เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ธรรมศาสตร์-ทำไม-สาดChaitawat Marc Seephongsai
โดนผีในมหาลัยหลอกครั้งแรก
  •           ตอนนั้นก็ทำศูนย์ฯ ให้คนที่หนีน้ำท่วมมาพักที่ ม. แหละ แล้วทีนี้พอคนมาพักเยอะขึ้น อารารที่ใช้เป็นที่พักเดิมก็ไม่พอ พออาคารไม่พอ พวกของเราที่มำหน้าที่เป็นฝ่ายดูสถานที่ เลยต้องไปหาตึกให้คนมาพักเพิ่ม

              ทีนี้ก็ไปได้ตึกอยู่ตึกหนึ่ง หลังตึกที่พักที่ใช้เป็นตึกหลัก แล้วตึกนี้เป็นตึกของคณะบัญชี แต่ก่อนหน้าจะเป็นของบัญชี เคยเป็นของคณะแพทย์มาก่อน

              และตึกนี้เป็นตึกเดียวที่โต๊ะของ รปภ. มาตั้งอยู่นอกตึก ตอนนั้นพวกเราก็ไม่ได้เอะใจ ว่าทำไม รปภ. ต้องมานั่งนอกตึก ทั้ง ๆ ที่ในตึกก็มีที่ให้นั่ง

              ทีนี้พวกเราเลยเข้าไปดูในตึก เดินไล่ไปทีละชั้นตั้งแต่ชั้น 1-5 ดูว่าแต่ละชั้นมีกี่ห้อง ห้องนึงนอนได้ประมาณกี่คน

              พอไล่เปิดไปทีละห้องจากชั้น 5 ลงมา ก็มาถึงที่ชั้น 3 พอที่ชั้น 3 ก็ไปเปิดดูห้องควบคุมไฟ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร จนฉายไฟไปเจอศาล อยู่ให้ห้อง เพื่อนมันก็บอก ห่าใครเอาศาลมาตั้งในห้องไฟ แล้วมันก็เดินไปหยิบตุ๊กตาในศาลมาดู แล้วก็วางลงที่เดิม

              ตอนนั้นทุกคนก็ไม่ได้คิดอะไร ไล่เดินเปิดห้องต่าง ฟ ต่อไปจนถึงชั้น 1 พอเปิดห้องครบทุกห้องแล้ว เรากับเพื่อนอีกกลุ่มเลยไปเอาของ เตรียมใาทำที่พัก และทิ้งเพื่ออีกกลุ่มให้อยู่ที่ตึก

              ทีนี้นะหว่างขนของขึ้นรถ และกลับมาที่ตึกเดอม ก็ได้ยินสัญญาไฟไหมดังทั้งตึกเลย และเห็นพวกเพื่อนนั่งอยู่หน้าตึกกับ รปภ. เลยถามมันว่ามีอะไร

              พวกมันก็บอกว่า ตึกนี้น่าจะไม่ธรรมดาแล้วมึง เราเลยถามทำไมวะ

              มันบอกเมื่อกี้ตอนกำลังเดินดูตึกอีกรอบ เพื่อนอีกครก็ถามขึ้นมาว่าถ้าไฟไหม้จะทำไงวะ

              พอจบคำว่าไฟไหม้ มันบอกสัญญาณดังทั้งตึกเลย

              พอสัญญาณดังทั้งตึก ทุกคนที่พูดเรื่องไฟไหม้ก็รีบออกจากตึกมานั่งกับลุง รปภ. ตอนแรกพวกเราอีกกลุ่มก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่ได้อยู่ตอนพวกมันพูด และพวกเราก็คิดว่าตึกมันคงเก่าแล้ว และไม่ได้ใช้เรียน ระบบไฟฟ้ามันก็ต้องมีรวนบ้างแหละ จนรอช่างมาปิดสัญญาณ พวกเราเลยเข้าไปในตึกอีกครั้ง

              แต่ก็มีเพื่อนคนนึงบอกว่าชั้นบนมีอะไรบางอย่างอยู่ด้วยนะ ไม่ใช่คน (เพื่อนคนนี้มันมีเซนแรงมาก)

              พอเพื่อนคนนี้พูด ทุกคนเริ่มมั่นใจแล้วว่า เออต้องมีอะไรแน่ ๆ แต่ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าเรามาทำเพื่อคนอื่นอย่ามาหรอกกันเลย

              ทุกคนเลยไปไหว้ศาลแล้วบอกว่าจะมาทำงานเพื่อให้คนที่เจาเดือดร้อนมีที่พัก และหลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มทำงาน จัดสถานที่ ปูที่นอนกัน

              เสร็จงานวันนั้นก็เกือบ ๆ ตี 3 ทุกคนเลยตกลงกันว่าเดี๋ยวไปนอนในห้องนึงที่ปูที่นอนเอาไว้เสร็จแล้ว และค่อยตื่นมาเตรียมของ ทำอะไรต่อมิอะไรต่อตอน 8.00

              ก่อนนอนทุกคนก็ตั้งนาฬิกาปลุก แล้วนอนหลับกันไป พอตอนเช้า เราตื่นคนแรก เราเลยตื่นมาเดินออกไปล้างหน้าแผลงฟันในห้องน้ำ

              และกลับมานั่งรอเพื่อน ๆ ตื่นนอน ตอนนั้นทุกคนก็ทยอยตื่นกันแล้ว แต่พอ 8 โมงตรงยังมีคนนึงไม่ยอมตื่น พอนาฬิกาปลุกตอน 8 โมงดับลง เพื่อนคนนั้นยังไม่ตื่น สัญญาณไฟไหมดังอีกรอบทั้งตึก แต่เริ่มดังจากห้องที่พวกเรานอน และไล่ไปจนดังทั้งตึก

              ทีนี้พวกเราเลยไปตามช่างมาปิดสัญญาณอีกรอบ พอช่างมาถึง ช่างบอกสัญญาณปิดอยู่ เราเลยบอกช่างว่าแล้วทำไมมันยังดังอะพี่ ช่างก็ งง ๆ

              จนเพื่อนเราที่นอนอยู่ในห้องลุกจากที่นอน สัญญาณก็ดับไปเองเฉย ๆ

              พวกเราก็คุยกันว่าเขาคงมาปลุกพวกเราให้ตื่นไปทำงาน

              และวันนี้พวกเราก็ทำงานกันอยู่ในตึกทั้งวันตั้งแต่เช้า จนมืด ทีนี้พวกเราก็ขนของมาที่ตึกกันหลายอย่างแล้ว

              แต่ทั้งตึกก็ยังมีแค่เพื่อนในกลุ่มเรา พอตกกบางคืน ทุกคนก็ยังทำงาน ยังเก็บของ ขนของกันอยู่

              แล้วทีนี้เรากับเพื่อน 5 คนกำลังขึ้นลิฟจากชั้น 1 จะไปชั้น 5 กดลอฟที่ชั้น 5 แต่พอมาถึงชั้น 3 อยู่ดี ๆ ลิฟก็หยุดและเปิดออก

              พอลิฟเปิดออกทั้ง 5 คนก็มองออกไป เห็นเด็กวิ่งลากถุงผ่านหน้าไปแบบช้า ๆ เพื่อนคนนึงเลยออกจากลิฟไป และมองไปทางขวาตามที่เด็กวิ่งไป

              แล้วมันก็ถอนกลับเข้ามามนลิฟ และกดปิดลิฟไปที่ชั้น 5

              เดินออกจากลิฟมาทุกคนมองไปทางขวามือ ทุกคนก็หันซ้ายเดินไปทำงานกันต่อโดยไม่พูดอะไรกัน

               เพราะทุกคนเห็นว่าทางด้านขวาที่เด็กวิ่งไปมันเป็นกำแพง และมันเป็นแบบเดียวกันทุกชั้น

              หลังจากนั้นพวกเราก็ทำงานกันอย่างสนุกสนานเฮฮา

              จนมีเพื้อนคนนึงกับแฟน มาช่วยทำงาน จัดสถานที่ มันก็บอกว่าง่วงแล้วขอไปนอนก่อน มันกับแฟนก็เดินเข้าไปนอนห้องที่พวกเรานอนเมื่อคืนก่อน

              พอนอนไปได้สักพักเพื่อนกับแฟนก็วิ่งออกมาจากห้อง แฟนมันร้องไห้แบบร้องหนักมาก และเพื่อผู้ชายก็หน้าตาตื่นตกใจ แล้วบอกว่ามีคนแก่ ๆ นังมองมัน 2 คนอยู่ที่มุมห้อง เรากับเพื่อนเลยเดอนเข้าไปดู แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร

              เพื่อนกับแฟนมันเลยขอตัวกลับไปนอนที่หอและมันก็ไม่มาช่วยงานอีกเลย

              หลังจากนั้นวันถัดมาก ก็มีอาจารย์กับนักศึกษาจากมหาลัยอื่น มาช่วยทำห้องน้ำให้ที่ดาดฟ้าของตึก พวกเรากับเพื่อนอยู่ที่นี้มาหลายวัน เลยชิน และไม่ได้เล่าเรื่องที่เจอทุกวันให้ใครฟัง

              จนพวกคณะที่มาทำห้องน้ำ มาทำหน้าน้ำให้ที่ดาดฟ้า และพวกเรากับเพื่อนเลยบอกว่า เดี๋ยวพวกผมเตรียมข้าวเอาไว้ให้นะครับ เสร็จงานจะได้ลงมาทานข้าวกัน ก่อนขึ้นไปพวกคณะนั้นยังเฮฮาบอกเตรียมไว้เลยนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะลงมากิน

              เวลาผ่านไปจนฟ้ามืด เรากับเพื่อน ๆ ก็นั่งเล่นกันอยู่หน้าตึกตรงโต๊ะ รปภ. และนั่งคุยอะไรกับลุงยามไปตามเรื่อง

              ก็เห็นคณะที่มาช่วยทำห้องน้ำ ลงมากันแบบหน้าราตื่น เราเลยเข้าไปบอกให้กินข้าวด้วยกัน เตรียมข้าวมาให้แล้ว แต่คณะนั้นก็บอกไม่เป็นไร ค่ำแล้วเดี๋ยสรีบกลับก่อนละกัน

              เจอกันพรุ่งนี้ตอน 12.00 น. เราก็ งง ว่ามาทำงานบนดาดฟ้าตอนเที่ยง ร้อนตายแน่นอน

              ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอไปนั่งเล่นกับลุงยามกับพวกเพื่อนอีกสักพัก ก็คิดขึ้นมาได้ว่า เออ พวกเราลืมบอกเขาไปนิหว่า ว่าตึกนี้มีอะไรบางอย่าง

              คิดได้แบบนั้นเลยโทรไปหาเพื่อนที่รู้จักกันที่มากับคณะทำห้องน้ำด้วย เราเลยถามมันว่ามำไมรีบกลับจังวะ ไม่กอนข้าวด้วยกันก่อน มันก็บอกกินไม่ไหวหรอกมึง โดนผีหลอกกันทั้งกลุ่มเลย

              คิดได้ดังนั้นเราเลยบอกมันไปว่า เออกูลืมบอกมึงว่าตึกนี้มีอะไรบางอย่างอยู่ โทษที ๆ

              หลังจากคณะทำห้องน้ำผ่านไป น่ำเริ่มเข้ามหาลัยบางส่วนแล้ว

              พวกเจ้าหน้าที่มหาลัยก็ย้ายมานอนตึกที่พวกเราทำงานอยู่เป็นกลุ่มแรก โดยพวกเราจัดให้เจ้าหน้าที่นอนที่ชั้น 5 ทีนี้พอตกกลางคืน เข้าหน้าที่ก็เดินลงมาหาแล้วบอกว่าน้อง พวกเพื่อนน้องที่วิ่งเล่นอยู่หน้าห้อง ช่วยบอกให้เลิกเล่นที พวกพี่พักผ่อนไม่ได้เลย

              พวกเราเลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่า มีแค่พวกเราตรงนี้ที่ยืนอยู่ตรงนี้ กับพวกพี่ที่นอนอยู่ข้างบนนั่นแหละครับ มันไม่มีคนที่ไหนมาวิ่งเล่นหรอกเวลานี้

              หลังเราพูดเรื่องนี้จบ เจ้าหน้าที่ขอย้ายไปนอนกับผู้ประสบภัยที่ตึกที่แน่น ๆ ทันที

              ตึกนั้นเลยเหลือแค่พวกเรากับลุงยามเหมือนเดิม

              พวกเราเลยถามลุงยามว่าตึกนี้ทีอะไร ลุงก็บอกก็มีอย่างที่พวกหนูเจอนั้นแหละ บางทีมีคนเดินมาขอบุหรี่ลุง ลุงมวลบุหรี่ให้พอเงยหน้าขึ้นมาก็หายไปแล้ว เป็นแบบนี้บ่อย ๆ เลย


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in