เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลสตอรี่เกมRyuuseisan★彡
[แปลสตอรี่เกม] AAside Main Story Extra 4
  • AAside Main Story Extra 4


    บทที่ 1 : ผู้ใหญ่ที่แสนโชคร้าย



    จุน : —โชคร้าย

    ตั้งแต่เดินก้าวที่สองแล้วล้มกระดูกหักตอน 1 ขวบ  ชีวิตของเราก็มีแต่ความโชคร้าย

    ความโชคร้ายกลายเป็นเรื่องปกติ จนไม่รู้จัก Hard mode ด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้จักนี่นา ชีวิตที่ไม่โชคร้ายน่ะ

    แต่คนโชคร้ายอย่างเราเองก็เคยได้พบกับความโชคดีอันน้อยนิด เช่นมีเหรียญ 10 เยนหายากปนอยู่ตอนไปตกปลา หรือขึ้นรถไฟที่คนแน่นเอี๊ยดได้แบบเฉียดฉิว

    ในความโชคดีที่นับครั้งได้นั้น สิ่งที่นับว่าโชคดีที่สุด...ตอนนี้เองก็ยังดำเนินต่อไปอยู่

    เอาจริงๆ ก็ไม่มั่นใจเลย... ว่าสิ่งนี้คือโชคดีจริงๆ หรือเปล่า ถ้าถอยออกมาสักหนึ่งก้าวก็อาจจะเป็นโชคร้ายที่ค่อยๆ ดำเนินไปอย่างยาวนานเฉยๆ ก็เป็นได้

    กว่าจะรู้... ก็คงอีกสักพัก

    แต่ยังจำตอนที่เริ่มต้นขึ้นได้อยู่เลย ถ้าจำไม่ผิด—


    [— 4 ปีก่อน ที่นาโกย่า]


    เฟลิกซ์ : มาจนได้นะโทโมรุ ต้องขอบคุณการชี้นำแห่งโชคชะตาเลย


    โคฮารุ : ไม่คิดเลยว่าจะมาจริงๆ... โทษทีนะที่ต้องให้มา


    เฟลิกซ์ : ว่าแต่...ที่หลบอยู่หลังเธอนั่นใครเหรอ? เป็นเพื่อนของโทโมรุใช่ไหม?


    โทโมรุ : อา ให้มาเป็นเพื่อนน่ะครับ เอ้าจุน อย่ามัวแต่หลบสิ ไปทักทายเร็ว



    จุน : ส...สวัสดีครับ...ซุซากิ จุน...ครับ

    โคฮารุ : ดูไม่น่าจะพึ่งพาได้พอให้มาเป็นเพื่อนเลยนะ... ฉันมิตสึรุกิ โคฮารุ เล่นเบส

    ส่วนนี่เฟลิกซ์ เป็น Vocal แล้วก็... เป็นลีดเดอร์ของวงใหม่นั่นแหละ 


    จุน : วง... เป็นเรื่องจริงจริงๆ ด้วย...


    โทโมรุ : เอ๊ะ? มีอีกคนนึงใช่ไหมครับ? ถ้าจำไม่ผิดเป็นมือกลอง...


    โคฮารุ : หมอนั่นยังไม่ใช่เมมเบอร์อย่างเป็นทางการน่ะ วันนี้เลยไม่มาเพราะอยากขอเวลาคิดดูก่อนอีกสักพัก


    เฟลิกซ์ : แล้วเป็นไงบ้าง? ความรู้สึกของโทโมรุน่ะ


    โทโมรุ : ...ผมจะเข้าวงครับ ...ผมอยากเข้าครับ


    จุน : ตัดสินใจทันทีเลยเหรอ!!



    เฟลิกซ์ : C’est très bien! (ยอดเยี่ยมมาก!)

    โคฮารุ : ...จะดีเหรอ ตัดสินใจเอาง่ายๆ แบบนั้น ทำงานไปด้วยทำวงดนตรีไปด้วยมันเหนื่อยเอาเรื่องเลยนะ?


    โทโมรุ : ไม่ได้ตัดสินใจเอาง่ายๆ นะครับ ตั้งแต่วันที่ถูกชวนวันนั้นจนถึงวันนี้ก็คิดมาตลอดเลย

    พอจะนึกออกเลยครับว่าต้องลำบากแน่ แต่ว่า ผม... คือว่า... ไม่รู้จะพูดยังไงดี...


    เฟลิกซ์ : ไม่ต้องฝืนเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดหรอก เพราะตอนนี้มีเสียงดนตรีที่อยากฟังมากกว่าคำพูดอยู่นี่นะ


    โทโมรุ : เสียง...?


    โคฮารุ : จะว่าไปก็ยังไม่เห็นฝีมือจริงๆ ของเจ้าหมอนี่เลยนี่นะ เอากีต้าร์มาด้วยใช่ไหมล่ะ? มาเล่นพร้อมกันเถอะ


    โทโมรุ : ครับ! จะไปเตรียมเดี๋ยวนี้แหละครับ!


    เฟลิกซ์ : ...โอ๊ะ? ตั้งใจเอากีต้าร์มา 2 ตัวเลยเหรอ?


    โทโมรุ : อีกตัวเป็นของจุนน่ะครับ เขาก็เล่นกีต้าร์เหมือนกันเลยให้เอามาด้วย


    จุน : ไม่เห็นรู้เลยว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้...


    โคฮารุ : อะไรกัน หรือว่าพวกนายเคยอยู่วงดนตรีมาก่อน?


    โทโมรุ : เปล่าครับ ไม่ใช่เมมเบอร์ในวง... แต่ให้ช่วยแต่งเพลงให้น่ะครับ


    เฟลิกซ์ : เห... จุนแต่งเพลงได้นี่เอง อยากฟังจัง


    โคฮารุ : มาลองกัน เดี๋ยวทางนี้จะเล่นๆ เบสตามไปเอง


    เฟลิกซ์ : น่าสนุกเชียว งั้นผมลองคิดเนื้อสดๆ ร้องเสริมเข้าไปด้วยดีกว่า


    จุน : เอ๊ะ!? ม ไม่ คือมันไม่ใช่เพลงที่จะให้คนอื่นฟังได้...


    โทโมรุ : เพลงที่จุนแต่งสุดยอดมากๆ เลยล่ะครับ! แต่ก็... สุดยอดจนวงที่จะเล่นเพลงนั้นความสามารถไม่ถึงเลยครับ...

    แถมยังเล่นกีต้าร์เก่งมากๆ... อ๊ะ! เปียโนก็อยู่ระดับโปรด้วยสินะ!


    โคฮารุ : เล่นคีย์บอร์ดเป็นด้วยเหรอเนี่ย งั้นก็ยิ่งมีค่าเลยสิ


    จุน : อา ยิ่งกดดันขึ้นเรื่อยๆ เลย...!


    บทที่ 2 : ณ คอนเสิร์ตเพลงคลาสสิค

    จุน : สตูดิโอซ้อมที่น่าจะแค่ไปเป็นเพื่อนโทโมรุเฉยๆ  

    แต่พอรู้ตัวอีกทีไม่รู้ทำไมนอกจากโทโมรุแล้วตัวเองถึงได้เข้าร่วมเป็นเมมเบอร์ด้วย

    เราเข้าร่วมแฟนท่อมอย่างกับเวลาไอดอลเดบิวต์ลับๆ อย่างไงอย่างงั้น

    ใช่โชคดี...หรือเปล่านะ?

    ตอนนี้ยังไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ แต่ว่า... มีแค่สิ่งนี้เท่านั้นที่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจ


    ...ว่าทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การพบกันในครั้งนั้น


    [— ก่อน Live・Royal・Fes รอบหลักเริ่ม 1 อาทิตย์]


    จุน : คอนเสิร์ตเพลงคลาสสิค?


    เฟลิกซ์ : ใช่แล้ว นักเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาให้มา 2 สองใบน่ะ

    คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ยุ่งหรือเปล่า?


    จุน : แน่นอนว่าไม่มีงานแล้วก็ไม่มีนัดอะไรหรอกครับ แต่... เพลงคลาสสิคงั้นเหรอ...


    เฟลิกซ์ : อ้าว ไม่ชอบเพลงคลาสสิคหรอกเหรอ?


    จุน : ไม่ใช่ไม่ชอบหรอกครับ... แต่จะว่ายังไงดี เหมือนไม่ค่อยถูกกับเพลงคลาสสิคเท่าไร


    เฟลิกซ์ : ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ


    จุน : งั้น...เหรอครับ?


    เฟลิกซ์ : อื้ม เพราะรู้สึกว่าองค์ประกอบของเพลงเพราะๆ ที่จุนแต่งจะมาจากเพลงคลาสสิค

    เลยคิดว่าชอบน่ะ


    จุน : ...แค่บังเอิญน่ะครับ เพราะได้ฟังอยู่บ่อยๆ


    เฟลิกซ์ : งั้นเหรอ... คิดว่าน่าจะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศได้ดีแท้ๆ 


    จุน : เอ๊ะ?


    เฟลิกซ์ : ช่วงนี้กำลังตันเรื่องแต่งเพลงใช่ไหมล่ะ? เลยคิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับการเปลี่ยนบรรยากาศ


    จุน : อะ... ขอโทษนะครับที่ส่งเพลงช้า...


    เฟลิกซ์ : เรื่องส่งเพลงน่ะไม่เป็นไรหรอก แค่เห็นว่าช่วงนี้เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพราะเรื่องนั้นน่ะ


    จุน : ...งั้นผมจะไปครับ


    เฟลิกซ์ : ฝืนตัวเองมันไม่ดีนะ?



    จุน : เปล่าครับ... พอโดนบอกมาแบบนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองอยู่แต่ในบ้านตลอดจริงๆ ด้วย เลยคิดว่านานๆ ทีไปดูคอนเสิร์ตบ้างก็ดี...

    เฟลิกซ์ : ...งั้นเหรอ? งั้นก็ไปกันเถอะ!


    จุน : ครับ... ขอบคุณครับ


    เฟลิกซ์ : อ๊า จริงด้วย พรุ่งนี้ผมมีธุระนิดหน่อย ไว้นัดเจอกันที่คอนเสิร์ตเลยแล้วกัน เดี๋ยวเอาตั๋วให้ไว้ก่อน

    ถ้าไม่อยากไปแล้วก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจนะ!


    ——————————————


    เฟลิกซ์ : อา ฮัลโหลจุนเหรอ? ขอโทษทีนะ คือว่าธุระก่อนหน้ากินเวลาไป

    ดูไม่น่าจะไปทันน่ะ เพราะงั้นช่วยเข้าคอนเสิร์ตไปคนเดียวได้ไหม? แล้วเจอกันนะ À bientót! (แล้วเจอกัน)


    ——————————————



    จุน : ........... เอ~~~~

    (ไม่น่าจะจงใจ...สินะ แต่รู้สึกเหมือนติดกับเลย...)

    (ว่าแต่คนเยอะจัง... ไม่ได้มาที่คนเยอะๆ แบบนี้นานแล้วเลยรู้สึกไม่สงบใจ...)


    นักศึกษา A : เอ๊ะ? วันนี้ที่ฮอลดนตรีมีคอนเสิร์ตเหรอ? 


    นักศึกษา B : เหมือนจะอย่างนั้นนะ คนเยอะเชียว


    จุน : (แถมไม่รู้ว่าเพราะเป็นฮอลของโรงเรียนดนตรีหรือเปล่า ผู้ชมเลยมีแต่นักเรียน... ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย!)

    (เป็นคุณลุงคนเดียวท่ามกลางเด็กๆ ชัดๆ! ใกล้จะโดนมองเป็นคนน่าสงสัยแล้วแน่ๆ!! หรือตอนนี้เลยก็...)


    ยาม : เอ่อ ขอเวลาสักครู่ได้ไหมครับ? มาชมคอนเสิร์ตที่ฮอล...ใช่ไหมครับ?



    จุน : มาแล้วนั่นไง~~~~

    บทที่ 3 : ความเป็นจริงอันเจ็บปวด


    จุน : ไม่ใช่นะครับ คือว่า ผมมีตั๋วนะครับ! ไม่ใช่คนน่าสงสัยอะไร... เอ๊ะ? เอ๊ะะะะะ!?

    จนถึงเมื่อกี้ยังอยู่ในกระเป๋าอยู่เลยแท้ๆ...


    ยาม : ...ช่วยมาด้วยกันหน่อยได้ไหมครับ?


    จุน : ไม่สิ คือผม บอกแล้วไงแค่มาดูคอนเสิร์ตเฉยๆ!


    ??? : นี่ ขอโทษนะ คือว่าไอ้นี่ตกอยู่น่ะ ของพี่ชายหรือเปล่า?


    จุน : ...อ๊ะ นี่แหละ! นี่เลยครับนี่เลย! นี่ตั๋วผมเอง!! ตั๋วของผมนี่แหละ!!


    ยาม : ...ไหนๆ แล้วก็มาด้วยกันหน่อยนะครับ


    จุน : ...โดนมองว่าเป็นคนน่าสงสัยชัดๆ!! บอกแล้วไงครับว่าไม่ได้น่าสงสัย—


    ??? : ...เอ๊ะ? แซคคิว?


    จุน : ...แซคคิว? ...ฉันเหรอ?



    คานาตะ : แซคคิวจริงๆ ด้วยนี่นา! มาทำอะไรที่นี่น่ะ? บังเอิญจัง


    จุน : อ...เอ่อ นิโจคุง...จากวง εpsilonΦ...ใช่ไหมนะ?


    ยาม : ...คนรู้จักเหรอครับ?


    คานาตะ : เอ๊ะ หรือว่าแซคคิว...ไปทำอะไรมา? แบบอาชญากรรมที่ไม่ได้ร้ายแรงมากอะไรงี้?


    จุน : ไม่ได้ทำนะ! ผมเป็นคนบริสุทธิ์! ทั้งที่นัดมาดูคอนเสิร์ตกับเฟลิกซ์ซังแท้ๆ แต่กลายเป็นว่าต้องดูคนเดียว แถมยังทำตั๋วหล่นอีก แถมยังโดนมองว่าเป็นคนน่าสงสัยอีก... โชคร้ายที่สุด...


    คานาตะ : เอ๊ะ งั้นหรอกเหรอ? นี่ๆ คุณยาม ดูเผินๆ คนนี้อาจจะดูแปลกๆ สักหน่อย แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่คนน่าสงสัยอะไรหรอกนะ

    เห็นอย่างนี้ เวลาอยู่บนสเตจนี่เป็นแวมไพร์ผู้โหดร้ายผิดมนุษย์เลยนะ... อ้าว พูดแบบนี้ก็ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่สิเนอะ! ฮะๆ!


    จุน : อ๊า... เรื่องยิ่งดูยุ่งยากเข้าไปใหญ่...


    คานาตะ : เอาเป็นว่า เดี๋ยวผมจะเป็นคนยืนยันตัวตนให้เองน่า! เอ้า นี่บัตรนักเรียนของผม! งั้นไปก่อนนะ—!

    ดูท่าจะยุ่งยาก เพราะงั้นจะหนีล่ะนะแซคคิว


    จุน : ...เอ๋~~~~


    ——————————————


    คานาตะ : เฮ้อ...หนีพ้นรึยังนะ?


    จุน : แฮ่ก แฮ่ก... ไอ้การเดินเรื่องอย่างกับโชโจมังงะนี่มันอะไรกัน...


    คานาตะ : แต่ว่านะแซคคิว ไปทำอะไรที่นั่นน่ะ?


    จุน : ไปทำอะไร? ก็ไปดูคอนเสิร์ต...


    คานาตะ : แต่ว่าวันนี้เป็นวันคอนเสิร์ตสำหรับนักเรียนไม่ใช่เหรอ?


    จุน : เอ๊ะ... จริงด้วย มีเขียนอยู่ในตั๋วด้วย...


    คานาตะ : มาผิดเหรอ? ไม่แปลกหรอกที่ยามจะสงสัยเอา—


    จุน : ฮะๆ... เรื่องปกตินั่นแหละ... เฟลิกซ์ซังเองก็ช่างเอาตัวรอดจากเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างสวยงามเลย...

    ว่าแต่... คือ ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ... ขอบคุณที่มาช่วยนะ...


    คานาตะ : ไม่เป็นไร— นี่เลยได้เหตุผลให้โดดด้วยพอดี ลัคกี้จะตาย! เดิมทีก็ไม่ได้สนใจคอนเสิร์ตแบบนั้นอยู่แล้วด้วย


    จุน : ...นิโจคุงก็มาดูคอนเสิร์ตเหรอ?


    คานาตะ : เรียกซะห่างเหินเชียว! เรียกคานะจังก็ได้น่า! เพราะที่โรงเรียนเป็นสังกัดของที่นี่น่ะ

    ชอบโดนยัดเยียดตั๋วอะไรแบบนี้มาเรื่อยแหละ จะให้ไปทุกอันก็ยุ่งยากน่ารำคาญ


    จุน : สมแล้วที่เป็นโรงเรียนดนตรีชื่อดัง...



    คานาตะ : ที่สำคัญกว่านั้นน่ะนะ— อยากลองคุยกับคนจากแฟนท่อมมาตั้งนานแล้วล่ะ


    จุน : งั้นเหรอ...?


    คานาตะ : ถ้าจำไม่ผิดทุกคนทำวงดนตรีไปด้วย ทำงานไปด้วยใช่ไหมนะ?

    แบบที่เรียกกันว่า “ผู้ใหญ่ที่เดินตามความฝันเรื่อยไป” ใช่ไหมนะ? คิดอยู่เลยว่าคนแบบนั้นเป็นยังไงกันน้า—น่ะ


    จุน : ฮะๆ... ฉันไม่ใช่คนน่านับถือแบบนั้นหรอก... แต่เดิมก็ไม่ได้เป็นคนมีงานทำดีๆ ด้วยซ้ำ...

    เหมือนว่าเพราะมีเมมเบอร์คอยช่วยเหลืออยู่เลยทำวงต่อไปได้น่ะ...


    คานาตะ : ...หืม—


    จุน : ไม่ได้ไล่ตามความฝันอะไรเท่ๆ แบบนั้นหรอก... อะ ถ้าพูดอีกอย่างก็รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝันล่ะมั้ง



    เพราะขนาดฉันเป็นคนแบบนี้แท้ๆ ยังได้เล่นดนตรีต่อไปเลย...


    คานาตะ : เห—


    จุน : ...อ๊ะ  ข ขอโทษที น่าเบื่อสินะ?


    คานาตะ : เปล่านี่ สนุกดีออก


    จุน : ค่อยยังชั่ว...


    คานาตะ : ก็เท่ากับว่าแซคคิวเรียกสถานการณ์ที่ถอยหลังกลับไม่ได้แล้วนี้ว่าเหมือนกำลังอยู่ในความฝันสินะ?


    น่าขำสุดๆ เลย

    บทที่ 4 : Moratorium


    จุน : (อ...เอ๊ะ? หรือจะเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูเข้าซะแล้ว? เมื่อกี้รู้สึกเหมือนโดนดูถูกสุดๆ เลย...)


    คานาตะ : แซคคิวเนี่ย... ทำไมถึงได้อยู่ในวงดนตรีอยู่เหรอ?


    จุน : ทำไม? ...ก็...เพราะโดนชวน...


    คานาตะ : เห~... เพราะโดนชวนเนอะ... แค่โดนชวนก็ทำมาได้ถึงอายุเท่านี้เลยเหรอเนี่ย สุดยอดเลยเนอะ


    จุน : ........


    คานาตะ : แต่ก็นะ นี่เองก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรยิ่งใหญ่ถึงมาทำวงดนตรีหรอก

    แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็อยู่ในวงเพราะมีสิ่งที่อยากได้มานะ? ไม่เหมือนกับนาย


    จุน : คือว่า...ฉัน...


    คานาตะ : แต่ก็น่าสนุกดีนะ ทั้งได้เล่นดนตรี ได้แต่งเพลง ทำกิจกรรรมวงอย่างสนุกสนานไปพร้อมกับเพื่อนๆ ผู้ใหญ่แสนใจดี๊ใจดี~นั่นน่ะ!

    ก็ดูสบายใจดีนะ ถึงไม่มีงานทำดีๆ ก็สามารถอยู่ที่นี่ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรนี่เนอะ



    จุน : อุ...

    คานาตะ : ...เอ๊ะ? อย่าบอกนะว่ากลายเป็นดูเหมือนนี่ไปแกล้งเข้า?

    แต่ว่านะ— ก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอที่จะรู้สึกหงุดหงิดน่ะ? ก็ทำเป็นโชว์การเป็นผู้ใหญ่ดีๆ ที่เลื่อนการเป็นผู้ใหญ่ออกไปก่อนใส่นี่


    จุน : ไม่มีอะไรจะตอบกลับเลยครับ...


    คานาตะ : อ๊ะ คร้าบๆ~! มีอะไรจะถามแซคคิวครับ! 


    จุน : เชิญครับ คานะจัง...



    คานาตะ : พวกแซคคยูงเนี่ย อายุประมาณ 30 กันหมดเลยใช่ไหมล่ะ? แล้วถ้าไม่ชนะเฟสขึ้นมานี่...จะทำยังไงต่อเหรอ? 

    จุน : .........เอ๊ะ


    คานาตะ : จะยุบวงจริงๆ ด้วยเหรอ? แต่ก็งี้แหละเนอะ จะให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ก็สายไปแล้วด้วยสิ


    จุน : ยุบวง...เอ่อ...คือ...


    คานาตะ : ถ้ายุบวงแล้วแซคคิวจะเอาเงินที่ไหนมาใช้กินอยู่เหรอ? คนที่ทำแค่วงดนตรีอย่างเดียวจนอายุเท่านี้แล้ว จะให้หาที่ทำงานใหม่ก็คงยากใช่ไหมล่ะ?

    เพราะงี้เมมเบอร์คนอื่นเลยไม่ออกจากงานกันน่ะสิ? แต่เฟสเองก็ไม่ใช่อะไรที่ชนะได้ง่ายๆ โดยทำอย่างอื่นไปด้วย

    ...เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดอะไรเผื่อไว้เลย? ไม่ได้มีลางสังหรณ์ถึงวิกฤตอะไรเลยเหรอ? ไอ้ที่เรียกกันว่าทำอะไรก็ชิลๆ น่ะเหรอ? นึกว่าเป็นแค่ตำนานเมืองนะเนี่ย~



    อายุตั้งเท่านั้นแล้วมาอยู่ในวงเพราะแค่ตามน้ำคนอื่นไป กำลังวิกฤติอยู่แท้ๆ แต่กลับบอกว่ารู้สึกเหมือนฝันอยู่เนี่ยนะ ไหวปะเนี่ย?

    จุน : HP ที่เหลืออยู่มัน...


    คานาตะ : ...เอาจริงๆ ไม่ว่านายจะใช้ชีวิตยังไงก็ไม่ได้สนใจหรอก

    แต่ยังไงก็มาพยายามกับเฟสสำหรับสร้างความทรงดีๆ ไปด้วยกันเถอะเนอะ


    จุน : ...พยายามไปด้วยกัน? หมายความว่ายังไงน่ะ?


    คานาตะ : นี่คิดไว้ว่าเรียนจบเมื่อไรจะสืบทอดธุรกิจของที่บ้านน่ะ เพราะยังไงพี่ก็คงไม่เอาอยู่แล้ว

    ถึงยังไงวงที่ชนะก็คงเป็นพวกเราก็เถอะ แต่ระดับโลกบ้างล่ะ โปรบ้างล่ะอะไรนั่น นี่ไม่คิดจะเลี้ยงชีพตัวเองด้วยดนตรีหรอกนะ



    อ๊ะ แต่ก็ไม่อยากถูกเหมารวมกับนายหรอกนะ เพราะนี่อยู่ในวงโดยมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง แถมยังจริงจังกับเป้าหมายนั้นด้วย

    จุน : .......


    คานาตะ : ...ว่าไปนั่นเนอะ! โทษทีๆ ไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ หรอก! คงไม่จี๊ดใจเพราะคำพูดล้อเล่นของเด็กม.ปลายหรอกใช่ไหม?

    งั้นนี่ไปก่อนนะ เจอกันอีกทีคงเป็นตอนเฟสวันจริงสินะ? แล้วเจอกันนะ—!


    จุน : อย่างกับโดนโจมตีซ้ำ... ทั้งที่ตายแล้วเลย...


    ——————————————


    จุน : ...ทำไม

    เราถึงได้ทำวงดนตรีอยู่กันนะ?

    ก็จริงอยู่...ที่เพราะโดนชวน

    ทุกอย่าง...เริ่มต้นขึ้นจากตอนนั้น

    เป็นครั้งแรก...ที่ไขว่คว้าอะไรมาไว้ในมือได้...


    บทที่ 5 : ดีใจ

    [ณ แชร์เฮาส์ -Fantôme Iris-]


    จุน : กลับมาแล้วครับ...


    เฟลิกซ์ : ยินดีต้อนรับกลับมานะ จุน ขอโทษที่วันนี้จู่ๆ ก็ไปไม่ได้นะ


    จุน : เฟลิกซ์ซัง ยังตื่นอยู่ด้วยสินะครับ...


    เฟลิกซ์ : อ้าว ดูเหนื่อยเชียว... คอนเสิร์ตมันส์ขนาดนั้นเลยเหรอ?


    จุน : เปล่าครับ คือที่จริงสรุปแล้วก็ไม่ได้ไปคอนเสิร์ต...


    ——————————————


    เฟลิกซ์ : — งั้นเหรอ คานาตะทำแบบนั้น


    จุน : ก็เลยคิดเรื่องนั้นมาตลอด...


    เฟลิกซ์ : การครุ่นคิดอะไรไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก


    จุน : .......เฟลิกซ์ซัง......ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ?


    เฟลิกซ์ : ว่ายังไง?



    จุน : ถึงพวกเราจะไม่ชนะเฟส...แต่ก็จะไม่ยุบวงใช่ไหมครับ?

    เฟลิกซ์ : ...ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้


    จุน : ...เอ๊ะ


    เฟลิกซ์ : เพราะถ้ายังไม่ถึงตอนนั้นจริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าจะเลือกทางไหน


    จุน : อะไรกัน...


    เฟลิกซ์ : แล้วก็...ถึง Fantôme Iris จะเป็นวงที่ผมเริ่มขึ้นมา แต่ก็ไม่ใช่ของผมคนเดียว

    ถ้าโคฮารุ ไดมอน หรือโทโมรุจะออกจากวง ผมก็ห้ามไว้ไม่ได้หรอก

    แล้วถ้าเมมเบอร์เปลี่ยนไป นั่นก็อาจจะไม่ใช่ Fantôme Iris อีกต่อไปก็เป็นได้



    ...แน่นอนว่าจุน ถ้าเธอตัดสินใจว่าจะออกจากวงเองก็เช่นกัน



    จุน : จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด!!

    เฟลิกซ์ : ...จุน?


    จุน : แน่นอนว่าอาจจะดูเหมือนแค่พึ่งพาสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องทุกข์ร้อนนี้ แต่ว่าผม—

    อยากทำต่อไป! อยากอยู่ใน Fantôme Iris!!

    ตราบใดที่วงยังต้องการผม...ยังต้องการเพลงของผม ผมก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!

    อยากจะยึดมั่น...ในที่ที่ตัวเองสามารถอยู่ได้นี้ไว้อย่างสุดชีวิต!!


    เฟลิกซ์ : ...อืม เข้าใจแล้ว


    จุน : อะ...ขอโทษนะครับที่เสียงดัง...


    เฟลิกซ์ : ไม่หรอก ดีแล้วที่ได้ฟังความรู้สึกของเธอ ขอบคุณนะ จุน

    เอ้า เวลาป่านนี้แล้ว ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องเริ่มซ้อมขั้นสุดท้ายสำหรับเฟสรอบหลักแล้วด้วยนี่นะ


    จุน : ครับ...เดี๋ยวหาอะไรดื่มแล้วผมก็จะไปนอนแล้วครับ ราตรีสวัสดิ์นะครับ


    เฟลิกซ์ : Fait de beaux rêves (ฝันดีนะ)


    จุน : ........อย่างนี้นี่เอง

    เรา...เป็นอย่างนั้นนี่เอง

    (เพราะโทโมรุขอร้องมาเลยเริ่มลองแต่งๆ เพลงดู แล้วก็เข้าวงเพราะเฟลิกซ์ซังชวน)

    (และนั่นเป็นครั้งแรก ที่เพลงของตัวเองเป็นที่ต้องการ...)



    เรา...ดีใจที่เป็นแบบนั้นนี่เอง

    ——————————————


    โคฮารุ : เห... ฝีมือใช้ได้กันทั้งคู่เลยนี่ กีต้าร์น่ะ


    โทโมรุ : ทางนี้เองก็ตกใจเลยครับกับการเล่นด้วยกันครั้งแรก โดยเฉพาะการร้องเพลงของเฟลิกซ์ซัง...


    จุน : นั่นคือภาษาฝรั่งเศสใช่ไหมครับ? จู่ๆ เพลงที่แต่งก็มีบรรยากาศหรูหราแนวโกธิคขึ้นมา...


    โคฮารุ : เรื่องฝีมือไม่มีปัญหาเลย แล้วนายล่ะว่าไง เฟลิ?


    เฟลิกซ์ : วิเศษกันทั้งสองคนเลย!

    เรื่องความสามารถด้านกีต้าร์นี่ผ่านกันทั้งคู่เลย แต่ที่สำคัญกว่านั้น... เป็นเพลงที่เพราะมากๆ เลยนะจุน!


    จุน : ...เอ๊ะ?


    เฟลิกซ์ : ดนตรีมีความขึงขังสไตล์คลาสสิก แต่ก็มีความเฉียบคมราวกับใบมีดอยู่ด้วย

    วิสัยทัศน์ของผมในตอนนี้มองออกเป็นรูปร่างอย่างชัดเจนเลย! มาขอบคุณการชี้นำแห่งโชคชะตานี้อีกสักครั้งกันเถอะ!
     

    โคฮารุ : เอ่อ... สรุปคือยังไงนะ?


    เฟลิกซ์ : โทโมรุ จุน... เราต้องการพวกเธอ ช่วยเข้าร่วมวงของพวกเราได้ไหม?


    โทโมรุ : ค...ครับ! รบกวนด้วยนะครับ!!


    จุน : ดีแล้วเนอะ โทโมรุ...



    ........เอ๊ะ? นี่ด้วยเหรอ?


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in