อาเซียนกับการ(เสนอตัว)เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
---------------
การประชุมอาเซียนซัมมิตเมื่อวานที่ผ่านมา มีวาระการประชุมหนึ่งที่ผู้นำอาเซียนได้หารือกับประธานฟีฟ่า จิอานนี่ อัลฟานติโน่ ซึ่งมีเรื่องสำคัญคือการที่ชาติอาเซียนจะร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ปี 2034
เมื่อวานอาเซียนกับฟีฟ่าได้ลงนามเอ็มโอยูกันแล้ว เป็นสัญญาณว่านี่ไม่ใช่แค่แนวคิดแล้ว แต่จะเอาจริง
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของชาติอาเซียน เป็นผลมาจากมติที่ประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียนครั้งที่ 5 เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะมี 5 ชาติคือ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ร่วมกันเสนอแผนต่อฟีฟ่า
พวกเขาทั้ง 5 ประเทศ จะรวมกันบิทสู้กับ จีน ไนจีเรีย อียิปต์ ซิมบับเว และ ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์
ขณะเดียวกัน หลังเซ็นเอ็มโอยูเสร็จ ประธานฟีฟ่ายังได้มอบเสื้อที่ระลึกให้กับ 10 ผู้นำ/ตัวแทนผู้นำชาติอาเซียน ซึ่งจะสังเกตว่าเลขหลังเสื้อแต่ละตัวนั้น ไม่เหมือนกันทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 เลข
เลข 9 ให้ผู้นำรัฐบาลฝ่ายบริหาร (รวมทั้งผู้นำรัฐบาลของไทย)
.
เลข 10 ให้ประมุขของประเทศ (บรูไน กับฟิลิปปินส์)
.
เลข 21 พิเศษสำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ชุดยู-21 ในปี 2021 มาสดๆ ร้อนๆ
.
ถ้าถามความเป็นไปได้ โดยยังไม่ต้องมองดูคู่แข่ง โดยเฉพาะจีน เอาที่ความพร้อมของ 5 ประเทศนั้น งานจัดฟุตบอลโลกที่ในช่วงเวลานั้นจะมีการเพิ่มทีมเป็น 48 ทีมนั้นจะเป็นงานใหญ่ที่มีความซับซ้อน ไม่เหมือนตอนที่กลุ่มชาติอาเซียนคือ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ร่วมกันจัดเอเชี่ยนคัพ เมื่อปี 2007 ซึ่งมีโจทย์มากมายที่ทั้ง 5 ประเทศจะต้งหารือร่วมกันในการประชุมโปรเจกต์ครั้งแรกที่ประเทศมาลเซีย เช่น
- ความพร้อมของสนามแข่ง
- ความพร้อมของการหาทุนมาเตรียมจัดแข่ง
- ความพร้อมของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ รองรับให้พร้อม
- ความพร้อมของการคมนาคมระหว่างทั้ง 5 ประเทศเพื่อรองรับประชากรแฟนบอลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
- ความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยร่วมกัน
- ประเด็นอื่นๆ
.
การลงนามเอ็มโอยูของ 5 ชาติร่วมกับฟีฟ่านั้ยคือการเริ่มต้นความท้าทายที่เกินกว่าใครจะเชื่อว่าจะทำได้ หากนี่คือสัญญาณของการเอาจริง ก็ถือว่าเส้นทางที่ยาวไกลที่จะต้องขับเคลื่อนกันอีกนาน กว่าจะได้รู้ว่าโปรเจกต์นี้จะสำเร็จดั่งที่อาเซียนตั้งใจไว้หรือไม่.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in