เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2020 vibesmWolf
Wilsen - Ruiner (2020)
  • [2020 Vibes: Album Review]
    Wilsen - Ruiner


    Release Date : 21 February 2020
    Genre : Dream Pop, Indie Pop

    ดนตรี Dream Pop ที่มีกลิ่นอายความเป็น Folk ผสมผสาน ถ่ายทอดมวลอารมณ์และบรรยากาศหม่นมืดจากซาวน์กีตาร์เรียบง่าย บวกกับเมโลดี้ที่ล่องลอยไปมาในมิติของความฟุ้ง ประสานและร้อยเรียงความเงียบสงบนุ่มนวลเข้ากับความขุ่นมัวตลบอบอวล ทั้งไพเราะหอมหวาน และหนักหน่วงแผ่ซ่าน
    .
    Ruiner
    ม่านหมอกล่องลอยเนิบช้าเข้ามา ก่อนที่พายุฝนจะกระแทกกระทั้นมวลความมืดลงมา เมโลดี้กีตาร์หวานฟุ้งแฝงตัวอยู่ในบรรยากาศมืดหม่นที่เกิดขึ้น จากนั้นพายุฝนก็สลายหายไปเหลือเพียงกีตาร์เรียบง่ายและเสียงร้องที่ทั้งหวานใสและหมองหม่น เกิดเป็นความเงียบชั่วขณะ แต่ก็ยังคงทิ้งกลิ่นฝนที่สร้างความหม่นไว้ในบรรยากาศ เครื่องสายโหยหวนกลืนไปกับบรรยากาศและเจือจางประสานไปกับความขุ่นมัว เมโลดี้กีตาร์ฟุ้งแทรกตัวเข้ามารวมกับความเรียบง่ายก่อนที่ฝนจะกระแทกเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้พายุทิ้งมวลความหม่นเอาไว้เข้มข้นกว่าเดิม เป็นการบาลานซ์ระหว่างซาวน์ดนตรีที่เรียบง่ายและฟุ้งเข้มข้นอย่างกลมกล่อม อีกทั้งยังค่อยๆสร้างบรรยากาศให้กลืนกินและเติบโตขึ้นอย่างมีไดนามิก มีความหนักและความเนิบช้าในสัดส่วนที่พอดิบพอดี
    .
    Align
    เปิดมาด้วยความเรียบง่ายจากการประสานกันของกีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้าที่ละมุนละไม เสียงร้องฟุ้งหวาน จากนั้นจังหวะก็เร่งเร้าขึ้นมาเล็กน้อย กวนมวลอากาศให้ขุ่นมัวขึ้นมาเล็กๆ ดึงอารมณ์เพลงให้หนักขึ้นมาแต่ยังคงความเรียบง่ายของดนตรีเอาไว้ หลังคอรัสที่สองแทนที่จะกลับไปเป็นท่อนดนตรีเรียบง่ายหลังจากการเร่งเร้า กีตาร์กลับเปลี่ยนอารมณ์ให้ฟุ้งและหวานขึ้นเล็กน้อย เสริมความ dreamy ให้กับเพลง ก่อนที่จะคลายตัวแล้วแผ่บรรยากาศหม่นล่องลอยตลบอบอวล ทำให้จังหวะเร่งเร้าในครั้งสุดท้ายรุนแรงและเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นเพลงที่หยิบจับเอาความละมุนของดนตรีสองแบบอย่าง Folk กับ Dream Pop มาผสมผสานกัน สร้างห้วงอารมณ์หลากอารมณ์ที่ค่อยๆไหลไป จากความอบอุ่น แล้วเจือความขุ่นมัวเข้าไป ถมเติมด้วยความฟุ้งหวานและตลบอบอวลปิดท้าย
    .
    Down
    ขับเคลื่อนไปอย่างมีจังหวะจะโคนขึ้นมาเล็กน้อย ชวนให้โยกได้เบาๆท่ามกลางซาวน์ละมุนขุ่นมัว การเข้าคอรัสที่รวดเร็วยิ่งเป็นการเสริมความเร่งเร้าที่แฝงในโครงสร้าง แต่โดยภาพรวมก็ยังคงความเป็นดนตรี Dream Pop หม่นฟุ้งที่สวยงามอยู่ เมโลดี้กีตาร์ที่บิดหมุนแสดงในเห็นแรงลมที่พัดพาความขุ่นมัวอย่างชัดเจน
    .
    Wearing
    เรียบง่ายยิ่งขึ้นด้วยการขับเคลื่อนไปด้วยเมโลดี้จากการเกากีตาร์โปร่ง ให้สัมผัสละมุนนุ่มนวลท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันสลับกับความหม่น เสียงร้องและกีตาร์โปร่งที่แม้จะนุ่มนวลแต่ก็มีโทนที่หม่นมืด ค่อยๆไหลไปอย่างเนิบช้า ซาวน์บรรยากาศสะท้อนก้องยิ่งขับเน้นความขุ่นมัวที่โอบล้อมความนิ่งสงบเอาไว้
    .
    Yntoo
    ค่อยๆก่อตัวและสะสมมวลบรรยากาศอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกระทั่งระเบิดตัวล้นทะลักในท้ายเพลง ตัวเพลงเปิดมาด้วยกีตาร์และเบสล่องลอยอย่างบางเบา มีความนุ่มผสมไปกับความขุ่นมัว จังหวะกลองเข้ามาเติมเต็มความบางเบาให้มวลก่อตัวขึ้น ความนุ่มในเบสทำให้ความค่อยเป็นค่อยไปนี้ชวนติดตาม บวกกับเสียงร้องที่ปล่อยห้วงอารมณ์หม่นออกมาแบบค่อยๆหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆตามดนตรีที่ก่อตัว เมื่อระเบิดตัวออก ห้วงอารมณ์ขุ่นมัวหม่นหมองฟุ้งกระจาย ซ้อนทับ ตลบอบอวล เป็นความหนักหน่วงที่เกิดขึ้นภายใต้สัมผัสนุ่มนวล สองขั้วระหว่างความหนักในอารมณ์และความล่องลอยอบอุ่นที่อยู่อย่างสมดุลและเข้มข้น
    .
    Birds, Pt. 1
    เพลงสั้นๆที่ทั้งเรียบง่าบ ละมุนนุ่มนวล บางเบาอ่อนโยน และขุ่นมัวในเวลาเดียวกันด้วยกีตาร์โปร่งและเสียงร้องที่ประสานกันไป
    .
    Wedding
    อีกเพลงที่ค่อยๆก่อตัวจากความบางเบาไปจนกระทั่งเข้มข้น แต่ในเพลงนี้จะเน้นที่ความล่องลอยเวิ้งว้างของซาวน์เมโลดี้ซึ่งคลอไปกับกีตาร์โปร่ง ซาวน์ที่ค่อยๆเผยตัว บางเบา สะท้อนแสงเล็กน้อยที่เกิดขึ้น จางหายไป แล้วลอยไหลกลับมาประสานกับกีตาร์สร้างความฟุ้งที่แฝงความหลอนเอาไว้เบาๆ
    .
    Birds, Pt. 2
    สานต่อจาก Pt. 1 กีตาร์โปร่งในจังหวะกลางๆประสานไปกับเมโลดี้กีตาร์หวานล่องลอย ด้วยความที่จังหวะเพลงไม่ได้เนิบช้าบวกกับการดีดกีตาร์โปร่งที่มีแรงกระแทก ทำให้สัมผัสได้ถึงมวลของเพลงที่มากกว่าเพลงอื่นก่อนๆหน้า เมโลดี้และซาวน์บรรยากาศล่องลอยค่อยๆไหลเวียน ความหวานของเสียงร้องฉาบเคลือบตัวเพลงและฟุ้งไปกับบรรยากาศ ไดนามิกของเพลงเคลื่อนไปอย่างราบเรียบแต่ตัวบรรยากาศที่ไหลไปนั้นก็ค่อยๆคละคลุ้งและทวีความฟุ้ง โดยเฉพาะเสียงร้องที่เป็นแกนหลักของบรรยากาศในเพลงนี้
    .
    Feeling Fancy
    เร่งจังหวะขึ้นมาอีกด้วยเพลงที่มีจังหวะและโทนupbeatที่สุดในอัลบั้ม reverbกีตาร์สร้างห้วงพื้นที่และบรรยากาศคลุมตัวเพลงเอาไว้ พอโทนของเพลงมีความupbeatเสียงร้องหวานก็ได้แสดงความสดใสออกมาสร้างสีสันให้กับเพลง ตัดอารมณ์ความสดใสด้วยกีตาร์ที่แผ่ความฟุ้งหนักหน่วงออกมากดทับพื้นที่เอาไว้ชั่วขณะ เป็นเพลงที่มีเสน่ห์แตกต่างออกมาจากเพลงอื่นๆ ด้วยความสดใดบวกกับมวลบรรยากาศที่ยังคงความฟุ้งความขุ่นมัวเอาไว้ มีความแน่นจากกีตาร์ที่ขับเคลื่อนไปตลอดเพลง
    .
    Fuse
    ลดจังหวะกลับมาเป็นเพลงที่เคลื่อนไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ได้ความมีชีวิตชีวาและความละเอียดอ่อนมาโอบอุ้มโทนของเพลงไว้จากกีตาร์โปร่ง เมโลดี้กีตาร์ฟุ้งในโทนเข้มสลับกับนุ่มนวลล่องลอย แล้วตัดอารมณ์ความมีชีวิตชีวาเมื่อเข้าท่อนคอรัสด้วยซาวน์กีตาร์ที่มีความหยาบในสัมผัสและมีมวลความหม่นตลบอบอวล ก่อนจะตัดกลับมาที่กีตาร์โปร่งพลิ้วๆ เมื่อกลับมาช่วงเข้มข้นอีกครั้ง ตัวซาวน์กีตาร์ก็สร้างบรรยากาศที่หนักหน่วงและพุ่งพล่าน ความฟุ้งของทุกองค์ประกอบประสานกันอย่างสวยงามและดำดิ่ง
    .
    Moon
    เพลงปิดอัลบั้มที่แม้จะมีเพียงแค่กีตาร์โปร่งกับเสียงร้อง แต่ก็สามารถถ่ายทอดห้วงอารมณ์และบรรยากาศที่อัลบั้มนำเสนออย่างครบถ้วน ทั้งความเนิบช้า ห้วงอารมณ์หม่นหมองหนักอึ้งจากทั้งซาวน์กีตาร์และเสียงร้อง บรรยากาศและความเงียบระหว่างเสียงที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความนิ่งสงบจริงๆ เพราะภายใต้พื้นที่ว่าง เราก็สามารถสัมผัสได้ถึงความขุ่นมัวที่หลบซ่อนอยู่ บรรยากาศตลบอบอวลที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีเสียงใดๆ เปลือยเปล่าแต่ก็ครบถ้วนด้วยองค์ประกอบทุกอย่าง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in