เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[email protected]vixtoriagwyneth
December wind, 6 pm dawn

  • From : [email protected]
    Subject : Thank you 





                             สวัสดีไมเคิล ฉันเริ่มเขียนจดหมายฉบับนี้ตอนเวลาตีหนึ่งครึ่ง และมั่นใจว่าเมื่อจดหมายถูกส่งออกไปนั้นคุณคงยังไม่นอนหลับ หรือหากฉันคาดการผิดนั่นก็ไม่เป็นไร ตอนเช้าคุณสามารถเช็คอีเมลล์หลังตื่นนอน ฉันเพียงหวังว่าหลังจากอ่านจบ คุณจะยกโทษให้กับการหายไปอย่างไม่บอกกล่าวของฉัน


                             "ขอบคุณ" นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะกล่าว และฉันรู้ว่าตลอดเวลาที่เราคุยกันฉันมักพูดคำนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ฉันยังยืนยันที่จะกล่าวอีกครั้งด้วยความรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่ง โอ้... คุณจะต้องฟังฉันพูดขอบคุณไปอีกนานเลยทีเดียว ฉันอยากให้คุณรู้ว่าทุกสิ่งที่คุณเคยพยายามทำให้ฉันในช่วงเวลาเที่ยงคืนจนอาจจะถึงตีห้าย่ำรุ่ง วันนี้ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าทุกสิ่งนั้นได้ซึมซับเป็นที่เรียบร้อย และไม่ใช่แค่ความจำอย่างที่ฉันจะไม่มีวีนลืม แต่ข้อความนั้นได้เข้ามาถึงหัวใจ เป็นครั้งแรกในรอบ.. ไม่รู้สิ หนึ่งปีกว่าล่ะมั้ง? ที่ฉันเริ่มมองภาพอนาคตของตนเองโดยไม่มี เขา ความเจ็บปวดที่เคยร่ำไห้ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน น่าเศร้าที่ฉันยังไม่สามารถจัดการได้ดั่งที่สมควร แต่อะไรที่เด่นชัดกว่าความทรงจำเก่าตามหลอกหลอนคือคำพูดของคุณที่ช่วยดึงฉันขึ้นมาจากหน้าผาทะเลน้ำลึก ทุกตัวอักษรนั้นไม่เคยทรงพลังมากเท่านี้มาก่อน ฉันยังนั่งรถผ่านสถานที่เดิม ฟังเพลงเดิม แต่ด้วยความรู้สึกที่เริ่มจะเปลี่ยนไปทีละน้อย ทุกครั้งเมื่ออากาศเริ่มจะจับตัวเย็นลง ฉันมักจะนึกถึงแสงอาทิตย์อันสวยงามตอนหกโมงเย็นที่คุณเคยแสดงให้ฉันดูว่าบนโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงามอีกมากเพียงไหน และความหนาวก็ไม่สามารถกล้ำกรายผ่านเสื้อโค้ทได้อีก อย่างน้อยก็ไม่มากเท่าเมื่อก่อน และหากมีใครถามว่าฉันสามารถเดินฝ่าลมหนาวในเดือนธันวาได้อย่างไร ฉันจะไม่ลังเลที่จะตอบว่าแสงแดดอันแสนอบอุ่นจากหกโมงเย็นคือความหวังเดียว





                             ฉันรู้ว่าฉันใช้เวลานานมากกว่าจะสามารถคิดอะไรอย่างนี้ได้ กับเรื่องความรักฉันก็ไม่เคยเป็นผู้หญิงว่องไวอยู่แล้วนี่นะ บางครั้งฉันอาจทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผลใส่คุณด้วยเพราะจมหลงกบกระแสลม และไม่มั่นใจว่าตนเองจะสามารถก้าวผ่านมาได้ไหม หรือเลวร้ายยิ่งกว่า ฉันอาจบางทียอมฝังตนเองอยู่ในกระแสลมตลอดไปด้วยความขลาด แต่คุณคือคนนั้น คนเดียวที่มองภาพฉันเฉิดฉายท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิ และไม่เคยมองเป็นอื่นถึงแม้รองเท้าบูธจะถูกหยิบมาใส่ซ้ำจากเมื่อสองฤดูก่อน ขอบคุณ ขอบคุณที่เชื่อในตัวฉันแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่ฉันเองยังไม่สามารถเชื่อตนเองได้ด้วยซ้ำไป ความเชื่อของคุณคือการเริ่มต้นใหม่ของฉัน 


                             และถึงแม้ระยะหลังมาเราจะห่างกันไปบ้าง แต่ฉันยังคิดถึงคุณทุกวัน ฉันแค่กลายเป็นผู้หญิงเซื่องซึมภายใต้ผ้านวม ฉันไม่เหมือนเดิมเพราะความไม่มั่นคงทางอารมณ์ ไม่นับศึกในหัวที่สองเสียงตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ถ้าเพียงคุณรู้ทุกสิ่งที่ฉันคิด ฉันเดาว่าคุณคงต้องรีบวิ่งแจ้นกลับไปหาแม่สาวหวานตาสวยคนนั้นเป็นแน่ ไม่รู้สิฉันแค่... เหงา แต่ก็ยื่นมือออกไปหาใครไม่เป็น กลายเป็นว่ายิ่งนานวันฉันยิ่งบอกตัวเองให้เลิกวิ่งเต้นและสงบสติอารมณ์เสียบ้าง จะทำตัวเอาแต่ใจรองหาคุณทุกเวลาที่ต้องการไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันไม่อยากเป็นคนที่เอาแต่พูดเรื่องของตน ฉันอยากให้เราคุยเรื่องของเรา ปัญหาของฉันนอกจากจะคร่ำครึแล้วยังพ่วงมมาด้วยการย้ำคิดย้ำทำ ฉันไม่อยากเข้าไปหาคุณด้วยคำพูดโง่ๆไร้เหตุผลอย่างที่เคยทำ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะคุณพูดถูกยังไงล่ะ ดอกไม้ที่มีค่าจะไม่ลดตัวลงไปง้อแจกัน อันที่จริง กับความสวยงามแบบนั้นสมควรจะมีสิทธิ์เลือกแจกันเองด้วยซ้ำไป แต่เจ้ากระเบื้องเคลือบกำลังร้าวราน และดอกไม้ก็ไม่เคยต้านลมตั้งแต่เดือนธันวา


                              เสียงวิทยุจากสถานีที่ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกยังคงดังตลอดเวลาที่ขับรถ และถึงจะกดเปลี่ยนเพลงแต่นั่นก็เป็นเพียงการกระทำชั่วคราว รถที่พังจะเอาเข้าอู่เดิมเห็นทีคงจะไม่ได้ เจ้าของร้านจากไปนาน และถึงแม้ฉันจะมองทะลุกระจก แต่กุญแจก็ไม่ได้นอนอยู่ก้นกระเป๋า ในตอนนั้นเองที่ฉันเริ่มจะกลืนหายไปกับสายลม มืออบอุ่นที่มองไม่เห็นได้เคลื่อนมากุม ความหนาวอาจยังทิ้งร่องรอยไว้บนแก้มที่เย็นชืด แต่ไม่ใช่ที่หัวใจ และเมื่อหนึ่งวันได้จบลง แสงแดดตอนหกโมงเย็นจะอยู่ตรงนั้นเสมอ 





    รัก
    วิคตอเรียของคุณ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in