dear @ksdholler
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณเคยมองเห็น
หลายสิ่งหลายอย่างแปรเปลี่ยน คุณที่รัก คุณอาจเคยนึกย้อนถึงช่วงเวลาในวันวาน ยามที่คุณมองโลกด้วยสายตาอันอบอุ่นเสมือนเตาผิงในกระท่อมกลางพายุหิมะเย็นเยือกถึงกระดูก ไม่ว่าเรื่องราวจะถาโถมเข้ามาบ้าคลั่งเพียงใดคุณยังคงมีความหวังและความฝันเสมอ สิ่งที่ตัวคุณในตอนนี้อาจยืนมองและค่อนแคะคุณคนนั้นว่าช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย เธอไม่อาจเป็นแสงสว่างให้คนอื่นตลอดเวลา ในสักวันหนึ่งเธอจะเผาผลาญตัวตนของเธอจนมอดไหม้ ฟืนไม้แห้งที่คอยเป็นเชื้อเพลิงความฝันและแรงบันดาลใจจะสลายกลายเป็นขี้เถ้าทิ้งแสงเจิดจ้าสู่ความดับสูญ ความเฉยชาอันน่ารังเกียจจะคืบคลานเกาะกิน และกระท่อมน้อยนั้นจะไม่ใช่สรวงสวรรค์อีกต่อไป
รอบตัวคุณคือมิตรสหายที่ยินดีจะยื่นมือหาเพียงคุณร้องขอ เพียงแต่กล่องเสียงแห้งผากเกินกว่าจะมีวลีใดหลุดลอย ครอบครัวที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอ ทว่ากลับทำให้อ้างว้างยิ่งกว่าการอยู่เพียงลำพัง คุณโหยหาความอบอุ่นในกระท่อมน้อยยามที่มันกลายเป็นซากไม้เย็นชืด คุณโหยหาแสงสว่างยามความมืดกร้ำกราย คุณรังเกียจความไร้เดียงสาโง่งมช่างฝันในอดีตกาล รวมถึงขยะแขยงตนเองที่ยังวาดหวังถึงสิ่งสวยงามที่เป็นไปไม่ได้ คุณอยากจะยินดีเมื่อคนที่คุณรักวิ่งไปข้างหน้าแต่คุณกลับจมดิ่งอยู่ในความผิดหวังที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ในขณะที่ทุกคนดูมีเป้าหมายและความฝัน คุณกลับไม่เหลืออะไร
บางอย่างเหนี่ยวรั้งคุณไว้ให้วนเวียนอยู่ในเขาวงกตลึกลับใต้แผ่นกะโหลก ช่างน่าสงสัยว่ามนุษย์มีรอยหยักยับย่นซับซ้อนมากมายบนสมองเพื่อที่จะกักขังจิตวิญญาณตนไว้หรือเช่นไร เงาของคุณเริ่มเยาะหยัน มันพันธนาการขาทั้งสองข้างให้จมเข้าไปในความดำมืดนั้น จากความสิ้นหวังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นโทสะ เสียงตะโกนด่าทอใส่กันดังขรม ทั้งคุณทั้งมันเหนื่อยหอบอ่อนแรง เมื่อนั้นเองที่คุณเริ่มสังเกตว่าเสียงหัวเราะมันคล้ายกับการร่ำไห้เหลือเกิน
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โลกไม่ได้ฟอนเฟะอย่างที่คุณเคยมองเห็น
คุณยังคงทะเลาะกับเงาตัวเองเป็นครั้งคราว คุณยังคงกลัวที่จะคว้าแสงสว่างจากคนที่ผ่านมา
แมวยังคงปีนป่ายตามราวบันไดบ้านประหนึ่งนักกายกรรมมือฉมัง คุณกลับกล้าพอที่จะยื่นมือออกไปรั้งมันเข้าหาทั้งที่ยามปกติสองแขนของคุณไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะต้อนรับใคร
ไฟที่ดับมอดไป สักวันคงกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in