เช้าวันจันทร์เวลาหกโมงในฤดูหนาว พระอาทิตย์ยังคงทำงานไม่เต็มที่นัก เสียงเครื่องยนต์ราคาแพงเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านเพื่อนสนิท เจ้าของรถลงมายิ้มทักทายแม่บ้านเช่นทุกวัน รอยยิ้มและลักยิ้มบุ๋มประดับขึ้นข้างแก้มเล็กๆเมื่อนึกไปถึงว่าอีกไม่กี่นาทีเขาจะได้เจอหน้าเด็กที่เขาหลงรักเข้าตั้งแต่แรกพบ
จอง แจฮยอน..
หลงรัก คิม โดยอง
ตั้งแต่แรก.. แรกครั้งเมื่อเด็กน้อยอายุหกขวบและเขาอายุสิบสองปี
ตั้งแต่รู้ตัวว่าอาการที่ในหัวเขามีแต่เรื่องเด็กแก้มขาวจนทำให้เรียนหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่องมันไม่ใช่อาการปกติ แต่เป็นอาการรักแบบที่ผู้ใหญ่เขาเรียก.. จอง แจฮยอนคนนี้ก็อาสาทำหน้าที่พี่ชายที่ดีพ่วงด้วยความรู้สึกพิเศษให้กับคิม โดยองมาโดยตลอด
ปัจจุบันเด็กน้อยของเขากำลังเรียนปีสุดท้ายของมหาลัย ส่วนเขาก็ขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากท่านพ่อ และแน่นอนว่าหน้าที่ที่แสนเป็นภาระอันหนักอึ้งนั้นไม่ได้ทำให้แจฮยอนเหน็ดเหนื่อยจากการเทียวรับเทียวส่งว่าที่เจ้าสาวหลังเรียนจบของเขาแม้แต่น้อย
ใช่.. โดยองคือเจ้าสาวของเขา
เจ้าสาวแสนสวยแสนธรรมดาทว่าแสนพิเศษของพี่เจย์คนนี้คนเดียวเท่านั้น : )
,
'พี่รอข้างล่างแล้วนะคะ'
'ตั้งใจเรียนแล้วรีบลงมาหากันนะคะ'
'ซื้อเค้กแครอทของโปรดหนูมาให้แล้วค่ะ'
คิม โดยองมองข้อความผ่านหน้าจอที่ล็อคไว้ ความเหนื่อยล้าจากที่เรียนมหาลัยตั้งแต่เช้าต่อด้วยเรียนเปียโนต่อในช่วงเย็น สลายไปเหมือนมีเวทมนต์
พี่เจย์ใจดีกับเขาตั้งแต่ได้เจอกันครั้งแรก พอโตหน่อยถึงได้รู้ว่าพี่เจย์ไม่ได้มองตัวเขาเป็นแค่น้องชายของเพื่อนเท่านั้น เพราะความรู้สึกที่พิเศษที่ทำให้หัวใจดวงน้อยๆคอยแกว่งหวิวไหวอยู่เรื่อยเมื่อได้รับรู้ถึงความรู้สึกพิเศษที่ได้รับ หน้าที่ต่างๆที่ทำอย่างสม่ำเสมอขนาดพี่จอห์นนี่พี่ชายแท้ๆของเขายังทำให้ไม่ได้ขนาดนี้เลย
มือสวยเปิดรถและพาตัวเองเข้ามานั่งที่ประจำ
"เรียนเหนื่อยไหมคะ" ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมาทัดผมที่หูให้และเลื่อนมาบีบแก้มใสเบาๆ
"นิดหน่อย แล้วพี่เจย์ทำงานเหนื่อยรึเปล่าฮะ" เขาถามกลับ
"ไม่เหนื่อยเลย พอคิดว่าต้องทำงานเก็บเงินไปขอเรามาเป็นแม่ของลูกพี่ก็ไม่เหนื่อยเลยสักนิด"
คำพูดตรงไปตรงมาของพี่เจย์ทำให้คนตัวเล็กกว่าเขวทุกครั้ง พี่เจย์จะรู้ไหมว่าเขาเป็นคนแก่ที่ไม่รู้จักการหยอดแบบอ้อมๆเลย แบบนี้ทำให้โดยองที่ได้อยู่กับพี่เจย์ทีไรเป็นต้องหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศทุกทีสิน่า...
"นะ.. น้องอยากกินเค้กแครอท" คำพูดตะกุกตะกักทำให้เจย์เห็นได้ชัดว่าเขาได้ทำให้เด็กน้อยของเขาเขินเสียแล้ว
"พี่อยากรู้เหลือเกินว่าถ้าเรามีเด็กๆให้พี่สักสองสามคนแล้ว พี่พูดแบบนี้เราจะยังเขินพี่อยู่รึเปล่านะ"
"เด็กๆสองสามคนที่ไหนกันฮะ ใครจะมีให้พี่เจย์กัน.." คนข้างกายที่กำลังเคี้ยวแก้มตุ่ยเอ่ยถามเสียงเบา
"เราไงคะ" คราวนี้คนแก่กว่าไม่ทำเพียงแค่ไล้แก้มใส แต่ยื่นมือไปแตะคางมนให้หันมาหากันและประทับริมฝีปากลงไปบนที่เดียวกันของคนตัวเล็ก "เค้กหวานจริง.. ถึงว่าล่ะเราถึงชอบนัก : )"
หึหึ.. คุณประธานบริษัทอันดับหนึ่งในประเทศไทยหัวเราะในลำคอเมื่อคนที่เขาเพิ่งฉวยโอกาสไปเมื่อกี้หันมาทำหน้าบึ้งเหมือนกระต่ายดุในการ์ตูนเรื่องนึ่งที่เขาชอบเห็นเจ้าตัวเปิดดูซ้ำอยู่บ่อยๆ
นึกไปก็แปลก.. เขาเป็นประธานที่ใครก็ต่างกลัวรวมไปถึงเพื่อนสนิทบางคนที่ร่วมงานด้วยก็ยังนึกกลัวและบ่นเขาในเรื่องให้ลดความจริงจังลงเสียบ้างก่อนที่จะไม่มีลูกน้องคนไหนกล้ายิ้มให้ แต่เขากลับแสดงท่าทีเหมือนคนธรรมดาไม่มียศไม่มีตำแหน่งอะไรที่ต้องแสดงอำนาจต่อหน้าเด็กน้อยคนหนึ่ง แถมยังยิ้มและหัวเราะบ่อยๆเมื่อโดนเจ้าตัวคนตัวเล็กดุหรือทำหน้าไม่พอใจตอนที่เขาชอบแกล้ง
คนที่ทำงานของเขาจะต้องแปลกใจแน่นอนถ้าวันหนึ่งเขาพาเด็กน้อยของเขาไปเปิดตัวและได้เห็นด้านของเจ้านายที่ดุและจริงจังของพวกเขาใช้สายตาที่อ่อนโยนมองว่าที่เลดี้ของบริษัทอันดับหนึ่ง
"พี่เจย์ถึงบ้านแล้วบอกด้วย ขับรถดีๆนะฮะ"
"เดี๋ยวค่ะ.. พี่ลืมบอกว่าตั้งแต่พรุ่งนี้พี่จะไปคุยงานที่อังกฤษสองอาทิตย์นะคะ เพิ่งรู้จากท่านพ่อเมื่อเช้าเลยต้องบอกเรากระทันหันแบบนี้"
"สองอาทิตย์เลยหรอ พี่เจย์..."
แจฮยอนคิดหนักเมื่อเห็นสายตาเศร้าและน้ำเสียงที่เรียกเขาในตอนท้าย ถ้าไม่ติดว่าเจ้าตัวเล็กกำลังจะเรียนจบ เขาจะพาไปเที่ยวเล่นที่นั่นด้วยกัน แต่ตอนนี้คงต้องจำยอมไปก่อน ถ้าเขาไม่ไปก็กลัวว่าเขาจะไม่มีอนาคตที่ดีเหมาะสมกับหนูโดยองตามที่ท่านพ่อว่าเอาไว้
"ค่ะ รอพี่ได้ไหมเด็กดี" นิ้วโป้งเกลี่ยข้างแก้มใสที่ตอนนี้เริ่มร้อนรุมๆและคิดว่าหลังลงจากรถไปน้ำตาใสต้องตกลงมาข้างแก้มที่เขากำลังกอบกุมเอาไว้เป็นแน่
"ระ..รอได้ พี่เจย์ตั้งใจทำงานนะ
หนะ หนูเป็นกำลังใจให้นะคะ.."
เป็นครั้งนี้ที่แจฮยอนได้รับริมฝีปากนุ่มนิ่มทาบลงมาที่เดียวกันก่อน เป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่ความร้อนก่อตัวยามอีกคนประทับริมฝีปากลงมาและความเย็นก็เข้ามาแทนที่ทันทีในวิต่อมา
แต่หารู้ไม่ว่าแจฮยอนคนนี้เก็บความอุ่นเล็กๆนั้นลงไปในหัวใจของเขาเรียบร้อยแล้ว : )
,
ตลอดสองอาทิตย์คิม โดยองนั่งรถที่ลุงสมานคนขับรถที่บ้านไปรับไปส่งระหว่างที่เรียนและบ้านทุกๆวัน
เห็นว่าจะเป็นครั้งแรกที่โดยองเริ่มจะมีท่าทางซึมลงไปเมื่อไม่ได้เจอหน้าเพื่อนพี่ชายคนนั้นตั้งแต่สามสี่วันแรก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเมื่อแจฮยอนไปดูงานที่ไกลๆก็ยังเป็นแจฮยอนเองที่ชอบส่งข้อความมาวอแว บอกคิดถึงและอยากโดดงานเต็มแก่มาหาเจ้าตัว
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป แจฮยอนไม่ตอบข้อความของโดยองมาตั้งแต่วันที่สองจนวันนี้วันสุดท้ายก่อนจะเป็นวันพรุ่งนี้ที่เป็นไฟล์ทที่แจฮยอนต้องกลับมาเมืองไทย
คิม โดยองนั่งเหม่อมองหน้าแชทที่ไม่มีการตอบกลับจากอีกฝ่าย
จากที่เคยคิดว่าพี่เจย์น่ะติดเขาฝ่ายเดียว ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดเสียที..
เพราะน้องโดยองคนนี้ก็ติดและคิดถึงพี่เจย์ตลอดเวลาไม่ต่างกัน..
ครืด..
ครืดครืด..
สามข้อความจากเบอร์แปลกและไม่แสดงข้อความผ่านหน้าจอ ทำให้คนที่กำลังซึมเลื่อนมือกดเข้าไปดู อาจจะเป็นพวกโปรโมชั่นต่างๆที่เขาเคยไปสมัครตามห้าง
ทว่ากลับไม่ใช่..
'พี่เจย์กลับพรุ่งนี้ถึงประมาณตีสองไทย'
'พรุ่งนี้หนูขออนุญาตท่านพ่อกับท่านแม่ไปนอนบ้านพี่เจย์ได้ไหม'
'ถ้าได้.. ให้หนูเตรียมเสื้อผ้าสักสองสามชุด เรื่องอาหารพี่บอกให้แม่บ้านเตรียมไว้แล้ว ลุงเนียมจะขับรถไปรอหนูที่บ้านประมาณหกโมง ท่านพ่อกับท่านแม่ท่านก็ดีใจที่จะได้ทานอาหารกับหนู ถ้าหนูตกลง'
เจ้าตัวอ่านข้อความเดิมๆซ้ำสองสามรอบด้วยความคิดถึง ไม่กล้าพิมพ์อะไรตอบกลับไปเพราะยังมัวแต่ดีใจที่พี่ส่งข้อความมาหา
เนื้อความมีเท่านั้น คิม โดยองกำลังจะตอบตกลง ขณะนั้นก็มีอีกหนึ่งข้อความมาจากอีกฝ่าย
'พี่เจย์คิดถึงนะคะ'
..
จะทำให้ชอบไปจนถึงไหนนะ...
...
วันต่อมาเจ้าคนตัวเล็กก็มาถึงบ้านพี่เจย์ ยามขออนุญาตท่านพ่อกับท่านแม่นั้นสบายมากๆ จะมีก็แต่พี่จอห์นนี่.. รายนั้นน่ะบ่นยาวตั้งแต่พ่อแม่ที่อนุญาตให้น้องไปพักที่อื่น ยาวไปจนบ่นถึงความเจ้าเล่ห์และหมั่นไส้ที่เพื่อนสนิทคนนั้นทำเหมือนจะแยกน้องไปจากเขาได้ตลอดเวลา
"ตาเจย์เขาเซ่อซ่าน่ะ ทำโทรศัพท์ตกน้ำ กว่าจะหาที่ซ่อมดีๆที่เมืองนอกมืองนาเจอก็แสนยากเย็น พอได้เครื่องใหม่ก็ไม่ติดต่อมาหาพ่อกับแม่เหมือนกันกับหนู พ่อกับแม่มารู้เรื่องผ่านเลขาของเขาทั้งนั้นเลย"
คุณแม่เล่าเรื่องที่พี่เจย์ขาดการติดต่อไป ถึงอย่างนั้นเขาก็อดน้อยใจไม่ได้ เครื่องใหม่ไม่สามารถใช้ซิมเก่าได้หรือไง แอปพลิเคชั่นก็โหลดง่ายๆ ทำไมถึงไม่ทำนะ
"แม่ก็บ่นไปพักใหญ่ จนกระทั่งเจ้าตัวสารภาพว่าไม่กล้าเอาอะไรออกจากเครื่องนั้น ไม่กล้าโหลดแอปพลิเคชั่นอะไรมาใหม่เพราะกลัวมันจะดึงข้อมูลมาที่เครื่องใหม่ แล้วที่เครื่องเก่าจะหายไป แถมยังกลัวรูปของหนูที่ถ่ายเอาไว้ในเครื่องหายอีก.. พอเป็นเรื่องหนูนะ เว่อร์ไปได้ตลอดเลยตาคนนี้"
อา.. พอฟังแบบนี้แล้วอาการน้อยใจเมื่อกี้มันหายไปไหนกันนะ แถมยังรู้สึกเหมือนอยากจะยิ้มกว้างๆอีก
"เดี๋ยวหนูกินอิ่มๆแล้วไปนั่งดูละครเป็นเพื่อนแม่ก่อนนะจ้ะ แล้วค่อยไปนอนที่ห้องตาพี่เขา"
"ไม่ใช่นอนที่ห้องรับแขกเหรอฮะ.." เจ้าคนน่าเอ็นดูในสายตาบ้านนี้เอ่ยถามเสียงเบา
"โอ้ย.. เชื่อแม่เถอะจ่ะว่าหนูไปนอนห้องรับแขก ตาเจย์กลับมาก็ต้องไปอุ้มหนูมานอนกกที่ห้องอยู่ดี ตาคนนี้จะทำอะไรแม่ก็อ่านออกหมดนั่นแหละ"
ไม่เคยคุยเรื่องความสัมพันธ์แบบนี้กับท่านพ่อท่านแม่พี่เจย์แบบนี้ลำพังเลยสักครั้ง พอนั่งอยู่คนเดียวแล้วก็ออกจะเขินๆอยู่บ้าง.. เพราะเขาน่ะพูดไม่เก่ง ที่เห็นพูดจอแจก็เพราะโดนพี่เจย์หยอกให้โวยวายทั้งนั้น
"ราตรีสวัสดิ์นะจ้ะลูก"
"ราตรีสวัสดิ์ฮะคุณป้า"
หลังดูละครจบเขาและคุณป้าจิรพรก็แยกกันไปคนละทิศ คนตัวเล็กเดินเข้าห้องนอนของลูกชายคนเดียวของบ้าน สำรวจถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และโทนสีทึมๆขาวดำเข้ากับเจ้าของห้อง
เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นไปบนเตียงเพื่อเตรียมนอน เหลือบมองดูนาฬิกาที่หัวเตียงนับเวลาที่เจ้าของห้องจะกลับถึงไทย ทว่าเมื่อเหลือบตาไปอีกหน่อยก็เห็นกรอบรูปรูปหนึ่ง เป็นรูปสมัยเด็กๆของเราทั้งสามคน พี่เจย์ พี่จอห์นนี่และเขา เด็กตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงกลาง
ตั้งแต่จำความได้เขาก็มีพี่จอห์นนี่และพี่เจย์ดูแลเขามาตลอด โดยองไม่เคยมีความรักแบบเพื่อนคนอื่นเลยสักครั้งเพราะพี่เจย์น่ะหวงเขาจนไม่มีใครกล้ามาจีบ จนกระทั่งได้มารู้นั่นแหละว่าเขาโดนใครคนหนึ่งจองไว้ตั้งแต่เห็นหน้าค่าตาแล้ว..
เมื่อเวลาล่วงไปหลายชั่วโมง คุณลูกชายของบ้านก็มาถึงถิ่น เมื่อทราบจากลุงเนียมว่ามีใครบางคนรออยู่ที่ห้องนอนก็รู้สึกเบิกบานขึ้นในใจทันที เขาไม่ได้รับข้อความใดๆกลับมาจากเจ้าคนตัวเล็ก คิดว่าคงโกรธที่หายไปและคงไม่มาหากันเสียแล้ว แต่เขาก็คิดผิด.. น้องโดยองของพี่เจย์น่ะใจดีแล้วก็น่ารักมาเสมอเลยนี่ จะใจร้ายใส่ใครคงทำไม่เป็นนัก..
เมื่อเจ้าของห้องอาบน้ำเสร็จก็เข้ามาในห้องนอนที่มีคนน่ารักกำลังนอนจมอยู่บนเตียงนิ่ม
สอดกายเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน สวมกอดจากด้านหน้าให้น้องเข้ามาอิงแขนแทนหมอน ลอบมองใบหน้าที่เขาแสนรัก องค์ประกอบบนในหน้าที่เรียงตัวสวยราวกับจับวาง ขนตาเล็ก แก้มใสที่เขาชอบฉวยโอกาสหอมฟอดเข้าบ่อยๆ คางที่เขาชอบแตะ และริมฝีปากที่เขาหวงและโหยหายเป็นที่สุด.. ทั้งหมดนั้นถูกเขาลอบมองผ่านแสงไฟจากโคมหัวเตียงที่แอบเปิดเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ถึงจะรู้ว่าแสงอาจจะทำให้คนตัวเล็กตื่น แต่ความคิดถึงเขามันมีมากกว่า
แก้มใสถูกขโมยหอมไปอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปปิดโคมไฟและกอดคนรักของเขาไปถึงเช้า..
พอคิดว่าตื่นมาก็จะได้เจอเด็กคนนี้อยู่ในอ้อมกอด ใจเขาก็มีความสุขอย่างเปี่ยมล้น
ให้เทียบโดยองเป็นอะไรสำหรับเขา เขาคงจะตอบได้ว่าเป็นดอกทานตะวัน เป็นดอกทานตะวันที่เขาหมั่นดูแลพรวนดินใส่ปุ๋ยมาตั้งแต่ยังเป็นต้นกล้า รอให้โตเต็มที่เพื่อที่จะหันหน้าเข้าหาตะวันเพียงผู้เดียว
และเขา..
จะเป็นตะวันให้ทานตะวันต้นนี้ตลอดไป
End.
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
คุยเล่นกันได้ที่แท็ก #เรื่องเล่าแจโด นะคะมีเรื่องอื่นๆจะใส่ไว้ที่แท็กเดียวกัน
รักและเอ็นดูแจโดไปด้วยนะกันเยอะๆนะคะ.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in