สวัสดีค่า  โพสต์แรกขอประเดิมด้วยแอพอ่าน ebook ฟรีค่ะ!  บางคนคงรู้จักและเคยใช้ไปแล้ว  เลยจะมาแนะนำสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักและยังไม่เคยใช้  อยากจะบอกว่ามันสะดวกมาก  คือเราก็พกโทรศัพท์หรือไอแพดไปไหนมาไหนอยู่แล้วใช่มั้ย ถ้าตอนที่ไม่มีไรทำแล้วนึกอยากอ่านหนังสือขึ้นมาก็กดเข้าแอพไปอ่านได้เลย  สะดวกเว่อ

แต่ขอบอกก่อนว่าเราก็ยังชอบหนังสือกระดาษอยู่เหมือนเดิม  แค่อยากหาช้อยส์ใหม่ๆ เพื่อมาอุดความต้องการช่วงที่ไม่มีตังค์เฉยๆ5555555

แอพนี้หนังสืออีบุ้คเยอะมากกกกกก  เยอะจนเลือกไม่ถูก?  มีทั้งหนังสือเก่าหนังสือใหม่เพิ่งออกสดๆ ร้อนๆ ก็ยังมี  แต่มันก็จะมีบางเรื่องที่ไม่มี  แต่ไม่ต้องเสียดายไปเพราะแค่ที่มีอยู่ในนั้นก็แทบจะอ่านไม่หมดแล้ว555555  อาจจะต้องไปอ่านเรื่องอื่นแก้ขัดเอาก็แล้วกันจ้า

ที่บอกว่าไม่ต้องเสียดายคือไม่ต้องเสียดายจริงๆ นะ  บอกเลยว่าแค่ลองเข้าไปลองหาหนังสือในลิบบี้(แม้จะยังไม่ได้อ่าน)ก็รู้สึกคุ้มแล้ว? อันนี้ไม่ได้ถูกจ้างมาแต่อย่างใด  มาแนะนำเพราะชอบจริงๆ

แล้วก็ทุกคนนนน  Libby ไม่ได้มีแค่ ebook มี audioให้ด้วย  ถ้าอยากฟังเสียงไปด้วยอ่านไปด้วยก็ได้  หรือจะเอาไว้เปิดฟังตอนไม่มีเวลาอ่านก็ได้นะ  ได้ฝึกภาษาไปในตัว แถมเรายังโหลดไว้อ่านตอนออฟไลน์ก็ได้นะ  เริ่ดเว่อ

หัวข้อมีตามนี้เลยค่ะ

1.วิธีการใช้

2.วิธีการยืมและจอง

3.แนะนำฟังชั่นในการอ่านอีบุ้ค

*********************

1.วิธีการใช้

เอาล่ะ  อันดับแรกถ้าใครที่เพิ่งเคยใช้  ต้องมีบัญชีของ TK Park ก่อน  มาดูวิธีสมัครกันเลยค่า  เข้าไปสมัครสมาชิกที่ https://www.tkpark.or.th/tha/register อันนี้ก็ฟรีไม่เสียตังใดๆ 

สมัครเสร็จแล้วจำ username, password เอาไว้ด้วยน้า เพราะต้องเอาไปสมัครบัตรยืมหนังสือใน libby ต่อ

ถ้าสมัครบัญชีเสร็จแล้วก็มาล็อกอินเข้าใช้  libby กันเลยค่ะ  ถ้าใครที่ยังไม่เคยล็อกอินเข้าลิบบี้  พอเปิดเข้าไปแอพจะมีข้อความขึ้นมาถามว่ามีบัตรสมุดหรือยัง  ถ้ายังก็กดปุ่ม Not yet  แล้วแอพจะให้หาห้องสมุดในท้องถิ่นของเราค่ะ  จะต้นหาอัตโนมัติจาก location ก็ได้  หรือจะเสิร์ชว่า tk park เลยก็ได้ค่ะ

แต่ถ้ามีก็กด yes แล้วกรอกยูสเซอร์เนมกับรหัสผ่านจาก TK park แล้วกด sign in ได้เลย  เท่านี้ก็ได้บัตรยืมมาแล้วววว 

ทีนี้เราจะมาแนะนำว่ามันมีปุ่มอะไรบ้าง ปุ่มคร่าวๆ ว่าแอพนี้มันใช้ยังไง  อันนี้คือหน้าแรกที่เข้ามาตรงแถบค้นหา  มีแนวที่แนะนำแท็กคร่าวๆ

ถ้ายังไม่รู้จะอ่านอะไรและอยากดูแนวอื่นๆ ก็กดที่ปุ่มถัดไปรูปอาคารเลยค่ะ   ตรงนี้แอพจะแนะนำมาให้เลยว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้าง  แนะนำหนังสือมาให้เห็นกันเด่นๆ เลย  และใช่ค่ะ  เราก็เจอปัญหาไม่รู้จะอ่านอะไรอีกแล้วเพราะมีหลายเรื่องที่อยากอ่าน  ก็เลยเลือกใช้วิธียืมเก็บไว้ก่อน  ว่างตอนไหนค่อยเข้ามาอ่าน55555

หน้านี้คือบอกข้อมูลและแจ้งเตือนการใช้ของเราว่าสถานะของหนังสือที่เรายืม  อันนี้คือหนังสือที่คืนห้องสมุดไปแล้วแบบอัตโนมัติเลยเพราะถึงกำหนดที่ต้องคืน (บางเล่มที่ยืมมาก็อ่านไม่จบหรอกค่ะเพราะไม่ค่อยมีเวลาเลย?)

ตรงหน้านี้จะเป็นชั้นหนังสือของเรา  

ดูที่มุมบนซ้ายใต้คำว่า shelf  >>>  loans คือเล่มที่เรากำลังยืม  holds คือเรื่องที่เราจองรอยืมต่อจากคนอื่น   เราสามารถจองครั้งนึงได้ลิมิตสูงสุด 2เล่ม  ยืมลิมิตสุงสุดคือ 4 เล่ม  

อย่างเล่มนี้เราจองไม่ได้แล้วเพราะเกินลิมิตบัตรยืมของเรา  แอพบอกว่าเราต้องรออีก 12 สัปดาห์ถึงจะได้อ่านเล่มนี้เพราะมีคนกำลังยืมอยู่อีกห้าคน? เพราะฉะนั้นเราก็ต้องรอไปเลยค่าจุกๆ อีก 12 วีค555555555 (ในเลข5มีน้ำตาซ่อนอยู่)

กดปุ่ม holds ด้านบนซ้ายเข้ามา จะเห็นว่ามีเรื่องที่เราก็ยังยืมไม่ได้และกำลังจองอยู่ ต้องรออีก 11 วีคอีกเหมือนกัน เศร้า555555  ไม่เป็นไรค่ะ   เรารอเก่ง  เพื่อคุณมอริอาตี้นานแค่ไหนเราก็รอได้? แถมยังมีเล่มข้างๆ ที่ต้องรออีก 9 วีค รอยาวๆไปเลยค่า55555

แต่ถ้าเกิดเราไม่อยากยืมเล่มนี้ต่อแล้วก็กดตรง manage holds  แล้วกด cancel hold แล้วก็มีตรง  suspended holds คือการจองจะถูกระงับภายในวันนี้ๆ เราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะให้ระยะเวลาที่ถูกระงับเป็นกี่วัน   แต่ไม่ต้องห่วงถ้ามันเกินระยะเวลาที่เรากำหนด  หนังสือจะยังอยู่ในการจองของเราอยู่ค่ะ  เพียงแต่เราต้องอัพเดต

มาที่ปุ่มสุดท้ายก็คือไทม์ไลน์การยืมหนังสือของเราค่ะ

วิธีง่ายมากค่ะ  ถ้าเล่มไหนที่เรายืมได้จะขึ้นว่า borrow  ถ้าเล่มไหนยังยืมไม่ได้จะขึ้นว่า place hold  เราก็กดที่ปุ่มได้เลย  เท่านี้ก็จะได้หนังสือมาไว้ในชั้นแล้วค่า

3.แนะนำฟังชั่นในการอ่านอีบุ้ค  

แบบ ebook จะมีปุ่มสามปุ่มด้านบนขวา  อันแรกคือปรับขนาดตัวอักษรกับธีมของหน้าหนังสือ เราเลือกเป็นซีเปียก็ได้ตามรูปเลยค่ะ

ปุ่มสองคือช่องเสิร์ช  เอาไว้หาพวกคีย์เวิร์ดหรือคำศัพท์ มันจะขึ้นมาให้ว่าคำนี้มีอยู่หน้าในบ้าง  (อันนี้เราไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่)

ช่องสุดท้ายขวาสุดคือบุ้คมาร์ค เผื่อเวลาเราอ่านค้างหน้าไหนไว้  แค่กดตรงมุมขวาบนของหนังสือเลย

ส่วนแบบ audio ดูที่แถบปุ่มด้านบนขวามือ  ปุ่มแรกคือเราเลือกเวลาได้ว่าต้องการแบบไหน  ให้สปีดการอ่านเร็ว-ช้าเท่าไหร่เราเลือกได้เลยค่ะ  

ปุ่มที่สองคือเลือกเวลาให้ audio หยุดเล่นอัตโนมัติ  อันนี้เหมาะมากกับตอนฟังก่อนนอน เราจะได้หลับฝันดีไปเลยไม่ต้องพะวงว่าต้องลุกขึ้นมาปิดอีก สะดวกดีค่ะ  ส่วนปุ่มสุดท้ายก็เป็นบุ้คมาร์คเหมือนกับแบบ ebook เลย

โอเคค่า  จบไปแล้วกับการแนะนำการใช้แอพ Libby แบบละเอียดยิบ แอพดีๆ แบบนี้ไม่มีไม่ได้แล้ววววว ลองโหลดมาใช้กันดูน้า?