เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รถไฟจะไปปีนัง...Benjaruck Imsawang
Ep.1 ออกเดินทาง
  •      แม้ชื่อของปีนังจะอยู่ในความสนใจของเรามานานมากแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ไปพบเจอกันสักครั้ง จนมาวันนี้ วันที่ทริปทุกอย่างถูกวางขึ้นอย่างหลวม ๆ เริ่มจากการหาข้อมูลการไปปีนังด้วยรถไฟ กดจองโฮลเทลใน booking.com และสุดท้ายคือการไปหัวลำโพงเพื่อซื้อตั๋วรถไฟ (ซื้อไว้ก่อนเพราะจะได้มีโอกาสเลือกว่าจะนอนเตียงบนหรือเตียงล่าง) นี่คือการเตรียมพร้อมในวันแรก ๆ ของการตัดสินใจ เอ้อ! เราลืมบอกไปใช่ป่ะว่าเราไปคนเดียว :)

         1 วันก่อนออกเดินทาง ความกลัวหลายอย่างก็เริ่มถาโถมเข้ามา กลัวจะหลงทางบ้าง กลัวจะพูดไม่รู้เรื่องบ้าง (สำหรับคนไม่เก่งภาษาอย่างเราอะนะ) กลัวโดนแคนเซิลโฮลเทล และที่สำคัญคือกลัวโดนหลอก เราจึงหาทางแก้ด้วยการเดินเข้า Kinokuniya เพื่อไปซื้อไกด์บุ๊คนำเที่ยวมาเลเซียโดยหวังว่ามันจะสร้างความอุ่นใจให้ในระดับนึง (เนื่องจากเราไม่ปริ้นท์แผนที่ใด ๆ จากเน็ตเลยทั้งแผนที่เที่ยวและแผนที่ที่พัก) ที่นี้ ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว งั้นเราไปสำรวจโลกกันเลย...

    (ได้ตั๋วมาแล้วก็ต้องอวดซะหน่อย อวด passport cover นะ ฮ่า ๆ)

    (เค้าจะได้รู้ว่าเราจะไปไหนกัน...)

         เรามาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงตอน 14.15 น. ขอเวลาเดินเล่นถ่ายรูปสักพักแล้วก็ขึ้นรถกันดีกว่า
    (ไม่สงสัยอะไรเลยสักนิดว่าทำไมรถไปไม่ถึงบัตเตอร์เวอร์ธ)

         พอขึ้นไปบนรถ สิ่งแรกที่เจอคือคนที่จองที่ข้างหน้าเราขึ้นรถพร้อมเราที่กรุงเทพเลยค่ะ เป็นชายหนุ่มมุสลิม เหมือนจะเดินทางกลับบ้านที่หาดใหญ่ (เดาเอานะ) หลังจากรถไฟออกจากสถานีไปได้ 5 นาที นายตรวจก็มาตรวจตั๋วรถไฟ 

    นายตรวจ : ที่ 18 ลงหาดใหญ่, ที่ 17 (เราเอง) ลงบัตเตอร์เวอร์ธ (นายตรวจสีหน้าผิดปกติ) อ้าวหนู ขึ้นรถผิดคันนะ นี่มันคันที่ 9 แต่หนูต้องนั่งคันที่ 2 
    เรา : จริงหรอคะ แล้วหนูต้องทำยังไง 
    นายตรวจ : เดี๋ยวไว้ถึงสถานีบางซื่อแล้วลงไปเดินข้างล่างเปลี่ยนคันก็ได้ เดินสะดวกกว่า
    เรา : (ตอนนั้นอายมาก) งั้นเดี๋ยวหนูเดินไปก็ได้ค่ะ ไกลไหมคะ 
    นายตรวจ : ก็เกือบหัวขบวนอ่ะ
    เรา : (เก็บของแล้วก็วิ่ง...) 

         คือให้วิ่งตอนรถไฟไม่แล่นก็ไม่เท่าไหร่ไง แต่นี่ต้องวิ่งในขณะที่รถไฟก็วิ่งไปด้วย ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเล่นหนังบู๊อยู่ เป้ 2 ใบกับถุงเสบียงอีกใบ ช่วงที่เสียวที่สุดคือตรงรอยต่อระหว่างขบวนนี่แหละ (อันตรายห้ามเลียนแบบ) จนมาถึงคันที่ 2 ที่นั่งของเราก็ถูกคนนั่งจนเต็ม พอดีมีแก๊งป้าจากไต้หวันมาแสวงบุญที่มาเล แล้วเขาจะนั่งคุยกันเราเลยแลกที่ให้ ทำให้เราต้องย้ายมานั่งที่ 21 ซึ่งดีมากเพราะได้ดูวิวทางเดียวกับที่รถไฟแล่น 

    (วิวระหว่างทาง แถวจังหวัดเพชรบุรี)

         พระอาทิตย์เริ่มโบกมือลา ไม่นานนักฟ้าก็มือเต็มที่อันเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกางเตียงแล้ว 
    พอดีทริปนี้เรามาคนเดียวแล้วต้องประหยัดด้วยเลยจองเตียงบนมาในราคา 1,120 บาท (เตียงล่าง 1,210 บาท) แม้เตียงบนจะไม่สบายเท่าเตียงล่าง แต่มันก็ปลอดภัยมาก ๆ ที่สำคัญแอร์เย็นจนนอนไม่ได้เลย (คำเตือน! หากใครเดินทางด้วยรถไฟสายใต้ กรุณาเตรียมเสื้อกันหนาวและถุงเท้ามาให้พอดี ฮ่า ๆ)

    (แอบถ่ายเตียงคนอื่น)

         หลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จเราก็นอนเลย ไม่อยากนั่งเล่นนานกว่านี้เพราะตอนนั้นหิวมาก (ลืมไป มีแอบตื่นมากินไข่ต้มซีพีตอน 3 ทุ่มด้วย เพราะเหตุที่ไม่อยากเสียเงินค่าข้าวเย็นบนรถไฟที่แสนแพง) 

    บ๊าย บาย ราตรีสวัสดิ์ค่ะ 

    โปรดติดตามตอนตื่นมา...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in