เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่ายังเยาว์วัยดอกรัก
เกือบจะดี...อยู่แล้ว
  •       สมัยยังหัวเกรียนเรียน 8 คาบ เคยได้เขียนเรียงความ หรือความเรียงกันบ้างไหมครับ? 
        
          วิชาภาษาไทยในเดือนสิงหาคม คุณครู หรือที่เราเรียกสั้นๆว่า "มิส" ได้สั่งงานให้เด็กนักเรียนหัวโปกอย่างเราทุกคน ที่เราหัวโปกทุกคนเพราะเป็นโรงเรียนชายล้วน โดยให้ไปเขียนเรียงความมาส่งเนื่องใน "วันแม่" และให้ทุกคนออกมาอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนให้เพื่อนฟังหน้าชั้นด้วย

         ตามประสาเด็กคงแก่แล้วจึงเรียนอย่างผม และเพื่อน ๆ หลังห้อง เมื่อถึงเวลาต้องส่งเรียงความก็ไม่มีอะไรไปส่งกับเขา ผมและเพื่อนบางส่วนก็ทั้งโดนหักคะแนนและโดนตีตูดในฐานะกระด้างกระเดื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่าง "มิส" แต่ผมและเพื่อนก็หาใคร่ใส่ใจไม่โดยถือคติว่า "มันคงจะเจ็บและชิน(ตูด)ไปเอง"

         ส่วนเพื่อนๆ สายเรียนบางส่วนก็ได้ออกไปอ่านเรียงความที่ตนเขียนในคาบเรียนอย่างซาบซึ้ง พออ่านเสร็จก็จะเอาสมุดที่เขียนเรียงความไปวางบนโต๊ะมิส แล้วมิสก็จะให้คะแนนเรื่องการเขียนอีกทีหนึ่ง

         จวบจนเพื่อนคนสุดท้ายในห้องที่มีงานเขียนมาส่ง ได้ออกไปอ่านเรียงความเรื่อง "แม่" ของเขาที่หน้าชั้น เพื่อนคนนี้เป็นเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่สูง(เรียกเล่นๆ ว่า เด็กดอย เพิ่งมารู้ทีหลังมาเรียกแบบนี้ไม่ดีเท่าไร) จำไม่ได้แล้วว่าเป็นชาติพันธุ์ใด ซึ่งเข้าใจว่าที่บ้านของเขามีฐานะยากจน ไม่มีกำลังทรัพย์ในการเสียค่าแป๊ะเจี๊ยให้กับโรงเรียนได้ แต่ด้วยการสนับสนุนของ "บราเธอร์" ทำให้ "แบร์โทนี่" (ชื่อใหม่ที่ตั้งตามชื่อนักบุญในศาสนาคริสต์) ได้เรียนหนังสือที่นี่ด้วยกันกับผมและเพื่อน ๆ

         แบร์โทนี่ (ขอเรียกสั้นๆ ว่า แบร์) แบร์อ่านเรียงความเรื่อง "แม่" ที่หน้าชั้นให้เราฟังด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มละมุน แต่แฝงไปด้วยความรันทด แบร์เล่าถึงเรื่องราวความยากลำบากของแม่ที่ต้องทำงานหนัก ต้องอดทนประกอบอาชีพทุกอย่าง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและลูกๆ หลายคน ถึงกระนั้นแม่เองก็ไม่เคยบ่นให้ลูก ๆ ได้ยิน บางครั้งแบร์ก็เห็นแม่มักจะกินข้าวทีหลังลูกๆ เพื่อให้ลูกๆ ได้กินอิ่มก่อน บางครั้งก็เห็นแม่แอบร้องไห้ โดยไม่ให้แบร์และน้องๆ เห็น และแม่มักจะสั่งสอนให้แบร์และน้องๆ เป็นคนดี ให้ขยันขันแข็งหากมีโอกาสได้เรียนหนังสือก็จงตั้งใจเรียน มุมานะ เพื่อวันหน้าจะได้สบายไม่ต้องลำบากเหมือนแม่

         เรียงความเรื่อง "แม่" ของแบร์ในวันนั้น ทำให้พวกเราต้องร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง และตื้นตันอย่างที่สุด ไม่เว้นผู้บังคับบัญชาอย่าง "มิส" ก็ต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวของแบร์เช่นกัน เมื่อแบร์อ่านเรียงความของตัวเองจบ ทุกคนในห้องต่างยืนขึ้นปรบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้แบร์และแม่

         จากนั้นแบร์จึงเดินเอาสมุดที่เขียนเรียงความไปส่งที่โต๊ะมิส เราสังเกตเห็นแบร์มีอาการกระอักกระอ่วน สีหน้าซีดเซียวไม่สู้ดีนัก ค่อยเดินช้าๆ เนิบๆ เหมือนคนไม่มีแรง นั่นคงเป็นเพราะเรื่องที่แบร์เล่าให้เราฟังทำให้แบร์คิดถึงแม่

         เมื่อแบร์กลับไปที่นั่ง มิสจึงได้พลิกหน้าสมุดของแบร์ทีละหน้าๆ เพื่อหาสิ่งที่แบร์เขียน เมื่อหาไม่เจอ มิสจึงพลิกหน้าหลังกลับมาหน้าแรก แต่ก็ยังไม่เจออีก มิสเริ่มฉุนนิดๆ จึงเรียกให้แบร์มาเปิดหน้าที่ตัวเองอ่านให้เพื่อนๆ และมิสฟังเมื่อกี้นี้ แต่แบร์กลับบอกกับมิสว่า

         "ไม่มีครับ"
         "หา หมายความว่ายังไง ไม่มี" มิสขึ้นเสียง
         "แล้วที่เธอกางสมุดอ่านเรียงความหน้าชั้นให้เพื่อนๆ ฟังเมื่อกี้มันคืออะไร" มิสซักไซ้
         "......." แบร์เงียบ
         "หมายความว่า เธอไม่ได้เขียนเรียงความ แต่ที่มาทำเป็นอ่านให้เพื่อนฟังหน้าชั้นนี่คือ ด้นสด ใช่ไหม?"
         "ครับ" แบร์ตอบรับอย่างไม่อาย
         "งั้นเธอมานี่" มิสเรียกแบร์พลางหยิบไม้เรียวที่โต๊ะ
         "แหกตาครู และเพื่อนๆ ได้เนียนมาก เอารางวัล 10 ทีเท่ากับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำมา" มิสพูดพลางหวดก้นของแบร์อย่างไร้ความปรานี

          สำหรับผมและเพื่อนๆ นั้น ได้แต่นั่งหัวราะกัน ตั้งแต่ไม้เรียวแรกลงก้นแบร์ยันไม้สุดท้าย

          ถึงแม้เราจะตลกขบขันในการกระทำของแบร์ แต่ลึก ๆ ในใจเราทุกคนล้วนเชื่อว่าสิ่งที่แบร์เล่ามาทั้งหมดนั้น คือ "ความจริง"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in