เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Life in Thailand ที่นี่ประเทศไทยNitipoom K.
มนุษย์ยืม Byสตังค์ อ่ะมีมั้ย
  • ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนๆของชีวิตคนเราก็มักจะพบกับคำว่า "ยืม" 
    หรือบางคนอาจจะออกเสียงเป็น 'ยื้ม' แต่ก็ช่างมันเถอะนี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ 

            การยืมนั้นอยู่กับเรามาตั้งแต่ประถมแล้ว (หรืออาจจะก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ) การยืมในช่วงวัยเรียนนี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ เนื่องจากบางทีเราอาจจะลืมอุปกรณ์การเรียนต่างๆไม่ว่าจะเป็นดินสอ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด ถ้าหนักหน่อยก็ลืมมันทั้งกล่องดินสอเลย กรณีแรกนี้คือการที่มีบ้างไม่มีบ้างจากอาการลืม 
            แต่ก็มีอีกกรณีนึงที่ป่วยกว่านั้น กรณีนี้ถ้าเทียบกับเกมก็เรียกได้เลยว่า "สายฟรี" สายฟรีที่ว่าก็ตามชื่อตามคอนเซ็ปท์เลยก็คือ "เรียนดีเรียนฟรี อย่างมีคุณภาพ" ใจคอกะจะมาตัวเปล่าหรืออย่างไรกัน แต่เรื่องการยืมอุปกรณ์การเรียนนี่ผมถือว่าธรรมดามากๆ ถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความชั่วร้ายเท่านั้น  
           พอโตขึ้นมาหน่อยนึง การยืมนั้นก็จะวิวัฒนาการตามอายุเช่นกัน 
           จากแค่ยืมอุปกรณ์การเรียน ก็เริ่มพัฒนาไปยืมเงินเล็กๆน้อยๆ เช่น ค่ารถ ค่าขนม บลาๆๆๆ แต่การยืมอุปกรณ์การเรียนก็ยังคงอยู่ (ยันเรียนจบเลยสินะ) ยุคประมาณประถมของผมอยู่ในยุคที่ยังใช้แผ่นวีซีดีในการดูการ์ตูนอยู่ ซึ่งผมก็มีในครอบครองเป็นจำนวนมาก (จำได้เลยว่ามีอุลตร้าแมนกับขบวนการห้าสีเพียบ) แต่แล้ววันหนึ่งจักรวรรดิวีซีดีอันเรืองรองของผมก็ล่มสลายลง จากพลังความชั่วร้ายของการยืม เหตุเกิดขึ้นจากความใจดีมีน้ำใจของผม พอเพื่อนรู้ว่ามีก็มักจะมีขอยืม คืนบ้างไม่คืนบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งที่จำความได้ แผ่นวีซีดีขบวนการห้าสีสองขบวนการร่วมมือกัน ได้ถูกยืมและหายเข้าไปในกลีบเมฆตลอดกาล ทำให้จักรวรรดิล่มสลายลงนับแต่นั้นเป็นต้นมา (ทุกวันนี้ไอ้เรื่องนั้นมีสตรีมมิ่งในอินเตอร์เน็ตเพียบ) 

           หลังจากจักรวรรดิวีซีดีล่มสลายลงโดยมนุษย์ยืม จนกระทั่งขึ้นมอต้น ก็ได้เกิดจักรวรรดิใหม่ขึ้นจากหนังสือการ์ตูน (แต่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เรืองรองเท่าจักรวรรดิอื่น) ซึ่งตอนสมัยมอต้นที่ฮิตๆก็จะเป็นเรื่อง Attack on titan ถ้าใครกล้าเอามาอ่าน(หรืออวดหรือให้เพื่อนยืม)ที่โรงเรียน วันนั้นก็จะกลายเป็นคนป็อปของห้องในทันทีเพื่อนผู้ชายในห้องก็จะต่อคิวยืมจนยาวเหยียดเหมือนแถวคิวโดนัท Krispy Kreme ตอนมาไทยใหม่ๆกันเลยทีเดียว 
          ความป่วยของการถูกยืมหนังสือการ์ตูนที่โรงเรียนไม่ใช่การยืมไม่คืน (อาจจะมียืมเย็นคืนพรุ่งนี้เช้า)
    แต่เป็นสภาพของหนังสือ ที่จากเดิมตอนเช้าสภาพเฟี้ยวฟ้าวใหม่เอี่ยมสุดๆ ตัดภาพกลับมาตอนเย็นเหมือนกองกระดาษทิชชู่โดนรุมโทรม โอ้วม่ายยยยยยยยย
        
          จากโศกนาฏกรรมเอาหนังสือการ์ตูนไปโรงเรียนตอนเช้า แถมฟรีสภาพรุมโทรมตอนเย็น ทำให้จักรวรรดิแห่งมังงะระงับนโยบายทางการทูตลง ปิดประเทศและเก็บสมบัติมังงะล้ำค่าไว้คนเดียว แบบ Wakanda ในจักรวาลมาร์เวลกันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย 
          พอเริ่มเข้ามาสู่ช่วงมอปลาย (เกือบจะปัจจุบัน) จักรวรรดิก็ได้รับอิทธิพลจากนักเรียนโทอเมริกาอย่างพี่เบ๊น ธนชาติในผลงานอย่าง New york 1st time ทำให้ผมเริ่มอ่านหนังสือหลากหลายแนวมากขึ้น ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่หนังสือเรียนกับการ์ตูนอีกต่อไป จักรวรรดิเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมอ่านหนังสือตามที่ตัวเองสนใจ 
          ประมาณช่วงปลายมอต้นถึงต้นมอปลาย ตอนนั้นผมกำลังบ้าฟุตบอลมากๆ ทั้งเตะบอลและดูบอลอย่างกับโอตาคุ (จนเมืองหนังสือการ์ตูนในตู้น้อยใจอยู่พักใหญ่) ทำให้แนวในการอ่านหนังสือเป็นฟุตบอลไปซะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สตาร์ซ็อคเกอร์เป็นกระตัก นิตยสาร Fourfourtwo ภาษาไทย (ทั้งที่สามารถอ่านข่าวในเน็ตได้ ง่ายกว่าด้วย) หนักจนถึงขั้นซื้อหนังสือ สตีวี่ จี ของสยามสปอร์ตในงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ (ตัดงบหนังสือการ์ตูนไปเยอะเลย) ด้วยความที่ภายในจิตใจลึกๆเป็นคนดีมีน้ำใจ จนทำให้โดนมนุษย์ยืมจู่โจมอีกครั้ง 
          เพราะเป็นเดอะค็อป (แฟนลิเวอร์พูล) ก็เลยอยากเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เดอะค็อปคนอื่นในห้องบ้าง ประกอบกับหนังสือที่มาล็อตเดียวกับสตีวี่ จี เรียกร้องให้ผมอ่านอยู่ ก็เลยให้เพื่อนเดอะค็อปคนนี้มันยืมไป 
          ออกจากเรื่องหนังสือบ้าง ด้วยความที่เล่นฟุตบอล(เตะฟุตบอลนะ) และเล่นในหลายตำแหน่งด้วยทำให้มีอุปกรณ์การเล่นฟุตบอลหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ "ถุงมือผู้รักษาประตู" ซึ่งก็ถูกมนุษย์ยืมที่วอนนาบีอยากเป็นโกลล์คีปเปอร์ยืมไปเช่นเดียวกับหนังสือสตีวี่ จี
          ซึ่งทุกวันนี้กูยังไม่ได้ทั้งหนังสือทั้งถุงมือคืนเลยครับ ปัจจุบันเลิกคบกับมนุษย์ยืมสองคนนี้แอนด์เดอะแก๊งมันไปเรียบร้อยแล้วโดยที่แม่งยังไม่คืนของกูเลย ไอสัดดดดดดดดดด (เสียงน้าค่อม)    

    จากจดหมายเหตุที่ผ่านมาตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้มนุษย์ยืมกลายเป็น Ultimate Super Black list ในใจผมเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าแม่งเล่นยืมไม่คืนกันเลยทีเดียว คุณสมบัติของมนุษย์ยืมมีดังนี้
         ข้อแรก      มนุษย์ยืมตอนก่อนยืมจะดูเป็นคนน่าสงสาร เพื่อให้เราใจอ่อน เช่น
    มนุษย์ยืม : เฮ้ยมึง มีเล่มนี้ด้วยหรอ ขอยืมหน่อยดิ หาซื้อไม่ได้เลย นะๆๆๆๆๆๆ นะมึง
    มนุษย์กู : เอิ่ม ก็ได้ๆ
         ข้อสอง      มนุษย์ยืมหลังยืมจะไม่ค่อยพูด แบบว่าเฮ้ยมึงเป็นไรวะ ตอนก่อนยืมมึงยังพูดมากเหมือนพริตตี้เอ็มซียังไงยังงั้นอยู่เลย แต่พอมึงยืมไปแล้วนี่กลายเป็นคนเงียบๆไม่พูดไม่จา ไม่รู้ว่าญาติเสีย หมาตาย ควายเป็นมะเร็งหรือว่าอะไร ทำไมมึงไม่พูด ห๊ะ!
         ข้อสาม     มนุษย์ยืมหลังยืมจะชอบหลบหน้า มนุษย์ยืมจะทำการหลบหน้าเราทันทีไม่ว่ายังไงก็ตาม ทั้งที่แต่ก่อนมึงยังเซ้าซี้กูอยู่เล้ยยยยย
         ข้อสี่         มนุษย์ยืมมักจะทำให้เรารู้สึกผิดเวลาเราทวง แบบว่ามันเกิดจุดแบบนี้ได้ยังไงวะ จุดที่เราทวงของๆเรา กลับกลายเป็นเราต้องรู้สึกผิดซะงั้น      
         ข้อห้า       มนุษย์ยืมจะกลายเป็นมนุษย์ลืมในที่สุด พอถึงกำหนดคืนของมนุษย์ยืมพวกนี้มักจะเป็นมนุษย์ลืมในทันที เฮ้ยกูลืมว่ะ บลาๆๆ จนนานๆเข้าเราก็กลายเป็นมนุษย์ลืมไปในที่สุด

         สุดท้ายก็คงต้องทำใจแล้วตะโกนออกมาว่า "Goodbye My precious!!!!!"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in