เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryJung Jing
#รีวิว SEX EDUCATION : ซีรีย์ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี (Netflix)




  • คะแนนความประทับใจ : ★★★★★


    ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราเขียนรีวิวแบบจริงๆจังๆ ยังเป็นมือใหม่ในเรื่องนี้อยู่มากเลย

    เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา มีโอกาสได้ลองดูซีรีย์เรื่องใหม่ของ Netflix อย่าง SEX EDUCATION ตามรีวิวในเฟสบุ้ค คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจและอยากรู้ว่าจะนำเสนอออกมาในมุมไหน ปรากฎว่าดูยาวรวดเดียวจบ สนุกผิดจากที่คาดไว้มาก 



    ตัวเอกของเรื่อง โอทิส (Asa Butterfield Emma Mackey) เป็นเด็กชายที่ค่อนข้างเก็บตัว หรือเป็นเด็กในมุมห้อง มีแม่เป็นนักบำบัดเรื่องเซ็กซ์ ให้คำปรึกษาปัญหาบนเตียง ทำให้เขาได้เรียนรู้และซึมซับเรื่องนี้ไปโดยปริยาย มีเพื่อนสนิทที่ชื่อว่า อีริค (Ncuti Gatwa) ซึ่งเป็นเกย์และเป็นคนที่น่ารักมากสำหรับเรา จู่ๆวันหนึ่ง เมฟ (Emma Mackey / หน้าเหมือน Margot Robbie มากกก) คนที่โอทิสแอบชอบก็มาชักชวนให้ร่วมกันเปิดคลินิครับปรึกษาปัญหาเรื่องเพศ(แบบเก็บเงิน) และธุรกิจแบบลับๆนี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ มีเคสมาให้แก้ปัญหามากมาย ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์และภูมิหลังของตัวเอง มีปัญหาที่ต้องเจอและแก้ไข



    ในเรื่องพูดถึงเรื่องปัญหาบนเตียงทั้งของคู่รักหรือตัวปัจเจกบุคคล ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องเพศศึกษาแบบที่ในตำราเรียนไม่ได้สอน (หรือสอนน้อยมาก) อีกทั้งยังมีการสอดแทรกปัญหาภายในครอบครัว ทั้งโอทิส ที่รู้สึกอายที่มีแม่เป็นนักบำบัดเซ็กซ์ อีริคที่ไม่กล้าจะ come out ในเรื่องเพศของตัวเองกับที่บ้าน การถูกปฏิบัติจากคนในโรงเรียนและภายนอกต่อ LGBTQ รวมถึงเมฟที่ครอบครัวแตกสลายและยากจน 



    ตัวละครมีภูมิหลังที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่แสดงออกมาในปัจจุบัน เหตุผลว่าทำไมอดัม (Connor Swindells) ถึงเป็นพวกชอบแกล้งคนอื่น ทำไมโอทิสถึงพอใจที่จะเป็นคนไร้ตัวตนและไม่กล้าช่วยตัวเอง หลายเหตุผลเป็นเพราะครอบครัว ที่บางบ้านกดดันลูกจนเกินไป บางบ้านเคร่งศาสนา บางบ้านพยายามก้าวก่ายชีวิตลูกตัวเองจนไม่มีพื้นที่ส่วนตัวหรือรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย และหลายเหตุผลเป็นเพราะสังคมภายในโรงเรียน การกลั่นแกล้ง การอยากเป็นจุดสนใจ การอยากเป็นที่ยอมรับซึ่งแต่ละคนก็จะแสดงออกมาในรูปแบบที่ต่างกัน 



    สำหรับเรา ปี 2019 แล้ว เราคิดว่าการพูดเรื่อง sex การทำความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เรื่องนี้เสนอให้เห็นว่าความรักไม่มีเพศ และความรักกับ sex มีหลายรูปแบบ มีหลายรสนิยม ปัญหาเรื่อง sex และความสัมพันธ์ต่างๆของวัยรุ่นที่เป็นวัยอยากรู้อยากลองและกำลังค้นหาตัวตน สิ่งที่เราควรทำคือการทำความเข้าใจถึงความหลากหลายนั้นๆ เพื่อที่ว่าถ้าหากเราได้เจอกับคนที่มีรสนิยมทางเพศ (ที่ไม่ผิดกฎหมาย) หรือเพศที่ต่างจากเรา เราจะได้เข้าใจและไม่ตัดสินหรือดูถูกเพียงเพราะความแตกต่างเหล่านั้น


    อีกทั้งในเรื่องนี้ยังนำเสนอสิ่งที่เพศทางเลือกจะต้องเจอทั้งจากการถูกกลั่นแกล้งจากคนในโรงเรียนหรือสังคมภายนอก การสับสนในเพศของตัวเอง การกล้าแสดงออกและกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งเราชอบโควทนึงที่อีริคพูดมาก 

    " Look, I'll be hurt either way.
    Isn't it better to be who I am? "




    เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นเรื่องปัญหาการท้องไม่พร้อม การป้องกัน และการทำแท้งซึ่งแต่ละคนที่เลือกการแก้ปัญหาทางนี้ก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น เรื่องนี้ทำให้เราฉุกคิดเรื่องให้การทำแท้งถูกกฎหมายในประเทศเราเลย

    เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่ดีดูเพลินเรื่องหนึ่ง ไม่ได้มีแค่ความตลก มีความน้ำเน่า ดราม่าบ้าง แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว มีทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อน และสังคม ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่จะคอยชี้นำ หล่อหลอม หรือผลักไสคนๆนึงให้เดินไปในเส้นทางในชีวิตของตัวเอง ดังนั้นเรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่เด็ก(ควร)ดูได้ และผู้ใหญ่ดูดีเรื่องหนึ่งเลย แทบจะรอให้ถึงซีซันหน้าไม่ไหวแล้ว (ถึงแม้เน็ตฟริกซ์จะยังไม่คอนเฟิร์มซีซันต่อไปก็เถอะ)








    ปล. **** สปอยล์ ****



    ไม่รู้ว่าเป็นการ romanticize ให้การ bully มั้ย ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เราคิดว่าอดัมได้รู้ถึงรสนิยมตัวเองก็ตอนนั้นแหละ กรี๊ดคู่อีริคกับอดัมมากกกกกก เคมีคู่นี้เข้ากันมากๆ มีความน้ำเน่าพล็อตไทยๆนิดหน่อย 555555 แทบจิกหมอนเลยพอถึงฉากในห้อง 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in