หลังจากได้เข้ามาทำงานสาย Infographic ในตำแหน่ง Content Editor (แต่จริงๆ แล้วแม่งเหมือนได้ทำ copywriter ด้วย) ความรู้สึกก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำงาน เริ่มตั้งแต่ยื่น resume เขียนข้อความแนะนำตัวเอง ร่างกายและจิตใจโครตหิวกระหายความรู้ จินตนการไปเรื่อยว่า
"สัดเอ๊ย! เหมือนกูต้องได้เรียนอะไรเพิ่มใหม่ตลอดเวลา ความรู้รอบตัวเพื่มพูน มีอะไรใหม่ให้เรียนรู้เสมอ สนุกแน่"
ภาพตัดมาที่กูกำลังอ่านๆ ๆ ๆ เรื่องการเงิน กองทุน หนี้ การออม ประกันชีวิต สหกรณ์ การบริหารคอนโด เอาจริงกูควรจะดีใจไหมอ่ะที่แบบเออก็ตามที่คิดมึงคิดแล้วหนิ่ ความรู้นี่ผุดออกมายั้วเยี้ยะเชียว แต่เชื่อไหมว่ากูกลับตระหนักสัจธรรมชีวิตเฉพาะกูเองได้ว่า
ชีวิตคนๆ หนึ่ง มึงไม่จำเป็นต้องรู้เยอะ มึงไม่จำเป็นต้องมีความรู้หลายๆ ด้านขนาดนี้ มึงไม่จำเป็นต้องศึกษาอย่างถ่องแท้ถ้ามึงไม่รักความรู้นั้น มึงควรจำสำรวจตัวเองมึงชอบอะไร มึงรักอะไร มึงสนใจอะไร แล้วมึงก็พุ่ง พุ่งเข้าเอาให้ลึกเอาให้สุด ตกตะกอนสิ่งที่มึงได้ให้เป็นตัวมึงเอง
มึงอาจจะงงเขียนเหี้ยไรวะ ง่ายๆ กูคิดว่าคนแม่งเหมือนต้นไม้อ่ะ คือถ้ามึงต้องการน้ำมากเกินไป เพราะมึงคิดว่ากูจะได้โตไวๆ ตอนแรกมึงอาจจะเริ่มเหี่ยวๆ เฉาๆ สุดท้ายคือมึงตายไง เพราะฉะนั้นแล้วมึงต้องตามรอยพ่อ ด้วยการพอเพียง เอ๊ย! ไม่ใช่เว่ย พอดีต่างหาก (ภาวนาให้ตัวเองไม่ถูกหิ้ว แล้วปลิวไปตามธุลีพระบาท) อ่ะๆ ไร้สาระมาเยอะแล้ว กูขอจบแบบเท่ๆว่า
ดีเกินไปก็ไม่ใช่ รักเกินไปก็ไม่เอา
(เกี่ยวเหี้ยไรเนี่ย)
**จดหมายเหตุกรุงศรี เราขอโทษนะที่เราหยาบคาย แต่มันเป็นฟีลลิ่งอ่ะ เข้าใจกันหน่อยได้ไหม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in