองกันมองเหมือนอยากจะบอกว่าไม่ให้ผมเจ็บปวดได้ไหม
อย่าเจ็บได้รึเปล่า
ผมรู้สึกอย่างนั้น
หลังจากที่มันกุมมือข้างซ้ายผมไว้ด้วยมือมันทั้งสองข้างไว้สักพัก
ตอนนี้มันขยับ ขยับพร้อมกับพามือข้างนั้นผมไปด้วย
เข้าไปใต้ชุดนอน ลากผ่านเนื้อร้อนช้าๆราวกับชั่งใจ
แต่สุดท้ายมันก็หยุด
หยุดไว้ตรงเนื้อนุ่มๆตรงระดับหน้าอก ขนาดไม่ใหญ่แต่พอดีให้ขยำ
ผมนึกย้อนไปถึงคำที่เคยได้ยินเมื่อครั้งก่อน
พวกมันหมายถึงสิ่งนี้หรอ
คำถามผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ทั้งคนอื่นรู้ได้ไง มันมีสิ่งนี้ได้ไง มันคืออะไร และต่างๆ
แต่มันมลายหายไปเมื่อผมเผลอลูบไล้และคลึงมันเบาๆ
ใบหน้าของมันขึ้นสีตรงแก้มทั้งสองด้าน ก้มหน้างุดไม่ให้ผมมอง
หลังจากนั้นผมลืมเรื่องที่เคยเครียดก่อนหน้านี้ไปจนหมด
ตอนนี้มีแค่มัน ตรงหน้าผม
มันที่นอนราบไปกับโซฟา ชุดนอนที่ถูกผมเลิกขึ้นไปถึงคอและหน้าอกเล็กๆทั้งสองข้างของมัน
มันเบือนหน้าหนีและยกนิ้วขึ้นมากัดเพราะความประหม่า
ผมก้มลงสำรวจสิ่งนั้น ก่อนหน้านี้ผมเคยสังเกตมาบ้างเวลามันใส่ชุดบางๆ
เม็ดบัวสองข้างของมันมักจะนูนขึ้นดันเสื้อผ้าขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ
จนตอนนี้ผมได้เห็นมันกับตา
ได้ลิ้มรส
ทั้งบัวเม็ดสีสวย
และตัวตนของมัน
.
เช้าหลังจากวันนั้น เราไม่ได้คุยอะไรกันไปมากกว่าเดิมแต่ก็มีบางวันที่ผมทำแบบนั้นกับมัน
มันเต็มใจ ส่วนผมก็พอใจ
พ่อกับแม่ทำงานเบาลงแต่ก็ไม่ได้คุยกันมากกว่าเดิม ทั้งคู่มัววนอยู่แถวโรงพยาบาลเพราะมัน
ผมไม่รู้ว่ามันไม่สบายตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะกลับมาบ้านทำเรื่องอย่างว่า มันก็ดูปกติ แต่มีแค่บางครั้งที่ดูเหนื่อยๆ แต่มันก็จะหายไป มันแค่แวบเดียวซึ่งผมไม่ได้สนใจจะเก็บเอามาใส่ใจอยู่แล้ว
.
สองเดือนแล้ว
พ่อบอกผมว่ามันป่วยค่อนข้างหนัก และต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลังจากนอนมาแล้วสองเดือนเต็ม
ผมไปเยี่ยมมันบ้าง แต่ไม่บ่อย ผมกลับมาคืนดีกับแฟนแล้ว
แล้วมันก็รู้
ผมบอกว่าไม่ต้องร้องไห้เหมือนคืนนั้นแล้ว ถ้าเลิกอีกก็ไม่ต้องร้องแล้ว
มันยิ้ม
แล้วบอกผมว่า
ไม่ร้องแล้ว
ไม่เจ็บอีกต่อไป
.
เช้านี้พ่อบอกมันจะกลับมาบ้าน
บอกว่ามันงอแง ร้องไห้อยากกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน
หลังเลิกเรียนผมกลับถึงบ้านเห็นรองเท้าคู่เล็กกว่าผมวางไว้ตรงชั้นรองเท้า
มันกลับมาแล้ว พร้อมกับกลิ่นของมัน กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนแป้งเด็กแต่มันเจือกลิ่นโรงพยาบาลอยู่บางเบา
ผมสูดเข้าไปเต็มปอดแบบที่ไม่รู้ตัวว่าติดจะคิดถึงกลิ่นนี้อยู่เล็กๆ
แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมผ่อนอารมณ์ที่คุกกรุ่นตอนนี้ได้
ผมทะเลาะกับแฟนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้โวยวายเหมือนครั้งที่แล้ว
เหมือนในใจรู้ดีว่าไม่มีแฟนก็ยังมีมันอีกคนที่ยังอยู่ ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่นั่นทำให้เขาวางโทรศัพท์ลงได้
มื้ออาหารเย็น ผมนั่งเงียบจนแม่ถามว่าเป็นอะไร ผมตอบความจริงไปและทั้งโต๊ะก็ดำเนินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.
เสียงเปียโนคลอไปทั่วทั้งบ้านยามสามทุ่มกว่าๆ
ผมที่นอนอยู่ในห้องคนเดียวค่อยๆคลายปมที่ถูกขมวดไว้บนคิ้วเมื่อได้ยินทำนองเปียโนเพราะๆ
บ้านนี้มีผมกับมันเล่นเปียโนเป็นแค่สองคนเพราะถูกสอนโดยที่คนแม่จ้างให้มาสอนที่บ้านตั้งแต่เด็กๆ
ตอนนั้นผมเคยบอกมันว่า เสียงเปียโนช่วยให้ผมหายเครียด ผมเลือกซื้อเปียโนมันเลยได้เรียนเปียโนตามที่ผมอยากเรียน
ไม่รู้ว่าทำไมแต่ถึงจะเล่นเพลงเดียวกัน กดโน๊ตตัวเดียวกัน ยังไงผมก็เล่นได้ไม่เพราะและสวยเท่ามัน
มันเหมือนกับว่าเปียโนหลังสวยนี้เกิดมาเพื่อมัน อะไรแบบนั้น
.
ไม่รู้ว่าเสียงนั้นจบไปก่อนหรือผมที่ผล็อยหลับไปก่อน
รู้ตัวอีกทีก็เสียงเอะอะโวยวายข้างล่างที่ดังมากจนทำให้ผมตื่นได้
.
เหมือนโลกหยุดหมุน
เหมือนทุกอย่างหยุดดำเนินและทิ้งให้ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวดลำพังบนโลกใบนี้
ทุกอย่างในความทรงจำไหลตีเข้าหน้าจนทำให้คิดได้ว่า ผมที่เหมือนจะไม่ใส่ใจ จะจำอะไรไม่ได้
เป็นจำได้ทุกอย่าง
ทุกอย่างที่มีมัน
ทุกอย่าง
.
ผมไม่เคยรู้ว่า มันจะรู้สึกเหงาจนอยากจะร้องไห้ บนเบาะหลังรถที่มีคนให้คุยได้แต่กลับไม่กล้าคุยและคุยไม่ได้
ผมไม่เคยรู้ว่า มันจะอยากเล่นกีฬาแบบผมแต่เพราะเรื่องสุขภาพเลยทำให้ออกแรงเยอะๆไม่ได้
ผมไม่เคยรู้ว่า มันจะไปขอยาแก้ปวดทุกเช้าจากแม่บ้านถ้าคืนนั้นนอนที่โซฟา
ผมไม่เคยรู้ว่ามันจะต้องทนอายตอนเปลี่ยนชุดหรือตอนที่โดนคนอื่นล้อเรื่องหน้าอกของมัน
ผมไม่เคยรู้ว่า มันต้องฝืนกินยาเกือบสิบเม็ดทุกวันเพื่อที่จะต่อลมหายใจเพื่อปลุกผมไปเรียนในตอนเช้า
ผมไม่เคยรู้ว่า ตอนมันทำแบบนั้นกับผม มันจะเหนื่อยมากจนอยากจะหลับๆไป แต่มันยอมเพราะตามใจผม
ผมไม่เคยรู้ว่า คืนแรกที่ผมมีอะไรกับแฟนบนเตียงที่มันก็นอนอยู่ด้วย ผมไม่รู้ว่ามันยังไม่นอน
ผมไม่เคยรู้เลยว่า มันให้ร่างกายกับผมทำไม ถ้าไม่ใช่มันอยากให้สิ่งที่ให้เหมือนกันได้เหมือนสิ่งที่แฟนผมให้
ผมไม่เคยรู้ว่า คืนสุดท้ายที่มันเล่นเปียโน มันเล่นเพราะอยากปลอบผม อยากให้ผมไม่ต้องเสียใจเหมือนที่มันเคยบอกผมผ่านดวงตาคู่สวยของมัน
และผมไม่เคยรู้ว่า ที่ผมบอกให้มันไม่ต้องร้องไห้
มันบอกว่าจะไม่ร้อง
มันจะไม่เจ็บอีกต่อไป
คือมันกำลังจะหนีผมไปที่ไกลๆ
แต่สิ่งสุดท้ายที่ผมได้รู้คือ
ผมรักมัน
มันไม่เคยรู้เรื่องนี้
และจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป
ถึงเธอ, อันเป็นที่รัก
End.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in