Title: The reason why
AU : TH
Pairing: LucasWong x MarkLee
Rating: PG
Note 1: ลูคัส - ฟ้าคราม
มาร์ค - แมงเม่า
เจโน่ - เจิ้ง
แจมิน - แจม
Note 2: ฟิคเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปิน สถานที่ และเหตุการณ์ใดๆ และไม่ได้มีเจตนาใด ๆ จะทำให้ศิลปินเสื่อมเสียทั้งสิ้น————————————————————————————————————————
ตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา ฟ้าครามคิดว่าเขาผ่านการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวิชาสำหรับลงทะเบียนเรียนเมื่อหลายวินาทีก่อน เลือกคณะในการยื่นคะแนนแอดมิชชันเมื่อสองปีที่แล้ว เลือกที่จะออกจากชมรมกีฬาที่ตัวเองถนัด เลือกสายการเรียนในชั้นมัธยมปลาย เลือกที่จะเลิกทำตัวเกเรและตั้งใจเรียนเมื่อจบมัธยมต้น และอีกหลายต่อหลายครั้งที่การตัดสินใจเลือกในชีวิตของเขาเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ได้ส่งผลให้เขากลายมาเป็นตัวเองอย่างทุกวันนี้
ในสายตาของคนอื่น ทุกครั้งที่เขาได้ทำการตัดสินใจเลือกนั้นมักจะปุบปับทันควัน ชนิดที่ว่าถามปุ้บก็จะได้คำตอบในทันที จนหลายต่อหลายคนถึงกับบอกว่าเขานั้นเป็นคนประเภทที่ด่วนสรุปและตัดสินใจอะไรเร็วเกินไป
แต่ไม่มีใครเคยรู้...
ไม่มีใครเคยรู้เลยว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้เพิ่งคิดหาคำตอบให้ตัวเองเดี๋ยวนั้น
ไม่มีใครเคยรู้ว่าคำตอบในใจของเขามันมีอยู่ตั้งนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่เคยแสดงออกหรือบอกเล่ามันออกมาให้คนอื่นฟัง
"นี่มึงลงบีแฮฟตามกูจริงดิ?" แมงเม่า เพื่อนสมัยเด็กของฟ้าครามที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยที่เพิ่งหย่านมแม่ใหม่ ๆ เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นตารางเรียนเทอมนี้บนจอคอมพิวเตอร์ของเขา "มึงเกลียดวิชาท่องจำที่งานเยอะจะตายไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวก็มาบ่นให้กูได้ยินอีกอะว่าขี้เกียจอ่านชีทขี้เกียจทำงานส่ง"
คนตัวเล็กกว่านั่งบ่นงุ้งงิ้งอยู่ข้างหูของเขาขณะไล่สายตามองรายชื่อวิชาอื่น ๆ ที่เขาเลือกลงทะเบียนในเทอมนี้ ซึ่งมันก็เป็นวิชาเดียวกันกับที่เจ้าตัวเลือกลงทั้งหมด
"ก็กูขี้เกียจจัดตาราง เลยลงตามที่มึงส่งมาให้เมื่อคืนไง ว่าแต่มึงเหอะ ลงทันหมดใช่ปะ?"
"ทันดิ เน็ตบ้านมึงลื่นหัวแตกขนาดนี้ไม่ทันได้ไง"
พอได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ทำให้คนฟังอย่างฟ้าครามรู้สึกว่าค่าอินเตอร์เน็ตบ้านที่เขาจ่ายไปเป็นพันต่อเดือนค่อยคุ้มค่าขึ้นมาหน่อย
"กูลงเหมือนมึงแหละดีแล้วเม่า มึงจะได้ลากกูไปเรียนด้วยไง"
"มึงนี่นะ" อีกฝ่ายถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อได้ยิน "โตแล้วก็หัดทำอะไรเองบ้างดิวะ"
"ก็มีมึงอยู่ ทำไมกูต้องทำอะไรเองด้วยล่ะ"
"เดี๋ยวนะไอ้คราม..." แมงเม่ามุ่นคิ้นเข้าหากันน้อย ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงใจความแปลก ๆ จากประโยคเมื่อครู่ "ไหนมึงตอบให้กูชื่นใจหน่อยซิว่าสำหรับมึงแล้วกูเป็นเพื่อนหรือว่าเป็นทาส"
"ทาส"
"สัส"
คงฟังสบถด่าออกมาอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะผละร่างผอมโปร่งของตัวเองที่สูงน้อยกว่าเขาหลายเซนติเมตรออกไปจากหน้าคอมพิวเตอร์เมื่อได้ยินเสียงครืดคราดดังมาจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นอยู่เพราะมีสายเรียกเข้า มือเรียวเอื้อมคว้ามันขึ้นมากดรับ ก่อนจะลุกเดินออกไปยังด้านนอกระเบียงห้อง
ฟ้าครามมองตามแผ่นหลังเล็กของเพื่อนสนิทตัวเอง เขาเห็นอีกฝ่ายกำลังคุยโทรศัพท์และเดินวนไปวนมา สีหน้าของเจ้าตัวดูไม่ค่อยสดใสอย่างเมื่อครู่ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันขณะที่ริมฝีปากของเจ้าตัวก็ขยับไปมาไม่หยุด เดาได้ไม่ยากว่ากำลังถกเถียงอะไรบางอย่างกับปลายสายอยู่อย่างแน่นอน แต่จะเถียงกันด้วยอารมณ์แบบไหนนั้นเขาก็สุดจะรู้
คนตัวสูงกดปิดหน้าจอเว็บลงทะเบียนเรียนของมหาวิทยาลัยลงและเปลี่ยนไปเปิดเว็บที่ใช้ดูซีรี่ส์ออนไลน์แทน เขารู้ว่าตัวเองควรจะใช้ช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่เหลืออยู่ก่อนมหาวิทยาลัยจะเปิดเรียนนี้ให้คุ้มค่า แต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีนอกจากนอนดูซีรี่ส์อยู่ที่ห้องโง่ ๆ โดยที่แอบคาดหวังว่าเพื่อนสนิทของตัวเองนั้นจะนอนอยู่ด้วยกันข้าง ๆ
"มึง..."
แมงเม่าที่เปิดประตูระเบียงและเดินกลับเข้ามาเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงหงอย ๆ
"อืม" เขาพยักหน้ารับรู้ ก็รู้อยู่แล้วน่ะนะว่าเกิดอะไรขึ้น "งั้นเดี๋ยวกูดูเรื่องอื่นก่อนก็ได้ มึงไปกับไอ้เจิ้งเหอะ"
"ง่า...มึงจะดูไปก่อนเลยก็ได้นะ กูไม่โกรธมึงหรอก" แมงเม่าพูดเสียงอ่อย "แล้วเดี๋ยวกูจะกลับไปไล่ดูให้ทันมึง"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่ซีรี่ส์เอง กูรอดูพร้อมมึงก็ได้"
ฟ้าครามเอ่ยพร้อมแสร้งทำท่าทีราวกับไม่ได้คิดอะไรมาก อันที่จริงเขาเห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามาหาแมงเม่าเมื่อครู่เต็มสองตา และสาบานได้ว่าเขาไม่อยากให้เพื่อนสนิทของเขารับสายนี้เลย
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนมองอีกฝ่ายลุกออกไปคุยกับคนที่รออยู่ปลายสาย
เพราะเขาเป็นแค่เพื่อนสนิท
ในขณะที่ไอ้เจิ้ง -- คือคนที่แมงเม่ากำลังคุยด้วยในฐานะว่าที่คนรัก
"มึงไม่โกรธกูนะ" แมงเม่าว่า ขณะเริ่มเก็บกระเป๋าสตางค์รวมถึงหนังสือการ์ตูนที่ขอยืมเขาลงกระเป๋าสะพาย "ถ้ามึงโกรธเดี๋ยวกูซื้อคริสปี้ครีมมาง้อ โอเค๊?"
"หึหึ ไปเหอะน่า กูไม่ได้อะไรสักหน่อย" รู้แหละน่าว่าเพื่อนกับคนที่ชอบน่ะใครสำคัญมากกว่า "แต่ขอสิบชิ้นนะ คริสปี้ครีมที่มึงจะซื้อมาง้ออะ"
"กินหรือยัดห่าวะคราม มึงก็น่าจะรู้ว่าเพื่อนของมึงน่ะบ่อจี๊ กูให้มึงได้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้นแหละ จัม!"
สิ่งที่ได้ยินทำให้ฟ้าครามนึกหัวเราะเยาะตัวเองในใจ
ก็นะ...สถานะของเขากับแมงเม่าน่ะเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ
"นี่มึงเลือกคณะเดียวมอเดียวกับกูหมดทุกอันดับเลยเหรอวะคราม เสี่ยงสัส ๆ ถ้าชวดขึ้นมาก็ชวดหมดเลยนะ มึงคิดอะไรของมึงอยู่เนี่ย"
ฟ้าครามนอนมองใบหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนสนิทที่เปิดดูข้อมูลในเว็บยื่นแอดมิชชันของเขา
แมงเม่าเป็นคนเรียนเก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แถมเวลาที่โดนคุณครูคนไหนขอให้ไปช่วยแข่งขันวิชาการที่ไหนเจ้าตัวก็ไม่เคยอิดออดเลยสักครั้ง หนำซ้ำยังทำได้ดีมากและคว้ารางวัลกลับมาให้โรงเรียนได้อีกต่างหาก ด้วยความที่เป็นเด็กสายวิชาการรวมถึงเป็นลูกรักของคุณครู ก็เลยทำให้เจ้าตัวมีที่เรียนตั้งแต่รอบยื่นโควต้า
ในขณะที่ตัวเขานั้นผลการเรียนลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด แถมตอนรอบรับตรงก็ดันลืมสอบแพทที่ต้องใช้ยื่นคณะเดียวกับแมงเม่า เลยสุ่ม ๆ เลือกคณะที่คะแนนสูง ๆ มาสองสามคณะ ซึ่งผลก็คือไม่ติดเลยสักคณะ
เขารู้...เขารู้ว่าการทำแบบนั้นมันเป็นอะไรที่โง่เง่ามาก
ริมฝีปากเล็ก ๆ ของแมงเม่ายังคงบ่นออกมาไม่มีหยุดเมื่อเห็นว่าทั้งสี่อันดับที่เพื่อนสนิทของตนได้เลือกไว้คือคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเจ้าตัว เพียงแต่คนละสาขาเท่านั้น
"ก็กูอยากเรียนวิศวะที่นี่"
เขาตอบด้วยท่าทีไม่ใคร่ใส่ใจเท่าไหร่ สำหรับเขาสิ่งที่สำคัญมีแค่การได้อยู่กับแมงเม่าแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพียงเท่านั้น
"แต่มันเสี่ยงนะเว้ย" แมงเม่าปิดหน้าเว็บนั้นแล้วเดินหน้ามุ่ยมานั่งบนเตียงข้าง ๆ เขา "กูกลัวแทนมึงอะคราม"
"เอาน่ามึง ถึงไม่ติดรอบนี้ก็ยังมีรอบสองรอบสาม"
"คิดง่ายสัส"
"ก็ไม่รู้จะเครียดไปทำไม น่ามึง กูลองคำนวณคะแนนดูแล้ว กูว่ากูติดแหละ"
และก็เป็นอย่างที่เขาพูด เขาติดอันดับสี่ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นคนละภาควิชากับเพื่อนสนิทแต่ก็ถือว่าเขาทำตามเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จแล้วหนึ่งขั้น
รุ่นพี่ในชมรมของเขาเคยบอกเอาไว้ว่ามหาวิทยาลัยน่ะเปิดกว้างเรื่องการลงทะเบียนเรียน รวมถึงการย้ายภาควิชาด้วย ซึ่งฟ้าครามก็คิดว่าหลังจากที่เข้ามหาวิทยาลัยไปเขาจะต้องพยายามตั้งใจเรียนให้มากขึ้นเพื่อที่เกรดของเขาจะได้ออกมาไม่ขี้เหร่จนเกินไป เขาจะได้ยื่นเรื่องขอย้ายไปเรียนภาควิชาเดียวกันกับแมงเม่าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
Maeng-Mao : คราม
Maeng-Mao : ตอบกู!
Maeng-Mao : ตอบบบ!
Maeng-Mao : กูววววว!
การแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันแชทที่เด้งรัวบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างไม่หยุดหย่อนนั้น ทำให้ตัวละครในเกมที่เขากำลังเล่นอยู่ถึงกับโดนฝั่งตรงข้ามฟาดตายคามือ
ฟ้าครามถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะกดออกจากเกม โดยไม่แม้แต่จะสนเสียงก่นด่าไล่หลังของเพื่อนร่วมทีม
FKhram : อะไร เล่นเกมอยู่
Maeng-Mao : คริสปี้ครีมมึงอะจะเอามั้ย?
FKhram : เอา อยู่หน้าบ้านกูเหรอ
Maeng-Mao : อือ ลงมาเร็วๆ
ไม่ต้องให้อีกฝ่ายพิมพ์ย้ำมาซ้ำสอง ผู้เป็นลูกชายเจ้าของบ้านก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน ก่อนจะพุ่งออกไปนอกบ้านเพื่อเปิดประตูรั้วต้อนรับแขกที่มาเยือนเป็นรอบที่สองของวัน
"ทำไมหน้าหงอยเหมือนหมาหน้าเซเว่นงี้วะ"
ฟ้าครามเอ่ยแซวเพื่อนที่สีหน้าไม่สดใสเสียยิ่งกว่าตอนก่อนจะออกจากห้องของเขาไปเมื่อตอนบ่าย
"ไอ้เจิ้งแม่งงี่เง่าฉิบหาย"
แมงเม่าสบถ และนั่นก็ทำให้คนฟังอย่างเขาพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ก็กูบอกแล้วว่าอย่าไปคุยกับมัน มึงก็ไม่เชื่อกูอะ"
"ก็ตอนนั้นมันไม่ได้งี่เง่าขนาดนี้นี่หว่า"
"แล้วครั้งนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ?"
"เดิม ๆ" แมงเม่าถอนหายใจ "มันไม่ชอบที่กูมาขลุกอยู่กับมึงอะ แต่คือบ้านกูกับบ้านมึงก็อยู่แค่ตรงนี้เองมั้ยวะ ไม่ถึงสิบก้าวเนี่ย ไม่ให้กูอยู่กับมึงแล้วจะให้กูอยู่กับใคร"
เจ้าตัวบ่นพลางพยักพเยิดไปยังบ้านหลังที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านของเขา
ใช่...เพราะบ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้นี่แหละถึงได้ทำให้เขาสนิทกับแมงเม่าตั้งแต่ยังไม่หย่านมแม่ และมันก็ทำให้เขากับแมงเม่ามีกำแพงเพื่อนสนิทที่แน่นหนาและแข็งแรงจนยากจะทำลาย
"น่า มันอาจจะหึงมึงก็ได้"
"หึงกู...กับมึงอะนะ? บ้าปะ มันก็รู้อยู่แล้วไหมว่ากูกับมึงน่ะเพื่อนกัน" แมงแม่าแย้ง "ทีกูยังไม่เคยหึงมันกับไอ้แจมเลย"
ไอ้แจม -- คือเพื่อนสนิทของไอ้เจิ้งที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ก็คล้าย ๆ เขากับแมงเม่านี่แหละ
"ซื่อบื้อว่ะ" ฟ้าครามรู้สึกทอดถอนใจให้กับความไม่รู้อะไรบ้างเลยของเพื่อนสนิทตัวเอง "มันไม่เหมือนกันสักหน่อย"
"ไม่เหมือนกันตรงไหนวะ?"
ก็ตรงที่ไอ้แจมมันไม่ได้ชอบไอ้เจิ้งเหมือนอย่างที่กูชอบมึงไงไอ้ควาย
"ช่างเหอะ กลับบ้านไปนอนไป"
ฟ้าครามเลี่ยงที่จะตอบ พลางทำท่าจะปิดประตูรั้วใส่ ทว่าแมงเม่าไวกว่า มือเล็ก ๆ นั้นรีบเอื้อมมาดันประตูรั้วให้เปิดออกก่อนที่เจ้าตัวจะแทรกร่างของตัวเองจนเข้ามาเบียดอยู่ในอ้อมแขนของเขา
"ถอยดิวะ กูจะเข้าเนี่ย"
"บ้านมึงอยู่ฝั่งโน้นนะ"
คนตัวสูงกว่าเอ่ย พยายามอย่างยิ่งที่จะบังคับตัวเองไม่ให้ยกมือข้างที่ถือถุงคริสปี้ครีมขึ้นมาโอบเอวของอีกฝ่ายเอาไว้
"กูรู้ อยู่มาตั้งสิบ ๆ ปี แต่กูจะมาดูซีรี่ส์กับมึงเนี่ย" แมงเม่าว่า "หรือมึงจะไม่ดูแล้ว?"
"ดู...ดูดิวะ"
เขาเอ่ยเสียงตะกุกตะกักก่อนจะเปิดทางให้อีกฝ่ายเข้ามาด้านใน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจู่ ๆ ถึงได้รู้สึกเหมือนสมองลัดวงจร
แต่แม่ง...ดูโง่เง่าเป็นบ้าเลยที่เผลอประหม่ากับเพื่อนสนิทของตัวเอง
หวังว่าแมงเม่ามันจะไม่รู้...
หวังว่านะ...
"คราม มึงออกจากชมรมเหรอวะ?"
แมงเม่าในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของเขาเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เขาเข้ามาเยี่ยมอีกฝ่ายในช่วงเย็นวันหนึ่ง คนตัวเล็กที่มีเฝือกพันอยู่รอบขามีสีหน้าที่ไม่สดใสนัก และฟ้าครามก็รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร
"อือ"
เขาส่งเสียงในลำคอเป็นการยอมรับ
"ทำไมวะ...มึงออกจากชมรมทำไม?"
"ถ้าไม่มีมึงอยู่ กูก็ไม่รู้จะอยู่ต่อทำไม"
ทั้งเขาและแมงเม่านั้นต่างก็อยู่ชมรมบาสเก็ตบอลเหมือนกัน เขารู้ว่าแมงเม่าบอกกับคนในชมรมไปเรียบร้อยแล้วว่าขอลาออก
และที่เขารู้ก็เพราะว่าตอนที่แมงเม่าได้ทำการตัดสินใจ...เขาเป็นคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
แมงเม่าชอบเล่นบาสเก็ตบอล มันก็แน่อยู่แล้ว ถ้าไม่ชอบอีกฝ่ายก็คงไม่เลือกอยู่ชมรมนี้ เขาเคยได้ยินอีกฝ่ายวาดฝันเอาไว้ว่าอยากจะเป็นนักกีฬาอาชีพ เจ้าตัวเอ่ยบอกกับเขาด้วยความมั่นใจว่าจะตะลุยแข่งบาสเก็ตบอลมัธยมปลายแล้วชิงเหรียญทองมาให้หมดทุกสนาม เผื่อความสามารถจะเข้าตากรรมการและได้เป็นนักกีฬาเยาวชน
ฟ้าครามคิดว่าแมงเม่าทำได้แน่ เขารู้ว่าอีกฝ่ายเก่งและไม่ใช่คนยอมแพ้ง่าย ๆ
แต่ความฝันนั้นของอีกฝ่ายก็พังทลายลงเพราะอุบัติเหตุเมื่อไม่กี่วันก่อน
เขายังจำเสียงของอีกฝ่ายตอนที่เอ่ยถึงผลการวินิจฉัยของแพทย์ได้ดี หมอบอกว่าหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น ขาของอีกฝ่ายจะหายและกลับมาเดินได้เป็นปกติ ทว่าจะไม่สามารถกลับไปเล่นกีฬาหนัก ๆ ได้อีกตลอดชีวิต
แมงเม่าในตอนนั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นสะอื้น แต่สุดท้ายแล้วอีกฝ่ายก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหมดสภาพ และมันก็ทำให้คนที่มองเห็นหยดน้ำตาเหล่านั้นอย่างเขารู้สึกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นเอื้อมเข้ามาบีบที่หัวใจ
มันเจ็บหนึบไปทั้งอก และตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา เขาก็ให้คำสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าเขาจะทำทุกทางเพื่อไม่ให้แมงเม่าต้องร้องไห้เสียใจแบบนี้อีก
หากต่อจากนี้แมงเม่าจะร้องไห้ ก็ขอให้มันเป็นน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความสุข
การออกจากชมรมของแมงเม่าทำให้เขาตัดสินใจที่จะลาออกจากชมรมตามอีกฝ่ายไปโดยไม่ยาก เพราะอันที่จริงแล้วคนที่ชอบเล่นบาสน่ะไม่ใช่เขาหรอก แต่คือแมงเม่าต่างหาก ส่วนเขาน่ะก็แค่ติดสอยห้อยตามมาทีหลัง ก่อนจะค้นพบว่าเขานั้นสามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ดีกว่าคนทั่วไป
ฟ้าครามคิดว่ามันเป็นเพราะตัวเขาสูงกว่าคนอื่น ๆ ในวัยใกล้เคียงกัน แต่แมงเม่าบอกว่ามันคือพรสรรค์
แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ได้สนใจนักหรอกว่าเขาจะเล่นบาสเก็ตบอลเก่งเพราะอะไร เขาสนแค่ว่าเขาอยากใช้เวลาหลังเลิกเรียนกับแมงเม่าเท่านั้น และเมื่อแมงเม่าเลือกที่จะซ้อมบาส เขาก็เลยเลือกที่จะซ้อมบาสด้วย
ถ้าแมงเม่าเลือกเตะบอล เขาก็คงไปเตะบอล
ถ้าแมงเท่าเลือกอ่านหนังสือ เขาก็คงอ่านหนังสือ
มันไม่สำคัญหรอกว่ากิจกรรมนั้นจะเป็นกิจกรรมอะไร เพราะสิ่งเดียวที่เขาสนใจคือการได้อยู่กับแมงเม่า เท่านั้นเลยจริง ๆ
ฟ้าครามชอบช่วงเวลาแบบนี้ ช่วงเวลาที่เขาได้นอนซุกตัวอยู่ในผ้านวมหน้าทีวี ดูซีรี่ส์ในเน็ตฟลิกซ์ แล้วก็มีแมงเม่านั่งห่อตัวเป็นก้อนอยู่ในผ้านวมอีกผืนข้าง ๆ เขา
ดวงตากลมของอีกฝ่ายจับจ้องไปยังภาพเคลื่อนไหวบนจอทีวีโดยไม่กระพริบ และมันก็ทำให้ฟ้าครามลอบอมยิ้ม
แมงเม่าน่ะไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าตัวเองเป็นคนที่น่ารัก แถมน่ารักไปเสียทุกอิริยาบถด้วย
"กูรู้นะว่ามึงมองกูอยู่อะ" ฟ้าครามนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ก่อนที่เจ้าของเสียงจะหันมาสบตากับเขาแล้วเอ่ยออกด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก "หน้ากูมีอะไรติดอยู่เหรอ?"
"เปล่า..." เขาเบือนสายตาหลบไปทางอื่นอย่างโคตรไม่เนียน "ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย"
"วันนี้ตอนที่กูอยู่กับเจิ้งอะ มันพูดอะไรแปลก ๆ ด้วย" แมงเม่ายังคงมองหน้าเขาอยู่ "มันบอกว่ามึงชอบกูแบบที่ไม่ใช่เพื่อน"
"มันบอกกับมึงแบบนั้นเหรอ?"
"อือ กูเลยทะเลาะกับมัน แล้วก็หงุดหงิด แล้วก็มาหามึง"
ฟ้าครามชะงักนิ่งเหมือนอย่างคนที่มีชนักติดหลัง ไอ้เจิ้ง ไอ้ฉิบหายเอ้ย! จะจีบแมงเม่าก็จีบไปสิวะ แต่อย่ามาทำลายความสัมพันธ์ของเขากับแมงเม่าจะได้ไหม!
กว่าเขาจะถนอมความเป็นเพื่อนมาถึงทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ๆ นะเว้ย!
"ที่มึงมาหากูเพราะไอ้เจิ้งมันบอกมึงแบบนั้น มึงเลยสงสัยว่าจริงไหม ถูกหรือเปล่า?"
"ประมาณนั้น" แมงเม่ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา "ไม่รู้ดิคราม กูแบบ...อธิบายไม่ถูกว่ะ"
"แล้วถ้ามันจริงล่ะ?" ฟ้าครามตัดสินใจเอ่ยถาม อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วแหละว่าวันนี้ต้องมาถึง วันที่แมงเม่าระแคะระคายถึงความรู้สึกจริง ๆ ของเขา แต่ก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะไวขนาดนี้ "ถ้ามันจริง มึงจะว่าไง?"
"มึง..." อีกฝ่ายจ้องหน้าเขาแล้วอ้าปากค้าง คล้ายกับจะพูดอะไรสักอย่างออกมาแต่การประมวลผลยังไม่เสร็จสิ้นดี "จริงเหรอวะ?"
"อือ จริงว่ะ" เขายอมรับแต่โดยดี ด้วยรู้ว่าหากเขาโกหกไปยังไงแมงเม่าก็ต้องรู้ เขาทั้งสองคนต่างรู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิต การจะปิดบังกันและกันคงไม่ใช่เรื่องง่าย และฟ้าครามก็ไม่คิดว่าเขาจะปิดบังความรู้สึกของตัวเองได้ดีอะไรมากมายขนาดนั้น "มึงเกลียดกูปะที่กูชอบมึง ชอบแบบที่ไม่ใช่เพื่อน"
เขาคิดว่าบางทีแมงเม่าอาจจะสัมผัสได้ตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่เจ้าตัวไม่แน่ใจ
หรืออาจจะแน่ใจแต่ไม่อยากพูดเพราะไม่อยากให้ความสัมพันของพวกเขาทั้งสองเปลี่ยนไป
"คราม..." แมงเม่าเรียกชื่อเขาพลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกของตัวเอง "เชี่ยละ กูใจเต้นว่ะ มึงจะบอกชอบกูทำไมเนี่ยยย!"
ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำลายความรู้สึกอึมครึมนี้ด้วยการแหวใส่เขา
"ก็มึงคาดคั้นกูอะ แล้วกูก็ไม่อยากโกหกว่ากูชอบมึง"
"แม่ง หยุดพูดเลย!" แมงเม่าสบถพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงเรื่อ "ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
"บอกให้กูหยุดพูดแต่ก็ถามเนอะ"
"ตอบมา!"
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้ตัวอีกทีกูก็ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนกับมึงแล้ว" เขาตอบพลางอมยิ้มน้อย ๆ "แล้วมึงล่ะ?"
"กูอะไร?"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ชอบกู?"
"คิดไปเองปะเหอะไอ้คราม ใครชอบมึง"
"มึงไง หน้าแดงขนาดนี้ยังจะบอกอีกเหรอว่าไม่ได้ชอบ"
"กูเปล่าสักหน่อย"
"อ่าฮะ..." ฟ้าครามหัวเราะเบา ๆ "เปล่าก็เปล่า งั้นมึงจะยอมคบกับกูไหมล่ะ ในเมื่อรู้แล้วว่ากูไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนอะ"
"นี่มึงเคลมไวขนาดนี้เลยเหรอคราม มึงเพิ่งบอกว่ามึงชอบกูเมื่อกี้นี้เองนะ ช่วยจีบกูก่อนได้ไหม"
"กูเคลมไวที่ไหน กูรอมาตั้งแต่ตอนห้าขวบ อดทนกว่ากูเนี่ยไม่มีอีกแล้วนะเม่า"
"มึงนี่แม่ง"
"สรุปคือคบแล้วนะ" ฟ้าครามตัดสินใจรวบรัดโดยไม่รอคำตอบจากอีกฝ่าย "แล้วก็เลิกคุยกับไอ้เจิ้งด้วย โทรไปบอกมันเลยว่ามีแฟนแล้ว"
ตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา ฟ้าครามคิดว่าเขาผ่านการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน
ในสายตาของคนอื่น ทุกครั้งที่เขาได้ทำการตัดสินใจเลือกนั้นมักจะปุบปับทันควัน ชนิดที่ว่าถามปุ้บก็จะได้คำตอบในทันที จนหลายต่อหลายคนถึงกับบอกว่าเขานั้นเป็นคนประเภทที่ด่วนสรุปและตัดสินใจอะไรเร็วเกินไป
แต่ไม่มีใครเคยรู้...
ว่าแมงเม่าคือเหตุผลของทุกการตัดสินใจในชีวิตเขา
[end.]
—————————————————————————————————————————
ตัดจบอย่างรวดเร็วเพราะไม่งั้นมันอาจจะดริฟต์ไปดราม่าได้
ฟิคนี้เป็นฟิคแก้บนมม.ลูมาร์คแหละค่ะ แหะๆ
อันที่จริงที่บนไว้คือจะเปิดรีเควส os 2เรื่อง
แต่ก็ไม่ได้มาเปิดสักที แล้วก็มีพล็อตอันนี้งอกออกมา
เลยตัดสินใจเขียนพล็อตนี้ก่อนแล้วก็มาอัพเลย
เอาเป็นว่าไว้มีโอกาสจะมาเปิด os อีกทีภายหลังนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
#allislovefic
how to comment ใน minimore
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in