ฉันได้ฟังเพลง ครึ่งหนึ่งของชีวิต ของคุณแอม เสาวลักษณ์มาหลายปี
ถ้าให้นับเป็นครั้ง ฉันก็พูดได้อย่างเต็มปากและภาคภูมิว่านับครั้งไม่ถ้วน
หากจะรื้อหาหีบห้องของความทรงจำ ฉันจำได้ว่าฉันรู้จักเพลงนี้ครั้งแรกตอนประถมสาม
ครั้งที่แผ่นซีดียังเฟื่องฟูและทุกคน"ไรท์"เพลงที่ตัวเองชอบลงแผ่นมาฟังกัน
นั่นปะไร ฉันแก่แดดแก่ลมถึงปานนั้น
ครั้งนั้น... ครั้งแรก... ฉันไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไมต้องครึ่งหนึ่งของชีวิต แล้วครึ่งหนึ่งนั้นมันมากมายเพียงไร
.
.
.
ฉันฟังเพลงนี้เรื่อยมาตามโอกาสจะเอื้ออำนวย ทั้งแผ่นซีดีจนมันเก่าคร่าคร่ำ ไปจนถึงรายการเพลงที่เปิดกันบนจอโทรทัศน์
และฉันมาฟังเพลงนี้อย่างจริงจังตั้งใจอีกครั้งเมื่อตอนมัธยมสาม... อกหักเข้าให้แล้ว
ตอนนั้นฉันเหมือนกินยาขม เอาทิงเจอร์มาราดแผลสดให้ร้อนรน
ฉันฟัง ฉันร้องตาม ฉันร้องไห้
จากนั้น เพลงครึ่งหนึ่งของชีวิตก็ไม่เคยหลุดจากเพลย์ลิสต์ประจำตัวฉันอีกเลยจนปัจจุบัน
คุณอาจจะสงสัยเหมือนหลายคนรอบตัวฉันว่าคนเราจะต้องโศกาอาดูรย์ต่อความรักเพียงไหน หรือทำไมไม่ฟังเพลงอกหักใหม่ๆบ้าง ทั้งที่เขาออกกันมาจนถมถืด
"มันไม่เหมือนกันนี่... ไม่เหมือนกัน" ฉันตอบได้เพียงเท่านั้น
.
.
.
ครึ่งหนึ่งของชีวิต ได้กลายมาเป็นท่วงทำนองที่มีความหมายมากขึ้นในช่วงแต่ละขวบปีที่ฉันเติบโต
มันไม่ใช่เพียงเพลงรักอกหักอีกต่อไป
แต่บ่อยครั้ง ฉันฟังเพื่อปลอบใจตัวเองในยามที่รู้สึกว่าชีวิตของตัวนั้นหล่นหาย
และฉันเพิ่งตอบคำถามต่อตัวเองที่เคยสงสัยได้เองว่า ครึ่งหนึ้งของชีวิต มันมากมายสักเท่าไหร่กัน
คำตอบนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความมากน้อย เพียงแต่ตอบได้อย่างมาดมั่นชัดเจนว่า "ไม่เท่ากัน"
.
.
.
ไม่เท่ากันของฉันนั้นน่ะหรือ ไม่ใช่ไม่เท่ากันในเชิงปริมาณอย่างเดียวเสียด้วย
ให้พูดว่าไม่เท่ากันเลยสักครั้งจะดีกว่า
.
.
.
บางครั้ง...บ่อยครั้งที่ฉันอกหัก ท่อนที่ทำฉันฟูมฟายคือ "แบ่งชีวิตให้เขาแล้ว เขาก็พามันจากไป"
ใช่สิ ก็ฉันแบ่งไปแล้วนี่ มากเสียด้วยในครั้งแรกๆ ฉันจึงโศกเศร้าเหลือเกินว่าชีวิตฉันมันขาดหายไปมากถึงเพียงนั้นจากการแบ่งใจให้ใครผิดคน
ทว่า ครั้งต่อๆมา ฉันไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น มันไม่ถึงครึ่งหนึ่งของชีวิตอีกแล้ว แต่อย่างไรก็คือครึ่งหนึ่งของหัวใจเสี้ยวหนึ่งที่แบ่งปันให้ใครไป ณ ขณะนั้น
.
.
.
บางครั้ง... บ่อยครั้งเมื่อโตขึ้น ที่ฉันรู้สึกว่าเศษเสี้ยวของชีวิต ชิ้นเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง หล่นหาย
ฉันยังคงฟังเพลงนี้ปลอบใจและสะกิดแผลตัวเองไปด้วยพร้อมกัน
และฉันพบแล้วว่า ครึ่งหนึ่งของชีวิตของแต่ละคนนั้นคงไม่มีวันเท่ากัน
ทั้งอกหักรักคุด ทั้งเคียดแค้นโศรกเศร้า
ขณะที่ฉันฟูมฟายเสียใจว่าครึ่งหนึ่งของฉันหายไป คนอีกคนเขาไม่เห็นเหมือนคนที่ทำชีวิตเขาหายไป
เขาอาจจะไม่ใช่คนฟูมฟายดราม่าเบอร์ใหญ่เท่าฉัน ข้อนี้ฉันรู้ดี และใครคงเทียบฉันได้ยาก
แต่กระนั้น มันก็ชี้ให้เห็นได้ว่า นั่นไง มันไม่เท่ากัน
หรือ
เมื่อฉันเสียใจจากเรื่องอื่น ในบ่อยครั้ง ฉันรู้สึกว่าตัวเองทำตัวเองหล่นหาย
ฉันเสียใจไม่เท่ากััน แต่ฉันเสียใจ
นั่นไง มันไม่เท่ากันอีกแล้ว
.
.
.
ณ ตอนนี้ จากเด็กน้อยและวัยรุ่นช้ำรักที่ผ่านชีวิตในช่วงหลายขวบปีมาพร้อมเพลงเศร้าประจำใจ
ก็ยังคงมีเรื่องเศร้าใจอยู่เสมอ และอย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกขอบคุณ
ขอบคุณเนื้อหา ท่วงทำนอง คำร้อง ทุกการถ่ายทอดบทเพลงนี้
ที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้และรู้จักชีวิตไปพร้อมกับตัวเอง
และสุดท้ายนี้ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะสามารถยึดมั่นกับท่อนสำคัญของเพลงนี้
"เก็บชีวิตที่เหลือๆ ทำให้ดีจะได้ไหม แล้วไม่นานจิตใจจะเต็มเหมือนเดิม"
ถึงมันอาจจะไม่สามารถกลับมาเต็มบริบูรณ์ได้ อย่างฉันเป็นต้น แต่เชื่อเถิด ว่ามันจะกลับมา
ฉันขอให้คุณเติมใจตัวเองได้ในเร็ววัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in