เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MY TOP 10 FAV MOVIES - PRVVprvvw
MY TOP 10 FAV MOVIES OF 2020
  • ปี 2020 กำลังจะหมดไปแล้ว ปีนี้สถานการณ์ไม่ค่อยเอื้ออำนวยกับการออกไปข้างนอก เราเลยมีเวลานอนดูหนังอยู่บ้านค่อนข้างเยอะ ( รวมถึงโรงหนังปิดด้วย ) เลยลองคัดหนังที่ชอบปีนี้มาลองเขียนรีวิวดู
    ขอรวมเป็นหนังที่เราเพิ่งมีโอกาสได้ดูในปี 2020 และหนังที่เข้าฉายในปี 2020 นะคะ


    อันดับ 10 

    Bohemian Rhapsody ( 2018 ) dir. Bryan jay singer



    เป็นหนัง base on true story ของนักร้องนำวง Queen เฟรดดี้ เมอร์คูรี่ ออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้แฟนวง Queen บางเรื่องที่หนังถ่ายทอดออกมาเราไม่ชัวร์ว่าตรงไหนเป็นเรื่องจริงหรือแต่งบ้าง ตรงไหนเป็น fact ตรงไหนเป็น opinion แต่เรื่องนี้ทำให้เราเสียน้ำตาและขนลุกมาก ( โดยเฉพาะท้ายๆเรื่อง ) เรื่องนี้ส่งในนักแสดงนำของเรื่อง Rami  Malek ได้ออสการ์อีกด้วย



    อันดับ 9 HERO 英雄 ( 2002 ) dir. Zhang yimou




    เรื่องนี้เราดูเนื่องจากเราหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สีในวงการภาพยนตร์ พอมาดูหนังเรื่องนี้ เราเลยย้อนไปดูหนังของผู้กำกับจางอี้โมวเรื่องอื่นๆ รู้สึกว่าเขาเป็นผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์เรื่องการใช้สีมากๆ เราชอบวิธีที่เรื่องนี้เอาการใช้มาแบ่ง story ของแต่ละอันมาก ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบในจุดนี้ เรื่องย่อเกี่ยวกับ ฉินอ๋องที่ครองแคว้นฉินต้องการที่จะรวมแผ่นดินขึ้นเป็นฮ่องเต้ ดังนั้นจึงตกเป็นเป้าสังหาร ฉินอ๋องต้องการที่จะหาคนมากำจัดมือสังหาร เมื่อมีนายอำเภอไร้นามผู้หนึ่งมาขอพบพร้อมบอกว่าเป็นคนที่สามารถสังหารมือสังหารเหล่านั้น พร้อมกับเล่าเรื่องราวเหตุการ์ณในการสังหารให้ฟัง



    อันดับ 8 Tenet ( 2020 ) dir. Christopher  Nolan




    เนื่องจากเราเป็นแฟนหนังของโนแลน ก็ขาดไปได้สำหรับหนังโนแลนในลิสต์ของเรา เรื่องนี้บอกตรงๆว่าครึ่งนึงเราเข้าใจอีกครึ่งนึงไม่เข้าใจ ถึงแม้จะมีคนเขียนอธิบายพารากราฟขนาดไหนก็ยังงง แต่เรายังชอบ concept ของเทเน็ตมากๆ ( แต่ชอบน้อยกว่า inception ) เป็นหนังที่เราดูไปคิดไปเหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ ถ้าใครไม่เคยดูเราอยากให้ลองมากๆ 


                         อันดับ 7 Leap 夺冠  Dir. Peter Chan





    " หากเธอไม่ลองทำดู จะรู้ได้ยังไงว่าจะแพ้หรือชนะ ฉะนั้นต้องมีความกล้าที่จะลองทำ " 

    base on true story ของวอลเลย์หญิงทีมชาติจีน  โดยหนังจะเล่าถึงช่วงเวลาที่หลางผิง ยังเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ในทีมชาติ ในสมัยที่จีนต้องการที่จะเปิดประเทศ หนังเล่าถึงความกดดันของนักกีฬาที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ มิตรภาพ ความอดทนของทีมชาติจีนในสมัยนั้น  จนถึงช่วงเวลาที่ทีมได้แชมป์  หลางผิงไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ  แล
    ะรับตำแหน่งโค้ชทีีมชาติอเมริกา ในขณะเฉินจงเหอ คู่ซ้อมและเพื่อนสนิทของหลางผิง รับตำแหน่งโค้ชทีมชาติจีน  ผลการแข่งขันคือทีมชาติอเมริกาชนะไป  หลางผิงตัดสินใจลาออกจากโค้ชทีมชาติอเมริกา และเข้ารับตำแหน่งโค้ชทีมชาตจีน

    เราชอบมิติของตัวละครในเรื่องทั้งในตอนที่ หลางผิงได้แชมป์กับทีมชาติจีน จนมาในวันที่หลางผิงเป็นโค้ชทีมชาติอเมริกา มันคงไม่ง่ายจริงที่ต้องคุมทีมเพื่อให้มาชนะในทีมชาติที่ตัวเองเคยอยู่และมีความทรงจำด้วย แต่ด้วยความที่เป็นโค้ช หน้าที่ในตอนนั้นคือต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกทีมของตัวเอง - เรามองว่าหนังจีนในช่วงหลังสอดแทรกประเด็นในสิ่งที่ประเทศอยากให้เป็น  ( ก็คือมีความ propaganda เช่น 8 hundred )



    อันดับ 6 A sun 陽光普照 ( 2019 )  dir. Chung mong-hong





    ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกดิ่งนิดหน่อย เป็นหนังเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่ง โดยประกอบไปด้วย พ่อ แม่ อาเหอ พี่ชายของอาเหอ โดยเรื่องถูกเล่าในช่วงที่อาเหอถูกจับติดคุก เรื่องราวจะเล่าเกี่ยวกับชีวิตของอาเหอ และครอบครัว เป็นหนึ่งในเรื่องที่เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างหนักมาก เราพร้อมจะร้องไห้ทุก 5 นาที เรื่องนี้เป็นหนังรางวัลที่กวาดรางวัลจากรางวัลม้าทองคำของไต้หวัน ทั้ง best feature film , best director, best film editing 

     *ตอนหารูปเราไปเจอข่าวว่าเรื่องจะเป็นตัวแทนจากไต้หวันไปชิงออสการ์ในสาขาหนังต่างประเทศด้วย

    ป.ล.เราชอบหนังเข้าชิง best feature film ปี 2019 เกือบทุกเรื่อง
     

    SPOIL
    - คือเปิดเรื่องมาเราค่อนข้างที่หลากหลายความรู้สึกกับครอบครัวของอาเหอมาก เราตั้งคำถามกับมันมากๆว่า ครอบครัวควรเป็นยังไง สิ่งที่เขาทำมถูกไหมนะตลอดเวลา เรามองว่ามันมนุษย์มากๆ ความคาดหวังของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ความคาดหวังของลูกที่จะมีต่อพ่อแม่ สิ่งที่ลูกต้องการจากพ่อแม่คืออะไร เราไม่ชอบการกระทำของตัวละครแต่ขณะเดียวกันเราก็เข้าใจตัวละครมากๆ  พ่อแม่ที่ไม่รู้วิธีที่จะปกป้องลูก
    จนถึงตอนสุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าจริงแล้ว ครอบครัว
    ที่กลับมาใส่ใจอาเหอ เพราะห่วงอาเหอหรือว่าเพราะเหลือลูกชายเพียงคนเดียว
    - ในตัวละครของพี่ชายอาเหอ เราคิดว่าจดหมายในตอนท้าย ตอบคำถามหมดแล้วว่าทำไมพี่ชายอาเหอถึงฆ่าตัวตาย ในวันที่เขาต้องการร่มเงาให้หลบแต่มันไม่มี ส่วนตัวเรามองว่ามันเหมือนกับ ในวันที่เขาต้องการที่พัก แม้กระทั่งพ่อแม่ยังเป็นให้เขาไม่ได้ แล้วยังต้องแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม่ บางทีอาจจะความคาดหวังของน้องชายด้วย ในวันที่เขาพยายามทำทุกอย่างให้มันดีแต่กลับแย่ลง
    - ตัวอาเหอ เรามองว่า  a sun ในมุมมองของอาเหอ คือสิ่งที่เขาต้องเผชิญ โดยที่เขาก็รู้ตัวว่ามันไม่มีร่มเงาจากพ่อแม่แน่ๆ ทำอะไรก็รู้สึกผิดที่ผิดทาง ไม่ได้ดั่งใจ คิดจะเริ่มใหม่ยังมีชะงักติดหลัง 


    อันดับ 5  the terorrizers 恐怖分子 (1986 )  dir. Edward yang



    - เกี่ยวกับชีวิตผู้คนใน 3 story ที่มาเกี่ยวข้องกันโดยบังเอิญ 
    หนุ่มลูกคนรวยที่ชอบถ่ายรูปตามเหตุการณ์ต่างๆกับแฟนสาว 
    สาววัยรุ่นลูกครึ่งจากแก็
    งค์วัยรุ่นที่ชอบโทรป่วย
    ชายนักวิทยาศาสตร์กับภรรยานักเขียน

    เราชอบการจัดแสงและคอมโพสเรื่องนี้มากๆ การถักทอเรื่องราวของคนสามคนเข้าด้วยกันอย่างเรียบง่าย ไม่แน่ใจว่าเราควรจัดเรื่องนี้ในหมวดหนังหนักหรือหนังเบาดี ต้องบอกว่าเป็นหนังเนื้อเรื่องหนักที่ถูกถ่ายทอดออกมาสวยมากๆ 



                     อันดับ 4 detention 返校 Dir. John Hsu




     " การพูดถึงอิสรภาพเป็นอาชญากรรม และการอ่านหนังสือต้องห้ามจะทำให้เราตายได้ "

    หนังสร้างจากเกมสยองขวัญ  เล่าในยุคที่ไต้หวันยังมีการใช้กฎอัยการศึกอยู่ ยุคที่การอ่านหนังสือต้องห้ามจะทำให้เราตาย  ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง  ชมรมที่ถูกจัดตั้งขึ้นบังหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นสถานที่สำหรับคัดลอกหนังสือต้องห้าม  โดยมีครูในโรงเรียนที่มีการรู้เห็นด้วย
    หนังเริ่มจาก นักเรียนที่ตื่นขึ้นมาในโรงเรียนคืนหนึ่ง ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกว่ามีอะไรที่แปลกๆเกิดขึ้นจึงค่อยช่วยหาความจริง

    - หนังเรื่องนี้มีภาพหน้ากลัวเยอะมาก สำหรับเรา เอาซะต้องไปหาประวัติศาสตร์ช่วงนั้นมาอ่าน
     หนังเล่าถึงความกลัว จิตใต้สำนึก ความจริง ความโหดร้ายในสมัยนั้นดีมาก มีความปรัชญาการเมือง
    ในช่วงแรกเรานึกว่าไอตัวประหลาดที่มันโผล่มา มันจะเป็นอะไรนะ พอดูจบแล้ว เออ มนุษย์นีแหละน่ากลัวที่สุด 



    อันดับ 3 rebels of neon god 青少年哪吒 

    Dir. Tsai Ming-liang 



    " ah tz let's leave this place. "
    " where do you want to go"
    " .... " 
    " how about you "
    " i have no idea "

    ถ้าพูดรีวิวสั้นๆก็ your life is suck . mine too เล่าถึงชีวิตอันทุลักทุเลขอลวัยรุ่นในไทเป 
    hsiao kang ที่มีแม่เชื่อในเทพเจ้าอย่างมาก 
    ah tze วัยรุ่นที่อาศัยในหอพักโทรมๆ น้ำท่วมห้องทุกครั้ง ผนังกั้นห้องที่บางจนได้ยินเสียงห้องข้างๆ

    ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกันในรูปแบบความเละเทะของชีวิต ชีวิตเฮงซวยจนต้องพึ่งเครื่องดูดวงอัตโนมัติ 



    อันดับ 2 House of hummingbird  벌새 Dir. Kim Bora




    full of people of those faces we know, but how many of those do we really understand 

    อึนฮีเติบโตมาใครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง พี่ชายที่ค่อยแต่ใช้กำลัง พี่สาวที่เอาแต่เที่ยว พ่อแม่ที่ไม่เคยเข้าใจ จนในวันหนึ่งได้เจอกับครูสอนภาษาจีนคนใหม่ ที่เข้าใจเธอ 


    - เรื่องนี้เราแบบร้องไห้เป็นเต่าเผา ในช่วงเวลาที่เราคิดว่เลวร้ายในชีวิตแต่เราเจอคนที่เข้าใจเราจริงๆ  เรารู้สึกเหมือนเป็นอึนฮีเลย ไม่รู้จะอธิบายยังไงแต่อยากให้คนดูเรื่องนี้เยอะ



    อันดับ 1  Better days 少年的你  Dir. Derek Tsang 





    we are in the gutter but some of us are looking at the star

    เฉินเหนียน เป้าหมายใหม่ในการถูกรุมแกล้งที่โรงเรียนหลังจากที่คนเก่าฆ่าตัวตาย วันหนึ่งเผอิญเดินผ่านทางกลับบ้าน ก็ได้เจอแก็งค์เด็กวัยรุ่นกำลังตีกัน เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับเสี่ยวเป่ย 

    เรื่องนี้ทำให้เราเป็นติ่งน้องเชียนซี ใครๆก็อยากมีเสี่ยวเป่ยเป็นของตัวเอง เนื้อเรื่องเหมือนจะเป็นผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ เวอร์ชั่น  2020  
    จริงๆหนังเรื่องนี้พูดถึงปัญหาการกลั้นแกล้งในโรงเรียน อาชญากรรม ชีวิตของการสอบเข้ามหาลัยของจีน ที่ไม่ว่าชีวิตจะเละเทะแค่ไหนแต่ก็ยังต้องไปสอบ  ประโยคที่อยู่ในหนังสือของฉินเหนียนครอบคุมทั้งเรื่องมากๆ เฉินเหนียนอยากพาแม่มีชีวิตที่ดีขึ้นตั้งใจเรียนเพื่อที่จะสอบได้มหาลัยดีๆ ส่วนเสี่ยวเป่ยก็ตามประโยค " เธอปกป้องโลกส่วนฉันจะปกป้องเธอเอง " 
    kiss scene มีความแปลกดี  ช่วง 20 นาทีสุดท้ายโคตรเดอะเบส  

    SPOIL
    - รวมซีนที่เราชอบ คือพูดประมานว่า จ้างให้ปกป้องไหม เฉินเหนียนตอบว่า นายยังปกป้องตัวเองไม่ได้ แล้วนายจะมาปกป้องฉันได้ยังไง  กับ ซีนโกนผม 
    - เหมือนได้ยินว่าเรื่องนี้มีการปรับให้ออกฉายได้ เราอยากดูฟุตเทจเดิมมาก











Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in