เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน 4 เชือกฟางเส้นสุดท้ายของเกรเทล (1/2)
  • เมื่อทั้งคู่กล่าวร่ำลากันเสร็จเรียบร้อยเกรเทลก็เดินมาส่งเพื่อนสนิทขึ้นรถยนต์ส่วนตัวที่เอามาจอดไว้ข้างร้านกาแฟ ไม่นานเฮลก้าก็ขับออกไปส่วนเธอเองก็เดินออกมายืนตรงป้ายเพื่อรอรถกลับบ้าน

     

    ครืด ครืด

     

    แรงสั่นสะเทือนจากกระเป๋าสะพายทำให้ร่างบางถึงกับสะดุ้ง มือล้วงหามือถือภายใต้ข้าวของมากมาย

    หน้าจอแสดงชื่อผู้ติดต่อชัดเจนร่างบางกดรับสายทันที

    “ว่าไงพี่ฮันเซล” 

    ‘อยู่ไหน’ 

    เด็กสาวตกใจแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ขึ้นเสียงใส่แต่น้ำเสียงกลับดูหงุดหงิดชอบกล ด้วยความกังวลว่าอีกฝ่ายจะโมโหจึงรีบบอก

    “หนูอยู่ร้านกาแฟที่ชอบมากับเฮลก้า” 

    เม้มปากลุ้นว่าพี่ชายจะตอบอะไรกลับมา เธอพอเดาได้ว่าที่พี่เป็นแบบนี้คงเพราะมันเริ่มดึก

    ‘ดึกแล้วอันตราย แล้วนี่จะกลับหรือยัง?’ 

     

    …อย่างที่คิดไม่มีผิด…

     

    ไม่ว่าเธอจะไปไหนทำอะไรเขามักจะห่วงเธอเสมอต่อให้ทะเลาะกันบ้านแตกพี่ก็ยังทำหน้าที่ดูแลน้องสาวได้ไม่ขาดตกบกพร่อง

    “กำลังกลับ รอรถอยู่” 

    ในเมื่อเขาอุตส่าห์โทรถามเรื่องอะไรเธอจะต้องประชดเขาก็บอกไปตามตรง

    ‘เดี๋ยวพี่ไปรับรออยู่ตรงนั้น หาที่สว่างหน่อยอย่าไปยืนที่มืด’ 

    ปลายสายมีเสียงกุกกักอะไรสักอย่าง ร่างบางคิดในใจไปแล้วว่าพี่ชายเธอคงจะรีบลุกไปหยิบกุญแจรถยนต์เพื่ออกมารับเธอแน่นอน

    โดยปกติเขากลับบ้านตรงต่อเวลาพอถึงบ้านก็จะเช็คหาน้องสาวตัวแสบก่อนเนื่องจากนิสัยที่เอาแต่ใจและดื้อจึงต้องค่อยดูแลเสมอมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว

    “เฮ้ยพี่ไม่ต้องหนูกลับเองได้ อีกอย่างตรงป้ายก็มีคนมายืนรอรถกันเยอะแยะไม่ต้องกลัว” 

    ร่างสูงชะงักทันทีที่น้องสาวพูดปฏิเสธ แม้ว่าเธอจะโตแล้วแต่เมื่อท้องฟ้ามืดระแวกแถวนั้นรถก็ชอบขับเร็วไม่ค่อยเบรคกัน

    คนบนท้องถนนคงถือคติว่ารีบกลับบ้านไปพักผ่อนผลที่ตามมาจึงมักมีข่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นอยู่บ่อย ๆ เขาอดเป็นห่วงไม่ได้

    ‘มันมืดแล้วเกรเทล’ เขาเสียงแข็ง

    “ไม่ต้องเลยพี่ พอเลย หนูยังไม่ได้คิดบัญชีกับพี่เมื่อตอนเช้านะ” 

    สิ้นประโยคของน้องตัวแสบเขาต้องหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ใจเย็นที่สุด รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงจะทำให้คนตัวเล็กไม่พอใจแต่ทำไงได้ก็เขาเป็นพี่ชายเธอ

    ‘แล้วบอกเลิกมันไปยัง’ 

     

    เหมือนถูกสะกิดแผลความอัดอั้นตันใจดีดตัวขึ้นมาจนล้นอก เธอไม่ได้อยากพาลใส่พี่ชายแต่มันอยากพูดออกมาแม้ว่าพ่อบังเกิดเกล้าจะไม่รับรู้เลยก็ตาม

    “โห้ยังมีหน้ามาถามอีกนะพี่” 

     

    …โกรธแล้วสินะ…

     

    ‘ขอคำตอบ’ แม้ว่าจะเสี่ยงโดนด่าแต่อย่างน้อยบอกให้เขารู้ที

    “บอกเลิกไปแล้ว พอใจหรือยังทั้งพี่ทั้งป๊าเลย นี่ชีวิตหนูนะทำไมชอบมาบงการกัน” 

    ‘…’ 

    “หนูโตแล้วนะมีเหตุผลมากพอ ไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามันมีเหตุผลที่เข้าใจได้” 

    ยิ่งพูดออกมาเท่าไรก็ยิ่งเหมือนมีเรื่องราวมากมายพรั่งพรูออกมาไม่หมด

    ‘…’ 

    “แต่บางทีมันก็เยอะไป อันนั้นไม่ได้ อันนี้ไม่ได้ จนบางทีหนูก็ระแวง” 

    เธออึดอัดมากรู้สึกมือไม้สั่นไปหมด

    ‘…’ 

    ฮันเซลยืนนิ่งอยู่ตรงประตูบ้านตั้งใจฟังเสียงปลายสาย เพื่อที่จะเก็บรายละเอียดทุกคำพูดของน้องสาว

    “ว่าถ้าเกิดหนูทำอะไรขึ้นมาจะถูกดุหรือเปล่า” 

    เขารู้ว่าเธออดทนมานานหลายปี เกรเทลไม่ได้อยากเป็นเด็กมีปัญหา แต่เธอก็มักจะไปแอบทำลับหลัง จนเขานี่แหละที่ต้องคอยตามวิ่งแก้ปัญหาให้อยู่เสมอ

    เด็กสาวเงียบไปชั่วครู่สูดลมหายใจเล็กน้อย แต่ประโยคถัดมาทำให้ใจเขากระตุกแรงจนน่ากลัว

    “พี่รู้ป่ะว่าบางครั้งก็เคยคิดอยากหนีออกจากบ้านไปอยู่ไกล ๆ ที่ไหนก็ได้” 

     

    …หมายความว่าไง…

     

    “หนูเหนื่อยอ่ะพี่ ไม่รู้ว่าเหนื่อยอะไรแต่มันเหนื่อยอ่ะ” 

    ยิ่งพูดเสียงยิ่งสั่นแม้พยายามจะตั้งสติไม่ให้ฟุ้งซ่าน ขอบตาเริ่มร้อน เธอไม่ได้อยากอ่อนแอให้ใครเห็นแม้กระทั่งพี่ชายตนเอง

    คงจริงอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันว่าอดทนมากแค่ไหนคนอื่นก็ไม่เห็นความพยายามของเราอยู่ดี

    ร่างบางสูดหายใจเข้าช้า ๆ แล้วปล่อยออกมา

    “ชีวิตหนูเหมือนไม่ใช่ชีวิตหนู หนูแค่อยากได้ชีวิตหนูแค่นั้นเอง” 

    ‘…’ 

    ฮันเซลนิ่งงัน ไม่คิดเลยว่าตัวแสบจะน้อยใจมากขนาดนี้ นี่เขาละเลยความรู้สึกน้องมากแค่ไหนกัน ทั้งที่คิดว่าตัวเองดูแลดีที่สุดแล้ว ทั้งเอาใจ อยากได้อะไรก็พยายามหามาประเคนให้ทดแทนป๊า

    “ตลอดหลายปีมานี้หนูพยายามทำตามที่ป๊าบอกแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าชีวิตเราไม่ลองทำอะไรเลยมันก็จะเอาตัวไม่รอด เรื่องนี้พี่รู้ดีกว่าใครนะ” 

    ทั้งที่พยายามเก็บความรู้สึกมาโดยตลอด จนกระทั่งเรื่องเมื่อวานที่ทั้งป๊าและพี่ชายไม่เข้าใจสักนิดว่าคนที่ลำบากใจที่สุดคือตัวเธอเอง

    ไม่มีใครสักคนถามเธอเลยว่ามันรู้สึกแย่เพียงใด

    “หนูน่ะ…” 

    มือบางปาดขอบตาที่เริ่มมีน้ำใสซึม

    “หนูน่ะอิจฉาพี่มากเลยรู้ตัวไหม” 

    ทางด้านชายหนุ่มกำมือถือแน่นภายในใจรู้สึกผิด อยากจะพูดขอโทษแต่ก็ไม่กล้า จึงปล่อยให้คนในสายระบายความในใจต่อไป

    “พี่ที่เกิดเป็นผู้ชาย ไม่มีใครกล้ามารังแก ไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงจนเกินไปเหมือนผู้หญิง อยากทำอะไรก็ได้ตามใจ” 

    ‘เกรเทลพี่…’ 

    ฮันเซลพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกเกรเทลพูดกลบหมด

    “พี่ฟังนะผู้หญิงนะไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนเข้าใจหรอกและหนูก็รู้ด้วยว่าผู้ชายก็ไม่ได้สบายเช่นกันต่างคนต่างมีความยากไม่เหมือนกัน” 

    ‘…’ 

    “พี่ก็พยายามในส่วนของพี่ หนูก็พยายามในส่วนของหนู” 

    ร่างบางก้มหน้าลงต่ำเพื่อซ่อนความอ่อนแอไม่ให้ผู้ใดเห็น ยกยิ้มน้อย ๆ ให้กับความขมขื่นของชีวิต สูดลมหายใจเข้าแล้วสะบัดหัวเพื่อเรียกสติ

    “ดูงี่เง่าเนอะพี่ที่หนูพูดแบบนี้ แต่ถ้าหนูไม่พูดออกมาคงอึดอัดจนขาดใจตายเข้าสักวัน” 


    ------

    กดหัวใจ ​❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    ***หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    เนื้อหาใกล้ถึงช่วงสำคัญแล้วบทเกริ่นนำแบบเต่าคลาน ฉะนั้นอย่าเพิ่งหนีไรท์กันไปเด้ออยู่รอเจอพระเอกกันก่อนนะคะ555 บอกแล้วเรื่องนี้ไม่มีดราม่าแต่ทุกตัวละคนมีเหตุผลของตนเองจำคำไรท์ไว้นะคะ

    ‘ทุกตัวละครมีเหตุผลเป็นของตนเอง’ 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in