ครอบครองพื้นที่สื่อและหลายๆ รีวิวกันไปแล้วพักใหญ่ กระทั่งเราเองยังแอบแวบเขียนคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกัน อย่าง
ตอนนี้อีกหนึ่งหนังที่คิดว่าน่าจะกระแสแรงแน่ๆ เพราะถูกพี่ไทยจัดเรทไว้เสีย 20+ ก็น่าหยิบยกมาพูดถึงเหมือนกัน นั่นคือ
ออกตัวก่อนว่าเป็นคนชอบหนังแนวลัทธิหรืออะไรที่ดูเป็นแม่มดๆ โบร่ำโบราณมาก เลยจะอินกับเรื่องพวกนี้เป็นพิเศษ แต่หนังแนวนี้อาจดูยากไปนิด คนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลย แต่ใครชอบก็คือหลงรัก ส่วนดูเพื่อเสพศิลป์ก็ต้องหนังแนวนี้อีกนั่นแหละ เพราะงั้นวันนี้เลยอยากจะมาแนะนำหนังที่มี vibes เดียวกันกับ
Midsommar เผื่อใครอยากเตรียมความพร้อมก่อนไปดูหนังในโรง หรือออกจากโรงมาแล้วอินหนังแนวนี้จะได้ไปหามาดูกันต่อเนอะ
และวันนี้เราคัดมาแค่เบาๆ 5 เรื่อง เป็น 5 เรื่องที่ชอบและมีไทม์ไลน์หนังห่างกันพอควร เลือกดูกันตามสะดวก แต่บอกตรงนี้ว่าหนังแนวๆ นี้
มักจะเปลือยจริงโชว์จริง มีสีแดงๆ แหวะๆ มาบ้างผสานกับความสวยงามของพิธีกรรมในเรื่องนะจ๊ะ
Rosemary's Baby (1968)
หนังเรื่องนี้ไม่มีการบูชาตามเกณฑ์ลัทธิแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เป็นหนังอันดับต้นๆ ของหนังปมลัทธิทั้งหลายที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงตลอด โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึงสองสามีภรรยาที่ได้ย้ายมาอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ใหม่ พร้อมกันนั้นก็ได้เจอกับเพื่อนบ้านที่มีพฤติกรรมชวนให้คนหวาดระแวง ซึ่งเพื่อนบ้านผู้น่ารักนี่แหละคือต้นตอของหายนะในเรื่อง
สำหรับหนังเรื่องนี้ธีมหลักมันคือการเน้นให้คนดูเห็นถึงความหวาดระแวงในตัวเพื่อนบ้านของนางเอกที่มีท้องแล้วรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติเกิดขึ้น ซึ่งหนังจะค่อยๆ เฉลยปมทีละเปลาะจนกระทั่งมันไปเชื่อมโยงกับการบูชาซาตานในส่วนของท้ายเรื่อง
สำหรับเรื่องนี้ถือว่าโอเคเลย ไม่มีฉากแหวะอะไร มีแต่สภาวะหวาดระแวงและเรื่องของอาการจิตตกขั้นรุนแรงของตัวละคร สนุกดีนะ แต่เราคาใจกับการตัดสินใจของนางเอกในตอนสุดท้ายนิดหน่อยเท่านั้นเอง อืม...
The Wicker Man (1973)
สำหรับเรื่องนี้น่าจะมี vibe ของการประกอบพิธีกรรมที่ใกล้เคียงกับเรื่อง
Midsommar ที่สุดแล้วมั้ง ตัวหนังจะเล่าเรื่องราวของนายตำรวจผู้คลั่งศาสนาที่เดินทางไปหมู่เกาะในสกอตแลนด์เพื่อค้นหาการหายตัวไปของเด็กสาวคนหนึ่ง แต่คนบนเกาะมีความเชื่อแปลกๆ และมีพฤติกรรมพิศดารเกี่ยวกับการบูชาลัทธินอกรีต
จริงๆ แล้วมันก็คือหนัง horror ที่ไม่มีฉาก horror แต่เน้นนำเสนอการทำพิธีกรรมต่างๆ แบบ
Celtic Paganism ที่จะว่าสวยก็สวย จะว่าแอบน่ากลัวก็น่ากลัว แต่ถ้าดูเพื่อเสพศิลป์อาจไม่คิดอะไรมากก็ได้
ส่วน Wicker Man คืออีมนุษย์จักสานตัวใหญ่ๆ ในท้ายเรื่องนั่นแหละ เป็นหนึ่งในความเชื่อของลัทธินี้เหมือนกัน ผู้กำกับดูเหมือนตั้งใจจะสอดแทรกเรื่องราวทางศาสนาและลัทธิเอาไว้มากทีเดียว รู้สึกเหมือนจะมีรีเมคใหม่ด้วย เป็นฉบับปี 2006 แต่เราไม่เคยดูแฮะเลยไม่รู้ว่าโอเคหรือเปล่า
The VVitch (2015)
อันนี้คือสุดยอดของหนังแม่มดแล้ว คุณเอ๋ย มันไม่จำเป็นต้องมีการใส่ซีนน่ากลัวลงไปมากเลย ไม่จำเป็นต้องสร้างตัวละครน่ากลัวๆ หรือปล่อยให้มีแม่มดชุดดำมายืนทำหน้าเหี้ยมเลยแม้แต่น้อย แต่บรรยากาศหม่นๆ ในเรื่อง โทนสีที่เลือกใช้ หรืออารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาแค่นั้นมันก็รู้สึกได้แล้วว่าหนังเรื่องนี้มันมีของ
หนังเล่าย้อนไปถึงยุคสมัยเก่าก่อนแบบนิวอิงแลนด์ พูดถึงครอบครัวหนึ่งที่เคร่งศาสนาและอาศัยอยู่ในป่าที่ห่างไกล และแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้เน้นการเล่าเรื่องถึงพลังอำนาจอันลึกลับที่แผ่ออกมาจากป่า พลังศรัทธาที่กระปลกกระเปลี้ย การใช้เพศสภาพของความเป็นสตรีมาเป็นเหยื่อในสังคมยุคกลาง ทำให้ต้องหันหน้าไปพึ่งพิงปีศาจมากกว่าพระเจ้า
โทนหนังมันออกจะเคร่งขรึมหม่นหมอง เราชอบการผูกเรื่องเข้ากับความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในป่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นฉากจบก็ถือว่าทำได้ตราตรึงจริงๆ เป็นหนังอีกเรื่องที่เรารักมากและคิดว่าหากใครไม่เคยดูก็อยากแนะนำให้ลองดูกันสักหน
Mother! (2017)
ฉลองหน่อยเพราะวันนี้ (16.08) หนังเข้าเน็ตฟลิกซ์ด้วยนะ เราโดนตกเพราะโปสเตอร์หนังก็เลยดู ดูไปดูมาแล้วแบบชอบอ่ะ โดยเฉพาะฉากลองเทคแห่งความบ้าคลั่งนั่นยกให้เป็นตำนานของยุคใหม่ได้เลย
หนังเรื่องนี้พูดถึงคู่รักคู่หนึ่งที่ย้ายเข้ามาในบ้านหลังใหม่ แต่แล้วคืนหนึ่งประตูบ้านของพวกเขาก็ถูกเคาะ จากนั้นก็มีแขกคนหนึ่งมาขออาศัยในบ้านชั่วคราว และนั่นคือที่มาของความวิปลาสที่โคตรรุงรังในช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไป
เอาจริงหนังเรื่องนี้เสียงมันแตกออกเป็นสองเสียง คนที่ชอบก็จะบอกว่ามันเพอร์เฟ็ค แต่คนที่ดูแล้วไม่เข้าใจก็จะแบบอีหยังวะ นั่นเพราะหนังมันใส่ความเป็น metaphor ไปค่อนข้างมาก แต่ตัวหนังมันมีความเป็นศิลปะและมีมุมกล้องที่โคตรกดดัน โคตรเครียด แต่ถึงอย่างนั้นใครที่ดูหนังตลาดอาจจะไม่เหมาะกับเรื่องนี้นักเพราะอาจจะแบบอีหยังวะอย่างที่บอกไป แต่ถ้าใครชอบแนวจิต ชอบการปั่นประสาท อยากดูฉากลองเทคเทพๆ ก็แนะนำเลย
Suspiria (2018)
มาแล้วความแหวะ แต่มันแหวะแบบแฝงความงดงาม หนังเรื่องนี้แบบออริจินัลจะเป็นเวอร์ชั่นของปี 1977 แต่เราไม่เคยดูเวอร์ชั่นนั้น แต่มาดูในส่วนของเวอร์ชั่น 2018 เพราะชอบ Dakota Johnson นี่เอง (ฮ่าๆ)
ตอนแรกไม่รู้จักหนังเรื่องนี้เลย แต่มีพี่ที่รู้จักและชอบหนังแนวลัทธิเหมือนกันแนะนำให้ดูเราถึงได้ดู แล้วแบบ เออ ชอบนะ ถึงจะเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันไปบ้างแต่โทนสีที่เลือกใช้และอารมณ์ในเรื่องมันดีมากอ่ะคุณ
หนังเรื่องนี้พูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินทางจากนิวยอร์กเพื่อมาเข้าร่วมกับสถาบันเต้นรำชื่อดังในเยอรมัน แต่สถาบันแห่งนี้กลับซุกซ่อนเรื่องราวเร้นลับเหนือธรรมชาติเอาไว้ไม่น้อย คือถ้าใครพอจะรู้เรื่องลัทธิล่ะก็น่าจะเข้าใจดีว่าหนึ่งในขั้นตอนการบูชาก็คือการเต้นรำ และฉากเต้นในเรื่องหรือการกำกับภาพก็ทำให้ชวนอึ้งจริงๆ เราคิดว่าคนที่ชอบเสพหนังอาร์ตควรดูเรื่องนี้ ห้ามพลาดเลย
ถือว่าวันนี้หยุดกันที่ตรงนี้แล้วกัน ตอนแรกว่าจะเขียน Part II ของ
หนังดาร์กทริลเลอร์เกาหลีที่เราเคยดู...และคุณต้องลอง ให้จบ แต่ไปๆ มาๆ ก็ดันหยิบตัวนี้มาเขียนก่อนซะได้ 555 ทนความภาพสวยของ Midsommar ไม่ไหวจริงๆ ดูแล้วคิดถึงหนังลัทธิพวกนี้ขึ้นมา ไงเก็บไว้ดูกันช่วงวันหยุดนี้ได้เลยน้า วันนี้ลาไปก่อนคร้าบบบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in