เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Love Over รักจบเรื่องไม่จบTheScarletNails นักเขียนเล็บแดง
แด่เธอผู้เป็นที่รัก.
  •              ผมนั่งอยู่หน้าจอคอม มือกำลังพิมพ์เรื่องราวนี้ที่คุณกำลังอ่าน ผมไม่รู้ว่าจอคอมทำไมเบลอขนาดนี้ แต่มือผมก็ยังพิมพ์ต่อไป พร้อมกับจดจ้องตัวอักษรผ่านแว่นสายตาของผมไปด้วย

    เรื่องของผมไม่มีอะไรมากหรอก เป็นเรื่องราวความรักงี่เง่าของผมกับแฟนน่ะ ผมอาจจะอยากแค่บ่นหรือระบายให้คุณฟัง เพราะในเวลาแบบนี้ ผมไม่มีใครเลยสักคนให้พูดด้วย อืม เริ่มต้นตรงไหนดีล่ะ… เอาตรงที่ผมเจอเธอได้ยังไงดีกว่า



    คุณคะ คุณ เป็นอะไรมั้ยคะ ?



    นั่นคือประโยคแรกที่เธอพูดกับผม ผม ที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นหลังจากหน้ามืดเพราะโหมงานเกินไปหน่อยจนล้มกลิ้งกลางถนน และก็เป็นเธอที่วิ่งเข้ามาช่วยดูแลปฐมพยาบาลผมจนผมดีขึ้น ผมจึงขอตอบแทนเธอด้วยการเลี้ยงข้าวสักมื้อ และหลังจากนั้นความสัมพันธ์ฉันคนรู้จักก็แปรเปลี่ยนไปเป็นคนรู้ใจ ผมไม่เคยถามเธอหรอก ว่าอะไรทำให้เธอยอมตกลงปลงใจมารักกับคนแบบผม ผมอาจจะกลัวคำตอบบางประเภทก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้น ในเวลาไม่นานผมกับเธอก็แต่งงานกัน



    คุณจะรับผู้หญิงคนนี้ เป็นภรรยาของคุณ...

     

    ในวันนั้นหัวใจผมเบ่งบานไปพร้อมๆกับการพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่พูดถ้อยคำใดๆผิดลำดับ ผมกำลังแต่งงาน และเธอช่างดูสวยสดงดงามเสียเหลือเกิน รอยยิ้มเจิดจ้าของเธอตรงหน้าผม ตอบทุกคำถามความกังวลในใจว่า เธอจะเคยคิดไหมว่าเธอตัดสินใจผิดรึเปล่าที่ตกลงแต่งงานกับคนแบบผม ผมยิ้มเช่นกันด้วยความมั่นใจ




    ทำไมล่ะ เออ จะเอางี้ใช่มั้ย ก็เลิกกันไปเลยมั้ยล่ะ ฮะ!?!



    หนังสือเล่มหนาที่เมื่อครู่ใหญ่ยังถูกเปิดไปมาอยู่ในมือของเธอ ตอนนี้กำลังลอยมาทางผม ในวินาทีที่มันกระแทกหน้าผม เส้นสติสัมปชัญญะของผมก็ขาดสะบั้น ผมเดินเข้าไปหาเธอ คว้ามือเธอ เหวี่ยงเธอลงกับพื้น ร่างเล็กๆของเธอลอยไปอย่างง่ายดาย ผมโกรธ และเธอก็โกรธ เมื่อเรามีมุมมองต่อสถานการณ์หนึ่งๆต่างกัน และไม่คิดที่จะทำความเข้าใจมุมมองของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ทำไมต้องคอยพูดแต่ว่าเลิกกันเลยมั้ยตลอด เธอไม่เคยรักผมหรือจึงพูดได้ไร้เยื่อใยแบบนี้เสียทุกครั้งไป แม้ผมอาจยังไม่กล้าพอที่จะบอกว่า 'เออได้ เลิกไปเลย' แต่ผมกลับกล้าพอที่จะตรงเข้าไปหาเธอด้วยโทสะและตอบโต้เธอด้วยเรี่ยวแรงของผม จนกระทั่งเธอเอามือจับที่อก และหายใจหอบ แรงโทสะทั้งหมดของผมก็หายไปหมดสิ้น ผมรีบวิ่งไปคว้ายาและวิ่งกลับมาเอาให้เธอ เธอคว้ายานั้นกินอย่างตื่นตระหนก นอนกุมอกอยู่อย่างนั้นจนอาการทุเลาลง

    เราทั้งคู่ลืมความโกรธไปชั่วครู่ ผมยื่นมือไปหาเธอ เธอคว้ามือผมบีบไว้ ยิ้มเหนื่อยๆให้ผม ผมรู้สึกผิดเต็มหัวใจ ผมกล่าวขอโทษออกไปและเธอก็ยิ้มแบบที่ทำมาเสมอ ยิ้มให้อภัยผมอีกครั้ง และอีกครั้ง 



    เธอต้องรู้ ว่าฉันนะป่วย...หัวใจดวงนี้ ถูกผ่าตัดมาสองครั้งแล้วล่ะ
    เธอจะยังรับฉันได้ไหม ?


    ในวันนั้นที่ความจริงน่าตกใจถูกเปิดเผย ผมนิ่งไป แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจคว้ามือเธอขึ้นมา จูบลงที่หลังมือ พยักหน้าแทนคำตอบรับ ผมจะดูแลเธอเอง และรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏตรงหน้าผมอีกครั้ง

    ภาพคำสัญญาที่ผมให้กับเธอยังชัดเจนในความทรงจำ ผมยังรักเธอเหมือนเดิมในวันนี้ แต่เพราะอะไร ทำไมความขัดแย้งต่อกันจึงมีเพิ่มขึ้นทุกวันเช่นกัน เป็นเพราะเราใช้เวลาคบหาดูใจกันน้อยไป หรือเป็นเพราะเราเริ่มเบื่อกันและกัน เป็นเพราะเหตุใดที่ทำให้เราสองคนรักกันน้อยลง และน้อยลง จนในวันที่เราไม่ทะเลาะกันอีกต่อไป เพราะเราต่างเฉยชาต่อกันมากขึ้น และมากขึ้น เราต่างอยู่ด้วยกันเพียงแค่รับรู้การมีอยู่ของอีกคนในพื้นที่นั้น แต่การมีอยู่นั้นกลับเลือนลางลงในหัวใจ 



    นี่ข้าวเย็นนะ ยังไงก็เอาไปอุ่นก่อนกินล่ะ
    เดี๋ยวจะรีบกลับนะคะ


    ถึงเราจะมีปัญหากันแค่ไหน รสชาติรักเจือจางที่ผมสัมผัสได้ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกๆที่ในบ้านที่เธอทำความสะอาด ในเสื้อผ้าที่ผมใส่ ในทุกๆคำของอาหารที่เธอทำ เธออาจไม่พูดกับผมตรงๆ แต่เธอก็ยังคงพูดผ่านการกระทำเสมอ ผมคิดว่า..เธอคงไม่อยากให้เรื่องรักของเรามันจบลงไปเฉยๆล่ะมั้ง เธออาจจะยังรักผมอยู่…



    มึง มึงยังจำความรู้สึกนั้นที่เจอแฟนมึงครั้งแรกได้มั้ย จำความรู้สึกที่มึงมีได้มั้ย มันเป็นของจริง และมันมีค่าเกินกว่าจะมาพังลงเพราะทิฐิอะไรแบบนี้ของมึงนะ



    คำพูดของเพื่อนสนิทของผมดังก้องอยู่ในหูผม ผลักดันให้ผมไปซื้อดอกไม้ช่อใหญ่ และรีบกลับบ้าน เพื่อจะไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับผู้หญิงที่ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลเขาไปตลอดชีวิต ผมจะยอมเปลี่ยนแปลง เพื่อให้รักเรายังคงอยู่ ผมได้เลือกแล้ว


    ตี๊ด


    ผมสตาร์ทรถและขับรถไปบนเส้นทางคุ้นเคย พลางคิดไปในใจว่าเธอจะทำหน้ายังไงนะตอนที่เห็นช่อดอกไม้ที่คนขี้เหนียวอย่างผมไม่ค่อยได้ซื้อให้

    ตี๊ด


    เธอจะยิ้มกว้างแค่ไหนกันนะ ที่คนอีโก้สูงอย่างผมจะเป็นฝ่ายขอโทษสำหรับทุกอย่าง และขอการให้อภัยจากเธอ ผมอาจจะเล่นมุกสักหน่อย เธอจะได้ไม่เครียดมากไป 

    พลันกลีบดอกไม้ก็ร่วงหล่น 


    ตี๊ดดดดด.......


    เสียงสัญญาณว่ามีข้อความเสียงจากโทรศัพท์บ้านดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ทะลุผ่านเข้ามาในภวังค์ของผมชั่วขณะ ขัดจังหวะการจดจ้องจอคอมของผม



    "เอ็ม... เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเข้าไปหานะ มึงไม่รับสายแบบนี้ กูเป็นห่วงนะ ถ้ามึงโอเคดี ช่วยติดต่อกูกลับมาหน่อยนะ แต่ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะเข้าไป..."


    ผมฟังเสียงพูดนั้นเงียบๆ คิ้วขมวดติดกัน ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ผมโอเคดี ผมหันไปมองหน้าภรรยา แน่นอนเธอไม่พูดอะไร แค่ส่งยิ้มหวานมาให้ผมเหมือนเคย ผมยิ้มตอบเธอไป

    ผมยิ้ม แต่ปากผมกลับสั่นระริกไม่หยุด หน้าจอคอมเบลอมากขึ้น


  • คุณธนวัชรึเปล่าคะ ?


    ครับ


    คุณธนวัชคะ... ดิฉันโทรมาจากโรงพยาบาลนะคะ ดิฉันมีเรื่องต้องแจ้งกับคุณค่ะ
    อ่า... ครับ เรื่องอะไรครับ ?


    ภรรยาคุณเสียชีวิตแล้วค่ะ


    ...


    หายใจเข้า ออกช้าๆ นะคะ ทำใจดีๆ ไว้ ดิฉันจำเป็นต้องแจ้งว่าเธอหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันค่ะ
    ทีมแพทย์พยายามปั๊มหัวใจ ยื้อชีวิตเธอแล้ว แต่เราไม่สามารถผ่าตัดได้เนื่องจาก หัวใจของเธออ่อนแอเกินไป จนถึงที่สุดไม่มีการตอบสนองแล้ว และไม่สามารถยื้อต่อไปได้อีกแล้ว
    ดิฉันขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ


    ......


    คุณธนวัชคะ ?


    นี่คุณกำลังหลอกผมเล่นอยู่รึไงกัน !?!




    บอกผมสิ ว่าคุณกำลังหลอกผมเล่น คุณโกหก ได้โปรด...


    ผมนั่งอยู่หน้าจอคอม มือกำลังพิมพ์เรื่องราวนี้ที่คุณกำลังอ่าน ผมรู้แล้วว่าจอคอมทำไมมันเบลอขนาดนี้ แต่มือผมก็ยังพิมพ์ต่อไป พร้อมกับจดจ้องตัวอักษรผ่านแว่นสายตาของผมไปด้วย แต่ถึงจะฝืนเท่าไหร่ ผมก็มองอะไรไม่ชัดอยู่ดี จนต้องหยุดมือ พร้อมกับปล่อยให้น้ำตาใหลรินลงมาอาบแก้ม 

    เรื่องของผมไม่มีอะไรมากหรอก เป็นเรื่องราวความรักของผู้ชายงี่เง่าคนหนึ่งที่วันนี้ได้รับรู้แล้วว่าไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันได้รักนั้นคืนกลับมาอีกแล้ว ผมอาจจะอยากแค่บ่นหรือระบายให้คุณฟัง เพราะในเวลาแบบนี้ ผมไม่มีใครเลยให้พูดด้วยสักคน แต่คำบ่นของผมที่คุณจะได้ฟังในเวลานี้มีเพียงแค่เสียงร่ำไห้และเสียงร้องตะโกนอย่างสิ้นหวังของผมเท่านั้นแหละ 

    ผมรู้ว่าผมจะต้องผ่านมันไปได้ในวันหนึ่ง ผมจำเป็นต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ในสักวัน ถึงอย่างไรชีวิตก็ต้องเดินต่อไปพร้อมกับเวลาที่ไม่เคยรีรอและเสียเวลามาสงสารคนอย่างผม ผมจะพยายามเข้มแข็งขึ้น ผมให้สัญญา เพียงแต่ในวันนี้ผมขอเป็นคนอ่อนแอที่ยังรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้สักวันเถอะ 
    ผมชายตามองเธอทั้งน้ำตา รอยยิ้มที่ส่งมาให้ผมนั้นยังชัดเจน หากแต่ไร้คำพูดใดๆ ผมตะโกนร้องชื่อเธอออกไปสุดเสียง และคว้าเธอมากอดไว้ พร่ำขอโทษกับเธอ ได้แต่หวัง ให้เธอหันมายิ้มให้อภัยอีกสักครั้ง ก่อนจะหลับไป

    หากเพื่อนของผมที่จะเดินทางมาเยี่ยมผมในรุ่งเช้าก้าวเข้าบ้านมา เขาคงจะได้เห็นเพื่อนของเขานอนอยู่บนพื้น ตรงหน้าจอคอมที่ยังสว่างอยู่ และมือโอบกอดกรอบรูปภาพภรรยาของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย 


    ผมคิดถึงคุณ







    ฉันรักคุณ




    ผมก็รักคุณ... และจะรัก... ตลอดไป



                                                                        แด่ สตรีผู้ล่วงลับ และ ผู้เป็นที่รักที่ยังอยู่                                                                                               15.07.60 1:27 น.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in