เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน 2 เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนเสื้อ
  • เช้าวันถัดมาเกรเทลลุกขึ้นจากเตียงนอนขึ้นมานั่งพับเพียบ ขอบตาดำคล้ำ เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืนนอนกลิ้งไปมาหลายตบหาทางออก

    ทำไมอยู่ ๆ พี่ชายเธอก็ไม่เห็นด้วยกับการมีแฟน เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงสีหน้าเย็นชาออกมา


    …ไม่มีเหตุผล ฟังไม่ขึ้น…


    ฮันเซลไม่ใช่คนไร้เหตุผลแถมเป็นคนยุติธรรมสุดในบ้าน ทุกอย่างย่อมมีสาเหตุเธอต้องไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง

    เมื่อตัดสินใจได้แล้วเธอจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรีบไปคุยกับพี่ชายก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน ภายในเวลาแค่ 10 นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย

    ร่างบางกระชากประตูห้องนอนตนเองแล้วรีบก้าวลงบันไดไปหาพี่ชาย ซึ่งเป็นจังหวะพอดีที่ขณะนี้เขากำลังออกไปทางประตูบ้าน

    “พี่ฮันเซล! พี่หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ” 

    ร่างสูงได้ยินเสียงตะโกน ไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับไปมองก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เขาก้าวเดินอย่างมั่นคงไปที่รถยนต์เพื่อขับไปทำงานเหมือนทุกเช้า

    “หนูบอกว่าให้หยุดไงพี่! หูพี่ตึงเหรอ” 

    จะว่าเขาเอาแต่ใจก็ใช่ แค่ไม่พร้อมจะคุยกับเธอในตอนนี้เท่านั้นเอง

    เขาถอนหายใจเมื่อไอตัวแสบวิ่งมาประชิดถึงตัวแล้วดักทางข้างหน้าเขามิด

    อืม…ก็แค่เกือบมิดน่ะนะ

    มือเล็กคว้าประตูรถไว้มั่น กลัวว่าคนสูงกว่าเปิดแล้วขึ้นรถออกไปโดยที่เธอยังไม่ได้เคลียร์ปัญหาในใจ

    “พี่สนใจหนูด้วยสิ นี่น้องสาวพี่นะฮันเซล มาคุยกันให้รู้เรื่องเลยว่าทำไมพี่ถึงพูดแบบนั้นออกมา?” 

    ชายหนุ่มยืนมองหน้าน้องสาวนิ่ง มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกงนับเม็ดลูกประคำอย่างเงียบ ๆ ซึ่งเกรเทลไม่มีทางรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

    “จะไม่พูดไรหน่อยเหรอ หนูรู้ว่าพี่มีเหตุผลมากพอที่จะพูดแบบนั้น” 

    “พี่ไม่มีเหตุผลไรทั้งนั้น หลบด้วยพี่กำลังจะไปทำงานสายแล้วเกรเทล” 

    มือหนาหยุดนับลูกประคำในกระเป๋ากางเกง แล้วชักมือออกมาเพื่อดันตัวเธอออกไปให้พ้นจากประตูรถ ย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ

    “อะไรเนี่ยพี่ฮันอย่ามาไร้สาระนะ” 


    ปัง!


    เขาไม่สนใจเธอ แถมยังมาปิดประตูอัดใส่หน้าเธอเป็นรอบที่สองถัดจากเมื่อคืนนี้ เหตุการณ์ครั้งแรกยังพอทน แต่เหตุการณ์ครั้งที่สองมันเสียหน้า

    ชายหนุ่มเหลือบมองน้องที่ยืนด่าเขาเสียงดังลั่น ยังดีกระจกรถเขาหนาเลยได้ยินเสียงแบบอู้อี้แต่มั่นใจว่าแม่คุณคงยกโขยงคำด่ามาทุกแบบ

    โชคดีที่เขาตัดสินใจล็อคประตูรถทันทีที่ขึ้นมานั่ง ไม่งั้นมีหวังเธอกระชากประตูลากหัวเขาลงไปเป็นแน่

    ร่างสูงส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของเกรเทล

    เมื่อร่างบางทำไรไม่ได้นอกจากด่าเขาและตีกระจกอยู่ข้างคนขับ

    “ไอ้พี่ฮัน!” 

    จนกระทั่งสตาร์ทรถขับออกไป ต่อให้เธอวิ่งตามไปเขาก็ไม่มีทางหยุดรถลงมาคุย


    …ทำไมต้องวิ่งให้เหนื่อยเสียแรง ไม่ได้โง่ขนาดนั้น…


    ร่างบางยืนตีนเปล่าเท้าเอวมองรถจี๊ปของพี่ชายขับออกไปไกลจากรั้วบ้าน รู้สึกหงุดหงิดพอสมควรกับท่าทางอีกฝ่ายที่ไม่แยแสจะคุย

    แม้ว่าอารมณ์จะคุกกรุ่นไปบ้างไม่นานเธอก็ปรับอารมณ์ให้กลับเป็นปกติ

    เธอโตพอที่จะเลิกสนใจเรื่องจุกจิกพวกนี้ เขาไม่อยากบอกในตอนนี้ก็ช่างมันสู้กลับไปนั่งคิดหาทางออกเถอะ ว่าแล้วก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาเพื่อนสนิททันที



    ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านมาถึงร้านกาแฟ เกรเทลยืนชะเง้อมองหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอย่างเฮลก้า

    ไม่นานเธอก็มองเห็นเพื่อนสนิทที่นั่งหลบมุมอยู่คนเดียวข้างบ่อน้ำพุ

    เฮลก้ามีรูปร่างที่สูง ผมสีบลอนด์ทองธรรมชาติที่แม้แต่เกรเทลยังอิจฉา หน้าตาโฉบเฉียว ดุดัน พ่อเป็นคนเยอรมันส่วนแม่เป็นคนอเมริกา

    สมัยเรียนเฮลก้าชอบการคิดคำนวณมากฝันอยากไปทำงานพวกวิศวะ แต่ไม่รู้อะไรดลใจแม่คุณถึงเปลี่ยนใจไปสมัครเข้าเป็นทหารเฉย ปัจจุบันได้ประจำการทำงานที่กรมทหารเรือ ไต่เต้าจนอยู่ระดับสูงได้ด้วยความสามารถ

    เนื่องจากความที่หัวไวและสร้างผลงานดีเด่นเลยได้เลื่อนขั้นเป็นถึงผู้การทั้งที่อายุยังไม่ถึง 25 ปี

    ร่างบางดูจากเครื่องแต่งกายของเพื่อนแล้วคงเพิ่งออกมาจากกรมแน่นอน ถึงยังสวมเครื่องแบบเต็มยศสะขนาดนี้

    “นี่ทำไมไม่เปลี่ยนชุดก่อนออกมาเฮลก้า ไม่ร้อนเหรอ” 

    คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมาจากมือถือที่ตนกำลังกดคุยงาน

    “ขี้เกียจเปลี่ยนน่ะ อีกอย่างเรื่องเธอสำคัญกว่าเรื่องชุดฉันนะ ไหนเล่ามาเลยไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้” 

    ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ของร้านกาแฟทั้งในหัวก็เรียบเรียงคำพูดเล็กน้อย ระหว่างนั้นเพื่อนเธอก็จิบชาร้อนฟังไปด้วยอย่างใจเย็น

    เวลาผ่านไปได้ประมาณเกือบสิบนาทีเกรเทลก็เข้าเรื่องราวทั้งหมด เจ้าหล่อนเล่าละเอียดยิบชนิดไม่ต้องยกมือถาม

    “แล้วแกคิดจะทำไงต่อไป ได้คิดไว้บ้างไหมยัยเกรย์?” 

    “คิดนะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกกับการมีแฟน เพราะพวกเรารู้จักกันแค่สามวัน เขาก็ขอฉันคบเป็นแฟนทันที เพิ่งคบกันได้แค่อาทิตย์เดียวเองตอนนี้” 

    “อืม” เฮลก้าขานรับ

    “ถ้าจะให้เลิกก็ทำได้ แต่แค่รู้สึกไม่แฟร์น่ะ มีอย่างที่ไหนมาบอกให้เลิกคบทั้งที่ยังไม่ทันได้รู้จัก ถ้านิสัยแย่เจ้าชู้หรือเลวก็ว่าไปอย่าง” 

    เด็กสาวนั่งขมวดคิ้วแทบจะผูกกันเป็นโบว์ จนเพื่อนสนิทต้องเอื้อมมือข้ามมาเพื่อคลึงระหว่างคิ้วให้

    เพื่อนเธอมันยังไม่ทันได้ไปฉีดโบท็อกซ์สักเข็มกลัวเหลือเกินว่ามันจะย่นเป็นรอยตีนกาไปเสียก่อน

    “แกก็ว่าไป อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นเว้ย บางทีอาจจะดีก็ได้ แกโสดบ้างเถอะ หัดทำตัวให้ชิล ทำตัวให้ว่างบ้างค่ะสาว” 

    ขนาดเฮลก้าก็ขึ้นชื่อเรื่องเปลี่ยนแฟนทุกเดือนยังปวดหัวกับเพื่อนตัวเองเลย หัดเลือกบ้างไม่ใช่เห็นใครก็ควงหมด

    “ไม่ใช่สรรหาแฟนใหม่ได้ทุกอาทิตย์ ขนาดฉันที่ว่ามีหนุ่มมาแจกขนมจีบทุกวันในกรมยังเลือกเลย แกก็หัดเลือกให้มันดี ๆ สักคนเถอะนะ” 

    เฮลก้าพูดด้วยความเป็นห่วงเพื่อนตนเอง กลัวว่าสักวันจะแจ๊กพอตแตกเจอกับพวกนักต้มตุ๋นเข้า แม้เพื่อนเธอจะเอาตัวรอดได้แต่มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปได้ตลอดรอดฝั่งเสียหน่อย

    “เฮ้อ…เอาจริง ๆ นะฮีล ฉันก็ไม่ได้อยากมีหรอกแฟน” 

    “อ้าว แล้วที่มีอยู่เนี่ยคือไม่ได้อยากมี? อะไรของแกกันแน่วะ” 

    ร่างบางยกมือนวดขมับไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้เพื่อนสนิทเข้าใจตน

    “หรือว่าแกประชดพ่อเหรอเกรเทล?” 

    “เออตามนั้นแหละ” 


    ------

    กดหัวใจ ​❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    ***หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ


    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    จะบอกว่าพี่ชายคนนี้แซ่บนะขอบอก แต่ต้องกั๊กไว้บ้างเดี๋ยวไม่มีให้หวีดในอนาคต😳 แต่เรื่องที่ว่าเฮียเขาไม่สนผีสนแปดอันนี้จริงเพราะเขาสนใจกับคนที่เขาใส่ใจเท่านั้นแต่ในกรณีนี้คือหูทวนลมเฉย ๆ ไม่มีไรมาก😂

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in