เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2020 vibesmWolf
NCT 127 - NCT #127 Neo Zone (2020)
  • [2020 Vibes: Album Review]
    NCT 127 - NCT #127 Neo Zone


    Release Date : 6 March 2020
    Genre : K-Pop, Contemporary R&B

    ความครบเครื่องและเข้มข้นของการผสมผสานซาวน์ดนตรีทั้ง Electropop/R&B/Hip Hop เข้าด้วยกัน ถ่ายทอดมิติอารมณ์ที่หลากหลายผ่านการร้องและแรปที่แข็งแรง สวยงาม และมีสเน่ห์ เปลี่ยนถ่าย ประสาน เชื่อมโยงสู่กันและกันอย่างลื่นไหลทั้งระหว่างซาวน์ดนตรีและมิติอารมณ์
    .
    ดึงเอาตัวตนและสีสันของสมาชิกแต่ละคนออกมาหลอมรวมให้เป็นเฉดสีที่เปล่งประกายไปด้วยกัน เฉดสีที่ขับเคลื่อนไปพร้อมกับซาวน์ดนตรีที่ตลบอบอวลไปด้วยรายละเอียด บวกกับการดีไซน์ไดนามิกเพื่อสร้างชีวิตชีวาให้กับแต่ละเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงสนุกสนาน สดใสเพลิดเพลิน หนักหน่วงจัดจ้าน หรืออบอุ่นไพเราะ
    .
    Elevator (127F)
    เปิดมาด้วยเพลงจังหวะกลางๆที่เซตโทนดนตรีของอัลบั้มซึ่งโดดเด่นในการผสมผสานซาวน์ดนตรีเข้าด้วยกัน โดยเพลงนี้เลือกที่จะหยิบจับเอาความ electropop/funk/r&b มาสร้างความติดหูควบคู่ไปกับสดใส ด้วยความพุ่งพล่านโดดเด้งของกรูฟเบสบวกกับความมีสีสันของเมโลดี้ โดยเฉพาะจังหวะที่เบสและซินธ์ประสานกันยิ่งขับเน้นความกระแทกupbeat และความสดใสมีชีวิตชีวา
    .
    นอกจากนั้นแล้วเสียงร้องและซาวน์ดนตรียังร่วมกันสร้างไดนามิกอารมณ์ของเพลงให้สลับช่วงหนัก-เบาอย่างบาลานซ์กลมกล่อม การเลือกใช้ท่อนคอรัสให้เป็นช่วงเบา ใช้เสียงร้องปูความสดใส ก่อนที่จะระเบิดพลังงานออกด้วยเมโลดี้ที่พุ่งออกมาพร้อมกับกรูฟเบส ยิ่งทำให้โทนสีและอารมณ์ของเพลงชัดเจนโดดเด่น
    .
    Kick It
    ไตเติ้ลแทร็กที่ดันความพุ่งพล่านและซาวน์ดนตรีหนักหน่วงให้ระเบิดออกมา เร่งเร้าและจัดจ้านด้วยการใช้แซมเปิ้ลเสียงที่กลืนกันระหว่างความเป็นริฟต์กีตาร์เมทัลกับเสียงร้องที่ถูกบิดเบือน ตัวเพลงมีความเป็นhip hopนำ แล้วผสมความr&b/electronic เข้าไปเพื่อสร้างมิติของไดนามิก เสียงตะโกนประสานกันอย่างกึกก้อง ติดหู และทรงพลังในท่อนคอรัสที่เปิดขึ้นมา ก่อนจะตัดเข้าท่อนร้องที่ตัดอารมณ์และสร้างสัมผัสขัดแย้งด้วยความหวานฟุ้ง ละมุนนุ่ม แล้วค่อยๆไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆจนพุ่งเข้าท่อนคอรัสที่ยิ่งอัดพลังงานและความเข้มข้นเข้าไปอีก ท่อนแรปที่ตามมาก็ช่างพุ่งชนและเร่งเร้า ท่อนร้องคราวนี้ทั้งคลายความเดือดและรีดอารมณ์ต่อเนื่องกันอย่างลื่นไหล ก่อนที่จะระเบิดพลังงานเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซาวน์electronicที่หนักหน่วง ยุ่งเหยิง ตลบอบอวล บวกกับไลน์ร้องทะยานสูงขับเน้นความพุ่งพล่านให้ขึ้นไปถึงขีดสุด
    .
    Boom
    คลายความเดือดด้วยเพลงที่เปิดมาอย่างเบาสบายด้วยกีตาร์โปร่ง เติมความสดใสกับกรูฟกีตาร์และเบสหนึบเด้ง แต่ตัวเพลงก็ยังคงความโดดเด่นในการเชื่อมประสานอารมณ์ ซาวน์ และไดนามิกที่แตกต่างเข้าด้วยกัน โดยเปลี่ยนเข้าสู่ท่อนที่เสียงร้องและไลน์ประสานฟุ้งตลบอบอวลขึ้นมาประสานไปกับเมโลดี้เปียโน แล้วปิดลูปด้วยการตัดอารมณ์เข้าซาวน์electronicนิ่งๆ เย็นๆ ทิ้งพื้นที่ว่างให้กับความหน่วงที่เกิดขึ้น เป็นการเชื่อมสามอารมณ์เข้าด้วยกันอย่างลงตัวและเป็นเนื้อเดียวกัน สร้างไดนามิกที่ไม่ต้องพุ่งพล่านแต่ก็มีมิติ บวกกับสร้างพื้นที่ให้เสียงร้องได้ทำงานในอารมณ์ที่หลากหลายครบเครื่อง ซึ่งขับเคลื่อนมิติอารมณ์ของเพลงให้ชัดเจนและแข็งแรง
    .
    Pandora's Box
    เพลงจังหวะกลางๆที่ผสมความขี้เล่นสนุกสนานในโทนสดใสเข้ากับความเพลิดเพลินสบายๆด้วยซาวน์ดนตรี synth funk โดยใช้รายละเอียดเมโลดี้และกรูฟเบสให้ขับเคลื่อนตัวเพลงไปอย่างมีสีสัน และปล่อยความมีชีวิตชีวาออกมาประสานกับเสียงร้อง จังหวะเข้าท่อนคอรัสความfunk ก็โดดเด้งออกมาดึงความไพเราะและสนุกสนานให้เจิดจ้า ส่วนในท่อนแรป ซาวน์ดนตรีก็ยิ่งเร่งเร้าและกระแทกจังหวะให้พลังงานยิ่งเข้มข้น แทรกด้วยความหวานฟุ้งลอยไปในอากาศเบาๆ
    .
    Day Dream
    เพลง r&b ที่ขับเคลื่อนด้วยความฟุ้งฝันตลบอบอวล และดึงเราให้หลงอยู่ในภวังค์เสียงที่สวยงามหอมหวาน เสียงร้องและซาวน์ดนตรีแผ่บรรยากาศที่มีสัมผัสละมุนนุ่มออกมาล่องลอยไปในความdreamy รายละเอียดดนตรีต่างก็ละเมียดละไมและละลายไปกับความฟุ้ง บวกกับความลื่นไหลของการเคลื่อนตัวจากเสียงร้องแต่ละคน ซึ่งก็มีเสน่ห์และความไพเราะเฉพาะตัวต่างกันไป ขับเคลื่อนตัวเพลงให้แผ่ตัวออกไปเรื่อยๆ
    .
    Interlude: Neo Zone
    แทร็ก interlude ที่เคลื่อนตัวจากความละเมียดไพเราะของเครื่องสายและเปียโนไปสู่ซาวน์ดนตรีอิเล็กทรอนิกหนักหน่วง กระแทกกระทั้น ซ้อนทับเลเยอร์อย่างสนุกสนานและจัดจ้าน เตรียมความพร้อมสำหรับแพ็คคู่แทร็ก hip hop ที่รออยู่ข้างหน้า
    .
    MAD DOG
    แทร็ก hip hop ล้วนๆที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างเต็มที่ ทั้งจัดจ้านและบ้าคลั่งด้วยซาวน์อิเล็กทรอนิกประสานไปกับการแรปที่แข็งแรงและมีไดนามิก ซาวน์ดนตรีค่อยๆสร้างมิติพื้นที่ขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งเบสทิ้งมวลหนักอึ้งกระแทกลงมา สร้างความเวิ้งว้างปกคลุม และปล่อยให้ซาวน์จัดจ้านปล่อยความบ้าคลั่งปั่นประสาท การเรียงจังหวะนิ่งเย็นสลับกับจังหวะพุ่งพล่านสร้างบรรยากาศเพลงให้มีโทนหม่นเข้มผสมไปกับความล้นทะลักของพลังงาน
    .
    Sit Down!
    ต่อเนื่องด้วยแทร็กที่นำด้วยความเป็น hip hop โดยลดความพุ่งพล่านลง แล้วใส่ความลุ่มลึกในจังหวะและขับเน้นโทนความนิ่งเข้มให้เข้มข้น แล้วเพิ่มเติมมิติด้วยการแทรกท่อนร้องเข้าไปโดยใช้ความหลากหลายของอารมณ์ในเสียงร้องแต่ละท่อนมาขับเคลื่อนตัวเพลง อีกทั้งยังเล่นกับการบิดเสียงและออโต้จูน ประกอบกันเป็นเพลง pop rap/trap ที่ครบเครื่องและอัดมิติของอารมณ์มาอย่างเต็มที่ ร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างลื่นไหลลงตัว และยังคงความกระแทกกระทั้นในท่อนคอรัสเอาไว้
    .
    Love Me Now
    ปรับโหมดกลับมาเป็นเพลง electropop ที่ผสมความสดใสสนุกสนานเข้ากับจังหวะและโทนซาวน์สบายๆ สร้างสมดุลระหว่างความไพเราะกลมกล่อมและสนุกสนานเพลิดเพลิน บวกกับการดีไซน์เมโลดี้ทั้งในพาร์ทดนตรีและพาร์ทร้องที่ทำงานไปด้วยกันสร้างความติดหูประสานเข้าไป
    .
    Love Song
    ยังคงอยู่ในโหมดบรรยากาศดนตรีที่ผสมความสดใสและความสบายๆเข้าด้วยกัน โดยลดจังหวะลงมาเล็กน้อย ลดความชัดเจนในซาวน์electropopลง แล้วดึงความr&bขึ้นมาขับเคลื่อน โดยใช้การร้องประสานกันมาสร้างมิติของเพลงให้ไพเราะในความเป็นทีม และแทรกความน่ารักยุกยิกลงไปในรายละเอียดดนตรีเบาๆบวกกับความหนึบของกรูฟเบส
    .
    White Night
    เปลี่ยนอารมณ์มาเป็นแทร็กบัลลาด ขับเคลื่อนด้วยเปียโนคลอไปกับเสียงร้องที่ต่างก็ถ่ายทอดความสวยงามและเข้มข้นของอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ ซินธ์เข้ามาประสานกับเปียโนอย่างลื่นไหล เป็นการแทรกความร่วมสมัยเข้าไปในซาวน์ดนตรี บวกกับการร้องที่ใส่จังหวะจะโคนเข้าไป ทำให้เพลงมีรสชาติที่น่าสนใจขึ้นมา
    .
    Not Alone
    ต่อเนื่องกับแทร็กบัลลาดที่ปรับมู้ดอารมณ์ไป ขับเคลื่อนไปด้วยเมโลดี้ซินธ์ละมุนบางเบา ตัวเพลงเรียบง่าย แต่ก็ตลบอบอวลด้วยความละมุนนุ่มและอบอุ่นของเสียงร้อง และบรรยากาศที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น จนกระทั่งแผ่ฟุ้งไปกับเสียงร้องที่พุ่งทะยานในช่วงท้าย เป็นความเรียบง่ายที่ชวนให้รู้สึกสบายใจและสงบนิ่ง
    .
    Dreams Come True
    ยังคงอยู่กับแทร็กบัลลาดในเพลงปิดท้ายอัลบั้ม โดยเพิมกลิ่นความr&bเข้ามามากขึ้น เติมโทนอารมณ์ที่มีความสว่างสดใสอ่อนๆเข้าไป เปียโนขับเคลื่อนไปอย่างพลิ้วไหวและนุ่มนวล แทรกตัวและประสานด้วยซาวน์ electropopเบาๆคอยดึงอารมณ์เพลงให้upbeatขึ้นมา ในท่อนคอรัสเสียงร้องที่ประสานกันไปนั้นช่างสวยงาม และดึงแสงสว่างให้แผ่กระจาย บวกกับเครื่องเป่าที่เข้ามาเสริมความอบอุ่น ทิ้งท้ายความครบเครื่องและความลื่นไหลในอารมณ์เอาไว้กลมกล่อมลงตัว
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in