เมื่อวานตอนเย็นฝนตกหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บนบีทีเอสสายสีลมตอนหกโมงยี่สิบนาที แค่ฟังก็รู้เลยว่าคนต้องเบียดเป็นปลากระป๋องแน่ๆ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ทัศนียภาพเบื้องหน้าถูกบดบังด้วยหลังของคุณพี่นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนึงที่มาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบโต เสียงช้งเช้งมะล้งมะเล้งก็ดังขึ้นตามปกติ แต่วันนี้เสียงนั้นกลับถูกกลบด้วยเสียงของฝน เวลาประตูบีทีเอสเปิดทีไร เสียงฝนตกก็จะลอดเข้ามาให้ได้ยินทุกครั้ง
นี่คิดในใจเลย วันนี้จะรอดมั้ยเนี่ย แท็กซี่หมดอีกแน่ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วลางสังหรณ์ก็แม่นยิ่งกว่าเจ้าพ่อใบ้หวยเจ้าไหนไหนบนโลก นอกจากแท็กซี่จะหมดแล้ว ยังต้องต่อคิวท่ามกลางฝนที่ตกหนัก สัมภาระก็รุงรัง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณโน้ตบุ้คที่ถ้าเปียกขึ้นมาแล้วเจ๊งละก็ เห็นทีว่าจะต้องี่ทุบกระปุกหมูมาซ่อมแน่ๆ สภาพตอนนั้นคือใส่กางเกงเดฟขายาวด้วย เสื้อยีนส์แขนยาวด้วย สะพายกระเป๋าข้างด้วย ถือโทรศัพท์มือถือคุยกับม๊าด้วย กอดกระเป๋าโน้ตบุ้คด้วย แถมเอาร่มหนีบที่หน่องจั๊กด้วย เข้าแก๊บหลักเศรษฐศาสตร์เลย ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดงี้
สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องยอมเดินออกมาตายเอาดาบหน้าเป็นโลๆ ตอนนั้นคิดว่าถ้าเดินกลับบ้านได้คงเดินกลับแล้วล่ะ ครั้งแรกย้ายโลเคชั่นมาที่ป้ายรถเมล์ของอีกฝั่งของสถานี โชคร้ายเจอนักศึกษาคนนึงปาดขวาแซงคิวเข้าให้ ขณะที่นี่อ้าปากค้าง แต่น้องนักเรียนข้างหน้าด่าพ่อไปร้อยทีแล้ว แถมยังหันมาหยักเพยิดกับเราอีก
"ทำกันอย่างนี้ก็ได้อ่อ"
แสยะยิ้มให้ด้วยหนึ่งที แง พี่กลัว อย่าพึ่งโมโหเลยนะคะ T_T
เห็นท่าว่าจะไม่ดี ไม่มีรถมาอีกนานก็เลยลองเสี่ยงเดินไปอีกฟากถนน เห็นคนต่อคิวรอรถสาธารณะต่างๆแบบแถวยาวเหยียด เราเองก็เดินย้อนตามป้ายรถไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีพอหันกลับมาก็แทบไม่เจอทางเดิมที่เดินมาแล้ว ตอนนั้นก็มืดแล้วด้วย ฝนก็ตกด้วย ถนนก็เงียบๆ พูดตรงๆว่าแอบกลัวขึ้นมาบ้างเหมือนกัน สุดท้ายก็ปักหลักตัวเองที่หน้าเซเว่นข้างๆคุณป้าขายลูกชิ้นคนนึงที่กำลังกางร่มยักษ์อยู่ อยากจะไปช่วยมาก ติดที่ตัวเองก็ไม่มีมือแล้วจริงๆ ถ้ามาฝากรอยยิ้มที่ธนาคารนี้บ่อยๆ คราวหน้าขอเบิกมือวิเศษเพิ่มอีกได้มั้ยคะ จะได้เอามาใช้ในวันฝนตกได้ ฮื่อ
ก็รออยู่จุดเดิมไปเกือบครึ่งชมได้ ในที่สุดแท็กซี่ที่มีไฟว่างสีแดงก็ขับเข้ามาหนึ่งคัน ตอนโบกนี่พยายามรวบรวมแต้มบุนเท่าที่เคยออมไว้ออกมาใช้งาน
'อย่าปฏิเสธ อย่าปฏิเสธ อย่าปฏิเสธ..........'
พอรถจอดนี่รีบหุบร่มแล้วพุ่งตัวเข้ารถทันที เปิดโหมดเสียงที่สี่ที่ดูหวานเจี๊ยบที่สุดเพื่อบอกโลเคชั่นบ้านไป ทำตาปริบๆไปด้วยเผื่อเค้าจะเห็นใจเรา ซึ่งโชคดีมากที่เจอแท็กซี่ดีๆ เราก็แอบบ่นงุมงิมๆเรื่องฝนตลอดทาง ลุงก็รีแอคชั่นกลับมาดีมาก "ใช่ๆ จริงด้วยๆ หน่า วันฝนตกก็งี้แหละฯลฯ" งือ ขอบคุณมากเลยนะคะ
สุดท้ายก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพทั้งคนและคุณโน้ตบุ้ค ตอนจะไขกุญแจบ้านก็มีน้องหมาจรจัดนิรนาม (แต่หน้าเดิม) จากหน้าปากซอยมาขอหลบฝนที่หน้าบ้านด้วย จริงๆแอบคิดว่ายัยมาหลบฝนตั้งนานแล้วแหละ แค่มาตีเนียนทำเป็นขออนุญาต วีรกรรมยัยเยอะ LOLL
แอบนินทายัยในนี้ แต่เอาเข้าจริงตอนนั้นอยู่บ้านคนเดียวก็แอบเหงา เลยเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบมือถือ แล้วออกมานั่งกับยัยหน้าบ้านรอป๊ากับม๊ากลับ ฝนตกแฉ่ๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อากาศเย็นดี ยัยก็คงคิดเหมือนกัน เพราะเอาแต่นอนลืมตาดูฝนตกไม่ยอมนอน วันนี้น่ารักนะ เชื่องเชียว
อืม วันฝนตกแฉ่ๆมันก็ไม่ได้แย่เสมอไปจริงๆนั่นแหละ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in