เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โลกของนักอ่านPranisa Toon
Book Review : HYGGE ฮุกกะ ปรัชญาความสุขฉบับเดนมาร์ค
  • HYGGE ฮุกกะ ปรัชญาความสุขฉบับเดนมาร์ค
    -Meik Wiking เขียน / พลอยแสง เอกญาติ แปล-
    สนพ.OpenWorlds, 395.-


    .
    ได้เล่มนี้มาจากงานหนังสือโดยไม่ได้ตั้งใจ
    แค่ลองเปิดๆ อ่านคร่าวๆ ด้วยความที่
    สงสัยอยู่แล้วว่าทำไมแถบสแกดิเนเวียน
    ผู้คนถึงมีความสุขจังจากการจัดอันดับโลก
    และในเล่มรูปสวยๆ เยอะมาก
    สปอยกันตรงนี้เลยว่า
    เมื่ออ่านเล่มนี้จบหลายคนคงอยาก
    ไปสัมผัสเมืองโคเปนเฮเกนเหมือนแอดแน่ๆ..
    .
    ฮุกกะ Hygge มีกำเนิดมาจากคำ
    ภาษานอร์เวย์ แปลว่า การอยู่ดีมีสุข
    “Hygge = ศิลปะในการสร้างความใกล้ชิด
    ผูกพัน ความรู้สึกผ่อนคลายในจิตวิญญาณ
    การหาความสุขจากส่ิงรอบตัวในปัจจุบัน"
    หรือง่ายๆ ก็คือ ความสุข นั่นเอง
    .
    ผู้เขียนซึ่งเป็น ผอ.สถาบันวิจัยความสุข
    แห่งเดนมาร์ค ได้บอกไว้ในหนังสือว่า
    การหาคำจำกัดความของคำว่า ฮุกกะ 
    ในภาษาอื่นนั้นยากมากๆ 
    แต่เค้าได้ให้เหตุผลเดียวกับ วินนี เดอะ พูห์
    เวลาที่มีคนถามว่าจะเขียนอารมณ์บางอย่าง
    ออกมาเป็นคำได้อย่างไร ว่า..
    “เราไม่สะกดมันหรอก แค่รู้สึกถึงมันก็พอ"
    .
    เนื้อหาในเล่มอ่านง่ายพร้อมภาพประกอบ 
    และ infographic สวยๆ ให้เข้าใจ
    ในผลการวิจัยความสุขแบบฮุกกะมากขึ้น
    เหมือนหนังสือท่องเที่ยวที่พาเรา
    ไปสัมผัสชีวิตอันเรียบง่าย ฮุกกะๆ 
    ของชาวเดนมาร์คอย่างใกล้ชิดทีเดียว
    รวมถึงการบอกวิธี ที่เราจะใช้ชีวิต
    แบบฮุกกะได้ด้วยตัวเองเช่นกัน 
    เริ่มจาก.... 
    10 วิธีฮุกกะ ง่ายๆ ได้แก่

    1.บรรยากาศ :
    จุดเทียน หรือ หรี่ไฟ 
    ในเล่มได้อธิบายว่าแสงสำคัญที่สุด
    ที่จะทำให้เรารู้สึก ฮุกกะ
    และแสงที่ฮุกกะที่สุดนั้น คือ แสงจากเปลวเทียน
    หรือแสงตอนพระอาทิตย์กำลังตกดินนั่นเอง
    แต่ในปัจจุบันเราอาจใช้โคมไ
    แสงนวลๆ เพื่อความฮุกกะได้เช่นกัน 

    2.ความใส่ใจ :
    อยู่กับปัจจุบัน ปิดโทรศัพท์ซะ

    3.ความสุข : 
    กาแฟ ช็อคโกแลต ลูกกวาด
    เค้ก ขนมหวาน ลืมตรรกะไปซะ...

    4.ความเท่าเทียม :
    เรา เหนือกว่า ฉัน...การแบ่งปัน

    5.ความซาบซึ้งใจ :
    ดื่มด่ำกับความรู้สึกซาบซึ้งใจ
    แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

    6.ปรองดอง :
    ไม่มีการแข่งขัน ไม่โอ้อวด 

    7.ความสบาย :
    ทำตัวให้สบาย ผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง

    8.สงบศึก : 
    ไม่ดราม่า ไม่คุยเรื่องการเมือง
    หรือเรื่องเครียดๆ 

    9.ความผูกพัน :
    สร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน
    พูดคุยเรื่องอดีตที่มีความสุขร่วมกันบ้าง

    10.ที่หลบภัย : 
    มีที่ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย ผ่อนคลาย
    .
    .
    นอกจาก 10 ข้อข้างบนแล้ว ในหนังสือ
    ยังมีอาหาร ของใช้ หรือช่วงเวลาที่มีแล้ว
    เพิ่มความฮุกกะอย่างที่สุด เช่น
    เทียนไข (ขาดไม่ได้), เมนูของหวาน,
    อาหารฮุกกะ, ของแต่งบ้านที่มาจากธรรมชาต
    แม้กระทั่งขนสัตว์ อะไรก็ตาม
    ที่มาจากธรรมชาติ หรือเป็นของเก่า
    ที่มีเรื่องราว นั่นถือว่าเพิ่มความฮุกกะได้ทั้งหมด 
    รวมถึง การที่ได้แบ่งปัน แคมปิ้ง ปาร์ตี้
    กิจกรรมทั้งในบ้านและกลางแจ้ง
    กับคนสนิท 3-5 คน ก็ถือว่าฮุกกะทั้งหมด 
    และมีความสำคัญอย่างมาก 
    .
    ถ้าเทียบความฮุกกะกับของที่จับต้องได้
    แชมเปญและอาหารราคาแพงไม่ฮุกกะ,
    แต่…กาแฟ ไวน์ทำเอง อาหารทำเอง ฮุกกะ

    เครื่องแก้ว โลหะ ไม่ฮุกกะ,
    แต่…เฟอร์นิเจอร์ไม้ ผ้าฝ้าย ขนสัตว์ ฮุกกะ

    คนเยอะๆ ไม่ฮุกกะ,
    แต่…คนสนิทเพียง 3-5 คน ฮุกกะ

    เสื้อผ้าราคาแพงๆ ไม่ฮุกกะ,
    แต่…เสื้อผ้าที่ใส่สบายๆ ฮุกกะ 

    เยอะๆ ไม่ฮุกกะ,
    ยิ่งเรียบง่าย ยิ่งฮุกกะ
    .
    ในหนังสือยังเล่าถึงวิถีชีวิตของคนเดนมาร์ค 
    เป็นสังคมที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันสูง 
    ที่มีความ ฮุกกะ สูงขนาดนี้ ส่วนสำคัญเลย
    ก็เป็นเพราะการมีรัฐสวัสดีการที่ดีมากๆ 
    ทำให้คนรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไม่เครียด
    จึงเป็นผลให้มีความสุขในสังคมโดยรวม
    เวลาทำงานน้อย เรียนน้อยชั่วโมง
    เวลาว่างสำหรับเพื่อน ครอบครัวเยอะ 
    นั่นคือสิ่งที่ ฮุกกะ สุดๆ 
    แถมในเล่มยังมีเมนูฮุกกะๆ ให้ลองทำเอง
    และแนะนำที่เที่ยวแบบฮุกกะอีกด้วย
    .
    เนื้อหาบางส่วนในเล่ม..
    “หนึ่งในปัญหาของเราตอนเป็นผู้ใหญ่
    คือ จดจ่อกับผลลัพธ์ของกิจกรรมมากเกินไป
    เราทำงานเพื่อเงิน เราไปออกกำลังกาย
    เพื่อลดน้ำหนัก เราใช้เวลากับคนอื่น
    เพื่อสร้างเครือข่ายและผลักดันความก้าวหน้า
    ในอาชีพการงาน
    ทำไมเราไม่ทำบางอย่าง เพราะมันสนุกล่ะ?
    ดังนั้น..ถ้าคุณจำไม่ได้ว่าเคยสนุกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
    ก็ขอให้นึกถึงประโยคเด็ดจากภาพยนต์เรื่อง
    The Shinning ที่ว่า การทำแต่งานโดยไม่เล่นเลย
    ทำให้แจ๊กเป็นคนน่าเบื่อ"
    .
    รีวิวนี้เขียนยาวหน่อยเพราะแอดอ่านแล้ว
    ก็มีข้อสังเกตุอยู่เหมือนกันว่า 
    จริงๆ แล้วความ ฮุกกะ ของชาวเดนมาร์ค
    น่าจะสอดคล้องกับ ความพอเพียง
    ที่เรารู้จักอยู่เช่นกัน 
    มันคือ ความสุขอยู่กับปัจจุบันด้วยตัวเอง
    โดยไม่ได้เน้นทุนนิยมมากนัก 
    เพราะสุดท้ายแล้วความต้องการสูงสุด
    ของมนุษย์ก็คือ การรู้จักตัวเองและมีความสุ
    ถ้าเราเคารพตัวเอง ใจมีความสุขแล้ว
    ต่อให้สิ่งภายนอกเคลื่อนไหวยังไง
    ก็ไม่สามารถทำอะไรความสุขของเราได้
    ..
    ...
    มาคิดต่อไปอีกว่า หลายคนอาจมองภาพ
    ของความ ฮุกกะ ตามรูปว่าต้อง เท่ห์
    ดู cool ฮิปสเตอร์ ต้องมีพร็อพตามรูป
    จะได้แสดงออกถึงความ ฮุกกะ 
    จริงๆ แล้วภาพเหล่านั้น
    มันคือเปลือกนอกที่เราเห็น
    และคิดเองว่ามันว้าว สุดท้ายเลยทำตาม
    แต่จริงๆ มันคือรูปแบบชีวิตของคนต่างประเทศ ต่างสังคม วัฒนธรรม 
    ที่เค้าใช้ชีวิตกันตามปกติ
    ก็เหมือนเราใช้ชีวิตในสังคมท้องถิ่นของเรา
    ต่างชาติมาเห็นเค้าก็อาจจะว้าวเช่นกัน
    เผลอๆอาจจะคิดว่าประเทศเรานี่โคตรฮุกกะเลยด้วยซ้ำ 55555 
    จริงๆ แล้วนั้น....
    ต้องหันกลับมาถามใจตัวเองจริงๆ 
    ว่าอะไรที่ทำแล้วมีความสุขลึกๆภายในใจ
    ความสุขแบบไม่ต้องถ่ายรูปโชว์ก็ยังสุข
    ไม่ต้องมีคนมา like รัวๆ ก็ยังรู้สึกสุข,สบาย
    นั่นคือฮุกกะ 
    ...
    คนอยู่ในไร่ นา หรือบ้านสวน ใกล้ชิดธรรมชาติ,
    ปูเสื่อกินข้าวกันพร้อมหน้าครอบครัว, 
    ได้พูดคุยแบ่งกับข้าวกับเพื่อนบ้าน, 
    หรือ...
    ได้นอนอ่านหนังสือโปรด ในมุมโปรด,
    หรือ
    นอนดูทีวีกับครอบครัว, ปลูกต้นไม้,
    เล่นกับสัตว์เลี้ยง,
    และความสุขเล็กๆ อีกมากมายในชีวิตประจำวัน แอดว่าอันนี้ก็ ฮุกกะ มากกกกกกเช่นกัน
    .
    ถุงเท้าขนสัตว์ หรือ แตะหนีบ
    สเวตเตอร์ หรือ กางเกงเลย์
    ก็ฮุกกะไม่แพ้กันนะ อิอิ ^^ 
    แถมบ้านเรา ทั้งอากาศ ภูมิประเทศ ธรรมชาติ
    ก็เอื้อต่อความ ฮุกกะ แบบสุดๆๆ
    เราน่าจะมีความสุขพอๆ กับชาวเดนมาร์คเลยล่ะ เพียงแค่ มองเห็น ใส่ใจ
    และซาบซึ้งกับมันซักหน่อย มาฮุกกะกันเถอะ!
    .
    www.facebook.com/thereaderland 
    .
    #โลกของนักอ่าน #รีวิวหนังสือ #จากอินเนอร์ล้วนๆ#ห้องสมุดส่วนตัว 
    #HYGGE #ฮุกกะ #ฮุกกะปรัชญาความสุขฉบับเดนมาร์ค
    #MeikWiking #พลอยแสงเอกญาติ #Openworlds#หนังสือท่องเที่ยว
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in