เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
จากวันร้างลา...สู่วันแรกรักIfIStay
Chapter 5
  • ฟุรุยะล่องลอยอยู่ในกระแสความคิดของตนเอง 

    ในความทรงจำของเขา...หลังจากวันนั้นอากาอิและเขาก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน จากฐานะคนเคยรู้จักกันในวันคืนเก่าๆ ความสัมพันธ์ที่เคยถูกพักไว้ในช่วงเวลาหนึ่ง เพราะความไม่มั่นใจในตัวตนของกันและกัน กลับพัฒนาขึ้นมากลายเป็นคนรักกัน 

    ฟุรุยะยิ้มให้กับเรื่องราวที่เปลี่ยนฐานะของเขาและอากาอิให้กลายเป็นแฟนกันได้อย่างแจ่มชัด 'ทำไมเขาถึงลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปนะ? ความรักสุดแปลกพิสดารกว่าที่ใครจะจินตนาการได้'

    พวกเขาไม่ใช่คนที่มีรสนิยมชอบผู้ชายกันสักหน่อย แต่พวกเขา.... แค่รักในตัวตนของกันและกัน โดยก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดทางเพศ ก็เท่านั้น...

    ภาพรอบข้างตัวฉายแววชัดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง 

    ตอนนี้เขาคือเบอร์เบิ้น มีไรย์ และสก็อตซ์ ยืนขนาบข้างอยู่ พวกเขากำลังรับฟังคำสั่งจากเบื้องบนให้ไปจัดการกับเป้าหมายและสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม

    'อาาาา... นี่คงเป็นความทรงจำที่ลึกกว่าเรื่องกว่าเรื่องนั้นสินะ'

    การเดินทางย้อนกลับไปในความทรงจำมากๆ ทำให้เขาเริ่มเวียนหัว แต่ก็ไม่เป็นไร แค่นี้...พอทนไหว 

    เมื่อได้รับคำสั่งเสร็จ พวกเขาก็ประชุมงานกันเพื่อวางแผน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเพื่อเตรียมตัวสำหรับทำภารกิจ จนเมื่อถึงวันที่นัดหมาย พวกเขาทั้งสามเดินเข้าไปในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งแล้วแยกย้ายกันไปต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนตามแผนที่ได้วางเอาไว้ เบอร์เบิ้นเป็นคนช่างเจรจาจึงรับหน้าที่ไปเป็นนกต่อเพื่อสืบข่าวและมีหน้าที่ในการดูแลเข้าใกล้เป้าหมาย ไรย์เป็นชายร่างสูง ไหวพริบดี จึงเหมาะที่จะอยุ่คุมสถานการณ์โดยรอบๆ งานเลี้ยง ส่วนสก็อตซ์เป็นเสือปืนไว รับหน้าที่สไนเปอร์ซุ่มยิงและเป็นกำลังเสริมให้กับทีมในกรณีที่เกิดความผิดพลาด 

    เหตุการณ์ดำเนินเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งสามคนไม่ได้คิดเอาไว้เลยคือ รสนิยมของเป้าหมายที่ชื่นชอบผู้ชายหน้าสวย ร่างบาง ซึ่งแน่นอนว่า..เมื่อเป็นแบบนี้เบอร์เบิ้นจึงสามารถประชิดกับเป้าหมายได้อย่างง่ายดายโดยที่เขาไม่ทันระวังตัว เป้าหมายแอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ในแก้วเหล้าของเขาและพาเขาไปยังห้องพักเพื่อหวังทำกิจกาม แต่โชคดีที่ไรย์มาช่วยได้ทัน เขาจัดการสังหารเป้าหมายทันทีและโทรบอกให้สก็อตซ์รับไม้ต่อเข้ามาค้นข้อมูลในห้องของเป้าหมายต่อไป

    ไรย์พาเบอร์เบิ้นกลับไปที่ห้อง ตอนนี้อาการเมายาปลุกเซ็กส์กระตุ้นอารมณ์ของเขาให้เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ตัวเขาร้อนรุ่มดั่งโดนไฟแผดเผา ไรย์พยายามพาเขาไปห้องน้ำ เปิดน้ำเพื่อหวังช่วยบรรเทาความร้อนรุ่มของพิษยา เขาพลาดเอง... ผิดพลาดเอง... นึกโมโหตัวเองนักที่ไม่ระวังตัวให้มากกว่านี้ อาการปวดตุ๊บๆ ตรงอวัยวะส่วนนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปต้องไม่ไหวแน่ 

    ไรย์เองก็เหมือนรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของเขา เขาตัดสินใจทำบางอย่างที่เปลี่ยนความรู้สึกของพวกเขาไป ...จากที่เป็นแค่เพียงเพื่อนร่วมงาน สัมพันธ์ครั้งนั้นทำให้พวกเขาผูกพันกันมากขึ้น... 

    วันนั้น... เป็นวันแรกที่ไรย์และเบอร์เบิ้นเข้าผสมกันอย่างกลมกล่อมและลงตัว

    ...พวกเขาต่างหลงใหลในตัวของกันและกันเข้าอย่างจัง...

    ฟุรุยะจดจำความทรงจำนั้นได้อย่างชัดเจน เซ็กส์ที่มีไปโดยความไม่ได้ตั้งใจแต่กลับรู้สึกดีมากที่สุด เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ระคนตื่นเต้น เขาเสพติดการร่วมรักแบบนั้น....กับไรย์... ไรย์เองก็เช่นกัน มารู้ตัวอีกที... พวกเขาก็มีความสัมพันธ์แบบนั้นกันมานับครั้งไม่ถ้วน

    สก็อตซ์เองก็รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองมาโดยตลอด เขารักไรย์และเบอร์เบิ้นมาก ซึ่งไรย์และเบอร์เบิ้นเองก็รักเขาเช่นกัน คนนึงเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กที่ฉลาดแต่ขี้โวยวาย อีกคนเป็นคนพูดน้อยแต่ทำจริงแถมยังมีฝีมืออีกต่างหาก

    แม้กระทั่งวันที่เขาพลาดท่าโดนองค์กรจับได้ว่าเป็นหนอนบ่อนไส้ เขาดีใจว่าคนที่มาเจอกับเขาคนแรกเป็นไรย์ ไรย์ต้องช่วยเขาแน่ๆ แต่เสียงฝีเท้านั่น... ใครกันล่ะ??

    ถ้าเป็นคนในองค์กรพวกเขาทั้งสองคนต้องตายแน่ๆ ...ไรย์ต้องมาตายเพราะเขาแน่ๆ... ทำยังไงดีล่ะ??

    สก็อตจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง เพราะต้องการปกป้องคนที่เขารัก ...ครอบครัวและเพื่อนรักทั้งสองคนของเขา อย่างน้อยไรย์จะได้ไม่ต้อง...มารับเคราะห์เพราะเขา...

    เสียงวิ่งตึกๆๆๆ ที่วิ่งขึ้นมา ฟุรุยะในร่างเบอร์เบิ้นรู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องเจอกับภาพอะไร ณ ตอนเกิดเหตุ เขารู้สึกโกรธแค้น โกรธแค้นที่ตัวเองวิ่งมาไม่ทัน โกรธแค้นองค์กร โกรธแค้นกรมตำรวจที่ส่งพวกเขาเข้ามาเป็น NOC โกรธแค้นคนตรงหน้าที่ฆ่าตัวตาย และโกรธแค้นร่างสูงที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่ช่วยห้ามปรามเพื่อนไม่ให้คิดสั้นเลย 

    มาถึงตอนนี้ ฟุรุยะผู้มาเยือนได้แต่ปล่อยให้เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำในห้วงมโนสำนึก เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมอากาอิถึงไม่ยอมบอกความจริงกับเขา... ไม่ยอมบอกว่าต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สก็อตซ์จบชีวิตลงเป็นเพราะเขาเอง 

    'โธ่ อากาอิ... นายแบกทุกอย่างไว้มากเกินไปแล้วนะ มากเกินไปจริงๆ' 

    'ทำไมนายต้องทำเพื่อคนอื่นขนาดนี้ด้วย? มันไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย'

    ภาพความทรงจำฉายต่อไปเรื่อยๆ ถึงวันที่พวกเขาต่อสู้กันบนชิงช้าสวรรค์ พอมาถึงตอนนี้มันช่างน่าขำเสียจริงๆ 

    'นายทำอะไรอยู่น่ะ ฟุรุยะ นายควรไปจัดการกับคุราโซ่มากกว่า' 

    ฟุรุยะผู้มาเยือนที่ยังคงอยู่ในร่างของเบอร์เบิ้นมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมุมใกล้ๆ ที่พวกเขาต่อสู่กันอยู่ 

    'หึ ฟุรุยะ นายลืมไปรึเปล่าว่า อากาอิเป็นคนไปช่วยนายมาจากยินและว็อดก้าน่ะ'

    'ตลกดีที่นายเอาแต่โทษอากาอิอย่างนู้นอย่างนี้ โดยไม่มองดูตัวเอง' 

    'อากาอิทำเพื่อนายมามากมายขนาดไหน ทำไมนายถึงไม่คิดบ้าง' 

    'คนที่นายควรด่าว่ามากที่สุดไม่ใช่อากาอิ แต่เป็นตัวนายเอง!!!'

    'นายคือคนเห็นแก่ตัว นายไม่เคยคิดถึงใจอากาอิเลยสักนิด นายมันเอาแต่ได้!!!'

    ฟุรุยะผู้มาเยือนก่นด่าตัวเอง เขาร้องไห้โฮออกมาเมื่อคิดได้แล้วว่าที่ผ่านมาเขาเอาเปรียบอากาอิมากแค่ไหน อากาอิมีสิทธิ์จะพูด จะบ่น หรือ น้อยใจเขากได้ แต่ไม่เคยทำ เขาไม่เคยเอาเรื่องเก่าๆ มาพูดให้ฟุรุยะเสียใจเลยสักครั้ง 

    มีแต่พูดถึงปัจจุบัน... และอนาคต...

    อนาคตที่เขาอยากเริ่มต้นใหม่กับฟุรุยะ 'ทำไมฉันถึงได้โง่แบบนี้นะ' 

    'ทำไมฉันถึงได้ใจร้ายกับเขาแบบนี้นะ' 

    อากาอิผู้เสียสละให้เขาแทบทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยทำอะไรเพื่ออากาอิเลยสักอย่าง 

    'เขาช่างเห็นแก่ตัว'

    ฟุรุยะผู้มาเยือนร้องไห้อย่างหนัก เขาหลับตาลงเพื่อให้ใจรับรู้ถึงความเจ็บปวด 

    .....ความเจ็บปวดนี้เป็นของจริง......

    'ขอโทษนะอากาอิ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา แต่มันคงสายไปแล้ว...ใช่มั้ย?'

    ภาพรอบข้างของฟุรุยะเริ่มเลือนหายกลายเป็นภาพใหม่ 

    ภาพวันที่...ไรย์และเบอร์เบิ้นเจอกันครั้งแรก...

    ฟุรุยะผู้มาเยือนยังคงอยู่ในชุดเบอร์เบิ้น เขาอยู่ในห้องๆ หนึ่ง และได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่า ทีมของเขาจะมีคนมาเพิ่ม 

    เบอร์เบิ้นมองหน้าผู้มาเยือนใหม่ เป็นชายร่างสูง ผมหยักศกสีดำขลับ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายราวกับรูปสลัก นัยน์ตาสีเขียวมะกอกคมกริบ ฉายแววมุ่งมั่นจับจ้องมาทางเขา มีกระเป๋าใบหลังแบกไว้ด้านหลัง ชายคนนั้นยื่นมือมาหาเขา

    "ฉันชื่อไรย์ ยินดีที่ได้รู้จัก"

    เบอร์เบิ้นยื่นมือออกไปจับ เขาพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูยากเหลือเกินสำหรับคำพูดนั้น

    'มีคนไข้หลายคนที่พยายามจะคุยกับคนในความทรงจำของพวกเขา คุณสามารถทำได้นะครับ แต่มันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้น คนในความทรงจำของคุณอาจมีคำพูดหรือการกระทำที่ต่างออกไป แต่ขอให้เข้าใจไว้ด้วยว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงอะไรได้นะครับ'

    ใช่... เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก 

    เขาแค่อยากขอโทษอากาอิเท่านั้น 

    เอาเถอะ นี่อาจจะเป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายของเขาและอากาอิแล้วก็ได้ แม้จะเป็นแค่ความทรงจำก็ตาม เพราะอากาอิตัวจริงคงลืมเขาไปแล้ว ส่วนตัวเขาเองพอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็จะไม่มีความทรงจำของผู้ชายคนนี้หลงเหลืออยู่อีกแล้ว 

    พูดๆ ไปเถอะ พูดให้มันจบไป ไม่ให้มันรู้สึกติดค้าง... 

    "อากาอิ" ฟุรุยะผู้มาเยือนพูดออกมาในที่สุด ร่างสูงชะงักไปเพราะไม่คิดว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะรู้จักชื่อจริงของเขา 

    "นายรู้จักชื่อของฉันได้ยังไง?" 

    "ที่นี่เป็นแค่ความทรงจำน่ะ เรื่องจริงมันเกิดขึ้นไปแล้ว และ ณ ตอนนั้น ฉันก็ยังไม่รู้จักชื่อจริงของนายด้วย สบายใจได้"

    "งั้นเหรอ" ร่างสูงตอบรับเสียงราบเรียบตามสไตล์ของเขา

    "ฉันขอโทษนะ"

    "ขอโทษฉันเรื่องอะไร?"

    "ทุกเรื่อง เพราะเดี๋ยวต่อจากนี้ หลังจากที่นายได้รู้จักฉัน นายจะต้องมีเรื่องให้ปวดหัวเข้ามาทุกวันเลยแหละ" ฟุรุยะผู้มาเยือนพูดไป สีหน้าแย้มยิ้มด้วยความอ่อนโยน

    "งั้นเหรอ"

    "ก็ตามนั้นแหละ เดี๋ยวเรา...ก็จะไม่รู้จักกันแล้วนะ"

    "ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?"

    "ฉันมาลบความทรงจำเรื่องของนายให้ออกไปจากหัวของฉันน่ะ บ้าดีเนอะ"

    "ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ? นายโดนเขาหลอกแล้วมั้ง?"

     "ไม่น่านะ... เพราะนายมาทำก่อนฉันซะอีก"

    "งั้นเหรอ"

    "พูดอย่างอื่นบ้างไม่ได้รึไง??"

    "ก็ฉันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรน่ะสิ"

    "...."

    "...."

    ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบกันสักพัก อากาอิเป็นฝ่ายพูดขึ้น 

    "ถ้าเราจะไม่รู้จักกันแล้ว... อย่างน้อย... เราก็บอกลากันหน่อยละกัน" 

    ฟุรุยะผู้มาเยือนร้องไห้ โผเข้ากอดร่างอากาอิในความทรงจำนั้นอย่างหมดอาย เขาไม่อยากลบความทรงจำแล้ว ไม่อยากทำแล้ว ไม่อยากให้ความทรงจำนี้มันหายไป เขาลืมไม่ได้ เขาจะไม่มีวันลืมเด็ดขาด ถ้ามีโอกาสอีกสักครั้ง เขาจะไม่ทำผิดพลาดแบบนี้อีกอย่างแน่นอน

    อากาอิกอดเขาไว้แล้วพูดว่า "ถ้าฉันจะไม่มีโอกาสได้ปกป้องนายแล้ว นายก็ต้อง....ดูแลตัวเองดีๆ นะ ขอให้โชคดี"

    ฟุรุยะผู้มาเยือนร้องไห้มากขึ้น เขาเสียใจมากจริงๆ นี่มันเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก ทำไมการลบใครออกจากความทรงจำของเรา มันถึงได้เจ็บปวดแบบนี้นะ เขาเจ็บปวดเหลือเกิน...

    และแล้วภาพความทรงจำทั้งหมดก็เลือนหายไป... กลายเป็นสีดำ

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in