เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
20 ฝันร้ายที่สมจริง (1/2)
  • อสูรรับใช้พูดหยอกล้อเล่นกับนายของมันอย่างไม่กลัวเกรง เซราสเลื้อยเบี่ยงลำตัวหลบฝ่ามือพิฆาตที่กำลังจะตบลงมาบนหัวมันอย่างเฉียดฉิว ถ้าขืนหลบช้ากว่านี้อีกนิดคิดว่าหัวคงลงไปทิ่มพื้น

    “ปากดีนัก”

    งูดำเอียงคอเชิดหน้าเหลือบมองเจ้านายตนเองด้วยทีท่าสบาย ๆ ไม่ยี่หระกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่แม้แต่น้อย

    “แล้วคิดว่าข้าปากดีเหมือนใครล่ะ อุ๊บส์! อั๊ก!!”

    รอบนี้เป็นหมอนหนาใบหนึ่งถูกขว้างปาข้ามเตียงมายังตำแหน่งที่เซราสชูคอมองอยู่ ด้วยความที่ตนเองมีขนาดตัวที่ใหญ่อยู่แล้ว อีกทั้งยังมัวแต่โฟกัสกับการล้อเลียนเจ้านายจึงทำให้หลบไม่ทัน โดนหมอนนุ่มฟาดหน้าหงายหลังลงไปกองที่พื้นจนหมดท่า

    “หรือข้าพูดไม่จริงเล่า?!”

    พอพลิกลำตัวกลับมาได้เซราสก็เริ่มโวยวายเสียงดังบ้าง คิดว่าความปากมากจะได้มาจากใครล่ะ เซราสก็ได้มาจากวอลล็อคทั้งนั้นทำมาเป็นรับไม่ได้ ทั้งที่ตนเองชอบพูดจาเหน็บมันเป็นว่าเล่นเวลาว่างไม่มีอะไรทำ

    “แล้วเป็นไงสภาพดูไม่จืดกันทั้งนายและลูกน้อง” เซราสยิ้มเยาะเย้ย

    “เสียงดังหนวกหู เจ้ากินอะไรเข้าไปถึงเอาแต่แหกปากด่าข้านัก”

    เจ้างูดำเลื้อยกลับขึ้นมาที่เดิม เงยหน้ามองด้วยสีตาแดงฉานด้วยแววตาจ้องเขม็งหายใจฟึดฟัด

    “คิดว่าเพราะใครล่ะ ทิ้งให้ข้าเฝ้าเจ้าเด็กนี่คนเดียว”

    เซราสหงุดหงิดที่ตนถูกทิ้งไว้ให้เป็นเหมือนหมาเฝ้าบ้านตลอด มันควรได้ออกไปข้างนอกบ้างไม่ใช่เอาแต่อุดอู้หมกตัวหลบซ่อนจากสายตาเจ้าเด็กทาสคนใหม่ นอกจากวัน ๆ ดูเกรเทลทำความสะอาดบ้าน ฝึกอ่านหนังสือหรือคัดตัวอักษร ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจอีกแล้ว

    กลายเป็นว่ามันโคตรน่าเบื่อ สู้ออกไปไล่จับนกไล่จับปลาในลำธารหรือดูธรรมชาติชมนกชมไม้ยังจรรโลงใจกว่ากันตั้งเยอะ แต่นี่ต้องมาเฝ้าดูทุกวี่ทุกวันแล้วต้องเฝ้านอกบ้านตากลมตากยุงจนน่ารำคาญ

    “แค่จับตาดูเกรเทลทำมาเป็นบ่นนักหนา ทีตอนเจ้าหลอกพวกป้าแม่บ้านข้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ”

    วอลล็อคเลิกคิ้วมองไปยังอสูรรับใช้ที่ชอบเอาแต่บ่นนั้นบ่นนี้ไปเรื่อย เรื่องที่บ้านเขามีผีสิงก็มาจากวีรกรรมของเซราสล้วน ๆ หลอกแม่บ้านเขาจนไม่มีใครกล้ามาทำงานให้

    “หึ คิดว่าถ้าข้าไม่ทำความลับเจ้าคงแตกไปแล้ว”

    จะทำยังไงได้ก็หนึ่งในป้าแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดบ้านพักวอลล็อคเป็นสายลับหัวขโมยที่ได้รับคำสั่งมา คนในค่ายเรียกนางว่า ‘ป้าแจส’ แต่ชื่อที่แท้จริงของนางคือ ‘เจสสิกา’ สายลับสองหน้าที่ถูกว่าจ้างให้มาขโมยเอกสารในห้องนอนของวอลล็อค

    “จะให้ข้าขอบคุณเจ้าว่างั้น?”

    “อย่างน้อยก็ให้ความสำคัญข้าบ้างสินาย”

    ร่างสูงส่ายหัวให้กับความขี้น้อยใจของเซราส ทำนิสัยเป็นตัวเมียไปได้ขนาดตัวก็ไม่ใช่น้อย ๆ ทำเป็นเหมือนเขาไม่ใส่ใจมัน ทว่าความจริงแทบจะตัวติดกันตลอดถ้าไม่นับเวลาทำธุระส่วนตัวก็มีแต่เขานี่แหละคอยดูแลมัน

    “ถึงให้เฝ้าเกรเทลแทนข้าไงมันไม่ดีหรือ?”

    เรื่องราวที่เซราสเล่าว่าวันนั้นเจสสิกาพยายามงัดตู้ลิ้นชักที่เจ้านายของเขาล็อกเอาไว้ ซึ่งในนั้นล้วนมีแต่เอกสารสำคัญมากมายที่ไม่ควรถูกนำออกไปข้างนอก งูใหญ่พยายามต่อสู้เพื่อขัดขวางเจสสิกาไม่ให้นางเอาเอกสารไปได้ ถ้าให้เทียบฝีมือกันถือว่าเจสสิกาเสียเปรียบกว่าเซราสมากเนื่องจากนางไม่ติดว่าในบ้านจะมีอสูรรับใช้ระดับสูงอาศัยอยู่

    สุดท้ายแล้วเซราสเลยตัดสินใจจัดการผู้บุกรุกโดยการกลืนนางลงท้องไปให้จบเรื่อง แล้วแปลงกายแสร้งทำเป็นนางร้องกรี๊ดออกไปนอกบ้านเสมือนว่าถูกผีหลอก จึงเป็นที่มาว่าทำไมบ้านของนายใหญ่แห่งตลาดค้าทาสถึงมีผีสิง

    ก็มันเล่นจัดชุดใหญ่รัชดาลัยเทียเตอร์ขนาดนั้นไม่มีใครเชื่อก็บ้าแล้ว วอลล็อคเลยต้องมาเก็บกวาดเรื่องราวของเจสสิกาให้เรียบร้อยแล้วบอกไปว่านางขอลาออกไปเอง ไม่งั้นคงมีคนสงสัยที่นางหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย

    สภาพตอนนายใหญ่แห่งตลาดค้าทาสได้ยินสิ่งที่มันเล่าถึงกลับหน้าเบ้อยากจะอ้วกแทน เขารู้อยู่แล้วว่าอสูรรับใช้มีความพิเศษแตกต่างจากสัตว์วิเศษทั่วไป โดยเฉพาะกับเซราสที่หาได้ยากและอันตรายมากที่สุด

    ขณะที่วอลล็อคกำลังเอาผ้าชุบน้ำเตรียมไปเช็ดบนใบหน้าหวานที่มีเหงื่อซึม เจ้างูปากมากก็พูดเสียดสีจนเขาคิ้วกระตุก

    “ให้ข้าเฝ้าดูเฉย ๆ หรือตนเองแค่กลัวนางหายกันแน่? อ๊าก!”

    คราวนี้เขาตัดสินใจสร้างก้อนพลังสีดำเล็ก ๆ บนฝ่ามือหนาแล้วปาไปที่กลางหัวเซราสอย่างจังจนงูตัวใหญ่ร้องเสียงหลง เขาชักจะเริ่มรำคาญความผีเจาะปากมาพูดของเซราส งูบ้าอะไรพูดไม่หยุดเหมือนกลัวว่าชาตินี้จะไม่ได้พูดอีกแล้ว

    “เสียงดังเดี๋ยวนางตื่น ข้าก็แค่ให้เจ้าเฝ้าไงพูดมากจริง”

    พวกเขาทั้งสองมีกระแสจิตและดวงตาเชื่อมถึงกันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นวอลล็อคจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่เขาไม่อยู่ในค่าย ไม่ว่าเกรเทลจะทำอะไร เดินไปที่ไหน พฤติกรรมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการทำงานล้วนอยู่ในสายตาเขาทั้งหมด

    วอลล็อครู้แล้วว่าเกรเทล ‘ไม่ใช่ผู้ชาย’ หลักฐานชัดเจนมากตอนที่ไม่มีคนอยู่บ้านพัก เกรเทลทำตัวตามสบาย การปล่อยเนื้อปล่อยตัวทั้งน้ำเสียง การพูด คำพูดแปลก ๆ รูปประโยคที่เขาไม่ค่อยเข้าใจ ท่าทางหรือพฤติกรรมทั้งหลายที่อีกฝ่ายแสดงออกมาผ่านสายตาเซราสทั้งหมด

    ไหนจะตอนที่เกรเทลช่วยมันออกจากตาข่ายหลังบ้าน รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แต่คงจะยากเพราะวอลล็อคเห็นหมดแล้วว่ามันทำอีท่าไหนถึงโดนตาข่ายพันรอบตัวขนาดนั้น มันก็แค่เลื้อยผ่านบริเวณรอบบ้านเฉย ๆ เพื่อเช็กสถานการณ์ แล้วไม่รู้ลมแรงมาจากไหนพัดหอบเอาตาข่ายทั้งร่างแหคลุมตัว

    “ออเหรอ? ขนาดข้าเฝ้านางทุกฝีก้าวนางยังหลุดไปถึงหน้าตลาดค้าทาสได้เลย! เจ้าอย่ามาทำเป็นว่าทั้งหมดเป็นความผิดข้าสิ! จะโทษก็โทษที่ตัวนางที่พลังแปรปรวนเถอะ”

    งูดำขนาดใหญ่พูดตะเบ็งเสียงดังกว่าเดิมอีกระดับเพราะชักจะหงุดหงิดที่เจ้านายเอาแต่พูดว่าเขามันขึ้บ่น เซราสคอยติดตามเฝ้าดูเกรเทลจากระยะไกลยังยากเลย ไหนจะต้องแบ่งเวลาให้ตนเองออกไปหาอะไรกินอีก

    “หัดพูดเสียงให้เบาหน่อยเถอะเซราสหูข้าจะแตก”

    ชายหนุ่มพูดเสียงเบา ทว่าวอลล็อครู้ดีแก่ใจว่าเกรเทลไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ฉะนั้นการปล่อยให้นางคลาดสายตาไปถือเป็นความเสี่ยงพอสมควร อย่างเรื่องในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าให้ออกห่างจากตัวเมื่อไรหายนะตามมาแน่นอน

    “แล้วเจ้ารู้สึกยังไงอีก”

    คนผมสีเขียวเด่นหันหน้าไปมองอสูรรับใช้ตนเองเพื่อขอความคิดเห็น

    “ก็อย่างที่ข้าบอกเจ้ามาตลอดเพราะนางมีพลังงานแปรปรวนแทบตลอดเวลาเหมือนเป็นเกราะอะไรสักอย่างปกป้องนางเอาไว้ แต่สภาพมันคือบางมากถ้าไม่ใช้ตาทิพย์ส่องก็ไม่รู้ว่ามีอยู่”

    ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจกับความคิดเห็นของเซราส จากนั้นหันกลับมาสนใจคนตัวเล็กบนเตียงนอนต่อ เขารีบจัดการนำผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดไปตามกรอบหน้าและลำคออย่างใจเย็นพิถีพิถัน สังเกตเห็นว่ามีปอยผมบางตกลงมาเล็กน้อยเขาจึงเอื้อมมือไปจับปลายผมแล้วทัดหูให้อย่างนุ่มนวล

    “เพราะเจ้าสิ่งนี้สินะ…”

    ตาคมลากสายตามามองบนข้อมือเล็กข้างซ้าย แล้วเอื้อมมือหนาของตนเองไปลูบไล้ลวดลายเถาวัลย์กุหลาบอย่างแผ่วเบา เขาหายหน้าไปหลายวันเพื่อสืบเรื่องรอยตรานี้ นอกจากข้อมูลจะหายากแล้วดูเหมือนมีใครบางคนพยายามปกปิดเหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 500 ปีก่อนด้วย

    “ใช่ สำหรับข้ามองว่านางไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร แต่อยากให้เจ้าระวังไว้หน่อยก็ดีวอลล็อค”

    งูใหญ่เอ่ยเตือนเจ้านายตนเองแม้ว่าเขาจะจับตาดูเกรเทลอยู่ห่าง ๆ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่านางไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขา

    ชายหนุ่มคิดว่าหาเวลาออกไปสืบเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกครั้งโดยครั้งนี้เขาต้องเอานางออกไปด้วย วอลล็อคลูบหัวเกรเทลเพื่อจัดไม่ให้ผมยุ่งเหยิง ตอนนี้เกรเทลผมเริ่มยาวนิด ๆ แล้วจากผมที่เคยสั้นติดหัวก็เริ่มยาวเลยใบหูเล็กลงมา

     

    เมื่อพินิจพิจารณามองรายละเอียดใบหน้าของคนบนเตียงอย่างถี่ถ้วน ถ้าไม่ได้สังเกตหรือมองใกล้ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิง นางมีเค้าโครงความหวานตามแบบฉบับสตรี ถึงร่างกายจะยังดูสูบผอมไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ลดความงามส่วนนี้ไปแม้แต่น้อย

    นางไม่ได้มีใบหน้าที่สวยงามล้นเมืองแต่มีความน่ารักแทน มิน่าล่ะคนในค่ายต่างถึงชื่นชมกันนักหนาว่านอกจากเกรเทลเป็นคนใจดี ยังมีใบหน้าที่ทำให้คนรู้สึกหลงรู้สึกเอ็นดู

     

    …นี่ข้าตาบอดนานแค่ไหนถึงเข้าใจว่าเจ้าเป็นผู้ชาย…

     

    วอลล็อคก่นด่าตนเองในใจไม่คิดว่าตนเองจะดูคนไม่ออกได้ขนาดนี้ ในหัวเขาตอนนี้เริ่มคิดไปต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

    ถ้าไม่นับความไม่รู้ของตนเองคนเดียว คนทั้งค่ายก็คงเป็นแบบเขาด้วยเช่นกันที่เข้าใจผิดว่าเกรเทลเป็นผู้ชาย ซึ่งพอมาพิจารณาดูใหม่อีกครั้งนางช่วงแรกก็เหมือนเด็กผู้ชายจริงนั่นแหละ

    มีอย่างที่ไหนไม่มีส่วนโครงเว้าแบบอิสตรีเลยสักอย่าง นางจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายก็ไม่แปลกใจนัก แถมตลอดระยะเวลาที่เกรเทลอยู่ที่นี่ยังพยายามกดเสียงตนเองให้ต่ำที่สุด

     

    …นางพยายามเอาตัวรอด…

     

    ผมสีเขียวเด่นเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปคุยกับงูดำที่ตอนนี้นิ่งเงียบรอฟังคำสั่ง

    “อืมเข้าใจแล้วตอนนี้ให้นางพักเถอะ เจ้าออกไปคุยกับข้าข้างนอก”

    เสียงทุ้มเอ่ยบอกอสูรรับใช้เพื่อให้เกรเทลได้พักผ่อนต่อ ผลจากเวทมนตร์คงอยู่ไปอีกหลายชั่วโมง ฉะนั้นเขาจะปล่อยให้เธอพักฟื้นร่างกายที่บ้านหลังนี้ชั่วคราวจนกว่าจะดีขึ้น

     

    ------

    กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    Talk with writer

    มีคนโป๊ะแตกแล้วเจ้าค่ะ แบบนี้เกรเทลหลอกนายใหญ่แห่งตลาดค้าทาสไม่ได้แล้วสิ รี้ดบางท่านคงแบบว่าอ้าวไหนบอกว่าอีกนานไงกว่านังวอลดี้จะรู้ตัว5555 คือเนื้อเรื่องมันยังอีกยาวไกลถ้าให้นางรู้ช้ากว่านี้นางคงทำคะแนนพระเอกไม่ได้เลยเพราะโดนรี้ดหยุมหัวตีหัวกันตั้งแต่ต้นเรื่องจนตอนล่าสุดก็ยังไม่สามารถทำให้เราหยุดด่านางได้เลย แต่อย่างที่ไรท์บอกไปค่ะว่านางเป็นคนมีเส้นสายเยอะจะรู้ตัวเร็วก็ไม่น่าแปลกใจนัก

    ช่วงนี้ไรท์อาจจะอัปตอนช้าลงกว่าเดิมนะคะ รีบไปปั่นต้นฉบับเล่ม 1 ให้ทันก่อนเดือนมีนาคมเพราะมีแพลนออกเป็นรูปเล่มกับ E-Book แต่ยังไม่ชัวร์ว่าจะออกแบบไหนมาก่อนดีคือกลัวไม่มีคนซื้อรูปเล่มมาก ถ้าสนใจแวะคอมเมนต์บอกไรท์กันด้วยนะคะไรท์จะได้รู้ว่ามีคนสนใจไหม

    แม้จะไม่มีคนสนใจไรท์ก็อยากพิมพ์เก็บไว้เป็นที่ระลึกแต่คงทำออกมาตามจำนวนคนสั่ง(ถ้ารี้ดสนใจรูปเล่มกันนะคะ) เรื่องนี้คิดไว้คือ 2 เล่มจบค่ะ ส่วนสายฟรีตามอ่านได้จนจบ แต่จะช้ากว่าคนซื้อรูปเล่มกับ E-Book หน่อยนะคะ

    สุดท้ายนี้ขอบคุณรี้ดผู้น่ารักทุกท่านทั้งที่แสดงตัวตนและนักอ่านเงาที่คอยตามอ่านกันมาเงียบ ๆ ไรท์มีแรงใจเขียนต่อได้เพราะยอดอ่านของทุกคนเลยค่ะ ถ้าไม่มีทุกคนไรท์คิดว่าตนเองคงไม่มีแรงเขียนต่อแน่ ๆ ขอบคุณที่เป็นแรงผลักดันให้นะคะ

    แวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัปเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่

    Facebook : C.T.Tiana

    X (Twitter) : @Ccttiana

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in