อ๊อดชอบให้อีกฝ่ายยิ้ม
แต่บากเป็นทมิฬยิ้มยาก
โดยเฉพาะกับผู้คน…
โดยเฉพาะกับเขา…
เพราะงั้นอ๊อดจึงพยายามอย่างมาก
ที่จะแกล้งให้อีกฝ่ายยิ้ม
แต่ก็โดนด่า โดนดุมาตลอด
อ๊อดรู้สึกตัวเองอยากได้ในสิ่งที่มันยาก
แต่ถ้าได้มาแล้วมันก็คุ้มค่าที่จะทำ...
………………
อ๊อดลอบมองร่างสูงผอมผิวกายสีม่วงหม่นที่กำลังยิ้มร่าเห็นเขี้ยวแหลมอยู่ตรงชานบ้าน ในขณะที่ตนเองก็กำลังคัดแยกสมุนไพรในตระกร้าสานเพื่อไปขาย หรือแลกของอื่นๆในเกาะที่ห่างจากนี้ไปหน่อย นานน่าจะเป็นปีแล้วที่พรานทมิฬเป็นเพื่อนบ้านหนึ่งเดียวร่วมเรือนกับตนเอง สนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น แต่รอยยิ้มแบบนั้นอ๊อดก็ไม่ได้เห็นมากนัก
“ ไม่เล่นๆ ฮ่ะๆ “ เขาหัวเราะร่วน ขณะที่เจ้านกแก้วสีสวยเอาจงอยปากงุ้มจิกเบาๆที่แก้มอย่างออดอ้อน
เจ้านี่เป็นนกตัวเล็กที่ขายไม่ได้ ถูกทิ้งให้เน่าคากรงอยู่มุมตลาด อ๊อดนึกว่ามันตาย จึงกะจะเดินผ่านไป กลับเป็นพรานทมิฬที่ตามมาด้วยซะอีกที่รีบเข้าไปดู ประคองเอาเจ้านกขนหรอมแหรมร่อแร่ใกล้ตายมาฟูกฟักรักษา แทบไม่หลับไม่นอนคอยดูจนหายดี แล้วมันก็ตามติดคนช่วยมันตลอดไม่ห่างเลย แม้จะไล่ให้ไปบินหาอิสระก็ไม่ไป ท้ายสุดเจ้านกแก้วสีเหลืองสดใสก็ได้ชื่อว่า สกุณ และอยู่เป็นเพื่อนร่วมเกาะกันมา และเจ้านี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ ทมิฬหนุ่มหัวเราะและยิ้มได้แบบเต็มที่
“ พี่บากจ๊ะ… “ อ๊อดเรียกอีกฝ่าย ใบหน้าคมหันมาหุบยิ้มตีหน้าขรึมแทบจะทันที
“ ว่าอย่างไร อ๊อด? “
“ เย็นนี้กินอะไรดี ไข่ข้าวไหม? “ คนฟังขมวดคิ้ว
“ เดี๋ยวก็ถีบให้ตกแคร่เสียดีไหม ไอ้เด็กคนนี้ “
“ โห น่ากลัวจังเลย แต่ข้าชอบให้พี่ดุข้านะ ดุข้าอีกสิ “ อ๊อดเย้า แต่บากไม่เล่นด้วยกระนั้นก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไรชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งคนนี้ ออกจะเอ็นดูมันเหมือนน้องนุ่ง แต่ดูทรงแล้วอ๊อดคงจะไม่ได้เอ็นดูนับถือเขาเป็นพี่หรอกนะ มันตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำ…
บากรู้ แต่แกล้งทำเป็นหมางเมินไม่รู้
แต่ที่บากไม่รู้ คืออ๊อดมันรู้ และมันก็พยายามทำให้รู้
ให้รู้ถึงสิ่งที่อยากบอกและอยากจะได้เห็น
“ อย่ามาทำหน้าทะเล้น “ คนผิวม่วงปราม
“ ก็ฉันชอบทำหน้าแบบนี้นี่นา “ บากถอนใจ แล้วก็เลิกสนเจ้าเด็กโตแต่ตัวอย่างอ๊อด หันไปจัดการเอาแหมาถอเสียดีกว่าจะต่อล้อต่อเถียง สกุณตัวน้อยบินมาใกล้ เกาะไหล่เอนหัวซบเช่นเดิม
“ ว่าอย่างไร สกุณ หิวแล้วรึ? “
“ ยังไม่หิวจ้ะ “ นกแก้วสีสดตอบฉะฉาน มันเป็นนกฉลาดและรู้มากจนอ๊อดชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นนกแน่ไหม
“ งั้นอย่ากวน บินเล่นแถวนี้ก็พอนะ อย่าไปไกล “
“ จ้ะ พ่อจ๋า “ มันว่า แต่ก็มิได้ไปไหน เอาแต่ซุกตัวอยู่ข้างไหล่คนช่วยชีวิตไว้เหมือนเด็กเล็กๆที่ติดพ่อแม่ น่าหมั่นไส้ปนน่าเอ็นดู
“ พี่บาก.. “
“ ว่าอย่างไร อ๊อด “ ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งขยับกายมานั่งข้างๆ มองเพื่อนร่วมเกาะที่ยังก้มหน้าก้มตาถักแหอยู่ไม่วางตา
“ พี่ชอบพวกนกเหรอจ๊ะ... “ คนมากวัยกว่าเงียบไปนิด
“ ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ? “
“ เห็นเวลาไปตลาดทีไร พี่ก็มองแต่พวกนก พี่สังเกตเห็นเจ้าสกุณนี่ก่อนข้าเสียด้วยซ้ำ เวลาล่าสัตว์ไปขายพี่ก็เลี่ยงไม่ล่าพวกนก นกยูงขนงามๆขายได้ราคาดีพี่ก็ไม่ทำ ไก่ก็ไม่ค่อยอยากกิน…ข้าว่าพี่คงชอบพวกสัตว์ปีกแน่ๆ “ มือที่กำลังถักทอแหอยู่นิ่งค้าง ดวงตาสีทองพื้นดำมองไปไกล ท้องทะเลสีครามสะท้อนแสงแดงเป็นประกาย
“ ใช่ ข้าก็คงชอบพวกนก ชอบสัตว์ปีกแบบที่เจ้าว่าละมั้ง ...หรือจริงๆข้าอาจไม่ได้ชอบก็ได้นะ “
“ อ้าว ไม่ชอบเหรอ? งั้นข้าเอาเจ้าสกุณไปทอดกระเทียมนะ “
“ อยากโดนกูถีบจริงๆแล้วใช่ไหม ไอ้อ๊อด “ พรานว่า ขยับกายเหมือนจะถีบเอาจริงๆ ส่วนเจ้าสกุณที่ฟังรู้เรื่องรีบบินไปซุกเกาะบนผมสีขาวที่เริ่มจะยาวขึ้นแล้ว ตัวสั่นงั่นงกเพราะกลัวโดนจับทอด อ๊อดรีบขยับหนี
“ เฮ้ยๆ ข้าล้อเล่นน่ะ พี่บากก็แหม….อ้าวๆ ไม่ชอบแล้วทำไมพี่ดูจะแบบ ชอบอยู่กับเจ้าพวกนี้ล่ะ “ คนโดนถามถอนใจ จับตัวเจ้านกน้อยลงมาวางที่ตัก ยกนิ้วเล่นขนสีสวยและปีกนั่น บางอย่างที่ดูขมขื่มยังฉาบบนแววตาเหมือนสัตว์ร้าย
“ ...ข้าอิจฉามันต่างหาก “
“ อิจฉาทำไมพี่? “
“ เพราะตอนที่ข้าถูกขังในคุกไม้ตอนเด็กๆ นกเป็นสิ่งเดียวที่ข้าเห็นจากซี่กรงไม้... บางครั้งข้าก็อิจฉา ที่มันมีปีก ไม่ต้องถูกขังกรงเช่นข้า “ อ๊อดถอนใจและรู้สึกผิดที่ไม่น่าจะหาเรื่องถาม
“ ขอโทษนะพี่ ที่ทำให้นึกถึงเรื่องแย่ๆ “ อีกฝ่ายสั่นหัว ยกนิ้วที่เจ้าสกุณเกาะอยู่ มันส่งเสียงร้องแหลมเล็กก่อนโน้มจงอยปากจูบเบาๆที่ปากนาย ไม่นึกรังเกียจหรือกลัวรอยแผลที่พาดผ่านปากนั่นแม้แต่น้อย
“ ช่างมันเถอะ เรื่องเก่านมนานมากแล้ว เล่าให้เจ้าฟังจะเป็นอันใดไป เอาว่าข้าทั้งชอบและอิจฉาพวกมันเสียแล้วกัน “
“ ข้าก็อิจฉามันนะ ว่าไป “ อ๊อดว่า มองเจ้าสกุณที่บินไปซุกซอกคอพ่อจ๋ามัน (คราวนี้ไม่น่าเอ็นดูล่ะ อ๊อดเริ่มหมั่นไส้กลายๆ)
“ เอ็งจะไปอิจฉานกทำไม หึ? “
“ ก็เวลาพี่อยู่กับเจ้าพวกนี้ พี่ยิ้มนี่นา “ อดีตครูมวยว่า ทำหน้ายู่ๆ จนคนมากวัยกว่าแปลกใจ
“ ปกติข้าไม่ยิ้มรึ? “
“ ยังจะมาถาม ไม่ - ยิ้ม - เลย จ้ะ!~ “ พรานทิมฬถอนใจ
“ ข้าไม่รู้หรอก จริงๆข้าก็นึกว่าข้าลืมวิธียิ้มไปแล้วด้วยซ้ำ ตั้งแต่ที่เริ่มฆ่าคน เริ่มรับใช้ท่านจ้าว เจ้าคงไม่คิดว่างานแบบนั้นรอยยิ้มมันจำเป็นหรอกใช่ไหม?
“ ก็รู้จ้ะ… “
“ ….พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ ที่เจ้าบอกว่าเวลาข้ายิ้ม ข้าจะยิ้มแต่กับนก คงเพราะข้าคิดถึงสกุณเหรา แปลกนะ ข้าเก็บเจ้าเด็กนั่นมาเลี้ยง ไม่แม้แต่จะตั้งชื่อให้ ...คิดแค่ว่าจะเอาไว้ใช้งาน ไม่มากไปกว่านั้น ...แต่รู้ตัวอีกที ข้าก็ตัวติดกับสกุณเหราแทบจะตลอดเวลา ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันตลอด ข้าไม่เคยห่างมัน และมันก็ไม่เคยห่างข้า เวลาอยู่ด้วยกัน เหมือนข้าจะทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ ข้ายิ้มได้โดยที่ไม่มีใครว่าน่ากลัว เจ้าเด็กนั่นอ้อนเก่งนะ เห็นตัวโตๆแบบนั้นก็ตามเถอะ “ บากว่าพลางยิ้มและหัวเราะ อ๊อดทำหน้ายู่อีกรอบ
“ เห็นไหม แค่พูดถึงพี่ก็ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะเลย “
“ เพราะสกุณเหราเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยรังเกียจข้า มันรักทกุอย่างที่เป็นข้า ทั้งแผล ทั้งรูปลักษณ์ที่ผิดแปลกจากคนอื่นๆ “ เขาว่า เจ้าสกุณน้อยบินมาซุกที่ไหล่อีกครั้ง
“ หนูรักพ่อจ๋า “ นกแก้วน้อยว่าเสียงใส
“ ข้ารู้ “ เขาตอบรับเบาๆ เอาปากชนจอยงุ้มอย่างแสนรัก สกุณน้อยบินพึ่บพั่บไปทางคอนเพื่องีบหลับ อ๊อดถอนใจ
“ พี่อ่ะ ไม่ยุติธรรม “
“ เรื่องอะไรอีกล่ะ เจ้าเด็กงอแง “ คนอ่อนวัยกว่ามองใบหน้าของพรานหนุ่ม
“ ไม่ใช่แค่เจ้าพวกนกลูกรักของพี่สักหน่อยที่รักพี่อย่างที่พี่เป็น “
“ เจ้าจะบอกว่าทมิฬที่น่าเกลียดแบบข้ามีคนรักด้วยรึ? ใครกันหนอ โงเง่าเต็มทีแล้ว “
“ ข้าไง “ เสียงหนักแน่นทำให้บากต้องหันไปมอง ดวงตาสีดำมุ่งมั่นจริงใจ อ๊อดเขยิบกายมาใกล้ มือแข็งแกร่งจับที่มือของอีกฝ่าย ยกขึ้นมาจูบเบา ก่อนจะเงยหน้ามอง ยกตัวเข้าใกล้ใบหน้าจนแทบชิดกัน
“ ข้ารักพี่ในแบบที่พี่เป็น รักทุกอย่าง “ ทมิฬหนุ่มถดตัวหนี ประหลาดใจที่ลืมสังเกตว่าอ๊อดมันตัวโตขึ้นอีกหน่อยแล้ว แม้จะไม่ได้สูงเท่า แต่ก็ใหญ่โตพอที่จะกางแขนกั้นไม่ให้หนีไปง่ายๆ เขาซึ่งอดีตเป็นพรานนักล่าใยไม่ระวังตัวเลยว่าเจ้านี่มันร้ายกาจนะ
“ อย่ามาตลกไอ้อ๊อด… “
“ พี่เห็นข้าขำหรือจ๊ะ “ เจ้าหนุ่มอดีตครูมวยว่าเรียบๆ บากเริ่มรู้สึกแล้วว่า อ๊อดมันเป็นเด็กงอแงที่ซ่อนความดุเอาไว้ บทมันเอาจริงมันก็จะรั้นเอาให้ได้ บทมันจะไม่สนใจมันก็ไม่สนจริงๆ ร่างสีน้ำผึ้งกร้านแดดเขยิบใกล้อีก ดึงหน้าของเขาลงมาใกล้กับปากของมัน
“ อ๊อด หยุดเลยนะเอ็ง ข้าไม่เล่น “
“ ไม่ได้เล่น ข้ากำลังจะบอกอะไรกับพี่ต่างหาก…. “
“ จะบอกอะไร? “ คนมากวัยกว่าถาม หน้าร้อนฉ่าด้วยไม่เคยใกล้กันขนาดนี้ ก็ว่าคุยเรื่องนก เรื่องยิ้ม เรื่องอดีต ไหงมันมาลงเอยที่จู่ๆโดนเด็กรุกได้กัน
แล้วทำไมหัวใจเจ้ากรรมมันถึงเต้นแรงแบบนี้...
“ พี่อย่ามาเหมาว่านกลูกจ๊ะลูกจ๋าของพี่มันรักพี่คนเดียว ลูกอ๊อดเช่นข้าก็รักพี่ในแบบของพี่...ทั้งผิวสีม่วงสวยนี่ “ อ๊อดพูด แต่ไม่พูดเปล่า จงใจแตะริมฝีปากลงบนหัวไหล่ของพรานหนุ่ม เขาสะดุ้ง
“ ไอ้อ๊อด พอเลย “
“ ไม่...ฟังที่ข้าจะพูดนะพี่ ช้ารักในสิ่งที่พี่เป็น อะไรอีกล่ะ...อ๋อใช่ ผมสีขาวนี่ข้าก็ชอบ มันยาวแล้วนี่เนอะ “ ครานี้อ๊อดเลื่อนกายไปจูบกลุ่มผม ไม่สนเหงื่อที่ซึมชื้น แล้วไล่ลงมาเรื่อย
“ ชอบหูด้วย เดี๋ยวนี้พี่ไม่ใส่ต่างหูแล้วเหรอ ข้าชอบเวลาพี่ใส่นะ ไว้ข้าจะแกะต่างหูไม้ให้ ถ้าพี่ไม่รังเกียจ … “ ลมหายใจร้อนที่เป่ารดข้างๆทำให้คนโดนสัมผัสหน้าร้อนวาบ
“ อ๊อด พอแล้วกูรู้แล้วว “
“ ไม่ ยังบอกไม่หมด “ ชายหนุ่มบอกอย่างดื้อดึง เลื่อนปากมาแตะที่หน้าผาก
“ หน้าผากด้วย ลายมันแปลกตาสวยเหมือนรอยสัก ข้าชอบเหมือนกัน อะไรอีกล่ะ...ตาพี่สวย มันมีทั้งกลางคืนและกลางวันในนั้น... หนามเล็กๆนี่ก็ด้วย “
“ อ๊อด พอแล้ว… “ บากพยายามห้ามแต่ไร้ผลนัก
“ แผลตรงตานี่ข้าก็ไม่รังเกียจ และ….แผลตรงนี้ด้วย “ ริมฝีปากของอ๊อดคราวนนี้ไม่ได้แตะเบาๆอีกแล้ว มันกลับเป็นจูบที่ประกบลงบนปากของทมิฬหนุ่ม ปากที่มีรอยแผลน่ากลัวรับกับฟันแหลม แต่เจ้าหนุ่มหน้าคมก็มิได้รังเกียจ เขาชอบมัน ชอบทุกอย่างที่ประกอบรวมเป็นคนตรงหน้าเลย…
ริมฝีปากประทับจูบเนิ่นนาน ไม่ได้หวือหวาเร่าร้อน สอดลิ้นอะไรเข้าไปดึงดันกันเหมือนเตรียมจะร่วมรัก เป็นเพียงจูบที่บอกความรู้สึกในใจ จูบนิ่งนาน อ้อยอิ่ง และหวานล้ำเหมือนใครเอาน้ำผึ้งมาป้ายเอาไว้ ลมพัดกลิ่นเค็มของทะเลประทะกายของทั้งคู่ที่ไม่แม้แต่จะกอดกัน มีแค่มือที่จับเอาไว้ และปากที่ยังจูบอยู่ สักพักอ๊อดเป็นฝ่ายผละออกมาก่อน ดวงตาสีดำทอดมองใบหน้าที่จู่ๆก็ขึ้นสีขึ้นมาอย่างน่าขัน
“ ข้าชอบทุกอย่างของพี่ ชอบทั้งเวลาพี่โกรธ พี่เสียใจ และชอบที่สุดเวลาพี่ยิ้ม จะยิ้มให้ใครกับอะไรข้าก็ชอบ แต่จะชอบที่สุดถ้าพี่ยิ้มให้ข้า “
“ ไอ้เด็กบ้า!~ “ คนมากวัยกว่าว่าเอาให้ หันหน้าหนีไปอีกทาง อ๊อดยิ้มเจ้าเล่ห์มอง
“ โหยย เขิน… เขินใช่ไหม? “
“ ไม่ได้เขินโว้ย!~ “
“ ไม่ได้เขินก็หันหน้ามาคุยกันสิพี่ “ อ๊อดบอก พยายามดึงตัวอีกฝ่ายให้หันหน้ามาหา แต่คนที่เพิ่งโดนฉวยโอกาสเอาแต่ปิดปากไม่หันมา ส่งเสียงอู้อี้ๆในลำคอประท้วงซึ่งอ๊อดรู้ดีว่ากำลังโดนด่าด้วยภาษาทมิฬที่ไม่เคยฟังรู้เรื่องเลยสักครั้ง...แต่ก็ชอบฟังนัก
“ อย่ามายุ่งกับข้า!!~ “
“ ไม่เอาา จะยุ่งงง “ น้ำเสียงดื้อดึงพร้อมกับมือที่รั้งตัวของคนมากวัยกว่าให้กระเถิบเข้ามาใกล้ จนตอนนี้กลายเป็นว่าพรานทมิฬถูกอ๊อดกอดจากข้างหลังแล้ว
“ ข้าชอบพี่จริงๆนะ ข้าชอบทุกอย่างที่พี่เป็น ชอบร่างกายพี่ ชอบใจของพี่ และข้าไม่อยากให้พี่คิดว่าตัวเองต้องเปลี่ยนอะไรที่พี่เป็น หรือไม่ชอบตัวพี่ที่พี่เป็นแม้สักนิด...พี่เป็นพี่บากแบบนี้ดีมากแล้วนะ ข้าชอบ… ข้าชอบพี่นะ ไม่สิ….ข้ารักพี่นะ “
“ เอ็งมันแปลกมนุษย์อ๊อด “ คนโดนบอกรักว่า ตั้งตัวไม่ค่อยจะทัน ก้มหน้าไม่ยอมมองสบตา
“ แปลกตรงไหน? แปลกตรงที่ชอบพี่หรือ? “
“ เออ… ใครเค้าจะมาชอบทมิฬแบบข้ากัน “
“ ข้าไงจ๊ะ ก็บอกไปตั้งเยอะแล้วน้า “ อ๊อดบอกพลางทำปากยื่นปากยาวแบบงอนๆ มือยังไม่ยอมคล้าย ลมพัดมาบางเบา บรรยากาศแสนสงบเงียบ
“ อ๊อด… “
“ จ๊ะ? “ พรานทมิฬมิได้ตอบอะไร แค่เพียงเอี้ยวหน้ามามองอ๊อด เจ้าหนุ่มชาวเลยิ้มร่าทันทีที่เห็นใบหน้านั่น…...
…….
When I see your face
There’s not a thing that I would change
Cause you’re amazing
Just the way you are
And when you smile,
The whole world stops and stares for awhile
Cause boy you’re amazing
Just the way you are…
Just the way you are By Bruno Mars
แถมท้าย….
“ สกุณ ลงมานี่เถอะ โกรธอะไรหือ เจ้าตัวเล็ก “ พรานทมิฬส่งเสียงเรียกเจ้านกแก้วตัวโปรดที่งอแงไม่ยอมลงจากบนขื่อเรือนมาตั้งกะเมื่อวาน ผลไม้หรือเม็ดข้าวเม็ดถั่วอะไรก็ไม่ยอมกิน เดือดร้อนเจ้าของที่ร้อนรนต้องมาตามง้อ
“ หนูไม่ลง หนูไม่รักพ่อจ๋าแล้ว “ มันว่าเสียงแหลมเล็ก
“ อ้าว ทำไมล่ะ สกุณ ทำไมไม่รักข้าแล้ว “
“ พ่อจ๋ารักคนอื่นมากกว่าสกุณ “ คนฟังถอนใจ ยกมือนวดขมับ
“ บางทีเจ้าก็แสนรู้จนข้าคิดว่าเป็นนกแปลงนะ เจ้าตัวดี ไม่เอา ลงมานี่มา มีมะม่วงสุกของโปรดเจ้าด้วยมาเร็ว ไม่มีเสี้ยนด้วยนะ เด็กดี ลงมาเร็ว “ ชายหนุ่มยังพยายามเรียกอยู่ อ๊อดที่เพิ่งกลับจากอาบน้ำตอนค่ำเดินขึ้นเรือนมาพอดี เขาหรี่ตามอง นึกขบขันร่างสูงผิวม่วงที่ไม่ยอมลดละความพยายาม
“ ยังไม่ยอมลงมาอีกหรือพี่ “
“ ยังเลย เฮ้อ สกุณ ลงมาเถอะ เด็กดีนะ ลงมาหาพ่อจ๋ามา “ น้ำเสียงทุ้มพยายามอ้อนให้ลูกชายตัวโปรดลงมา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เจ้านกแก้วสีเหลืองก็ยังงอนตุ๊บป่องอยู่ อ๊อดยิ้มชั่วร้ายมอง
“ พี่บาก.. “
“ ว่าไง อุ๊บ!!~ “ ไม่ทันตั้งตัว อ๊อดก็รวบทมิฬหนุ่มไปจูบจนถ้วยดินเผาใส่มะม่วงตกแตก สกุณน้อยหันมาเห็นภาพอ๊อดพยายามเหมือนจะปลุกปล้ำเจ้านายก็กระพือปีกลงไล่จิกอ๊อดเต็มแรง
“ อย่า - มา - ยุ่ง - กับ - พ่อ - จ๋า - นะ !!!~ “ เสียงแหลมเล็กร้องเกรี้ยวกราด ขณะไล่ตีอ๊อดจนมือผอมประดับเล็บแหลมต้องรีบเข้ามาจับไว้
“ สกุณ พอแล้ว อย่า ไม่ทำอ๊อดนะ “ บากปลอบเจ้านกแก้วตัวน้อยที่ตอนนี้เกาะไหล่เขาทำกิริยาขู่ฟ่อแฟ่ๆ ไม่ยอมให้อ๊อดเข้าใกล้ เจ้าตัวก่อเรื่องหัวเราะร่า
“ เอ้า นั่นไง หายงอนลงมาแล้ว “ สิ้นคำพรานหนุ่มก็รีบตะครุบตัวนกแก้วน้อยไว้ก่อนจะหนีไปอีก มันดิ้นนิดหน่อยแต่ก็ยอมให้พ่อจับ
“ สกุณ ไม่หนีอีกนะ ไม่น่ารักเลย เอามาจากไหนว่าข้าไม่รักเจ้ากัน “
“ ก็พ่อจ๋าเอาแต่อยู่กับเจ้าลูกอ๊อด พ่อจ๋ารักลูกอ๊อดมากกว่าหนู “ นกน้อยงอแง คนเลี้ยงส่ายหัวระอาแต่ก็แสนเอ็นดูจนต้องก้มลงจูบที่หัวมีขนนุ่มๆ
“ ใครบอก พ่อจ๋ารักเจ้ามากที่สุดนะ สกุณนะ ไหนๆ หอมกันรึยัง “ เขาถาม สกุณนิ่งไปนิดก่อนจะโน้มจะงอยมาจุ๊บๆที่ปากของเจ้านายแสนรัก
“ หนูรักพ่อจ๋านะ “
“ ข้าก็รักเจ้านะ เจ้าเด็กดี เอ้า มะม่วงเละหมดแล้ว จะไปปอกมาให้ใหม่ละกัน อย่าดื้ออีกนะ รอในห้อง เดี๋ยวพ่อจ๋ามา “ ทมิฬหนุ่มว่า ยิ้มบางๆเก็บเศษจานที่แตก เจ้าสกุณกระพือปีกดีใจไปเกาะคานไม้ตัวเองรอ….
“ พ่อจ๋ารีบมานะะ “
“ รู้แล้วๆ “ เขาบอกยิ้มๆ เดินออกมาโดยลืมอะไรไปสักอย่าง…
แกร๊ก….!
“ หือ? “ บากหันไปมอง จึงพบว่าอ๊อดลงดาลประดูห้องของเขาเอาไว้ ร่างสูงเลิกคิ้ว
“ อ๊อด? เจ้าลั่นดาลปิดห้องข้าทำไม ข้าจะเอา...หวา! “ คนมากวัยกว่าตกใจ เมื่อไอ้หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งกระชากตัวมาแบกพาดบ่า ล็อคขาอีกต่างหาก
“ อ๊อด เอ็งปล่อยข้านะ! จะทำบ้าอะไรอีกเนี่ย!!~ “
“ แหมม พ่อจ๊ะ ลูกจ๋า รักกันจังเลยนะะะ รักกันจนน่าหมั่นไส้ ลูกอ๊อดจะไม่ทนแล้วนะะะ “
“ ไอ้อ๊อดดด ปล่อยเลยนะ เจ้าสกุณมันรอกินะม่วงอยู่ “
“ ให้มันรอไปเลย มันจะได้รู้ว่าใครกัแน่ที่พ่อจ๋ามันต้องรักต้องเอาใจ!!! “ ชายหนุ่มว่าเสียงเครียด ก่อนจะอุ้มเชิงแบกคนที่ดิ้นรนให้หลุดจากเงื้อมมือมารไปให้ได้ แต่สุดท้ายพออ๊อดลั่นดาลปิดห้องของตัวเอง เสียงที่เคยโวยวายกับเสียงเหมือนมีคิวบู๊นิดหน่อยในห้องก็เงียบไป มีแต่เสียงตั่งเตียงลั่นปนเสียงครวญเบาๆเท่านั้นเอง…
.
.
.
.
“ พ่อจ๋าา ไปนานจังหิวมะม่วงแล้วอ่ะ “ สกุณน้อยว่า ยังคงเกาะคอนไม้รอคอยอย่างมีความหวังไปจนถึงตอนสายสายของอีกวัน...
::::: จบ :::::
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in