โรคหนองใน (Gonorrhea)
โรคหนองใน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่นับว่าอันตราย ถ้าหากผู้ป่วยมิได้รับการรักษาที่ถูกวิธี หากแม้ผู้ติดเชื้อโรคจะแสดงอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่ออกอาการเลยก็ตาม
ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยากล่าวว่า ในปีพุทธศักราช 2555 มีจำนวนผู้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งสิ้น32,972 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อโรคหนองในทั้งสิ้น 7,312 คน (ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในบรรดาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด)
ถึงแม้จำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มลดน้อยลง แต่ก็ถือว่ายังมีไม่น้อยเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆโดยข้อมูลที่เราจะเสนอนี้ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อโรคหนองในได้มากขึ้น
โรคหนองในคืออะไร
โรคหนองใน (Gonorrhea) หรือเรียกอีกชื่อว่าโรคหนองในแท้ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ประเภทหนึ่งที่มีสาเหตุจากการรับเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Neisseria gonorrhoeae ซึ่งเชื้อชนิดนี้สามารถแพร่จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งได้ผ่านการร่วมเพศไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปากโดยที่ไม่ได้สวมใส่ถุงยาง โดยผู้ติดโรคอาจไม่มีการแสดงอาการอะไรเลยก็ได้
ยิ่งไปกว่านี้ เชื้อโรคหนองในยังสามารถแพร่จากมารดาสู่เด็กแรกคลอดระหว่างการคลอด แต่ว่าเชื้อไม่สามารถแพร่ได้ผ่านการใช้ข้าวของด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าขนหนูลูกบิดประตู หรือฝานั่งชักโครก
ลักษณะของโรคโรคหนองในจะปรากฏขึ้นเมื่อไหร่
อาการโรคมักปรากฏให้เห็นประมาณ 2-7 วันหลังจากได้รับเชื้อ แต่ว่าส่วนใหญ่บางทีอาจไม่มีการแสดงอาการใด โดยผู้หญิงบางทีอาจออกอาการช้ากว่าผู้ชาย
สัญญาณและก็อาการของโรคหนองใน ในหญิง
- ผู้หญิงที่ติดโรคหนองในส่วนใหญ่มักจะไม่มีการแสดงอาการใดๆของโรค หรือถ้าหากมีอาการก็จะเป็นไม่มากเท่าไรนักจนถึงบางทีอาจไม่สามารถดูได้ กระทั่งโรคจะอยู่ในระดับร้ายแรงแล้ว ในบางรายอาจมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะ มีตกขาว สีเหลืองหรือสีเขียวไม่ปกติ เจ็บอุ้งเชิงกราน หรืออาจมีเลือดไหลจากช่องคลอดในตอนที่ไม่มีประจำเดือน หรือมีระดูไม่ปกติ
- ถ้าเกิดเชื้อมีการแพร่ไปไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆอย่างมดลูกหรือท่อนำไข่ เชื้อจะทำให้เกิดอาการอักเสบในอุ้งเชิงกราน ซึ่งจะก่อให้ผู้ติดเชื้อโรคมีอาการปวดท้องน้อย มีไข้ และก็เจ็บขณะร่วมเพศ
สัญญาณรวมทั้งอาการโรคหนองใน ในผู้ชาย
- สำหรับเพศชายที่ติดโรคจะแสดงอาการให้เห็นชัดเจนมากกว่าผู้หญิง แต่บางครั้งอาการก็แสดงเพียงเล็กน้อย จนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังติดเชื้อ โดยอาการซึ่งสามารถพิจารณาได้เป็น ปวดแสบขณะปัสสาวะแล้วก็มีมูกสีขาวขุ่นไหลออกมาทางอวัยวะเพศ บริเวณรอบๆรูองคชาติเป็นสีแดงๆ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการติดเชื้อโรคหนองใน
- สำหรับสตรี เชื้อสามารถแพร่ไปไปยังมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบที่อุ้งเชิงกรานและก็อาจส่งผลให้เกิดแผลในส่วนต่างๆที่เชื้อเข้าถึง
- ทั้งยังอาจทำให้เกิดภาวะมีลูกยากด้วย หรืออาจท้องนอกมดลูก ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตได้
- นอกจากนี้การได้รับเชื้อระหว่างมีท้อง อาจจะทำให้เกิดปัญหากับทารก โดยอาจส่งผลให้เด็กในท้องเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบและก็โรคติดเชื้อที่ดวงตากระทั่งอาจจะเป็นผลให้เด็กตาบอดได้ถ้ามิได้รับการรักษา
- สำหรับเพศชาย เชื้อหนองในสามารถแพร่ไปไปยังหลอดเก็บสเปิร์ม ส่งผลให้เกิดลักษณะของการปวดและก็บวมรอบๆอัณฑะ การติดเชื้อนี้จะก่อให้เนื้อเยื่อส่วนที่ติดเชื้อโรคเป็นแผล ซึ่งเป็นสาเหตุของสภาวะมีลูกยาก
- ยิ่งไปกว่านี้โรคหนองในบางทีอาจมีผลต่ออวัยวะแล้วก็ส่วนต่างๆของร่างกายทั้งเพศชายรวมทั้งเพศหญิงได้ไม่ว่าจะเป็นหลอดลม ดวงตา หัวใจ สมอง ผิวหนัง รวมทั้งข้อต่อต่างๆแต่ว่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
หนองในแท้ VS โรคหนองในเทียม
- หลายท่านคงได้ยินชื่อโรคหนองในแท้แล้วก็หนองในเทียมกันมาบ้าง ซึ่งแม้จะมีชื่อคล้ายกันแต่มีต้นเหตุการรับเชื้อ อาการ แล้วก็การรักษาที่แตกต่าง ดังต่อไปนี้
โรคหนองในแท้
- มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียNeisseria gonorrhea
- มีระยะการฟักตัวของโรคประมาณ 1 – 10 วัน
- ลักษณะของเพศชาย มีอาการปัสสาวะแสบขัด แล้วก็มีหนองสีขาวขุ่นข้นไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ซึ่งในระยะแรกๆหนองอาจจะไม่ขุ่นเยอะแค่ไหน แต่หากมิได้รับการรักษาตะทำให้หนองขุ่นขึ้น
- อาการของเพศหญิง มีอาการปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวปริมาณมากรวมทั้งมีกลิ่นเหม็นแรง มีการอักเสบที่ปากมดลูกและท่อปัสสาวะถ้าเกิดมิได้รับการรักษาจะก่อให้โรคแพร่กระจายกระทั่งก่อเกิดภาวะแทรกซ้อน ดังเช่นว่า สภาวะตันในท่อรังไข่นำมาซึ่งการทำให้เป็นหมันหรือมีการตั้งท้องนอกมดลูก
- การรักษาโรคหนองในเทียม ใช้เซฟาโลสปอรินเป็นยาฉีดรวมทั้งให้ยาปฏิชีวนะ อาทิเช่นเซฟิซีม (Cefixime) 400 มิลลิกรัม ครั้งเดียว
โรคหนองในเทียม
- เกิดจากเชื้อแบคทีเรียChlamydia trachomatis
- มีระยะการฟักไข่ตัวของโรคมากยิ่งกว่า 10 วันขึ้นไป
- อาการของเพศชาย ระยะต้นอาจจะแค่เพียงรู้สึกคันที่ท่อปัสสาวะ หรือมีน้ำใสๆถัดมาจะเริ่มข้นขึ้นแล้วไหลออกมาทางท่อปัสสาวะ โดยหนองของโรคนี้จะไม่ข้นเท่าหนองในแท้
- ลักษณะของเพศหญิง อาจจะไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ว่ามีแค่เพียงอาการคันแล้วก็มีตกขาว อาจมีอาการปวดแสบร้อนขณะปัสสาวะร่วมด้วยซึ่งตรวจวินิจฉัยและก็รักษาได้ยาก
- การรักษา ใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม doxycyclin azithromycin แล้วก็ยากลุ่มควิโนโลนซึ่งใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน
การป้องกันการรับเชื้อหนองใน
- การป้องกันการติดเชื้อที่เหมาะสมที่สุด คือการงดมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด (ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก)
- ไม่ควรเปลี่ยนคู่รักหลายครั้ง เพราะว่ายิ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคุณควรใช้ถุงยางทุกหน เพราะว่าถุงยางเป็นวิธีการเดียวที่จะสามารถป้องกันคุณจากโรคหนองในและการตั้งท้องได้
ขอบคุณสาระดีๆเกี่ยวกับโรคหนองในจาก https://www.honestdocs.co/gonorrhea-disease
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in