เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
How to ไปดูคอนเสิร์ต TFBOYS ที่แผ่นดินใหญ่ด้วยตัวเองt0y_ting
[Review] ทริป TFBOYS 5th anniversary
  • นี่เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่มาเยือนปักกิ่งและเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้ใช้ฤดูร้อนร่วมกับ TFBOYS  ในส่วนของการเดินทางนั้น แม้คราวก่อนจะติดใจไห่หนานแอร์แค่ไหน แต่ไม่มีโปรเราก็ไม่บินนาจ๊ะ  งวดนี้เลยเลือกใช้บริการสายการบินแห่งชาติแทน  พอดีว่าการบินไทยจัดงาน “THAI Market Place by THAI Airways” ซึ่งเป็นงานรวมตัวแทนจำหน่ายตั๋วของการบินไทยมาออกบู้ทที่เซ็นทรัลเวิลด์  ไปซื้อตั๋วในงาน ได้ส่วนลด ได้ของแถม ได้แคชแบ็ค ซึ่งคุ้มอยู่  เราตัดสินใจซื้อตั๋วกับบริษัท Life is journey ลองใช้บริการแล้วถือว่าใช้ได้
    แวะเช็คอินกับ Light Box โปรเจกต์ครบรอบ 5 ปี ของ Thai Clover ก่อนบิน
    บังเอิญจังอยู่ติดกับ Light Box ของการบินไทยเลย
    ต้าหยวนพร้อมออกเดินทางแล้วฮับ!
    ที่นั่งกว้างขวาง อาหารบนเครื่องอร่อย ความสบายที่ต่างกันเจรงๆ
    การบินไทยช่วยออกโปรเส้นทางจีนบ่อยๆ ด้วยเถิด
    ลงเครื่องก็เจอคนคุ้นหน้า

    เราแลนดิ้งถึงปักกิ่งเย็นวันที่ 23 ก่อนคอนเสิร์ต 1 วัน  ถ้าวันสำคัญของ TFBOYS คือวันเดบิวต์ วันก่อนคอนเสิร์ตครบรอบเดบิวต์คงเป็นวัน D-Day ของเหล่าแฟนคลับ  คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกนางต้องมีเรื่องกันในวันนี้ทุกปี  ครบรอบ 3 ปี ก่อเรื่องตบตี  ครบรอบ 4 ปี จัดตั้งม็อบไปหน้ายิมเนเซียมที่เด็กๆ กำลังซ้อมกันอยู่พร้อมตะโกนบอกให้ TFBOYS ยุบวง  มาปีนี้ ครบรอบ 5 ปี ม็อบเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเสียงดังกว่าเดิม  ดังขนาดที่ว่าบริษัทต้องยกเลิกการซ้อมรอบสุดท้ายของ TFBOYS กลางคันและออกประกาศฉุกเฉิน "ไล่" แฟนคลับที่อยู่รอบๆ สเตเดียมทั้งหมด ไม่งั้นคอนวันพรุ่งนี้อาจจะถูกยกเลิก!

    ประกาศ "ไล่แฟนคลับ" ผ่านเว่ยป๋อ อฟช. ของวง ตอนสองทุ่ม

    ถามว่าตอนที่บริษัทออกประกาศฉุกเฉินนั้น เราอยู่ส่วนไหนของปักกิ่งน่ะเหรอ?  ก็...พาต้าหยวนมาร้านหม้อไฟเฉินตูซึ่งอยู่แถวๆ นั้นนั่นแหละ  

    Huluwa Hotpot เป็นร้านอาหารแนะนำของปี 2018
    ที่เพื่อนอุตส่าห์มาเข้าคิวให้ตั้งแต่ 6 โมงเย็น รอจน 2 ทุ่มยังไม่ถึงคิว เจอประกาศบริษัทเข้าไปแทบหมดอารมณ์กิน

    คือเรางงนะ สงสัยว่าบริษัทตื่นตูมไปรึเปล่าเพราะระหว่างทางที่เดินไปร้านหม้อไฟต้องผ่านสเตเดียมอยู่แล้ว  ก็เห็นแฟนคลับจับกลุ่มกันอยู่ประปราย ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด ไม่มีใครตะโกนเสียงดังด้วย เพิ่งมาเห็นคลิปที่คนอื่นแชร์ถึงได้รู้ว่าแต่ละบ้านพากันไปรวมตัวกันอยู่ที่ประตูทางเข้าอีกฝั่ง และสถานการณ์ก็ตึงเครียดจริงๆ 

    ดูท่าเราคงจะไม่มีดวงได้สัมผัสกับบรรยากาศของวัน D-Day เพราะครบรอบ 3 ปี พอเริ่มมาคุ เราก็ชวนน้องๆ กลับโรงแรมแล้ว  ครบรอบ 4 ปี เราถึงหนานกิงวันที่ 13 ขณะที่เค้า D-Day กันไปตั้งแต่วันที่ 10  จนมาครบรอบ 5 ปี รู้ว่ามีม็อบอยู่ใกล้ๆ นะ แต่อยู่กันตรงไหนก็ไม่รู้ ไม่ยักจะเจอ  อย่างไรซะ! การไม่ได้อยู่เป็นพยานในเหตุการณ์ความขัดแย้งในด้อม มันก็ไม่น่าเสียดายอะไรนักหรอก

    บรรยากาศวันที่ 23 สิงหาคม ริมถนน Workers' Stadium เหนือ
    ก็ว่าอยู่ว่าทำไมดูเหงาๆ ที่แท้ยกพวกไปไฝว์กันอยู่สินะ

    กินหม้อไฟเสร็จ สี่ทุ่มครึ่งก็มีประกาศออกมาอีกฉบับ เป็นประกาศขอความร่วมมือจากแฟนๆ ให้คนที่มีตั๋ววันพรุ่งนี้มาถึงสเตเดียมหลัง 5 โมงเย็น มาถึงแล้วก็ให้เข้าไปสนามเลย อย่าโอ้เอ้อยู่ด้านนอก คนที่ไม่มีตั๋วอย่าได้มา จงอยู่บ้านดูถ่ายทอดสดไป และห้ามไม่ให้แฟนคลับรวมตัวกันบริเวณด้านนอกสเตเดียมโดยเด็ดขาด บริษัทจะจัด รปภ. คอยลาดตระเวนอยู่รอบๆ หากไม่เชื่อฟังกัน จนเป็นเหตุทำให้ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตแล้วละก็ บริษัทจะถ่ายรูปแฟนคลับที่ฝ่าฝืนกฎเอามาเผยแพร่ประจานลงเน็ท!!!

    อ่านประกาศแล้วละเหี่ยใจ ปิดเว่ยป๋อ ปิดทวิต ไม่อยากตามข่าวต่อแล้ว เราเฮิร์ตกับการบินมาดูคอนต่างประเทศ แล้วโดนประกาศยกเลิกคอนด้วยสาเหตุต่างๆ มาแล้ว 3 ครั้ง (ต่างวงกันด้วยนะ) ไม่อยากได้ TFBOYS มาประดับโปรไฟล์ด้วยอีกวง  ยิ่งถ้าต้องมายกเลิกด้วยเหตุผลงี่เง่าอย่างแฟนคลับก่อม็อบด้วยแล้ว...กลับโรงแรม สวดมนต์ ไหว้พระ นอนดีก่า

    ตลอดทริปทั้ง 3 คืน 4 วันนี้ ซุกหัวอยู่ที่  Swissotel Beijing Hong Kong Macau Center Hotel ล่ะ ชื่อยาวมั่ก เลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้ Workers' Stadium ในระยะที่เดินได้ แถมยังติดกับรถไฟใต้ดินชนิดที่ว่าออกจากสถานี Dongsi Shitiao ปุ๊บก็เจอโรงแรมปั๊บ แล้วยังสามารถประกันค่าห้องพักได้ด้วยบัตร Visa ทุกปีต้องใช้เงินสดประกันค่าห้องตลอด 

    Swissotel Beijing Hong Kong Macau Center Hotel

    ระหว่างเดินกลับโรงแรม ก็มีหนุ่มน้อยคนนี้เป็นแสงสว่างอยู่ข้างทาง
    เขียนรีวิวไว้ตั้งแต่น้องขาย Nova 3 จนตอนนี้น้องขาย Nova 5 แล้ว
    ตื่นมาตอนเช้า เว่ยป๋อ อฟช. แฟนคลับ ประกาศห้ามไม่ให้ผู้ชมนำป้ายไฟทุกชนิดเข้าไปในคอนเสิร์ต ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่พูดกันตั้งแต่ตอนมีคนร้องเรียนไม่ให้ TFBOYS มาจัดคอนที่ Workers' Stadium แล้ว เพราะป้ายไฟของแต่ละบ้านนี่นะ ขนาดมาตรฐานคือ 1 ตารางเมตร ขนาดครึ่งตารางเมตร (ซึ่งก็ใหญ่มากแล้ว) สำหรับพวกนางถือว่าเป็นป้ายเล็ก และเพื่อให้ได้ไฟสว่างมากที่สุด ต้องยัดถ่านไฟฉายเข้าไปเยอะๆ  ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามีคนใช้ถ่านไฟฉายที่ไม่ได้มาตรฐานจนเกิดไฟไหม้ขึ้นมา จะเป็นยังไง...

    เว่ยป๋อ อฟช. แฟนคลับ ออกมาย้ำเรื่องป้ายไฟและอุปกรณ์เชียร์อีกรอบ ตอน 11 โมงเช้า โดยบรรจุไว้เป็นกฎการเข้าชมคอนเสิร์ตข้อที่ 3 จากทั้งหมด 6 ข้อ เดี๋ยวเล่าไปเรื่อยๆ จะชำแหละไปทีละข้อ
    มีการใส่หัวใจ 3 ดวงเพื่อความมุ้งมิ้ง แต่เชื่อแน่ว่าตอนกำลังอัพเว่ยป๋อนี้ สตาฟบริษัท TF ent. ใกล้จะสติแตกเต็มแก่
    อย่างไรก็ดีการประกาศกฎการเข้าชมคอนเสิร์ตออกมา ช่วยยืนยันได้ในระดับหนึ่งว่าคอนเสิร์ตยังจะมีต่อไปล่ะนะ  ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้แอบต้องการกำลังใจนิดนึง ช่วงเช้าเลยตัดสินใจไปขอพร
    เอาต้าหยวนมาบูชายัญที่หอบูชาฟ้าเทียนถาน

    เราเคยรู้รสฤดูร้อนของเมืองจีนมาก่อน พอต้องออกเที่ยวกลางแจ้ง เลยเตรียมผ้าเย็น สเปย์ดับความร้อน น้ำแร่ฉีดหน้า พกมาเต็มกระเป๋า  ทว่าอากาศกลับดีกว่าที่คาด อุณหภูมิราวๆ 21 - 32 องศา  มาเดินเล่นเทียนถานที่เป็นมรดกโลกในตอนเช้า ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมามาก  ไม่รู้ว่าเพราะเป็นวันปกติ (วันศุกร์) ด้วยรึเปล่า เลยเจอคุณลุงคุณป้ามาจับกลุ่มทำกิจกรรมเต็มไปหมด หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตคือการนั่งเฝ้าประกาศหาคู่ให้ลูกหลาน ฝรั่งงงถึงขั้นสะกิดถามว่าเขาทำอะไรกันเหรอ?

    เพราะประสบปัญหาในการซื้อตั๋วคอน TFBOYS มาตลอด 3 ปี  มาเจออะไรแบบนี้ ในใจก็เผลอคิดไปวูบนึงว่า "หรือควรจะหาแฟนเป็นคนจีนเลยดี?" จะได้มีคนช่วยกดซื้อตั๋วให้ คอยรับแมกกาซีนแฟนคลับและ Goods ติ่งตั่งๆ  แต่โปรไฟล์แบบ สูง หล่อ สปอร์ต ฉงชิ่ง มันไม่มีนี่สิ  ฟุ้งซ่านจนหิว ไปหาอะไรกินเถอะ!  

    หน้าเทียนถานมีทั้ง KFC มีทั้ง Pizza Hut เลยได้ลองเซ็ตอาหารเช้าของ KFC และน้ำผลไม้ของ Pizza Hut ส่วนไอติมนั่นซื้อในเทียนถาน  อยากบอกว่าเซ็ตอาหารเช้า KFC ไม่ผ่านอย่างแรง วาฟเฟิลเหนียวมาก ไส้กรอกเค็มไป  มาตอนนี้มั่นใจแล้วว่าเทียนถานคงเป็นแหล่งชุมนุมด้อมต่างๆ ของผู้สูงอายุในปักกิ่ง เพราะขนาดพนักงานขาย KFC สาขานี้ยังเป็นรุ่นคุณป้าเลย  ถือว่าแปลกตาสำหรับเรามากๆ 

    จบโปรแกรมภาคเช้าแต่เพียงเท่านี้  ตอนบ่ายมีนัดทำเซ็นแบนเนอร์ที่หน้าคอนเสิร์ต เลยต้องรีบกลับโรงแรมไปเตรียมตัว 

    แบนเนอร์ไวนิลของ Thai Clover ประจำปีนี้
    ออกแบบโดย 
    @PPrim_

    แต่จำได้ใช่มั้ยว่าบริษัทขอความร่วมมือไม่ให้แฟนคลับมารวมตัวกันหน้าคอนตั้งแต่เมื่อวาน และวันนี้มันก็ได้กลายมาเป็นกฎข้อที่ 1 ถ้าเรารู้มาก่อนว่าปีนี้เค้าห้ามไม่ให้แฟนคลับจัดกิจกรรมสนับสนุนศิลปิน คงไม่ทำแบนเนอร์มาหรอก แต่นี่ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้วทั้งแบนเนอร์ ทั้งของแจก จะให้ขนกลับไทยงั้นเหรอ ไม่ได้อะ! ยังไงโปรเจกต์ต้องเดินหน้าต่อ

    ทีนี้ Workers' Stadium ไม่เหมือน LeSports Center กับ Nanjing olympic sports center ซึ่งเคยใช้จัดคอนเสิร์ตของ TFBOYS  สองที่หลังคล้ายๆ กับอิมแพ็คบ้านเรา คืออยู่ชานเมือง คนที่จะไปแถวนั้นก็คือจะไปดูคอนเสิร์ตจริงๆ  ในขณะที่ Workers' Stadium นั้น เหมือนยกเอาสนามราชมังมาตั้งไว้บนถนนสีลม ตั้งอยู่กลางเมืองมาก นอกจากจะประกอบด้วยย่านการค้าสุดหรูแล้ว ยังรายล้อมไปด้วยสถานทูตประเทศต่างๆ  จะมาตั้งเต้นท์ ตั้งแผง หรือแม้แต่ปูเสื่อแบกับดิน เป็นโดนไล่หมด (แต่ก็เห็นแอบๆ ตั้งกันอยู่นะ)  

    ตั้งแผงแบบพร้อมหนีได้ทุกเวลา

    บ้านแฟนคลับพากันแยกย้ายกระจัดกระจายเข้าไปใช้พื้นที่ในตัวอาคารตามห้างร้านต่างๆ แทน อย่างบ้านเดี่ยวเก้อนัดหมายกับที่ร้าน Pizza Hut บ้านเดี่ยวหยวนนัดหมายกันที่ร้าน KFC (ลูกขายอะไรก็พากันไปสิงอยู่ร้านนั้น)  บ้างก็เหมาร้านอาหารจัดงานมีตไปเลย เช่น บ้านไคหยวน เป็นต้น แอบเห็นแบนเนอร์ของแม่เวียตแปะหราอยู่บนกระจกชั้น 2 ของตึกแถวๆ นั้น  นี่ก็เหมายกชั้นสินะ ทีนี้แม่ไทยอย่างเราล่ะ ทำไงดี?

    โชคดีมากที่มีน้องในกลุ่มไปตระเวนรับของแจกมาตั้งแต่เช้า  จนได้ไปทำความรู้จักกับแฟนจีนกลุ่มหนึ่งเป็นแฟนวงซึ่งมาจากทางใต้  พวกเธอตื่นเต้นที่ได้เจอแฟนต่างชาติอย่างพวกเรามาก  ประทับใจที่รู้ว่าพวกเราทุ่มเทขนาดบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อร่วมคอนเสิร์ต 5 ปี ของ TFBOYS  ในขณะที่ทางเราเองกลับประทับใจในพวกเธอมากกว่า เพราะทางนี้นั่งเครื่องมา เต็มที่ก็แค่ 5-6 ชั่วโมง  พวกเธอสินั่งรถไฟมาใช้เวลา 10 ชั่วโมง กว่าจะถึงปักกิ่ง ไม่ได้หลับได้นอน ไม่ได้จองโรงแรม ดูคอนจบแล้วก็กลับเลย  ยอมแพ้ใจจริงๆ

    เมื่อต่างฝ่ายต่างนับถือกันและกัน ก่อเป็นมิตรภาพดีๆ เห็นพวกเราภาษาอ่อนแอ ท่าทางเด๋อๆ ด๋าๆ พวกเธอเลยอาสาจะมาช่วยทำโปรเจกต์  จัดการจัดแจงเลือกทำเล ปักหลักกางแบนเนอร์แจกของที่ระลึกที่เป็นยาดมอยู่ใต้สะพานลอย (เอ๊ะ...ทำไมมันดูคุ้นๆ นะ)

    เจอลีลาการเรียกคนมาเซ็นแบนเนอร์ของแม่จีน  นี่อุทานในใจเลยว่า "กะ...เก่ง!" คือพูดฉอดๆ เสียงดังฟังชัด ราวกับว่าเป็นคนทำโปรเจกต์เองตั้งแต่ต้น ฟังไม่ออกว่าพูดอะไร แต่รู้ว่าโฆษณาให้แฟนไทยเยอะมาก ส่วนใหญ่คนที่มาเซ็นเป็นแฟนวง (แม่ส้ม) น่ารักกันทุกคน  มีคู่นึงเป็นเพื่อนกัน เพื่อนดุเพื่อนว่า "อย่าไปเซ็นตรงหน้าน้องสิ นิสัยไม่ดีเลยนะ เธอทำแบบนี้ เดี๋ยวกลับไปคืนนี้ ฉันจะเปลี่ยนพาสเวิร์ดให้เธอเข้าห้องไม่ได้ ต้องนอนข้างนอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า" นี่พลอยหัวเราะตามไปด้วย  เผลอแป๊บเดียวของที่ระลึกที่เตรียมมา 86 ชิ้นก็หมดเกลี้ยงก่อนที่จะมีใครมาไล่และไม่โดนถ่ายรูปประจาน (รอดแล้ว)

    ระหว่างที่กางแบนเนอร์เพื่อถ่ายรูปหมู่  พอบอกว่าสโลแกนของ Thai Clover คือ "TFBOYS สวัสดีค่ะ/ครับ" ให้ช่วยกันพูด ก็ถูกติงว่ามันสั้นไป มีการมาช่วยต่อสโลแกนให้เป็นภาษาจีนอีก 2-3 ประโยค (หื้ม!?) ว่า "五周年快乐今年在北京" (สุขสันต์วันครบรอบ5ปี ปีนี้อยู่ปักกิ่ง)

    ขำความชอบออกกล้องของคนจีน แม่ส้มพอเห็นเรากางแบนเนอร์จะถ่ายรูป
    หลายคนรีบวิ่งลงมาจากสะพานลอย ขอเข้าเฟรมถ่ายรูปด้วย

    ปิดโปรเจกต์ลงอย่างราบรื่น ได้เวลาเข้างานกันแล้ว...แต่มาดูกฎข้อ 2 กันก่อน เขาเตือนว่าอย่าลืมนำตั๋วตัวจริงและบัตรประชาชนมาแสดงด้วย  ความที่ใช้พาสปอร์ตเป็นบัตรผ่านยกแก๊งเลยนัดเข้าคอนพร้อมกัน  เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยกันเถียง อยากรู้เหมือนกันว่าสตาฟหน้างานจะตรวจเข้มมากน้อยแค่ไหน?

    ผลก็คือ...ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต สตาฟตรวจแบบผ่านๆ มากเลยจ้ะ โมโหเล็กน้อย เห็นบริษัทย้ำแล้วย้ำอีกตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว นึกว่าจะตรวจจริงจังกว่านี้  ปรากฏว่าที่ตรวจเข้มมากๆ กลับเป็นการตรวจหาตั๋วปลอม เพราะใช้ไฟยูวีส่องดูตั๋วทุกใบ เป็นไปได้ว่าตั๋วปลอมคงระบาดหนักกว่าตั๋วผี

    ผ่านด่านตรวจกันทุกคน ได้ดูคอนแล้ว

    และที่ตรวจเข้มมากๆ อีกอย่างตามที่ประกาศในข้อ 3 ก็คือ ป้ายไฟและอุปกรณ์เชียร์  อ่านถีึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ตรวจเข้มแล้วจริงๆ น่ะเหรอ  แล้วป้ายไฟมากมายที่เห็นผ่านการถ่ายทอดสดมันคืออะไร?  ยืนยันในฐานะที่โดนตรวจเองว่าการ์ดตรวจละเอียดจริงๆ แม้เลเวลจะไม่เข้มข้นเท่าคอนเกาหลีที่มาจัดที่ไทย แต่นับว่าถี่ถ้วนแหละ กระเป๋าใบใหญ่ก็ห้ามเอาเข้าตามกฎข้อ 4  

    ดังนั้นเรื่องที่แต่ละบ้านเอาป้ายไฟเข้าไปได้อย่างไรนั้นจึงเป็นปริศนา  เท่าที่ยืนดูตรงทางเข้านั่นคือโดนยึดป้ายไฟกันไปเยอะมากแล้วนะ  เห็นคนนึงโดนจับได้แล้วใช้วิธีวิ่งฝ่าด่านเข้าไปในสนามจนการ์ดต้องวิ่งไล่ตามเป็นฝูง เขาแค่จะยึดป้ายไฟแต่เจ๊ทำท่าเหมือนตัวเองเป็นมือระเบิดพลีชีพยังไงยังงั้น  โครตน่ากลัว~ 

    เดินเข้าสนามด้วยความตื่นเต้น
    เปรียบเทียบวิวระหว่าง ตั๋วยอดดอยถูกสุด บัตรราคา 380 หยวน
    กับตั๋วอารีนา บัตรราคา 1380 หยวน
    .
    .
    .
    .
    .

    และแล้วคอนเสิร์ตครบ 5 ปี TFBOYS ก็เริ่มต้นขึ้น



    อืม...สารภาพเลยว่า เนื้อหาข้างบนน่ะเราเขียนเสร็จตั้งแต่กลับมาจากคอนปีที่แล้ว แต่พอต้องเขียนเนื้อหาส่วนหลังที่เป็นการรีวิวตัวคอนเสิร์ตจริงๆ กลับรู้สึกลำบากใจที่จะเขียนแล้วก็ดองข้ามปีจนได้  ออกตัวไว้ก่อนว่าปกติเราเป็นแฟนคลับสายอวยนะ แต่คอนครบรอบของ TFBOYS ที่ไปดูมา 3 ครั้ง 3 ปีนั้น คอนครั้งนี้เราประทับใจน้อยที่สุด  เหตุผลแรกและเป็นเหตุผลหลักเลยก็คือเรื่องระบบเสียง รู้แหละว่าคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมมันมีหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้การคุมระบบเสียงทำได้ยากอยู่แล้ว ทว่าจะมี Sound Engineering เอาไว้ทำไมล่ะ?

    ยิ่งได้ฟังเพลงในคอนเสิร์ตเวอร์ชั่นตัดเสียงรบกวนออกแล้ว ยิ่งรู้สึกโกรธหนักเข้าไปใหญ่ เพราะมันดีกว่าที่ฟังในคอนมากๆ  ที่น่าเสียดายที่สุดคือเพลง 青春修炼手册 ที่มีการรีมิกซ์ใหม่ในแบบที่ TFBOYS ไม่เคยร้องมาก่อน ควรเป็นไฮไลท์ของงานเลยด้วยซ้ำ แต่ระบบเสียงทำทุกอย่างพังพินาศจริงๆ

    พังอย่างที่ 2 คือ ธีมคอนเสิร์ตช่างมั่วซั่วสิ้นดี  ถึงแม้ว่าไตเติ้ลคอน จะเป็น 開始 • 想像 (Start • Imagine) แต่จะยัดอะไรสะเปะสะปะลงไปแล้วอ้างว่าเพราะธีมคือ "จินตนาการ" ไม่ได้นะ ขาดศิลปะในการนำเสนออย่างแรง ดูจาก VTR ที่มีทั้ง โลกอนาคต, จักรวาล, ไอเท็มวิเศษ, ตึกกลับหัวกลับหาง, ต้นไม้, สัตว์ป่า, โลกใต้ทะเล, เครื่องดนตรีต่างๆ ฯลฯ แต่ละอันไม่ได้เชื่อมโยงกันเลย  หนำซ้ำแดนเซอร์ที่ออกมาเต้นเปิดและพิธีกรยังใส่ชุดคลุมในลุคพ่อมดแม่มดอีก จะไปตะลุยโลกเวทมนตร์ที่ไหน

    คือทุกอย่างในนั้นสามารถแยกออกจากกันเป็นธีมต่างหากได้เลย  เลือกมาธีมเดียวก็พอ ไหนๆ ก็อุตส่าห์ทำพร็อพเป็นรถยนต์วางประดับไว้ที่ข้างเวทีแล้ว ธีมรถแข่งเลยดีมั้ย?  VTR ก็ให้ TFBOYS ขับรถแข่งกัน เข้าช่วงโซโล่ก็ขับแยกไปคนละทาง เจอเส้นทางที่แตกต่างกัน ก่อนจะขับมาเจอกันที่ริมทะเลเพื่อร้องเพลงของวง พล็อตง่ายๆ แค่นี้ก็พอ ไปคิดอะไรให้มันยาก 

    พังอย่างที่ 3 คือ การที่ไม่สามารถรันคิวการแสดงให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนดได้ จนทำให้เพลงอังกอร์ต้องโดนตัดทิ้ง แล้วเพลงอังกอร์ของ TFBOYS ก็คือเพลง Heart เพลงเดบิวต์นะคุณ  นี่มันคือคอนเสิร์ตครบรอบเดบิวต์ 5 ปี แต่ TFBOYS กลับไม่ได้ร้องเพลงชาติของวง ตัดจบแบบงงกันทั้งสนาม อนึ่งคอนเสิร์ตไม่ได้เริ่มเลทเพราะต้องถ่ายทอดสด  ขณะเดียวกันเราไม่คิดว่าการที่เมื่อวานต้องยกเลิกการซ้อมกลางคันจะสามารถเอามาใช้เป็นข้ออ้างได้

    พังอย่างที่ 4 อา...ก็ไม่ถึงขั้นพังหรอกนะ เพราะคนหล่อใส่อะไรก็ออกมาดูดีอยู่แล้ว แต่คอสตูมคอนนี้โดยเฉพาะคอสตูมที่ต้องใส่เข้าเซ็ตกัน 3 กัน มันดูสวยน้อยกว่าทุกปี แต่ชุดที่ใส่โซโล่นี่ผ่านนะ เลือกได้เข้ากับบุคลิกของแต่ละคนแล้ว

    คอสตูมสามคนน่าจะสวยได้มากกว่านี้
    ตัวอย่างคอสตูมที่เราว่าสวยคือที่ใส่ไปปีใหม่หูหนาน และจริงๆ คอนปีอื่นยังออกแบบได้สวยกว่านี้

    ความพินาศเหล่านี้ ตอนแรกก็ตั้งใจจะโทษว่าเป็นความผิดของ TF ent. ทั้งหมด  แต่พอมาพิจารณาแล้ว เราว่าทีมงานเบื้องหลังเวทีที่ดูแล้วน่าจะเป็นเอาท์ซอร์ซที่บริษัทจ้างมาอีกทอด ฝีมือยังไม่ถึงด้วยแหละ โดยเฉพาะผู้กำกับคอนเสิร์ตยังไม่เก่งพอ

    หากจะเหลืออะไรให้ชมเกี่ยวกับคอนครั้งนี้ คงเป็นร่างกายเด็กๆ ที่แข็งแรงมาก สามารถเล่นคอน 2 ชั่วโมงเศษๆ ได้โดยที่ไม่น็อคไปก่อน  อย่าลืมว่าพวกเขาเป็นเด็กวัยรุ่นอายุหลักสิบ และนี่คือคอนเสิร์ตกลางฤดูร้อนที่จัดในสนามกีฬา แม้อากาศจะไม่ได้ร้อนตับแลบ แต่ลมแทบไม่พัดเลย  ขนาดนั่งดูเฉยๆ ตรงอารีนายังรู้สึกอึดอัด พวกที่นั่งบนแสตนด์ร้อนกว่าแน่นอนเพราะโดนขนาบด้วยป้ายไฟรอบทิศ  สังเกตแดนเซอร์ก็ได้จะเห็นว่าเหงื่อท่วมหน้ากันทุกคน แล้วคนที่อยู่บนเวทีที่โดนสปอร์ตไลท์ส่องตรงๆ จะร้อนขนาดไหน   

    นอกจากประทับใจตัวศิลปินแล้ว  ปีนี้เราประทับใจแฟนคลับด้วย นั่นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาดูคอนเสิร์ต TFBOYS ในดงส้มที่เป็นแฟนวงทั้งโซน  ทำให้รู้ว่าพวกนางเชียร์ทุกคนจริงๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กฝึก  โอเคว่า พอเมนตัวเองขึ้นอาจจะเสียอาการมากหน่อย เช่น คนที่นั่งข้างๆ นี่เมนหวังหยวนแน่นอน ตอนโซโล่น้องหยวน นางส่องกล้องไปพึมพำกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า "หวังหยวนหว่ออ้ายหนี่ๆๆๆ" ราวกับสวดมนต์ นั่งติดๆ กันก็หลอนนิดๆ เหมือนกันนะ

    การนั่งในดงส้มยังทำให้รู้ว่าเพลง 不完美小孩 (Imperfect Child) สำคัญกับแฟนวงมากขนาดไหน วัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ตของแต่ละชาตินั้นต่างกัน  ถ้าเป็นญี่ปุ่นเนี่ยเขาจะยืนตลอดทั้งการแสดงเพื่อเป็นการให้เกียรติศิลปิน  ส่วนของไทยจะนั่งและยืนก็ต่อเมื่อตรูมีอารมณ์อยากลุกขึ้นเต้นมาตามศิลปิน (ฮา) ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่เหมือนไทยคือนั่งดู อาจจะมีคนทะลึ่งลุกขึ้นยืนหรือชูป้ายบังชาวบ้านบ้าง การ์ดก็จะมาไล่ตบในนั่งลง  ซึ่งไม่รู้ว่าโชคดีรึเปล่านะที่โซนเราไม่มีอย่างนั้น ทุกคนนั่งกันเรียบร้อยมาก จนเราที่อยู่แถวเกือบหลังสุดนึกอยากให้แถวหน้าๆ ยืนบ้างก็ได้นะ เผื่อจะได้ยืนตามบ้าง นั่งดูจนคอแข็งไปหมดแล้วเนี่ย แต่คำอธิษฐานไม่เป็นผล ถึงโซนอื่นจะยืน พวกนางก็ยังนั่งดูคอนต่อไป จนเพลง 不完美小孩 (Imperfect Child) ขึ้นเท่านั้นแหละ  รู้สึกเลยว่าแฟนๆ ในดงส้มอินกับเพลงนี้มาก ลุกกันหมดเลยทั้งโซนเหมือนโดนสะกดอให้อยู่ในภวังค์

    ฟังเด็กๆ ร้องเพลงนี้แบบสดๆ มา 2 ปี ขอบอกว่าตอนแรกเฉยๆ มาก คงเพราะเราชอบ Young กับหิ่งห้อยมากกว่า (หิ่งห้อยนี่อยู่ในระดับชอบมาก)  อีกอย่างความหมายของ Imperfect Child มันเฉพาะเจาะจงมากไปหน่อย เพราะพูดถึง TFBOYS+แฟนๆ เลยล่ะ  ซึ่งไม่ได้แมสพอจะไปจับใจคนในวงกว้างได้  จนมาได้ฟังครั้งที่ 3 ในคอน 5 ปีนี้  สงสัยถูกบรรยายกาศในดงส้มบิ้วด้วยเลยรู้สึกว่าเพลงมันเพราะขึ้นผิดหูผิดตา (น้ำตาไหลพราก) หรือไม่ก็เพราะระยะเวลาที่เราตาม TFBOYS คงมากพอจนทำให้อินไปกับเพลงแล้วจริงๆ เชื่อละว่าเพลงมันจะเพราะเป็นพิเศษหากคนฟังมีความหลังกับเพลงนั้น

    ได้บัตรอารีนาก็จริงแต่เป็นอารีนาล็อกสุดท้าย D3 อยู่ต่อจาก C3 ไปอีก

    ติดใจบรรยายกาศของดงส้มจนคิดว่าคอนปีต่อๆ ก็จะปักหลักอยู่กับแฟนวงนี่แหละ สบายใจสุดแล้ว แม้ว่าปีนี้พวกนางจะแพ้อย่างราบคาบเลยก็เถอะ  ก็ถ้าเปรียบคอนเสิร์ตครบรอบของ TFBOYS เป็นศึกระหว่าง 4 สี ผู้พ่ายแพ้เพียงหนึ่งเดียวในศึกครั้งนี้ก็คือสีส้มนั่นเอง  จากการที่บริษัทเอาคอนเสิร์ตมาเป็นตัวประกัน พร้อมจะล้มคอนได้ทุกเมื่อ คนที่กลัวที่สุดจะมีใครนอกจากแฟนวงอย่างบ้านส้ม  ปีนึงมีงานวงแค่ไม่กี่ครั้ง ถ้าคอนปีนี้ล้ม ปีหน้าอาจไม่ได้จัดอีกเลยก็ได้  แม้แต่แฟนจีนที่มาช่วยทำโปรเจกต์เมื่อตอนบ่ายยังฝากป้ายไฟที่อุตส่าห์เตรียมมาให้เราไปเก็บไว้ที่โรงแรมเลย  ทั้งๆ ที่สีอื่นแอบลักลอบเอาป้ายไฟเข้าคอนกันสุดชีวิต สีส้มนี่คือยอมให้ปลดอาวุธด้วยตนเอง โดยหวังลมๆ แล้งๆ กับคำมั่นของบริษัทที่บอกเอาไว้ในข้อ 5 ว่าจะเตรียมแท่งไฟเอาไว้ให้ในทุกที่นั่ง  ซึ่งบ.มันก็เตรียมไว้ให้จริงๆ แต่จะดีกว่านี้ถ้าแท่งไฟไม่ติดๆ ดับๆ และไม่จางจ้างจางขนาดนี้

    นึกถึงสโลแกนที่ว่า "สีส้มจะไม่มีวันจางหายไป" ขึ้นมา จดบันทึกไว้เลยว่าในงานคอนเสิร์ตครบรอบ 5 ปีของ TFBOYS บริษัท TF ent. ได้ทำสีส้มหายไปจากคอนแล้วจริงๆ ด้วยน้ำมือตัวเอง

    เฮ้อ...พูดถึงเรื่องประทับใจอยู่ดีๆ ทำไมตรูดึงดราม่าได้ละเนี่ย 

    นอกจากแท่งไฟห่วยๆ 1 แท่งแล้ว บริษัทยังแจกเสื้อกันฝนและถุงผ้าให้ด้วย ขอบจาย~

    จบการรีวิวคอนเสิร์ตของเราแต่เพียงเท่านี้  แถมมินิรีวิวจากผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ด้วย กล่าวคือ นางไม่ได้ติ่ง TFBOYS แค่ติดสอยห้อยตามมาเที่ยวปักกิ่งด้วยเฉยๆ เลยถูกส่งไปทัศนศึกษาที่ยอดดอย  ยังอุตส่าห์ส่งมินิรีวิวให้ด้วย

    • หวังจุนไคร้องเพลงภาษาอังกฤษสำเนียงดีกว่าที่คิดไว้
    • ถ้ามองผ่านจอแล้วหวังหยวนคือคนที่หล่อที่สุดใน TFBOYS ยืนเรียงกันสามคนหน้าหวังหยวนเหมือนจะพุ่งทะลุจอออกมาเลย
    • เพิ่งรู้ว่าอี้หยางเชียนซีมีแฟนคลับเยอะขนาดนี้
    • โปรดักชั่นคอนเสิร์ตไม่ค่อยอลังการเท่าไหร่ 

    ข้อสุดท้ายนี่พอเข้าใจได้อยู่นะ เพราะรายได้หลักของ TFBOYS ไม่ได้มาจากการทัวร์คอนเสิร์ตอยู่แล้ว บริษัทจะลงทุนกับคอนเสิร์ตที่เล่นปีละครั้งไปทำไมเยอะ ขนาด DVD คอนเสิร์ตยังไม่ขายเลย แถมยังถ่ายทอดสดให้ดูฟรีอีกต่างหาก VIP อะไรไม่ต้องสมัคร ขออย่างเดียว ไม่มีบัตรอย่ามาออกันที่หน้าคอน  เฉพาะคนดูในสนามก็หลายหมื่นคนบริษัทก็รับมือไม่ไหวแล่ว  การจราจรในงานแบบว่าแออัดมาก  กับเพื่อนที่ไปด้วยกันถึงขนาดต้องกำหนดจุดนัดพบหลังเลิกคอน เพราะไม่มีใครนั่งด้วยกันเลย อยู่กันคนละโซนหมด  สัญญาณโทรศัพท์ไม่ว่าจะ China unicom หรือ China mobile อืดไม่ไหวแล้ว

    พวกเรานัดเจอกันตรงใต้บันไดที่เดิมที่ยืนแจกยาดม  เรื่องขำก็คือ เรามาถึงก่อนนั่งรออยู่เป็นคนแรก คงเห็นที่นั่งเราทำเลดีล่ะมั้ง สักพักมีแฟนจีนคนนึงมานั่งด้วย นี่ก็ไม่ว่าอะไร อยากนั่งก็นั่งไปสิ  ระหว่างนั้นเองเพื่อนเราก็ทยอยมาถึงกันทีละคนๆ  แล้วแต่ละคนเนี่ยคืออัดอั้นตันใจต้องการเพื่อนหวีดมาก  เจอหน้ากันปุ๊บก็เม้าท์กันใหญ่เป็นภาษาไทยล้วนๆ แล้วทั้งแก๊งคือ 10 กว่าคน ยืนล้อมเรากับแม่จีนคนนั้นเอาไว้เพราะทุกคนนึกว่าเป็นคนรู้จักของเรา  ที่แปลกคือ...นางไม่ลุกหนีวุ้ย นั่งเนียนไปต่อไป เหมือนจะสนุกที่เห็นรีแอคชั่นของแฟนต่างด้าวด้วยนะ  แต่สุดท้ายคงเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่เลยโพล่งถามขึ้นมาว่า "มาจากไหนกันเหรอ?" ถึงได้รู้กันตอนนั้นแหละว่า อ้าว...ไม่ใช่คนในกลุ่ม ไม่จบยังถามต่อด้วยว่า "แล้ว TFBOYS นี่ชอบคนไหน?" พอบอกว่าชอบทั้งสามคน นางก็บอก "ฉันน่ะชอบหวังจุนไคคนเดียว..." ตอบแบบนี้สงสัยจะคุยกันต่อไม่ได้ ย้ายที่ดีกว่า

    นั่งกินซาวเข่าหลังจบคอนเสิร์ตนี่ดีจังน้อ...
    ดีกว่าปีที่แล้วที่นั่งโซ้ยมาม่าเป็นไหนๆ

    หลังจากเมื่อวานบรรลุจุดประสงค์หลักของทริป คือ การดูคอนและทำโปรเจกต์ไปแล้ว  วันนี้ได้เวลากิน เที่ยว ช้อปฉบับติ่งๆ กันบ้าง  เมื่อสองปีก่อนเราตระเวนถ่ายป้ายโฆษณาของ TFBOYS ตามสถานีรถไฟในปักกิ่ง  ปีนี้เก็บได้แค่ป้ายเดียวตรงสถานีใกล้ๆ โรงแรม  เน้นเดินห้างกับแหล่งช้อปปิ้งเพื่อเช็คอินตามร้านต่างๆ ที่ TFBOYS เป็นพรีเซนเตอร์แทน

    ถึงจะป้ายเล็กไปหน่อยแต่ก็เป็นป้ายวงนะจ๊ะ
    roseonly ที่หวังจุนไคเป็นพรีเซนเตอร์ มีตุ๊กตาหมีสูทแดงที่เป็นสินค้าลิมิเต็ดตั้งโชว์ไว้ด้วย
    KFC กับ Line Friends ที่หวังหยวนเป็นพรีเซนเตอร์
    KFC สาขานี้พิเศษ คือ มีจู๊กบ็อกซ์ที่สามารถเลือกเปิดเพลงอะไรก็ได้ เล่นเพลงของหวังหยวนก็ได้
    ส่วน Line Friends ตอนนั้นน่าเสียดายที่ Roy6 ยังไม่เข้าร้าน
    BEAST สาขาซานหลี่ถุนที่เชียนซีเป็นพรีเซนเตอร์ ตั้งอยู่ละแวกเดียวกับสถานที่จัดคอน
    ไม่พลาดโอกาสที่จะตกแต่งทั้งในทั้งนอกร้านลามไปถึงบันไดด้วยรูปของพรีเซนเตอร์

    เที่ยวเสร็จมาต่อด้วยเรื่องของกินบ้าง  มื้อแรกของวันนี้เป็นเป็ดปักกิ่ง ในที่สุดก็ได้กินแล้วหลังจากที่พลาดไปเมื่อสองปีก่อน แต่ไม่ใช่เป็ดร้านดัง เลยไม่ได้ใบประกาศแถมรสชาติก็งั้นๆ  ที่อร่อยดันเป็นหมี่ผัดเห็ดทรัฟเฟิลจานข้างๆ ทางร้านจัดโปรลดราคาอยู่แท้ๆ แต่อร่อยเกินเบอร์มาก อร่อยกว่าเป็ดทั้งจานอีก อยากกินอีกจังเลย

    ในส่วนของมื้อค่ำนั้น กลับไปที่ Workers Stadium อีกครั้งในวันที่ไม่มีคอนเสิร์ต เพราะเป้าหมายของเราคือร้าน Sanyangcai ที่อยู่ติดกับสเตเดียมที่จัดคอนเลย  ตามหลักแล้วควรมากินตั้งแต่เมื่อวานด้วยซ้ำ จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา แต่เพราะร้านนี้โดนบ้านไคหยวน เหมาทั้งร้านมา 3 วันแล้ว ทำให้ต้องมาวันนี้แทน

    ใช่แล้วค่ะ มันเป็นร้านดังในหมู่แฟนคลับ TFBOYS ส่วนนึงก็มาจากทำเลร้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับซานหลี่ถุนในระยะที่เดินได้  ซึ่งสำนักงานของ TF ent. สาขาปักกิ่งรวมถึงหอเก่าของ TFBOYS ก็ตั้งอยู่ในย่านนี้นี่แหละ เล่ากันว่าถ้าเป็นร้านอาหารดังๆ ในซานหลี่ถุนนั้น TFBOYS น่ะไปชิมมาหมดแล้ว แล้วยิ่ง Sanyangcai เป็นร้านอาหารฉงชิ่งบ้านเกิดหวังจุนไคกับหวังหยวน  ร้านนี้จึงกลายเป็นร้านประจำของสองหนุ่มไปโดยปริยาย เล่ากันอีกว่าเวลาที่หวังหยวนมากับสตาฟก็จะนั่งโต๊ะด้านนอกร่วมกับลูกค้าทั่วๆ ไป ต้องเป็นวันที่หวังจุนไคมาด้วย ถึงจะเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัว เอ๊ะ ยังไง?

    เห็นหน้าร้านเล็กๆ แบบนี้ แต่ Sanyangcai จุคนได้มากกว่า 400 คน

    กล่าวได้ว่าบ้านไคหยวนเลือกสถานที่มีตติ้งแบบมีสตอรี่จริงๆ  และแม้ว่าวันนี้พวกนางได้จากไปแล้ว แต่ยังอุตส่าห์ทิ้งลายแทงเป็นเมนูอาหารแนะนำสำหรับเหล่าชิปเปอร์  ที่ร้านคอนเฟิร์มเองว่าเป็นเมนูที่ TFBOYS มักจะสั่งมากินประจำเวลามาที่ร้าน  แต่ถ้าจะกินให้ครบทุกอย่างก็ควรพาเพื่อนมาสัก 8-10 คน เพราะเขาเสิร์ฟจัดเต็มสไตล์โต๊ะจีน

    แก๊งซาวเข่าเมื่อคืนเลยต้องมากินด้วยกันอีกมื้อ

    เนื่องจากสั่งตามลายแทงของแม่ไคหยวน ตอนมาอาหารมาเสิร์ฟได้เห็นหน้าตาก็จะงงๆ แบบว่า อ๊ะ สั่งด้วยเหรอ มันคืออะไรอะ ไก่ หมู เนื้อ หรือปลา?  หลายๆ เมนูก็เพิ่งเคยกินครั้งแรก  ที่เด็ดมีอยู่จานนึงซึ่งเป็นจานแพงที่สุดในวันนั้น เป็นเมนูเดียวด้วยที่ทางร้านมีโปรโมชั่นลดราคาให้ 5% นั่นก็คือซุปปลา

    แม่ไคหยวนที่เป็นคนชี้ทางมาให้พวกเรามาที่ร้านนี้ เล่าให้ฟังว่า ครั้งนึงหวังหยวนกับหวังจุนไคมากินที่ร้าน  วันนั้นหวังหยวนงอแงอยากกินซุปปลา บริกรบอกว่า ซุปปลาที่ร้านมี 2 แบบ ถ้วยเล็กราคา 8X แต่ปลาจะก้างเยอะหน่อยนะ ส่วนถ้วยใหญ่ใช้ปลาคุณภาพดี ไม่ค่อยมีก้าง ราคา 3XX หวังหยวนได้ยินราคาก็บ่นอุบว่า "แพงจัง" หวังจุนไคจึงตัดสินใจแทนบอกกับบริกรไปว่า "เอาถ้วยใหญ่มาเลยฮะ"

    เรื่องแบบนี้ ต่อให้ไม่ชิปก็ยังรู้สึกว่า เจ้าเด็กพวกนี้ทำไมน่ารักจังวะ ดีใจที่ได้เห็นพวกเขาดูแลใส่ใจซึ่งกันและกันแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม น้องหยวนอยากกินซุปปลา พี่ข่ายก็สั่งชามใหญ่ให้กินเลย~

    ซุปปลาชามใหญ่มาก ราคาประมาณ 3XX หยวน

    ถ้าถามว่ารสชาติอาหารเป็นยังไงคุ้มค่ากับราคามั้ย? โต๊ะจีนที่เสิร์ฟอาหารเต็มโต๊ะ กินกัน 10 คน เฉลี่ยตกคนละร้อยหยวน มันต้องคุ้มอยู่แล้ว แต่ถ้าใครจะมาตามรอยเลือกสั่งเมนูที่รู้ว่าในจานเป็นเนื้ออะไรดีกว่านะ เวลากินจะได้สบายใจ 5 5 5

    ทริปนี้ยังเหลือวันกลับวันสุดท้ายอีกวัน ซึ่งเราไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนมา อาหารอีก 2 มื้อก็เป็น KFC กับอาหารสนามบินไม่มีอะไรน่ารีวิวเป็นพิเศษ แค่นี้ก็เขียนยาวมากไปแล้ว นี่เขียนโดยไม่รู้ว่าจะมีใครนั่งอ่านจนถึงบรรทัดนี้หรือเปล่า แต่ก็ยังอยากเขียนอยู่นะ  อยากบันทึกความทรงจำของตัวเองเกี่ยวกับคอนเสิร์ต TFBOYS ทุกปีๆ ยาวไปจนถึงคอน 10 ปีเลย  ขออย่างเดียวอย่าโดนหลอกอีกได้มั้ยอะ ไปดูคอนมา 3 ปี โดนหลอกเงินทั้ง 3 ปีเลย  งวดนี้มาในรูปแบบแบงค์ 100 หยวนปลอมจ้า T_T

    ได้แบงค์กงเต็กมา 1 ใบถ้วน

    ไม่ควรปิดรีวิวด้วยแบงค์ปลอมสินะ รูปนี้แทนแล้วกัน เป็นธรรมเนียมกลายๆ แล้วที่หลังจบโชว์เมื่อไหร่ ลูกชายคนโตจะมาโพสต์รายงานตัวส่งแม่ๆ เข้านอน  แต่พอดีวันคอนคลื่นมือถือมันเฟลมากโหลดรูปหนูไม่ค่อยจะขึ้นกัน เพิ่งมาทำมิชชั่นสำเร็จเอาตอนกินโต๊ะจีนอีกวันนี่แหละ

    หวังจุนไคกับอาหารบ้านเกิดของเขา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in