Caribou - Suddenly (2020) - 2020 vibes

[2020 Vibes: Album Review]
Caribou - Suddenly

Release Date : 28 February 2020
Genre : Indietronica, Deep House, UK Funky, Future Bass

หลังจากอัลบั้มล่าสุด 'Our Love' ตั้งแต่ปี 2014 Caribou หรือ Dan Snaith กลับมากับอัลบั้มที่บอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ในครอบครัวและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผู้คนรอบตัว เมือชีวิตผ่านช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมายทั้งกับตัวเองและผู้คนในครอบครัว
.
เหตุการณ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเข้ามาอย่างมีเวลาให้เตรียมตัวเตรียมใจหรือเข้ามาอย่างฉับพลัน และเหตุการณ์ที่พุ่งชนเข้ามาอย่างไม่มีคำเตือนล่วงหน้านี่แหละที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตมากกว่าสิ่งอื่นใด ประกอบกับในช่วงเวลาที่ลูกสาวของ Dan เริ่มเรียนรู้คำศัพท์ และพูดย้ำคำว่า 'Suddenly' คำนี้จึงน่าจะเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการถ่ายทอดช่วงเวลาชีวิตที่เปลี่ยนผ่าน ความฉับพลันที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเรา Dan มองลึกเข้าไปในตัวเองแล้วเปลี่ยนความเจ็บปวดของชีวิตให้กลายเป็นมิติเสียงที่สวยงาม และเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เราสามารถสัมผัสได้ และการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้แหละที่เป็นเครื่องมือหลักชิ้นหนึ่งของอัลบั้มนี้ ภายในหนึ่งเพลง ห้วงอารมณ์เคลื่อนตัวไปข้างหน้าจากพื้นที่หนึ่งสู่พื้นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะในมิติไหนก็ตาม แต่ละเพลงพาเราเข้าไปสำรวจการเคลื่อนผ่านและไดนามิกที่เกิดขึ้น เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามากระทบ
.
นอกจากนั้นแล้ว อัลบั้มนี้ยังพาเราไปสำรวจขอบเขตของดนตรีที่หลากหลาย และถูกบิดเบือนภายใต้มิติของเสียงสังเคราะห์ที่ผสมเข้ากับความเข้าถึงง่าย ด้วยเซนส์ของความเป็นดนตรีป็อปที่ใส่เข้ามา เพื่อให้เราได้สัมผัสอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละเพลงได้อย่างชัดเจน และในอัลบั้มนี้ Dan ยังใช้เสียงร้องของตัวเองในแทบจะทุกเพลง ซึ่งช่วยขับเน้นให้เราได้สัมผัสอารมณ์อย่างใกล้ชิดและเป็นธรรมชาติ เสียงร้องในโทน falsetto ถ่ายทอดสิ่งที่มาจากภายในอย่างนุ่มนวล บวกกับการใช้แซมเปิ้ลเป็นอีกเครื่องมือหลักช่วยสร้างมิติของความมีชีวิตชีวาที่หลากหลายให้กับอัลบั้ม
.
Sister
เมโลดี้ซินธ์นุ่มนวลหยดลงบนผืนน้ำแล้วแผ่สะท้อนสร้างบรรยากาศให้โอบล้อมเสียงร้องเอาไว้ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นซาวน์ที่เหมือนมาจากเครื่องสายซึ่งมีสัมผัสที่แข็งกว่า บางกว่า แต่ยังคงความนุ่มนวลเอาไว้ ประสานไปกับการใช้เสียงแซมเปิ้ลแม่ของเขาที่ร้องเพลงกล่อมให้กับน้องสาวเมื่อครั้งอดีต เป็นชั่วขณะสั้นๆที่เหมือนเราถูกโยนกลับเข้าไปในโลกของความทรงจำ ช่วงเวลาที่ช่างสวยงามและเป็นส่วนตัว แต่ Dan ก็หยิบจับมาบอกเล่าให้เราฟัง และหลังจากช่วงเวลาสั้นๆแห่งความทรงจำ เมโลดี้หยดน้ำก็กลับมาอีกครั้ง และเริ่มแปรสภาพกลายเป็นซาวน์ที่ลดความเป็นธรรมชาติลง และมีความสังเคราะห์มากขึ้น
.
You and I
ถ่ายทอดความโศกเศร้าของแม่ผู้สูญเสียผ่านดนตรีที่เปิดมาด้วยความเป็นซินธ์ป็อปที่หอมหวานล่องลอย ก่อนที่จะบิดให้กลายเป็นดนตรีเต้นรำในฉับพลัน บีทและเบสบวกกับการใช้แซมเปิ้ลแบบตัดแปะสร้างความกระแทกกระทั้นเร่งเร้า ภายใต้โทนเสียงที่ยังคงความอบอุ่น โมเมนต์บิดดนตรีครั้งที่สอง Dan เพิ่มไดนามิกเข้าไปอีกด้วยแซมเปิ้ลที่มีทั้งความ soulful และ upbeatผสมผสานกัน จากนั้นดนตรีก็เร่งตัวขึ้นไปอีกด้วยบีทและซินธ์ที่เร่งเร้ายิ่งขึ้น เสียงร้องฟุ้งไพเราะ การบิดเบือนและตัดแปะที่ลงตัว ทุกชิ้นส่วนซ้อนตัวกันอย่างพอดี และได้กีตาร์โซโล่จัดจ้านเข้ามาประสานกับซินธ์แผ่บรรยากาศให้ยิ่งฟุ้งตลบอบอวล
.
Sunny's Time
ขอบเขตของการใช้แซมเปิ้ลและการเปลี่ยนดนตรีถูกทำให้ชัดเจนและจัดจ้านยิ่งขึ้น ตัวเพลงเปิดขึ้นมาด้วยเปียโนที่งดงามและพลิ้วไหว ก่อนที่แซมเปิ้ลฮิปฮอปจะโผล่กระแทกเข้ามา การตัดแปะแซมเปิ้ลจนกลายเป็นลูปพื้นที่ที่เราไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ เลเยอร์เปียโนกลับเข้ามาประสานซ้อน พร้อมกับเครื่องเป่าที่ซินธ์บรรยากาศเวิ้งว้าง สร้างโมเมนต์ที่ช่างท่วมท้น รายละเอียดเล็กน้อยมากมายถูกร้อยเรียงเข้ามาในพื้นที่ ขับเคลื่อนไปด้วยไดนามิกของตัวแซมเปิ้ล ปล่อยให้รายละเอียดอื่นๆเกาะเกี่ยวและสร้างบรรยากาศไปด้วยกัน บรรยากาศที่ผสมผสานสัมผัสอารมณ์หลากหลายทั้งจากซาวน์สังเคราะห์และเครื่องเป่า จังหวะจะโคนของแต่ละชิ้นส่วนที่มีการจัดวางอย่างกลมกลืนแต่ก็มีความแปร่งประหลาดเล็กน้อยซ่อนตัวอยู่อย่างแนบเนียนและกลมกลืนไปด้วยกัน บิดเบือนจังหวะหรือชิ้นส่วนให้หลุดออกมาจากความเป็นปกติ
.
New Jade
บอกเล่าความสัมพันธ์ที่แตกร้าวล่มสลายด้วยดนตรีที่เต็มไปด้วยสีสัน เปิดเพลงมาด้วยการใช้เสียงร้องเป็นลูปแซมเปิ้ล กลองเร่งเร้าและเปลี่ยนบรรยากาศดนตรีไป ลดบทบาทของแซมเปิ้ลลงและเพิ่มน้ำหนักที่ซินธ์และเสียงร้อง กีตาร์famencoซ้อนตัวเข้ามาสร้างสัมผัสที่แตกต่างซึ่งทำให้เพลงยิ่งเข้มข้น สีสันจากชิ้นส่วนต่างๆถูกละเลงลงมาอย่างไม่หยุดนิ่ง แซมเปิ้ลเข้ามาเสริม สร้างความวุ่นวายและ upbeat แต่ก็แฝงความสงบนิ่งในบรรยากาศท่ามกลางการหยอกล้อกันอย่างยุ่งเหยิง ช่วงคลี่คลายท้ายเพลงก็ยังคงหลงเหลือความสงบนิ่งที่ผสมผสานกับความเร่งเร้าเอาไว้
.
Home
ส่วนผสมของดนตรีเต้นรำกับดนตรี Soul ย้อนยุค ด้วยแซมเปิ้ลเสียงร้อง บีทจังหวะสบายๆ กรูฟเบสและกีตาร์สดใส บวกกับความนุ่มในเสียงร้องที่เพิ่มความใกล้ชิดในอารมณ์ ตัดสลับกับจังหวะที่เร่งเร้าและขัดแย้งกัน ก่อนที่ทั้งสองช่วงจะหลอมรวมกัน สร้างความเข้มข้นและขับเน้นความมีชีวิตชีวาสดใส
.
Lime
จากเมโลดี้โทนเสียงดนตรีในลิฟต์กลิ่นอาย Jazz เปลี่ยนผ่านเป็นกรูฟเบสที่เร่งเร้าและมีชีวิตชีวา รายละเอียดดนตรีซับซ้อนท่ามกลางบรรยากาศที่เคลื่อนไปอย่างฟุ้งสบาย จากนั้นซาวน์เวิ้งว้างเนิบช้าก็ไหลเข้ามาแทนที่อย่างฉับพลัน ปล่อยพื้นที่ให้แซ็กโซโฟนและเสียงของ Gil Scott Heron สะท้อนก้องในความนิ่งสงบ
.
Never Come Back
ซาวน์ดนตรีเต้นรำสบายๆที่เหมือนจะเรียบง่าย แต่ใช้การวนซ้ำโดยค่อยๆเพิ่มรายละเอียดเข้าไปทีละน้อย โมเมนตัมที่ค่อยๆเหวี่ยงตัวแรงขึ้น ท่อนร้องที่หลุดจากเนื้อร้องซ้ำๆเหมือนดึงเราให้หลุดออกมาจากฟลอร์เต้นรำชั่วครู่เพื่อสัมผัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วผลักเรากลับเข้าไปอีกครั้ง
.
Filtered Grand Piano
แทร็กเดียวในอัลบั้มที่ไม่ได้มีเสียงร้องของ Dan ตัวเพลงก็ตามชื่อเลย คือเมโลดี้เปียโนที่ถูกคลุมไว้ด้วยบรรยากาศเวิ้งว้างล่องลอย ไหลไปอย่างเนิบช้า หลุดลอยเคว้งคว้างแต่ก็สัมผัสเราใกล้ชิดขึ้นเรื่อยๆ
.
Like I Loved You
เปิดมาด้วยดนตรี R&B ช้าๆและนุ่มนวล เสียงร้องมีความชัดเจนและขับเคลื่อนตัวเพลงมากกว่าปกติ ตัวเมโลดี้เริ่มมีความซับซ้อนและบิดเบี้ยวไปทีละน้อย ก่อนที่กีตาร์ spanish จะแทรกเข้ามาประสานอย่างลื่นไหลและละเอียดอ่อน ชิ้นส่วนต่างๆเริ่มตลบอบอวลและยุ่งเหยิง แล้วฟุ้งขึ้นจนกระทั่งเอ่อล้นและหลุดเข้าไปในอีกมิติ การเปลี่ยนแปลงในเพลงครั้งแรกเป็นไปอย่างลื่นไหลและแทบจะสังเกตได้ยาก ในขณะที่ครั้งที่สองมีการปลี่ยนสภาพพื้นที่ให้แตกต่างออกไป แต่โดยภาพรวมยังคงดำเนินต่อเนื่องจากเดิมอย่างลื่นไหล แกนหลักเดิมก็ยังคงอยู่ เพียงแต่ยุ่งเหยิงขึ้น
.
Magpie
เพลงนี้เป็นเพลงที่ Dan แต่งเพื่อtributeให้กับ Julia Brightly ซาวน์เอ็นจิเนียร์ที่เสียชีวิตไป เปิดมาด้วยเมโลดี้ซินธ์และเสียงร้องบัลลาดนุ่มนวลไพเราะ ซึ่งถูกกลืนอยู่ภายใต้การกดทับของบรรยากาศ ราวกับเสียงที่ดังออกมาจากลำโพงทีวีเก่าๆ ทันใดนั้นฟิลเตอร์ที่กดทับเสียงก็สลายหายไป ทุกสิ่งแจ่มชัดขึ้นมา สีสันที่สดใสล่องลอยอ่อนหวาน ราวกับดอกไม้ที่พึ่งจะบานออกหลังจากได้รับแสงแรกของวัน เคลื่อนตัวแผ่ฟุ้งเข้ามาให้เราได้ดอมดมความหอมหวานของมัน
.
Ravi
ซาวน์ดนตรี House ในโทนสนุกสนาน มีความเล่นกับtextureในบีท พื้นหลังบรรยากาศซ้อนด้วยความล่องลอยเนิบช้าซึ่งช่วยขับเน้นโทนสีสดใสให้ชัดเจน มิติของเสียงเคลื่อนตัวลึกเข้าไปเรื่อยๆ แล้วไปสิ้นสุดในมิติที่ตลบอบอวลและพุ่งพล่าน เลเยอร์ซ้อนกันเข้มข้นและซับซ้อนบวกกับความฟุ้งชวนฝันของบรรยากาศ
.
Cloud Song
ซาวน์สังเคราะห์สะอาดสะอ้านและเสียงร้องนุ่มนวล ล่องลอยราวกับปุยเมฆ การบิดเบือนชิ้นส่วนเกิดขึ้นและแทรกตัวอยู่อย่างค่อยเป็นค่อยไป ชิ้นส่วนเริ่มหยอกล้อและสร้างจังหวะโดดเด้ง พาเราเข้าไปในมิติพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป ราวกับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่เราไม่คุ้นเคยค่อยๆสาดส่องลงมา Percussion มีความ wonky หลุดเข้ามา สร้างความชัดเจนของมิติใหม่นี้ในแจ่มแจ้งขึ้น เป็นมิติประหลาดที่เรายังคงรู้สึดอบอุ่นและคุ้นเคย สัมผัสความรู้สึกที่ไม่เปลี่ยนไป แต่ก็รายล้อมเราด้วยความแปลกใหม่ กีตาร์ฟุ้งเข้ามาพาบรรยากาศให้ดำดิ่ง ราวกับเราที่พุ่งตัวโบยบินเพื่อสำรวจพื้นที่ใหม่แห่งนี้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น