ครืด ครืด
แรงสั่นสะเทือนจากกระเป๋าสะพายทำให้ร่างบางถึงกับสะดุ้ง มือล้วงหามือถือภายใต้ข้าวของมากมาย
หน้าจอแสดงชื่อผู้ติดต่อชัดเจนร่างบางกดรับสายทันที
“ว่าไงพี่ฮันเซล”
‘อยู่ไหน’
เด็กสาวตกใจแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ขึ้นเสียงใส่แต่น้ำเสียงกลับดูหงุดหงิดชอบกล ด้วยความกังวลว่าอีกฝ่ายจะโมโหจึงรีบบอก
“หนูอยู่ร้านกาแฟที่ชอบมากับเฮลก้า”
เม้มปากลุ้นว่าพี่ชายจะตอบอะไรกลับมา เธอพอเดาได้ว่าที่พี่เป็นแบบนี้คงเพราะมันเริ่มดึก
‘ดึกแล้วอันตราย แล้วนี่จะกลับหรือยัง?’
…อย่างที่คิดไม่มีผิด…
ไม่ว่าเธอจะไปไหนทำอะไรเขามักจะห่วงเธอเสมอต่อให้ทะเลาะกันบ้านแตกพี่ก็ยังทำหน้าที่ดูแลน้องสาวได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
“กำลังกลับ รอรถอยู่”
ในเมื่อเขาอุตส่าห์โทรถามเรื่องอะไรเธอจะต้องประชดเขาก็บอกไปตามตรง
‘เดี๋ยวพี่ไปรับรออยู่ตรงนั้น หาที่สว่างหน่อยอย่าไปยืนที่มืด’
ปลายสายมีเสียงกุกกักอะไรสักอย่าง ร่างบางคิดในใจไปแล้วว่าพี่ชายเธอคงจะรีบลุกไปหยิบกุญแจรถยนต์เพื่ออกมารับเธอแน่นอน
โดยปกติเขากลับบ้านตรงต่อเวลาพอถึงบ้านก็จะเช็คหาน้องสาวตัวแสบก่อนเนื่องจากนิสัยที่เอาแต่ใจและดื้อจึงต้องค่อยดูแลเสมอมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
“เฮ้ยพี่ไม่ต้องหนูกลับเองได้ อีกอย่างตรงป้ายก็มีคนมายืนรอรถกันเยอะแยะไม่ต้องกลัว”
ร่างสูงชะงักทันทีที่น้องสาวพูดปฏิเสธ แม้ว่าเธอจะโตแล้วแต่เมื่อท้องฟ้ามืดระแวกแถวนั้นรถก็ชอบขับเร็วไม่ค่อยเบรคกัน
คนบนท้องถนนคงถือคติว่ารีบกลับบ้านไปพักผ่อนผลที่ตามมาจึงมักมีข่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นอยู่บ่อย ๆ เขาอดเป็นห่วงไม่ได้
‘มันมืดแล้วเกรเทล’ เขาเสียงแข็ง
“ไม่ต้องเลยพี่ พอเลย หนูยังไม่ได้คิดบัญชีกับพี่เมื่อตอนเช้านะ”
สิ้นประโยคของน้องตัวแสบเขาต้องหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ใจเย็นที่สุด รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงจะทำให้คนตัวเล็กไม่พอใจแต่ทำไงได้ก็เขาเป็นพี่ชายเธอ
‘แล้วบอกเลิกมันไปยัง’
เหมือนถูกสะกิดแผลความอัดอั้นตันใจดีดตัวขึ้นมาจนล้นอก เธอไม่ได้อยากพาลใส่พี่ชายแต่มันอยากพูดออกมาแม้ว่าพ่อบังเกิดเกล้าจะไม่รับรู้เลยก็ตาม
“โห้ยังมีหน้ามาถามอีกนะพี่”
…โกรธแล้วสินะ…
‘ขอคำตอบ’ แม้ว่าจะเสี่ยงโดนด่าแต่อย่างน้อยบอกให้เขารู้ที
“บอกเลิกไปแล้ว พอใจหรือยังทั้งพี่ทั้งป๊าเลย นี่ชีวิตหนูนะทำไมชอบมาบงการกัน”
‘…’
“หนูโตแล้วนะมีเหตุผลมากพอ ไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามันมีเหตุผลที่เข้าใจได้”
ยิ่งพูดออกมาเท่าไรก็ยิ่งเหมือนมีเรื่องราวมากมายพรั่งพรูออกมาไม่หมด
‘…’
“แต่บางทีมันก็เยอะไป อันนั้นไม่ได้ อันนี้ไม่ได้ จนบางทีหนูก็ระแวง”
เธออึดอัดมากรู้สึกมือไม้สั่นไปหมด
‘…’
ฮันเซลยืนนิ่งอยู่ตรงประตูบ้านตั้งใจฟังเสียงปลายสาย เพื่อที่จะเก็บรายละเอียดทุกคำพูดของน้องสาว
“ว่าถ้าเกิดหนูทำอะไรขึ้นมาจะถูกดุหรือเปล่า”
เขารู้ว่าเธออดทนมานานหลายปี เกรเทลไม่ได้อยากเป็นเด็กมีปัญหา แต่เธอก็มักจะไปแอบทำลับหลัง จนเขานี่แหละที่ต้องคอยตามวิ่งแก้ปัญหาให้อยู่เสมอ
เด็กสาวเงียบไปชั่วครู่สูดลมหายใจเล็กน้อย แต่ประโยคถัดมาทำให้ใจเขากระตุกแรงจนน่ากลัว
“พี่รู้ป่ะว่าบางครั้งก็เคยคิดอยากหนีออกจากบ้านไปอยู่ไกล ๆ ที่ไหนก็ได้”
…หมายความว่าไง…
“หนูเหนื่อยอ่ะพี่ ไม่รู้ว่าเหนื่อยอะไรแต่มันเหนื่อยอ่ะ”
ยิ่งพูดเสียงยิ่งสั่นแม้พยายามจะตั้งสติไม่ให้ฟุ้งซ่าน ขอบตาเริ่มร้อน เธอไม่ได้อยากอ่อนแอให้ใครเห็นแม้กระทั่งพี่ชายตนเอง
คงจริงอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันว่าอดทนมากแค่ไหนคนอื่นก็ไม่เห็นความพยายามของเราอยู่ดี
ร่างบางสูดหายใจเข้าช้า ๆ แล้วปล่อยออกมา
“ชีวิตหนูเหมือนไม่ใช่ชีวิตหนู หนูแค่อยากได้ชีวิตหนูแค่นั้นเอง”
‘…’
ฮันเซลนิ่งงัน ไม่คิดเลยว่าตัวแสบจะน้อยใจมากขนาดนี้ นี่เขาละเลยความรู้สึกน้องมากแค่ไหนกัน ทั้งที่คิดว่าตัวเองดูแลดีที่สุดแล้ว ทั้งเอาใจ อยากได้อะไรก็พยายามหามาประเคนให้ทดแทนป๊า
“ตลอดหลายปีมานี้หนูพยายามทำตามที่ป๊าบอกแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าชีวิตเราไม่ลองทำอะไรเลยมันก็จะเอาตัวไม่รอด เรื่องนี้พี่รู้ดีกว่าใครนะ”
ทั้งที่พยายามเก็บความรู้สึกมาโดยตลอด จนกระทั่งเรื่องเมื่อวานที่ทั้งป๊าและพี่ชายไม่เข้าใจสักนิดว่าคนที่ลำบากใจที่สุดคือตัวเธอเอง
ไม่มีใครสักคนถามเธอเลยว่ามันรู้สึกแย่เพียงใด
“หนูน่ะ…”
มือบางปาดขอบตาที่เริ่มมีน้ำใสซึม
“หนูน่ะอิจฉาพี่มากเลยรู้ตัวไหม”
ทางด้านชายหนุ่มกำมือถือแน่นภายในใจรู้สึกผิด อยากจะพูดขอโทษแต่ก็ไม่กล้า จึงปล่อยให้คนในสายระบายความในใจต่อไป
“พี่ที่เกิดเป็นผู้ชาย ไม่มีใครกล้ามารังแก ไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงจนเกินไปเหมือนผู้หญิง อยากทำอะไรก็ได้ตามใจ”
‘เกรเทลพี่…’
ฮันเซลพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกเกรเทลพูดกลบหมด
“พี่ฟังนะผู้หญิงนะไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนเข้าใจหรอกและหนูก็รู้ด้วยว่าผู้ชายก็ไม่ได้สบายเช่นกันต่างคนต่างมีความยากไม่เหมือนกัน”
‘…’
“พี่ก็พยายามในส่วนของพี่ หนูก็พยายามในส่วนของหนู”
ร่างบางก้มหน้าลงต่ำเพื่อซ่อนความอ่อนแอไม่ให้ผู้ใดเห็น ยกยิ้มน้อย ๆ ให้กับความขมขื่นของชีวิต สูดลมหายใจเข้าแล้วสะบัดหัวเพื่อเรียกสติ
“ดูงี่เง่าเนอะพี่ที่หนูพูดแบบนี้ แต่ถ้าหนูไม่พูดออกมาคงอึดอัดจนขาดใจตายเข้าสักวัน”
------
กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ
***หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ
𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓
เนื้อหาใกล้ถึงช่วงสำคัญแล้วบทเกริ่นนำแบบเต่าคลาน ฉะนั้นอย่าเพิ่งหนีไรท์กันไปเด้ออยู่รอเจอพระเอกกันก่อนนะคะ555 บอกแล้วเรื่องนี้ไม่มีดราม่าแต่ทุกตัวละคนมีเหตุผลของตนเองจำคำไรท์ไว้นะคะ
‘ทุกตัวละครมีเหตุผลเป็นของตนเอง’
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in