[2020 Vibes: Album Review] ROCH - Via Media Release Date : 6 March 2020 Genre : Synthpop, Indietronica, Art Pop 'Via Media' คือการเดินทางสำรวจประเด็นตัวตนในหลากหลายบริบทของ ROCH หรือ Kate Miller ศิลปินวัย 24 ปี จากลอนดอน ไปพร้อมๆกับการสรรสร้าง'พื้นที่'ในหลากหลายมิติ พื้นที่ที่รองรับการมีอยู่ของมิติเสียงกว้างใหญ่ ซึ่งประกอบขึ้นมาจากซินธ์ ซาวน์บรรยากาศสังเคราะห์ และกีตาร์ . ความโดดเด่นของอัลบั้มนี้คือการที่เธอค่อยๆพาเราเข้าไปสัมผัสกับพื้นที่แต่ละส่วนที่เธอสร้างขึ้นมา ขับเคลื่อนด้วยเสียงร้องที่ทั้งหวานใสและเย็นเยือกไปด้วยกัน โดยมิติของเสียงในแต่ละพื้นที่แต่ละเพลงก็จะมีความเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป มีการหยิบจับองค์ประกอบต่างๆให้มาสร้างปฏิสัมพันธ์กับเรา ซึ่งปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ก็เปรียบเสมือนกับความรู้สึกเวลาที่เราอยู่ในพื้นที่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัสทั้งละมุนลื่น ขรุขระยุ่งเหยิง ความโอบล้อม ความใกล้ชิด-แผ่กว้าง รวมถึงอุณหภูมิอากาศ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนก่อร่างสร้างพื้นที่เสียงให้เต็มไปด้วยมิติที่น่าสนใจ แม้จะขับเคลื่อนไปอย่างเนิบช้าก็ตาม . Via Media ซาวน์พื้นที่และบรรยากาศเปิดตัวเวิ้งว้างไพศาล เลเยอร์เสียงที่ไหลเข้ามาต่างก็ปรากฏตัวอยู่อย่างล่องลอยและเคว้งคว้าง ทั้งเสียงสังเคราะห์เย็นเยือกวูบวาบ เครื่องสายกวัดแกว่ง บีทน้อยนิด เมโลดี้ซินธ์ฉ่ำฟุ้ง และกีตาร์เข้มหม่น เสียงร้องสวยล่องลอยเนิบช้าไปกับพื้นที่เช่นกัน แต่ก็เจิดจรัสและโอบอุ้มพาเราให้ติดตามตัวเพลงไป จากนั้นความฉ่ำของซินธ์ก็พุ่งตัวพาเพลงให้ตลบอบอวลไปกับเสียงร้อง ทำลายความบางเบาเคว้งคว้าง แต่ละชิ้นส่วนแต่ละเสียงต่างครอบครองพื้นที่ในลักษณะที่ค่อยๆแผ่ตัวออกไปเรื่อยๆในพื้นที่กว้างใหญ่ จากนั้นก็ฟุ้งตัวและใช้งานพื้นที่ที่มีอย่างเต็มที่ . Blackbird ดำดิ่งไปกับเพลงที่เธอพินิจพิจารณาตัวเธอเอง รูปแบบการครอบครองพื้นที่ยังคงความค่อยเป็นค่อยไป แต่ในเพลงนี้เธอใช้เสียงร้องเป็นเครื่องมือหลักที่พาเราจมลึกลงไปเรื่อยๆ ซาวน์ดนตรีทั้งแผ่กว้างโอบล้อมและกดทับ เสียงสังเคราะห์สร้างบรรยากาศเหนือจริงและทิ้งความเย็นเยือกลงไปในพื้นที่
ความเข้มของเสียงร้องยิ่งสร้างสัมผัสที่หม่นหมองให้กับเพลงท่ามกลางซาวน์อื่นๆที่ล่องลอยคืบคลาน เสียงร้องค่อยๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และพาบรรยากาศโดยรอบให้ซ้อนทับมีน้ำหนักขึ้นมา เป็นความหน่วงและหนักของทั้งอารมณ์เพลงและซาวน์ทั้งหมดที่ขุดหลุมลึกลงไปท่ามกลางสภาพพื้นที่เวิ้งว้าง . All Time Favourite Girl บอกเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างบทสนทนาและความสัมพันธ์กับผู้อื่นที่มอบความหวังให้กับเราอย่างที่เราไม่สามารถมอบให้กับตัวเองได้ ในส่วนของดนตรี เพลงนี้เน้นหนักไปที่ความล่องลอยและฟุ้งของซาวน์ ด้วยความdreamyของทั้งซินธ์ กีตาร์ และเสียงร้อง ถ่ายทอดบรรยากาศที่ผสมผสานทั้งโทนสว่างและโทนหม่น มีความอบอุ่นนุ่มนวลประสานไปกับความเยือกเย็นอย่างลงตัว เนื้อร้องในท่อนคอรัสทั้งติดหูและสะท้อนก้อง สร้างภวังค์ฝันขึ้นมาฟุ้งท่วมตัวเราเอาไว้ . Monster สะท้อนตัวตนที่อ่อนแอและบิดเบี้ยวด้วยการเพิ่มมิติเสียงที่เล่นกับรายละเอียดในtextureของทั้งซาวน์สังเคราะห์ เมโลดี้ และบีท ใส่ความเกรี้ยวกราดแทรกตัวลงไป สัมผัสพลิ้วในเมโลดี้หนึ่งโดดเด่นออกมา ความยุ่งเหยิงทั้งในจังหวะสัดส่วนและผิวสัมผัสต่างสะท้อนไปมาสร้างความซับซ้อนให้กับมิติพื้นที่ . Constant Fever สำรวจมิติของเสียงลึกลงไปอีก ด้วย texture ของเสียงที่ในเพลงนี้หันไปเล่นกับตัวบรรยากาศมากกว่ากระจายตัวไปในแต่ละชิ้นส่วน สร้างความวูบวามในจังหวะบีทที่กระแทกลงมา บีบรัดพื้นที่ให้แคบขึ้น ในขณะที่ซินธ์และเสียงร้องยังคงแผ่กว้าง แต่ด้วยขอบเขตพื้นที่ที่น้อยลง เสียงในเพลงนี้จึงสะท้อนกันและแนบชิดเรามากกว่าปกติ จนกระทั่งในช่วงท้ายเพลงที่รายละเอียดซาวน์พากันถมทับตลบอบอวลเข้มข้น อัดแน่นไปด้วยสัมผัสความรู้สึกมากมายจากเลเยอร์มหาศาล ท่วมท้นและสวยงาม . I Love To You ยิ่งฟังลึกเข้าไปในอัลบั้มเรื่อยๆ แต่ละเพลงก็ยิ่งผลักตัวเองออกจากความบางเบาไกลออกไปเรื่อยๆ แม้จะยังคงความล่องลอยเคว้งคว้างเอาไว้ก็ตาม โดยในเพลงนี้เธอขับเน้นความยุ่งเหยิงและการซ้อนเลเยอร์จนตลบอบอวลให้เข้มข้นและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น มันทั้งหนักหน่วง จัดจ้าน และนุ่มนวลไปพร้อมๆกัน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นกับสภาพพื้นที่เสียง ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้วุ่นวายอยู่รอบตัวเรา . Hunter กลับไปใช้รูปแบบคล้ายๆกับแทร็ก 'Via Media' โดยเพิ่มเติมที่การเล่นกับดีเทลของซาวน์และพื้นที่บรรยากาศ มิติของเมโลดี้ที่ปราฏตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งสร้างสัมผัสอารมณ์ให้ซ้อนทับกันระหว่างความฟุ้งหวานกับเนิบเย็น และสุดท้ายคือความหน่วงและหนักแน่นในอารมณ์ของเสียงร้องที่ช่างมีเสน่ห์และพาเราให้หลงไปในบรรยากาศของเพลง . Kintsugi ในเพลงนี้เธอใช้ความชัดเจนของกรูฟเข้ามาขับเน้นความน้อยนิดและบางเบาของบรรยากาศดนตรี โดยกรูฟเบสจะช่วยแบ่งจังหวะพื้นที่ ทำให้ความเงียบมีความโดดเด่นขึ้นกว่าปกติ ทำงานร่วมไปกับรายละเอียดดนตรีที่ค่อยๆโผล่มาทีละเล็กทีละน้อย ขับเคลื่อนความเวิ้งว้างของพื้นที่ให้ลอยตัวคลุมแต่ละเสียงเอาไว้ อาจจะมีจังหวะที่มีเสียงพุ่งกระแทกโดดออกมาบ้าง แต่ยังคงจังหวะที่เน้นพื้นที่ว่างหลังจากเสียงกระแทกนั้นหายไป . T-Rose ดึงเราที่หลุดลอยไปในพื้นที่หลากมิติให้กลับมานั่งนิ่งๆในความสงบ เคียงข้างเธอที่เล่นเปียโนไพเราะคลอไปกับเนื้อเพลงที่จินตนาการถึงความเป็นแม่ โดยสำรวจความรู้สึกของทั้งการมีและสูญเสียไปพร้อมๆกัน เปลือยเปล่า เรียบง่าย และใกล้ชิด แต่ก็ท่วมท้นด้วยห้วงอารมณ์ . Little Girl การสำรวจพื้นที่กว้างใหญ่นี้เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยเพลงที่บอกเล่าถึงการย้อนมองตัวเธอเองที่สูญเสียความไร้เดียงสาของเด็กสาวไปเมื่อเธอเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นวัยรุ่น เสียงสังเคราะห์และเสียงร้องลอยตัวเนิบช้า ไหลหนืดราวกับมิติเวลาที่แทบจะหยุดนิ่งในอวกาศ ความเคว้งคว้างถูกขยายตัวให้เราได้สัมผัสอย่างชัดเจนในความช้านี้ บีทดนตรีเต้นรำค่อยๆแทรกตัวขึ้นมา ช่างขัดแย้งและประสานไปด้วยกัน เสมือนพื้นที่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสองพื้นที่ปราฏตัวอยู่พร้อมๆกัน มีตัวตนและทับซ้อนอยู่พร้อมๆกัน ก่อนที่จะคลี่คลาย และทิ้งเราไว้ให้อยู่กับความว่างเปล่าที่นิ่งสงบ ท่ามกลางเสียงนกร้องในธรรมชาติที่เหมือนหลุดมาจากมิติอื่นไกล แม้มันจะเป็นเสียงที่เราสามารถได้ยินได้ในชีวิตจริงก็ตาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in