ถ้าไม่ได้นึกครึ้มใจลุกขึ้นมาเก็บของ ผมคงไม่รู้ว่าพ่อมีอัลบั้มรูปสมัยเรียนอยู่ด้วย พลาสติกในอัลบั้มติดกันเหนียวไปหมดจนพลิกแต่ละหน้าลำบาก โชคดีเท่าไรแล้วที่ไม่โดนปลวกกินไปก่อน พอผมหยิบขึ้นมาอวดเหมือนเพิ่งพบสมบัติ ผมคิดว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นแววตาแบบนั้นจากพ่อ
พ่อกับอายุทธ หน้าร้อนปี 44 —
พ่อเล่าว่าระหว่างเพื่อนๆ กำลังทาสีห้องสมุดกันอย่างขะมักเขม้น พ่อกับอาที่อาสาไปซื้อข้าวก็ลงไปเล่นน้ำในลำธารหลังเพิงร้านตามสั่งฆ่าเวลา พ่อเป็นคนเริ่มสาดน้ำใส่ก่อน (เบาๆ เอง พ่อบอก) แต่พออายุทธสาดกลับมาอย่างจริงจังก็เลยต้องสู้ หลังจากเปียกเป็นหมากันทั้งคู่ สรุปว่าอายุทธป่วยเป็นไข้แดดกับหวัดกินจนจบค่าย
พ่อถอนใจ ชี้ให้ดูรูปอายุทธทีีอยู่ตรงมุมล่าง “ดูสิ เตะโหดเหมือนโกรธหมา” แน่นอนว่าหมาที่พ่อพูดถึงก็คือตัวพ่อที่ไปสาดน้ำใส่เขาก่อนนั่นแหละ
“แค่ดื่มน้ำฝนจากขัน ต้องเท่ขนาดนี้เลยเหรอวะ” พ่อพึมพำ ไม่รู้เหมือนกันว่าอายุทธรูัตัวไหมว่าโดนแอบถ่าย แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อเก่งมากที่ถ่ายช็อตนี้มาได้หรือเปล่า แต่ก็นะ อายุทธน่ะเท่จริงๆ นั่นแหละ
“เฮ้ย ไม่เท่แล้ว” พ่อเพิ่งนึกอะไรออก เหมือนว่าก่อนจะนั่งดื่มน้ำเท่ๆ บนหินริมทาง อายุทธที่เดินทะเล่อทะล่าเข้าไปตรงบ่อน้ำจะสะดุ้งโหยงเมื่อเจอกบ แถมยังฉอดกบด้วยว่าทำให้ตกใจ
ชาวบ้านแถวนั้นบอกให้เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงจุดชมวิว แต่พ่อบอกว่าสุดท้ายก็ยืนงงหลงทาง และอายุทธก็เล่าเรื่องผี
“ตกลงว่าพ่อเดินถึงยอดไหม”
“ถึงสิ ระดับนี้”
“แล้วไหนรูปถ่ายข้างบนล่ะ”
“ไม่ได้ถ่าย ฟิล์มหมดพอดี”
ผมไม่ได้แย้งพ่อว่ามีเพื่อนคนอื่นตามขึ้นเขาไปด้วย ในเมื่อมีรูปอื่นๆ ที่จับภาพพ่อกับอายุทธอยู่ด้วยกัน รูปพวกนั้นไม่ได้อยู่ในอัลบั้มอย่างเป็นที่เป็นทาง แต่สอดไว้ลวกๆ ตรงหน้าหลังสุดและร่วงลงมาตอนที่ผมค้นพบมันเข้าพอดี เมื่อถือวิสาสะมองและอ่านข้อความด้านหลังรูปที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ของพ่อ ผมจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวที่หากเอาไปถามสุ่มสี่สุ่มห้าคงโดนมะเหงก ก็คนเราไม่ควรแอบอ่านจดหมายที่ไม่ได้ส่งของใครเข้านี่นา
ถึงยุทธ วิศวะฯ
เราจอห์นจากค่ายอาสาเอง จำวันที่เราไปซื้อข้าวแล้วไปเล่นน้ำที่ลำธารได้มั้ย วันนี้เราเอารูปไปล้างแล้วเจอว่าถ่ายนายไว้พอดี ก็เลยส่งมาให้ เผื่อนายอยากเก็บเอาไว้เพราะเราว่ามันน่ารักดี — 12 พ.ค. 2544
จอห์นกับยุทธ, ค่ายห้องสมุด ‘44
ก่อนจะแยกกันเพราะเธอสองคนบอกว่าจะไปขึ้นเขา ชอบอารมณ์รูปนี้เลยอัดมาเผื่อ ให้เธอกับยุทธคนละใบ — รักนะ จาก จิ๊บ
รูปสุดท้ายของฟิล์มม้วนนั้นพอดี คุณลุงคนถ่ายไม่สันทัดเท่าไร บอกว่าได้แล้วๆ แต่กดชัตเตอร์ตอนเราเลิกแอ็คท่า ตอนแรกนึกว่าจะพังแล้ว ดันออกมาดีซะงั้น คุณลุงคือปรมาจารย์ที่แฝงตัวอยู่กลางเขาอย่างแท้จริง
เห็นแล้วคิดถึง หวังว่านายจะสบายดี ไว้ปีหน้าไปด้วยกันอีกนะ — จอห์น, นิเทศ
All photos are from
ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันไปแล้วเนาะ ถึงมันจะดูรู้สึกว่ามากกว่าเป็นเพื่อนกัน แต่สุดท้ายก็เพื่อนกันจริงๆ เพื่อนที่เข้าใจกันและกันน่ะดีที่สุดเลย ถึงยังไงก็ยังไปเจอกันได้ ได้พูดคุยเหมือนวันวานอีก ยังดีกว่าเราไม่เคยเจอกันเลย ว่ามั้ยคะ?
อบอุ่นใจมากค่ะ เราว่าเป็นอัลบั้มที่ล้ำค่าสำหรับมิตรภาพของคนสองคนที่ได้เจอกันนะ ถึงในใจลึกๆ จะรู้ว่ามีเส้นกั้นระหว่างความสัมพันธ์ แต่ยังไงก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเสมอเลยค่ะ ไม่ได้ห่างกันไปไหนเลย
ขอบคุณมากนะคะ เราชอบมากๆ เลยค่ะ เป็นอะไรที่ดีมากเลย เราจะไม่ร้องไห้ค่ะ! เราจะฮึบ! จริงๆ นะ
ฮืออออ ชอบบรรยากาศของเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ชอบทุกอย่างในนี้เลย ความเรียบง่าย ความอ่อนโยน ความเก้อเขินและขี้อายของคุณพ่อ ความชื่นชมอย่างอ่อนหวานและเงียบงัน ความรู้สึกหวานปนขมเมื่่อนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่หลังจากจบค่ายแยกย้ายกันไป คุณพ่อได้เจออายุทธในค่ายปีหน้าอย่างที่หวังไว้รึเปล่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางที่คุณพ่อเจอคุณแม่และมีคุณลูก (ลูกม้าคแน่นอน! เจ้าซิมบ้าม้าค!) และความรู้สึกในแววตาของคุณพ่อตอนที่ได้เห็นรูปของอายุทธอีกครั้ง ;-;
ขอบคุณมากๆๆๆเลยนะคะที่เขียนออกมา ฮือ น้องกิ๊บสุดยอด! จอนยูสุดยอด! JCC จอนยูขึ้นเขาสุดยอด!!!