"เอาล่ะ ทุกๆ คน จบการสอนพิเศษเพียงแค่นี้ก่อนนะ เจอกันในชั่วโมงหน้า อย่าลืมทบทวนบทเรียนด้วยนะ" สิ้นเสียงของคำพูดอาจารย์สอนพิเศษ นักเรียนทุกคนภายในห้องเก็บสมุด และหนังสือเรียนลงในกระเป๋า
"นี่มุก...เธออ่านการ์ตูนจบแล้วหรือยังล่ะ" เพื่อนของฉันที่นั่งอยู่ข้างหน้าเยื้องขวา หันมาทักทายเพื่อนที่นั่งข้างๆ ฉัน
"ยังไม่จบเลย ฉันอ่านถึงตอนที่ซากุระอบคุ๊กกี้ช๊อกโกตแลตให้ยาโมโตะ ฉันคิดว่านะยามาโมโตะโคตรใจร้ายกับซากุระมากอ่ะ ซากุระอุตส่าห์ปรุงอาหารสุดฝีมือเพื่อมัดใจซะขนาดนั้น แต่อีตายามาโมโตะกลับพูดว่าอาหารที่ซากุระทำไม่ได้เรื่อง "
"แต่ฉันว่ายามาโมะโตะก็มีเหตุผลนะ" เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็หันหลังมาคุย "เธอลองอ่านตอนถัดไปดิ เดี๋ยวจะรู้เหตุผลว่าทำไมคุณยามาโมโตะถึงปัดปฏิิเสธไป"
"อย่า! อย่า! มุก อย่าสปอยล์ให้ฉันฟังสิ ฉันยังอ่านไม่ถึงเลย" เพื่อนสาวที่อยู่ด้านหลังของฉันพูดขึ้นมา บ้าง
"รีบอ่านนะ เดี๋ยวอ่านตามฉันไม่ทัน.. ว่าแต่ว่าวันนี้มีการ์ตูนตอนใหม่นี่นา จะแวะไปร้านขายหนังสือการ์ตูนกันไหม"
"ไป ไป ไป" เพื่อนสาวทั้งสามคนพยักหน้าและตอบตกลง
"แล้วเธอล่ะ เฟิร์น"
"อืม..ขอฉันคิดดูก่อนนะ"
"เฟิร์นไม่ไปหรอก เราก็รู้ๆ กันอยู่ แล้วพวกเราจะชวนเฟิร์นไปทำไมล่ะ"
"ก็แค่ชวนไง ไปกันหลายๆ คนก็สนุกดีนะ"
"เอาว่าไงล่ะเฟิร์น ไปด้วยกันไหม"
"...."
สุดท้ายฉันกับเพื่อนอยู่หน้าที่ร้านหนังสือการ์ตูน เพื่อนทั้งสามคนอยู่ภายในร้าน ส่วนฉันยืนรอ ฉันยืนรอเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าพวกเขาออกจากร้านการ์ตูนเลย
และแล้วสายตาของฉันจ้องมองกับหน้าปกการ์ตูนที่วางบนชั้นวางหนังสือหน้าร้าน ใช่เลย นี่คือหนังสือที่พวกเพื่อนของฉันพูดบ่อยๆ ในตอนเรียนพิเศษ พระเอกผิวขาว ผมเหลืองทอง สวมเสื้อเชิ๊ตผูกไทด์ เขาชื่อยามาโมโตะนั่นเอง เขาเอามือลูบหัวผู้หญิงตัวเล็กผมดำ และแก้มแดง ซึ่งเธอคนนั้นชื่อซากุระ
มองไปมองมา ฉันเริ่มอยากรู้ ฉันอยากรู้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันสนุกตรงไหน ทำไมเพื่อนในกลุ่มของฉันติดใจกับมันมาก มันถูกห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติก ฉันไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเนื้อหาภายในเป็นอย่างไร ครั้นจะไปขอยืมหนังสือการ์ตูนเพื่อนมาอ่านมันก็กระไรกระไรอยู่นะ ฉันใช้เวลาคิดอยู่นาน ตัดสินใจหยิบหนังสือการ์ตูนมาจ่ายเงินหน้าเคาเตอร์โดยเร็ว และเก็บหนังสือการ์ตูนลงในกระเป๋าชั้นในสุด หลังจากนั้นออกมายืนรอเพื่อนหน้าร้านการ์ตูน
ไม่นานนั้น เพื่อนของฉันเดินออกมาจากร้านหนังสือการ์ตูน พวกเขาชวนฉันเล่นเครื่องเล่นในห้างที่อยู่ใกล้กับร้านหนังสือการ์ตูน แต่ฉันปฏิเสธพวกเขา เพราะพ่อแม่ของฉันกำชับไว้ว่าต้องรีบกลับให้ถึงบ้านก่อน 5 โมงเย็น เพื่อนของฉันเข้าใจเป็นอย่างดี จึงโบกมือร่ำลากับเพื่อนทุกคน
เมื่อฉันเดินทางกลับมาถึงบ้าน
ฉันพูดดังๆ ให้พ่อแม่ของฉันให้ได้ยิน หลังจากนั้นฉันถอดรองเท้า เก็บรองเท้าเข้าตู้ สวมรองเท้าสลิปเปอร์สีไข่ไก่ เดินขึ้นบันไดชั้นสองโดยเอากระเป๋าแนบชิดลำตัวอย่างรวดเร็ว ฉันเปิดและปิดประตูห้องของตัวเองอย่างเบาๆ เปิดไฟในห้อง วางกระเป๋าไว้ข้างโต๊ะทำการบ้าน จัดแจงเครื่องแต่งกายเล็กน้อย และนั่งบนเก้าอี้สีน้ำตาล
ฉันนั่งเพ้อถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ประมาณสองถึงสามนาที แล้วฉันลุกขึ้นเดินหยิบหนังสือเรียนบนชั้นวางหนังสือ เปิดหน้าที่มีเนื้อหาเยอะๆ วางไว้บนโต๊ะ หยิบกระเป๋า เปิดกระเป๋า รูดซิป หยิบหนังสือการ์ตูน และเอาหนังสือการ์ตูนวางซ้อนทับหนังสือเรียน
ฉันอ่านหนังสือการ์ตูนไปเรื่อยๆ ฉันชอบมันมาก เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวที่ตกหลุมรัก ชายหนุ่มคนหนึ่ง และเมื่อสืบไปสืบมาชายหนุ่มคนนั้นชอบเบเกอรี่ จึงมัดใจชายหนุ่มคนนั้นด้วยการทำขนม โดยที่เด็กสาวคนนั้นทำอาหารไม่เป็นเลย
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก"
เสียงเคาะประตูดังเข้ามาในขณะที่ฉันอ่านหนังสือการ์ตูนเกือบครึ่งเล่ม ฉันตกใจมาก รีบพับเก็บหนังสือการ์ตูนและหนังสือเรียน สอดในชั้นวางหนังสือเรียน หลังจากนั้นเดินไปเปิดประตู เจอแม่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องของฉัน
"ทำไมเปิดประตูช้าจัง กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย"
"กำลังอ่านหนังสือเรียนค่ะแม่"
"ดีมากลูก...ท่องหนังสือให้เยอะๆ นะ ลูกแม่จะต้องสอบได้มหาลัยที่ดีแน่ๆ " แม่เดินเข้ามาในห้อง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำการบ้านของฉัน ฉันเดินไปนั่งลงบนเตียง
"อืม..ทำไมชั้นวางหนังสือของลูกจัดวางไม่เป็นระเบียบ มันดูไม่เรียบร้อยเลย เป็นผู้หญิงก็พยายามหัดทำอะไรให้เป็นระเบียบหน่อยสิ เดี๋ยวคนอื่นจะมาเห็น จะพูดว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนนะ"
แม่ของฉันตักเตือนและเดินไปที่ชั้นวางหนังสือเรียนของฉัน ใช้มือหยิบหนังสือ จัดวางหนังสือ หัวใจฉันเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันลุกขึ้นจากเตียงและเดินเข้าไปใกล้แม่ ฉันบอกกับแม่ว่าฉันจัดเองได้ แต่แม่ก็ไม่ฟังฉัน
จนกระทั่ง
"นี่อะไร? บอกมาสิลูก ทำไมมีหนังสือเรียนสอดอยู่หนังสือการ์ตูนล่ะ" แม่เจอหนังสือการ์ตูนที่ฉันแอบซื้อมา "ลูกโกหกแม่อยู่ใช่ไหม ลูกกำลังเหลวไหลอยู่กับสิ่งนี้ ทำไมลูกอ่านหนังสืออย่างนี้ล่ะ"
"....."
"มีอะไรเหรอแม่" และพ่อก็เดินเข้ามาที่ห้องของฉันอีกคนหนึ่ง
"ก็ลูกของคุณนะสิ ลูกของคุณอ่านหนังสือการ์ตูน"
"อ่านหนังสือการ์ตูนไปทำไม?" พ่อเริ่มขมวดคิ้วและเพ่งสายตามองมาที่ฉันอย่างเยือกเย็น ฉันยืนก้มหน้าก้มตารับฟังคำของคุณพ่อ "พ่อบอกลูกแล้วใช่ไหม ว่าพ่อห้ามลูกทำอย่างนี้ หนังสือการ์ตูน เกม ของเล่น ล้วนเป็นสิ่งของไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ เสียเวลา ทำไมลูกไม่เชื่อฟังพ่อละ เราพูดคุยและตกลงทำความเข้าใจกันแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อแม่ก็หวังดีต่อลูกนะ"
"พ่อคะ...ก็หนูอยากอ่าน เพื่อนๆ ของหนูเขาพูดคุยกันเรื่องการ์ตูน หนูอยากพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่องบ้าง"
"ลูกทำอย่างนั้นไม่ได้ ลูกก็คือลูก ส่วนเพื่อนไม่ใช่ลูกของพ่อ พ่อไม่อยากให้อนาคตของลูกจมอยู่กับสิ่งของไร้สาระ หน้าที่ของลูกคือต้องตั้งใจเรียน ไม่ใช่ทำเรื่องไร้สาระอย่างนี้ ลูกควรเรียนให้ได้เกรดดีๆ แล้วอนาคตจะมีเรื่องดีๆ ในชีวิต"
"...."
"พ่อเองก็เลือกสิ่งที่ดีแก่ลูก ลูกต้องเข้าใจพ่อด้วยนะ"
ฉันนิ่งเงียบและไม่พูดอะไรทั้งสิ้น พ่อจับหัวและลูบผมของฉันอย่างเบามือ
"เอาเป็นว่าพ่อจะยึดการ์ตูนเล่มนี่นะ และครั้งต่อไปถ้าพ่อจับได้อีกครั้ง พ่อแม่จะไม่พูดกับลูกเป็นเวลา 3 วัน อีกครึ่งชั่วโมงลงไปรับประทานอาหารเย็น หลังจากนั้น ทบทวนบทเรียนที่ได้จากที่เรียนพิเศษในวันนี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมงละกัน"
"ค่ะ"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in