เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องที่ระบายไม่ได้ เราจะพูดว่ามัน เป็นเรื่องใส่ใข่(เรื่องแต่ง)Dareka Ayumi
เรื่องที่ระบายไม่ได้ เราจะพูดว่ามัน เป็นเรื่องใส่ใข่(เรื่องแต่ง) 11
  • ความเดิมตอนที่แล้ว แอนนี่ ได้คุยกับเรา 
    แล้วทำข้อตกลงว่า หากเราพิสูจน์ความจริงได้ 
    เธอจะหยุดลงมือกดดันเพื่อนดาวด้วยการรุมทำร้าย แบบกลุ่มกองโจร

    เพื่อนดาวนอนหยอดน้ำเกลืออยู่ในโรงบาล
    ดูเหมือนแผลจะติดเชื้อ และอาการทรุดลงอย่างหนัก

    เรารู้สึกผิด ที่ได้แต่ยืนมอง รู้สึกเจ็บใจในความอ่อนหัดของตัวเอง
    เพียงเพราะ อคติชั่วขณะ 

    เราเป็นคนไม่มีเพื่อน แต่ยังเซนซิทีฟ กับเรื่องของ มิตรภาพ
    กลัวการถูกหักหลัง กลัวความโดดเดี่ยว

    น่าสมเพชตัวเองยิ่งนัก

     จนถึงเดี่ยวนี้ ไม่เคยมีใครยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างเรามายาวนานเท่ากับเพื่อนดาว

    แต่เวลามานั่งเสียใจ ไม่ทำให้สิ่งที่เสียไปแล้ว กลับคืนมาได้

    เราหยิบกระเป๋าเงินเพื่อนดาว และข้อมูลที่อยู่ คนรู้จักทั้งหมด
    เพื่อทำการสืบสวน แล้วหาความจริง หาตัวคนร้าย ที่อยู่เบื้องหลัง
    คอยให้การสนับสนุน เหล่ารุ่นพี่ที่จบไปแล้ว แต่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด

    ...
  • ต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากอลิซาเบธอีกครั้ง

    ข้อมูลรายชื่อ ของนักศึกษา ที่ถูกยืนยันเรียบร้อย(จากการสารภาพเพราะถูกรุมทำร้าย)
    ส่งมาให้กลุ่มไส้เดือนทาง  Facebook 

    หลังจากนำภาพดังกล่าวไปสอบถามเพื่อนร่วมหอพักของเพื่อนดาว
    ก็พบว่า มีการคบหา ติดต่อกันอยู่จริง

    เพื่อที่จะเจาะลึกไปยืนยัน เราเลยขอใช้แล็ปท็อปของเพื่อนของเพื่อนดาว
    ซึ่งได้มีการล็อกอินด้วยแอคเค้าท์ทิ้งไว้ นั้นทำให้เราสามารถเดารหัสผ่าน
    ได้จากการสืบสวน

    แน่นอนว่าเรากับเพื่อนดาว ใช้คอมพ์ของมหาลัยร่วมกันมาหลายต่อหลายครั้ง
    จึงไม่แปลกที่เราจะมีคำใบ้หลงเหลือมาบ้าง

    จำนวนเสียงเคาะแป้นตัวเลข เก้าครั้ง
    เราเลยนึกได้อย่างแรกคือ เบอร์บ้าน

    คำถามคือ เบอร์บ้านใคร
    เนื่องจาก เพื่อนดาว มีที่อยู่อาศัยสามแห่ง บ้านป้า บ้านยาย และหอพัก

    ขณะที่เรากำลังคิด
    เพื่อนของเพื่อนดาว ดูท่าจะยินดีต้อนรับเรามาก
    ยกน้ำมาให้เราดื่มด้วย คงเพราะเรามีท่าที โค-ตะ-ระ- สุภาพนั้นเอง

    เรานึกขึ้นได้ จึงเริ่มดูวันที่เพื่อนดาว สร้างแอคเค้าท์
    เป็นเมื่อสามปีก่อน ...


  • เราจึงสอบถามเพื่อนสนิทของเพื่อนดาว 
    "ไอดาว เพิ่งย้ายมาอยู่กับเราเมื่อสองปีก่อน..."

    เพื่อนของเพื่อนดาวหยุดคิด ก่อนจะกล่าวต่อ
    "มันอยู่กับป้ามันแน่ๆ"

    เราพยายามเช็คเบอร์มือถือ
    แต่ดูเหมือนว่าโทรศัพท์เครื่องใหม่
    จึงไม่มีบันทึกเบอร์เก่า 

    เราจึงพยายามติดต่อ ด้วยมือถือของเพื่อนดาว
    โทรหาคนที่มีนามว่า พี่ชาย
    "..................."

    เสียงสัญญาณหยุด มีคนรับสาย
    เราตื่นเต้นเล็กน้อย

    "ว่ายังไง"

    เสียงเข้ม เหมือนเป็นคนอายุมาก ตอบรับ

    เราพยายามอธิบายว่า มีเหตุจำเป็นที่ต้องรู้เบอร์บ้านป้า
    และบ้านยาย เพื่อที่จะใช้ล็อกอินเข้าเฟสบุ๊ค
    เพื่อตรวจสอบข้อมูลการพูดคุย




  • "ไอ เลิฟ มิ้งค์" 

    พี่ชายของเพื่อนดาวกล่าวขึ้น  

    "นั้นคือบันทึกจากสมุดโน็ต ที่หมอนั้นทิ้งไว้ เขียนว่าพาสเวิร์ด Face-"

    เราเถียงก่อนพี่ชายของเพื่อนดาวจะพูดจบประโยค
    "มันควรจะเป็นตัวเลขสิบหลักนะคับ"

    เราได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆจากชายคนนั้น
    "นั้นคือข้อมูลทั้งหมดที่ผมมี เบอร์โทรศัพท์ หรือเรื่องเกี่ยวกับไอนั้น ผมไม่รู้เลยจริงๆ"

    จะว่าไป เราไม่เคยได้ยินเพื่อนดาวเล่าเกี่ยวกับครอบครัวเลย
    เรารู้เกี่ยวกับเพื่อนดาวน้อยมาก

    ทั้งที่เราให้ข้อมูลเพื่อนดาวเกีี่ยวกับตัวเราไปหมดเปลือก
    แต่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวชายคนนี้เลย

    "ขอบคุณมากคับ"

    ก่อนจะบอกลาด้วยมารยาท แล้วกลับมามองดูคำใบ้ที่เหลืออยู่ในมือ
  • ถ้าเพื่อนดาวเป็นสายให้กับพวกรุ่นพี่
    ก็คงต้องมีความระมัดระวังในเรื่องของการปล่อยข้อมูล
    ยิ่งจดรหัสผ่านไว้ให้คนอื่นเห็นด้วยแล้วคงเป็นไปไม่ได้

    เราพยายามเปลี่ยนเป็น อัลฟาเบท
     (จากอักษรเป็นตัวเลข เช่น A แทน 1, B แทน 2 ตามลำดับ)

    แต่จำนวนก็เกินมา 

    เพื่อนของเพื่อนดาว จึงยื่นมือเข้ามาช่วย
    "อ่อ ไอนี้มันชอบพิมพ์ในเฟสเป็นคำย่อบ่อยๆ"

    เพื่อนของเพื่อนดาว ชี้ให้เห็นข้อความที่เพื่อนดาวเคยพิมพ์
    เพราะเจ้าตัวมักบอกรักผ่านสเตตัสของตัวเอง 

    แต่มักจะย่อไว้ ให้อ่านออกได้ยาก
    และอย่างที่คิด เมื่อย่ออักษรชื่อ Mink เหลือแค่ M แทนตัวอักษรที่ 15

    เราก็ได้พาสเวิร์ดว่า 9,12,15,22,5,14 จนล็อกอินได้ในที่สุด

     และแล้วเราก็ได้หลักฐานอีกชิ้น
    บทสนทนาของเหล่ารุ่นพี่ รวมถึงรายชื่อของสมาชิกทั้งหมดในแก๊งค์
    ประมาณสามชั่วโมงเราก็ได้ข้อมูลครบ

    แต่นี้ยังแค่ยืนยันว่า เคยเป็นหุ้นส่วนกับเหล่ารุ่นพี่ เท่านั้น...


  • เช้าวันรุ่งขึ้น

    เราเข้าเรียนคาปเรียนซ่อมของเพื่อนดาวเหมือนเดิม 
    เพื่อที่จะพยายามหาคำใบ้ 

    คนร้ายคือใครกัน

    ข้อมูลที่เรามีคือ

    ยอดเงินรายเดือน 20,000 บาท

    หารกันระหว่างรุ่นพี่ 80 % คือ 16,000 บาท
    เหลืออีก 20 % คือ 4,000 บาท 
    นั้นคือรายได้ทุกๆเดือนที่มอบให้กับใครคนใดคนหนึ่งตลอด 6 ปี
    ที่เรากำลังตามหาตัวอยู่ ณ เวลานี้

    เพื่อนดาวเข้ามาในช่วงปีที่ 3 ของกลุ่มรุ่นพี่ 
    คบหากันกับคนเหล่านั้น แต่ไม่ได้รับส่วนแบ่ง 20 % นั้นแม้แต่น้อย
    กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพียงเพราะเป็นพี่ซิ่ว แล้วยังรู้จักกันกับพวกรุ่นพี่

    คราวนี้  ใครกัน ที่อยู่มาพร้อมกับรุ่นพี่ ถึงหกปี โดยไม่เป็นที่สังเกต
    ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการ และแอบอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่ถูกจับได้จากกลุ่มของแอนนี่

    "อาจารย์อย่าสั่งการบ้านได้มั้ย"

    เด็กในห้องคนหนึ่งโวยวายขณะเรากำลังคิด

    "อาจารย์เคยเป็นนักศึกษามาก่อน เข้าใจความรู้สึกของพวกเธอดี
    แต่เป็นอาจารย์ก็ดีแบบนี้แหละ เอ้าจด มีการบ้านเว้ย"

    อาจารย์ตบมุขให้นักศึกษา ซึ่งขำไม่ออก 
    ทุกคนร้องสะท้อนกลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
    "โฮ่"




  • "อาจารย์ ?"

    พอมาคิดๆดูแล้ว 

    ระบบรับน้องอยู่ได้จนถึงเดี่ยวนี้
     ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในคณะอยู่แล้ว 

    งั้นผู้ต้องสงสัยเป็นไปได้ว่า คืออาจารย์ ซึ่งรับผิดชอบ

    เราวิ่งออกจากห้องทันที ติดต่อกับอลิซาเบธ เพื่อขอคุยกับ แอนนี่

    อลิซาเบธ ทำหน้าซีด

    "เราเพิ่งได้ข่าวว่าพี่ดาวออกจากโรงบาล 
    แล้วกำลังตรงมาที่มหาลัย ตอนนี้พี่แอนนี่และสมาชิกคนอื่นๆ 
    ออกไปดักรอแล้วค่ะ"

    เราออกตัววิ่งอีกครั้ง ตุบ
    ชนกับใครบางคนเข้า 

    แอนนี่ !!! 

  • แอนนี่ เดินออกมาจากห้องน้ำ โดนเราชนจนเกือบล้ม 

    "มีอะไรเหรอค่ะ พี่โก๊ะ"

    เธอมีทีท่าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรวบรวมสติ แล้วเปิดฉากบทสนทนา ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    "ตอนนี้ กำลังเราฝากอลิซาเบธ ส่งข้อมูลที่หาได้ทั้งหมดไปให้คนในกลุ่ม
    ช่วยบอกให้คนในกลุ่มก่อการร้ายหยุดที คนร้ายไม่ใช่เพื่อนดาว แต่เป็น อาจารย์-"

    แอนนี่ ยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้เราหยุด ก่อนจะกดมือถือโทรหาเพื่อนขาประจำของเธอ

    "ได้ตัวคนร้ายแล้ว ไม่ต้องลงมือ ให้ทุกคนกลับมาที่จุดนัดพบทันที"

    เรารู้สึกแฮปปี้ ทั้ง รู้สึกแปลกๆที่พวกเธอช่างตรงไปตรงมา
     แค่ข้อมูลเล็กๆก็สามารถหยุดกลุ่มที่น่ากลัวอย่างผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ได้แล้ว

    "ถ้าพูดถึงอาจารย์ พวกเรารู้มานานแล้วว่า ใครคือผู้รับผิดชอบ"

    ท่าทีของแอนนี่ ดูสงบเรียบร้อย เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูขึงขังขึ้นขึ้นเล็กน้อย
    ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่คนโง่ 
    เธอเข้าใจความเสี่ยงของการลงไม้ลงมือกับคนระดับอาจารย์ดี


  • "งั้นให้พวกเรารับผิดชอบต่อเองนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูล"

    เธอโค้งอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดชั้นห้า
    เราโล่งอกก่อนจะเข้าห้องไปตรวจสอบเรื่องที่อลิซาเบธกำลังจัดการ

    อลิซาเบธยังคงหน้าซีด และหนักกว่าเก่า

    "เรียบร้อยหรือป่าวอลิซาเบธ"
    เราถามด้วยความกังวล

    "ค่ะ"
    เธอกล่าวสั้นๆ ดูร้อนรนผิดปกติ

    "พี่โก๊ะรู้หรือเปล่าค่ะ ว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในรุ่นของพี่แอนนี่ ?"
    อลิซาเบธพูดเสียงเบาๆ 

    เราส่ายหน้า แล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่งฟัง
    "จริงๆแล้ว เรามีกฏ ผู้สวมชุดกันฝนทุกคน คือ นักรบ และผู้สวมมงกุฎ คือราชา..."

    เรากระพริบตา เพราะรู้สึกว่ามันคงเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา
     เพื่อสร้างความน่าเคารพนับถือของกลุ่ม ราชาในที่นี้ คงหมายถึงแอนนี่

    "แต่ ราชาคนก่อนของพวกพี่แอนนี่ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
    พวกพี่แอนนี่จึงต้องลงมือ โดยไร้คำสั่งของราชา 
    พวกพี่เค้ารอมาเป็นปีๆ แต่ราชาก็ไม่ยอมมาปรากฏตัว"

    อลิซาเบธกล่าว ดูกังวล ...



  • เราพยายามจะทำความเข้าใจกับความร้อนรนของอลิซาเบธ 
    ด้วยการถามตามมารยาท
    "แล้วยังไงเหรอ ถ้าไม่มีราชา กลุ่มแอนนี่จะเดือดร้อนงั้นเหรอ"

    อลิซาเบธตาเบิกกว้าง
    "ไม่อย่างนั้น พี่แอนนี่ จะลงมือทำหน้าที่ของราชาด้วยตัวเอง"

    เราเริ่มรู้สึกกังวล จึงถามต่อ
    "หน้าที่ของราชา ?"

    "เพราะเรารวมกลุ่มกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน แต่คนที่จะเป็นผู้นำ 
    คือคนที่มีอำนาจในการสั่งการทุกคน เพียงแต่ ต้องแลกกับเงื่อนไขข้อเดียว..."

    อลิซาเบธกล่าวพร้อมกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมกับเรา

    "เมื่อมีศัตรูที่มีกำลังเหนือกว่าปรากฏตัวขึ้น 
    ราชาจะใช้พลังของตัวเองเพียงลำพัง เพื่อโค่นล้มศัตรูคนนั้น"

    เราตาเบิกกว้างเริ่มเข้าใจความหมาย นัยยะของมัน

    "หมายถึง อาจารย์เหรอ !" เราตะคอกด้วยความตกใจ

    "ถูกต้อง แอนนี่ไม่รู้วิธีจัดการกับพวกอาจารย์ เหมือนราชาคนก่อน"
    เสียงของเพื่อนขาประจำของแอนนี่ ดังมาจากนอกหน้าต่าง 
    เธอพยายามโผล่หัวขึ้นมาให้พวกเราเห็นหน้า

    "เด็กผู้หญิงคนนั้น เลือกที่จะแบกตำแหน่งผู้นำ เพื่อไม่ให้กลุ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    เพื่อที่จะรอราชาของเรากลับมา แต่เธอมีศักดิ์ศรีสูงส่งเกินกว่าจะเอาแต่รอ
    เพราะงั้น เธอจะต้องลงมือจัดการอาจารย์ท่านนั้น ด้วยตัวของตัวเองคนเดียว " 
    ...


  • อลิซาเบธและเราตาเบิกกว้าง  เมื่อได้ยินชื่อของราชาคนก่อน
    .
    .
    .
    .

    "คิง จ็อฟฟรี่" 



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in