เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องที่ระบายไม่ได้ เราจะพูดว่ามัน เป็นเรื่องใส่ใข่(เรื่องแต่ง)Dareka Ayumi
เรื่องที่ระบายไม่ได้ เราจะพูดว่ามัน เป็นเรื่องใส่ใข่(เรื่องแต่ง) 10
  • เราพยายามทบทวน แบบภาพรวม หลังจากโดนหักหลังจากคนที่เราไว้ใจที่สุด (ชายผู้เป็นมือขวา)

    ถ้ารุ่นพี่ของกิจกรรมรับน้องในคณะศิลปะ คือกลุ่มรัฐบาล 
    เราคงเป็น กลุ่มขบถ หรือ กลุ่มต่อต้าน 
    เพราะไม่เห็นด้วยกับวิธีการ พร้อมแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน

    แต่กลุ่มของแอนนี่ ดันใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา 
    เลยถูกเรียกว่า "กลุ่มผู้ก่อการร้าย" เธอเองก็รู้ตัวดี

    เพราะดูเหมือนสิ่งที่กลุ่มของเธอทำ 
    มันอาจจะไม่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง เหมือนเป็นการลงมือใช้กำลัง
     เพื่อสนองความพอใจส่วนตัวเสียมากกว่า หรือ แค่ต้องการไล่ทำลายรายคน เหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู

    ที่น่าแปลกใจคือ แอนนี่ เธอได้นำเนินกิจกรรมที่เรียกว่า "การก่อการร้าย" มาเป็นปีๆแล้ว
    แต่มหาลัย กลับนิ่งเฉย แน่นอนว่า ข้อมูลของแอนนี่ไม่ได้พูดถึงแค่ฝ่ายตัวเอง

    ยังมีเรื่องผิดกฏหมายของพวกรุ่นพี่ของฝ่ายกลุ่มรับน้อง ซึ่งถูกเหยียบไว้ 
    แม้แต่เหล่าอาจารย์ ก็ไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้อง 
    หรือเข้ามาช่วยรับผิดชอบใดๆได้

    อลิซาเบธเอง ก็เข้าร่วมกลุ่ม ก่อการร้าย หลังจากคดี แล็ปท็อปที่ถูกขโมย
    เพราะเธอเองก็เลือกที่จะไม่เชื่อในกิจกรรมรับน้องอีกต่อไป
  • อลิซาเบธ จึงกลายเป็นมากกว่าแหล่งข่าว
    เธอคือจุดเชื่อมการติดต่อระหว่างกองกำลังติดอาวุธ(ดาบยาว)ของแอนนี่

    ทุกวันที่เราตื่นมา ก็รู้สึกกลัว
    เราเพิ่งรู้ว่า สังคมที่เราอยู่ มันโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดนี้
    แม้แต่นางฟ้าของเรา
    ก็กลับกลายเป็นหัวหน้าของผู้ก่อการร้ายไปเสียได้

    นั้นอธิบายว่า ทำไมตอนที่เราอยู่ปีสอง ตอนปรับปรุงระบบรับน้องให้เป็นแบบสร้างสรรค์
    เธอยืนกราน ช่วยเหลือเจ้านิ๊คเด็กปีสองตอนนั้น อย่างเต็มที่

    แต่ที่ระยำยิ่งกว่า เมื่อเราหาต้นเหตุได้
    คือระบบของมหาลัย คือระดับผู้ใหญ่ ที่พยายามปิดข่าว
    ไม่ให้เรื่องแบบนี้ หลุดรอดออกไป โดยอ้างว่า

    "มันคือส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่นักศึกษาจัดกันเอง"

    เราตัดสินใจ มาใช้เวลาร่วมกับเพื่อนดาวในห้องเรียน
    ตลอดช่วงเรียนซ่อม

    เพื่อนดาวรู้สึกผิดหวัง และหวาดผวาเล็กน้อย
    เมื่อรู้ว่า เราไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับคนที่มาทำร้าย

    ใช่แล้ว 
    ถึงเราจะเคียดแค้นเพื่อนดาวแค่ไหน
    แต่เราจำต้องเป็นสายลับ เพื่อหลอกเอาข้อมูลจากเพื่อนดาวมาอีกที

    "ข้อดีของการอยู่ใกล้กับศัตรู คือการทำให้เราเห็นศัตรูชัดที่สุด"
    ใช่มั้ยล่ะ เพื่อนดาว (เราพูดในใจขณะสำรวจความสามารถในการเสแสร้งของเพื่อนดาว)

    และเราต้องปกปิดความลับ เรื่องกลุ่มก่อการร้ายเอาไว้คนเดียว


  • แต่ต้องขอชมไหวพริบในการทำสงครามแบบกองโจรของแอนนี่
    เธออาศัยดาบยาว ที่ไร้คม เพื่ออาจจะใช้ในการลดหย่อนโทษความผิด
    หรือพกเข้ามาในมหาลัย โดยอ้างว่า นำมาจัดแสดง หรือ เป็นผลงานศิลปะ

    แล้วยังอาศัยจุดยุทธศาสตร์ในการลงมือ ที่ปลอดจากสายตากล้องวงจรปิด สายตาผู้คน
    ใช้กำลังมากกว่า เพื่อการันตีความสำเร็จ 

    อีกทั้ง เสียงของการย้ำเท้าของรองเท้าบูท 
    ยังช่วยในเรื่องสงครามประสาท เสียงซึ่งทำให้เหยื่อ รู้สึกหวาดผวาได้อีกด้วย
    และเมื่อเหยื่อเห็นกองกำลังติดอาวุธ ดาบยาวส่องแสงสะท้อนมันวาว 
    กรูกันเข้ามาพร้อมกัน
     ไม่ว่าใครก็ต้องขาสั่น 
    นอนหดตัวรับกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    เหตุผลที่เรารู้รายละเอียด 
    เพราะมันกำลังเกิดขึ้นตรงหน้า ต่อเพื่อนดาว อีกครั้ง

    เพื่อนดาวกรีดร้องขณะหดตัว รับใบดาบไร้คม 
    ตุบ ตับ ตุบ ตับ 

    เราแค่เล่นละครตบตา แต่ 
    เราไม่ลงทุนแสดงเหมือนที่ผ่านๆมา
    เราแค่ยกมือขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีศิโรราบ 
    หรี่ตามองเพื่อนดาวที่กำลังโดนเล่นงานด้วยความชิล
    และความรู้สึกสาสม 




  • น่าแปลก ทั้งที่เรารู้ว่าเพื่อนดาว
     หักหลังเรามาตลอด
    รู้ว่าชายคนนี้ ไม่ใช่คนที่ชะตาฟ้าลิขิตมาให้สู้เคียงข้างเรา
    รู้ว่า เพื่อนดาวเป็นคนธรรมดา 
    ที่พูดกรอกหูเหมือนกันๆใส่เราว่า "แกมันโดดเดี่ยว"

    อ่า พอคิดแบบนั้น
     เราได้แต่หลับตา
     ฟังเสียงโหยหวน ด้วยความเจ็บปวด 
    ของมิตรภาพจอมปลอม จนเหล่าชุดเสื้อกันฝนหยุดมือ

    หัวหน้าของกลุ่ม คงจะเป็นแอนนี่
    เธอยกมือขึ้น แล้วเก็บดาบใส่ฝัก ก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคน 
    เดินเข้าแถวกลับไปยังจุดหลบซ่อน 

    เหตุผลที่เราไม่รู้สึกผิด
    เพราะเราได้ยินเสียงกรีดร้อง ลมหายใจ
    ความแค้น ที่หลั่งออกมา ของเหล่าผู้ก่อการร้าย ในชุดกันฝน

    เพื่อนดาว ยังขยับตัวได้
    แต่บาดแผลหนักเกินกว่าจะปริปาก
    "โอย..."

    ในที่สุด เราก็นึกได้ว่ายังต้องใช้งานเจ้าเพื่อนจอมปลอมคนนี้ไปอีกสองปี
    เราเลยเข้าโหมดเล่นละครอีกครั้ง

    " เพื่อนดาว ! ไอพวกบัดซบ ทำกันลงได้ไงวะ-"

    เราชะงัก แล้วสงสัย ในน้ำตาของเพื่อนดาว 
    ที่หลั่งออกมาพร้อมเลือดตามศีรษะ
    จะร้องไห้ทำไม ในเมื่อนี้คือความรับผิดชอบของนายเอง เราคิดในใจ


  • "หาตัวมันให้เจอ คนพวกนั้น กำลังเข้าใจผิด"

    ประโยคสั้นๆ ปักเข้ามาตรงหน้าอกของเรา

    หมายความว่ายังไง ?

    เพื่อนดาวรู้จักกลุ่มเสื้อกันฝนงั้นเหรอ ?

    "เข้าใจอะไรผิด" เราตะคอกใส่ด้วยความกังวล

    เพื่อนดาวยิ้ม "เราเป็นพวกเดียวกัน"

    เราอ้าปากค้าง
    แบกตัวเพื่อนดาวไปห้องปฐมพยาบาล ก่อนจะส่งตัวไปโรงบาล

    เราลืมบางอย่างที่สำคัญมากในตอนนั้น

    เราเปลี่ยนจากนักสืบ เป็นผู้ก่อการร้าย

    เพราะเราดันไปข้องใจของภารกิจที่ผู้ว่าจ้างให้มา
    เพราะเรายืนข้างฝ่ายที่ลงโทษ แทนสืบสวน
  • เราช็อคกับตัวเอง

    เพราะเราอคติกับเรื่องการถูกหักหลัง

    ทำให้เราเผลอใช้อารมณ์ ทำให้เราตาบอดไปชั่วขณะ

    ใช่แล้ว

    สายลับที่ไหน ที่จะคอยยืนฝ่ายเราตลอด
    สายลับที่ไหน จะลงทุนมายืนกับคนกากๆแบบเรา
    เพียงเพราะ "อาจจะเป็นความเสี่ยง"

    เกือบสามปีนะ

    อยู่ๆเราก็รู้สึกว่า เรากำลังพลาดอย่างใหญ่หลวง
    สิ่งที่เราทำไปเมื่อครู่ 
    ไม่ต่างจากการฉีกแขนขาของตัวเองไปให้สัตว์ป่ากิน

    เราพยายามรวบรวมสติอีกครั้ง 
    .
    .
    .
    ใช่แล้ว เราต้องคุยกับอลิซาเบธ เพื่อพบกับแอนนี่



  • อลิซาเบธ กับ เรา นั่งรอแอนนี่อยู่ในห้องเรียน ใต้ตึกห้า

    แอนนี่มาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนขาประจำ 

    "ว่าไงค่ะ พี่โก๊ะ" มีคนเปิดประตูให้เธอ  เธอเดินเข้ามาแล้วโค้งตามมารยาท

    เราตื่นเต้นเล็กน้อย กับความสง่างามของเธอ

    "เราอยากจะดูรายละเอียดเกี่ยวกับความผิดของเพื่อนดาว"

    เรากล่าวอย่างกระอึกกระอัก

    หนึ่งในเพื่อนขาประจำของเธอ ตีสีหน้าไม่พอใจ

    " ........................ "

    บรรยากาศภายในห้อง เงียบไปชั่วขณะใหญ่

    "พี่โก๊ะข้องใจกับวิธีการของพวกเราเหรอค่ะ"

    แอนนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ

    และหนึ่งเพื่อนของแอนนี่ กดมือถือเพื่อส่งข้อความอะไรซักอย่าง
    จากนั้นไม่ช้า
    ดูเหมือนเสียงรองเท้าบูท จะมากรูเข้ามาจากนอกหน้าต่าง จุดที่ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด

    "พี่แอนนี่ ! " อลิซาเบธ เรียกชื่อเธอขึ้น ราวกับขอให้ไว้ชีวิตเรา

  • นั้นหมายความว่า กลุ่มเสื้อกันฝนจะต้องพังหน้าต่างเพื่อเข้ามาเล่นงานเล่นเป็นแน่

    แต่เรารู้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่

    เราแน่ใจว่า แอนนี่ทำทุกอย่าง เพื่อที่จะปกป้องกลุ่มของเธอ
    และความเตรียมใจ พร้อมที่จะสละทุกอย่างเพื่อชัยชนะ
    เธอเป็นนักเลง นักลงมือทำ เรารู้ว่าเธอทำได้  และต้องทำแน่ๆ

    เพราะงั้น

    เราเชื่อว่า ถ้าเธอเป็นเช่นนั้นจริง 
    เธอจะยอมรับความคิดของเราได้

    "เพื่อนดาวอยู่กับเรามาเกือบสามปี เริ่มต้นจากที่ไม่มีอะไรเลย
    แถมข้อมูลของเราก็มีน้อยมาก ถ้ากลุ่มของแอนนี่ เป็นปัญหาใหญ่กว่ากลุ่มไส้เดือน
    พวกรุ่นพี่ คงต้องให้เพื่อนดาว ไปแฝงตัวเข้ากับกลุ่มก่อการร้ายไปนานแล้ว
    น่าจะคุ้มกว่าไม่ใช่เหรอ"

    แอนนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยกมือเหมือนกับให้สัญญาณ
    เราตกใจ เพราะอลิซาเบธพุ่งมาหวางทางระหว่างแอนนี่กับเรา เพราะเข้าใจว่าเรากำลังจะโดนประหาร

    "หยิบเอกสารมาให้ที" แอนนี่กล่าว ก่อนจะหลับตาทำเป็นไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

    ความตึงเครียดลดอย่างกระทันหัน อลิซาเบธเองก็โล่งอก จากนั้นก็ขยับไปยืนที่เดิม
  • แอนนี่นั่งลงที่โต๊ะ แล้วเชิญให้เรานั่งใกล้ๆ 

    "เหตุผลของการที่เรียนจบไปแล้ว ของพวกรุ่นพี่ แต่ยังวนเวียนอยู่ในมหาลัย..."

    แอนนี่ส่งหลักฐานที่เป็นเหมือนรายงาน พร้อมใบเสร็จ วันที่ รายละเอียด 
    รายชื่อ รูปภาพ สำเนาต่างๆ

    "ก็คือรายได้ จากการเป็นนายหน้า จากการขายของ 
    และภาษีส่วนแบ่ง ที่ตั้งเอาเพื่อรับไปแบ่งปันกันเอง 
    รวมไปถึงผลประโยชน์ที่ได้มาด้วยการยักยอก
    และพี่ดาว ก็เป็นรุ่นพี่เพียงคนเดียว ที่เหลือหลงเหลืออยู่ 
    ที่เราเข้าไปตรวจสอบไม่ได้ เพราะงั้น คนร้ายก็คือ พี่ดาว..."

    เราชะงักก่อนตะคอกใส่หน้านางฟ้าว่า

     "หลักฐาน แค่นี้งั้นเหรอ เฮ้ย" 

    เพื่อนขาประจำของแอนนี่ กรูเข้ามายืนล้อมจนเราต้องชะงักอีกรอบ

    แอนนี่ยกมือขึ้นราวกับว่า ไม่มีปัญหา ทุกคนค่อยๆถอยออกมา

    "พี่โก๊ะอาจจะไม่รู้ แต่เราแพ้ไม่ได้ บางครั้งชัยชนะ ต้องมีการเสียสละ
    เพราะงั้น ความเจ็บปวดของพี่ดาว จะยืนยันข้อกล่าวหาของพวกเราว่า จริง หรือเท็จ"

    แอนนี่ เด็กผู้หญิงคนนี้ เธอรู้อยู่ก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แล้ว

    ว่าเพื่อนดาวมีโอกาสเป็นคนร้ายน้อยมาก เราคิดว่า เราชะงักอีกครั้งรอบใหญ่

    แอนนี่โค้งตามมารยาท ก่อนจะเริ่มทยอยกันออกจากห้อง 
    จนเหลือเพียงเรากับอลิซาเบธ
    ที่ยืนนิ่ง ช็อคกับคำตอบ ที่ไม่มีทางออก


  • "เราเป็นนักสืบ"

    แอนนี่หยุด ก่อนจะเดินออกจากห้อง เมื่อได้ยินเราพูดขึ้นเบาๆ

    "..........."

    เธอหันมามองหน้าของเรา ด้วยความคาดหวัง

    "แน่นอนอยู่แล้ว" 

    เธอกล่าวทิ้งท้ายด้วยเสียงเรียบ ก่อนจะเดินจากไป

    อลิซาเบธค่อยๆเก็บเอกสารชิ้นสำคัญ แล้วโค้งตามมารยาท ก่อนจะนำมันไปเก็บรักษา

    พระอาทิตย์เริ่มตกดิน แสงในห้องสาดเข้ามาเป็นสีแดงส้ม
    สิ่งที่เราต้องทำ มีเพียงอย่างเดียว

    ก็คือ การหาคำตอบ เพื่อพิสูจน์ 
    แล้วหยุดการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายของแอนนี่

    คนร้าย คือ ชายอีกคน ที่ได้รับผลประโยชน์จากกิจกรรมรับน้อง


    (ตอนต่อไป จะเป็นการปรากฏตัวของจ็อฟฟรี่)


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in