เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
How to ไปดูคอนเสิร์ต TFBOYS ที่แผ่นดินใหญ่ด้วยตัวเองt0y_ting
Who are TFBOYS?
  • ช่วงอารยธรรม Exteen เราเคยเขียน How to ไปดูคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น และ How to ไปดูคอนเสิร์ตที่เกาหลี "ด้วยตัวเอง" เอาไว้  พอคุณแชมป์มาสร้างอารยธรรมใหม่ที่ Minimore เลยตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายตามมา  ปรากฏว่าพอกลับไปอ่านไอ้ที่เคยเขียนไว้ก็พบว่าข้อมูลมันไม่อัพเดทเลย  ก็แหงสิ เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2009 อีกทั้งปัจจุบันคนไทยไปเที่ยวเกาหลีกับไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเยอะมาก ราวกับว่าทั้งสองประเทศเป็นเชียงใหม่หรือภูเก็ตก็ไม่ปาน การไปดูคอนเสิร์ตที่สองประเทศนี้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยากเย็นอีกต่อไป  ขอแค่หาตั๋วคอนให้ได้ อย่างอื่นเดี๋ยวก็ตามมาเอง  เพราะงั้นเก็บมันไว้ที่ Exteen เป็นซากอารยธรรมตามเดิม แล้วเรามาเขียน How to ไปดูคอนเสิร์ตที่ประเทศซึ่งคนไม่ค่อยจะไปหรือยากที่จะไป "ด้วยตัวเอง" แทนดีกว่า  นั่นจึงเป็นที่มาของ How to ไปดูคอนเสิร์ต TFBOYS ที่แผ่นดินใหญ่ด้วยตัวเองในครั้งนี้ค่ะ

    ตลอดชั่วชีวิตติ่งของเรา ผ่านความรุ่งโรจน์ของกระแสเพลงเอเชียมาหลายยุคสมัย นับตั้งแต่ ยุค J-rock (X Japan/Luna Sea/L'Arc-en-Cile/Glay) ยุคบอยแบนด์ไต้หวัน (F4/Fahrenheit) ยุค Johnny's Family (TXT/KAT-TUN/NEWS) ยุค K-wave (TVXQ/Super Junior) ยุค 48 group (AKB48/SKE48/ NMB48/HKT48) เพราะโดยส่วนตัวแล้วเราชอบวงการเพลงเอเชีย ต่อให้ฟังไม่ออกเลยสักคำก็ยังชอบอยู่ดี จริตมันไปทางนี้  ถึงขนาดโดนเพื่อนแซวว่าสักวันเราคงเข้าสู่วงการบอลลีวูดแหงๆ แต่ขอโทษว่ะเพื่อน ทายผิดละ กลายเป็นว่าหลังจากที่วนเวียนระหว่างเกาะญี่ปุ่น เกาะไต้หวัน และคาบสมุทรเกาหลีมานานหลายปี รู้ตัวอีกทีทำไมเรือของเราถึงเดินทางมาเกยตื้นที่แผ่นดินใหญ่ได้ก็ไม่รู้ โอ้ว...แผ่นดินแม่ (น้ำตาไหล)

    มันน่าจะเริ่มจากที่ระยะหลังบ้านเราได้นำเอานิยายจีนที่เป็นฝีมือของนักเขียนแผ่นดินใหญ่มาแปลกันเยอะขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นิยายกำลังภายในที่นักเขียนเป็นคนฮ่องกงไม่ก็ไต้หวันอีกต่อไป บนชั้นของร้านหนังสือเริ่มมีนิยายแปลจีน แนวรักโรแมนติค แนวสืบสวนสอบสวน แนวแฟนตาซี แนวสยองขวัญ แม้กระทั่งแนววาย ปรากฏอยู่บนแผง  ซึ่งแต่ละเรื่องก็ดังๆ ทั้งนั้น ประกอบกับวงการบันเทิงจีนกำลังบูมสุดฤทธิ์ นิยายเหล่านี้จึงมักจะถูกซื้อลิขสิทธิ์นำไปสร้างเป็นละครควบหนังไปด้วยเลย  ทีนี้แฟนนิยายอย่างเราพออ่านนิยายจบ เลยตามเลยไปดูละครต่อ ละครจบก็ดูรายการวาไรตี้ที่ดารานำของแต่ละเรื่องไปโปรโมท ต่อกันอย่างนี้เป็นทอดๆ

    ทีนี้เมืองจีนมีรายการวาไรตี้รายการนึงชื่อว่า Happy Camp ออกอากาศทางช่องหูหนาน เป็นรายการทีวีที่ตลกมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้เป็นรายการวาไรตี้อันดับ 1 ของจีน  ติดผังของสถานีมายาวนาน กว่า 20 ปี  แต่ละเทปจะมีดารา นักร้อง ไอดอล เซเลปหมุนเวียนกันมาเป็นแขกรับเชิญ และไม่จำกัดเฉพาะดาราสัญชาติจีน ดาราไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี หรือแม้แต่ไทย  ขอแค่อยู่ในกระแสก็มีโอกาสได้รับเชิญให้ไปออกรายการ มาร้องเพลงบ้าง เต้นบ้าง โชว์บ้าง  แต่ที่ขาดไม่ได้คือต้องมาร่วมเล่นเกมกับแก๊งพิธีกร 5 คนของรายการ  เราดู Happy Camp โดยอาศัยบ้านแฟนซับกลุ่มต่างๆ  แรกๆ ก็เลือกดูเฉพาะเทปที่มีดาราที่รู้จักไปออก ดูจนหมดแล้ว ถึงได้ลองดู Happy Camp เทปที่ TFBOYS ไปออก  ตอนนั้นยังไม่รู้จักเลยนะว่าน้องเป็นเป็นใคร  ดังขนาดไหนถึงได้ไปเป็นแขกรับเชิญหลักในรายการ  ปรากฏว่าดูจบ ก็จบเลย...ไม่ต้องดู Happy Camp เทปอื่นต่อละ ดูคลิปน้องๆ TFBOYS ท่าจะสนุกกว่า

    ปกติเวลาโดนถามว่า TFBOYS เป็นใคร? เรามักจะโยนบทความของ CRI เอาไปให้อ่าน เพราะเขาเขียนได้ละเอียดและอวยได้ประทับใจติ่งมาก

    [แนะนำ "TFBOYS" กลุ่มดาราหนุ่มน้อยที่มีชื่อเสียงของจีน] ตอน 1  ตอน 2  ตอน 3  ตอน  4 

    หรือถ้าใครชอบแบบคลิปวีดีโอก็มีเป็นสารคดีให้ดูนะ

    [สารคดีครบรอบ 1 ปี]
    [สารคดีครบรอบ 2 ปี] ตอน 1 ตอน 2

  • แต่การไล่ให้ไปอ่านบทความ+ดูสารคดีจากแหล่งอื่น แลดูขี้เกียจมากไปหน่อย ไหนๆ หัวข้อในบทนี้คือ Who are TFBOYS? ก็ควรแนะนำพระเอกของเรื่องบ้างอะไรบ้าง แอบรู้สึกเหมือนพาลูกๆ มาแนะนำตัวเลยแฮะ (หัวเราะ)   

    TFBOYS คือ วงบอยแบนด์สัญชาติจีน สังกัดบริษัท TF entertainment ประกอบสมาชิก 3 คน ได้แก่ หวังจุนไค (16) หวังหยวน (15) อี้หยางเชียนซี (15) ดีบิวต์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2013 ถือว่าเป็นวงบอยแบนด์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีจีน (ค่าเฉลี่ยอายุตอนที่ดีบิวต์เท่ากับ 12.3 ปี) และปัจจุบันยังครองตำแหน่งวงไอดอลที่ดังที่สุดของประเทศที่มีประชากรกว่าพันสามร้อยล้านคน

    TFBOYS ถือว่าเป็น "ปรากฏการณ์" ของวงการบันเทิงจีน ในระดับเดียวกับที่ F4 เคยเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วเอเชียเมื่อหลายปีก่อน จะต่างกันก็ตรงที่ความโด่งดังของ TFBOYS ยังจำกัดอยู่แค่ในแผ่นดินใหญ่ ไม่ได้กระจายไปทั่วเอเชียแบบ F4  แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าลืมว่ายุคนี้ตลาดไอดอลกรุ๊ปของเอเชียไม่เหมือนกับยุค F4 เพราะมันมีเจ้าตลาดคือเกาหลีครองอยู่แบบเบ็ดเสร็จ ขนาดญี่ปุ่นที่มีระบบไอดอลในประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว ไอดอลเกาหลียังไปโด่งดังที่ญี่ปุ่นได้หลายวง นับประสาอะไรกับประเทศจีนที่แต่แรกก็ไม่ค่อยจะมีไอดอลกรุ๊ปอยู่แล้ว ฝั่งไต้หวัน ไอดอลกรุ๊ปกลุ่มสุดท้ายที่พอจะมีกระแสอยู่บ้างก็คือฟาเรนไฮต์ คล้ายๆ กับไทยที่พอหมดยุค D2B ค่ายเพลงต่างๆ พากันล้มเลิกที่จะปั้นไอดอลกรุ๊ปไปโดยปริยาย ปล่อยให้เกาหลีกินรวบทั้งภูมิภาค 

    ซึ่งเกาหลีเองก็บุกจีนหนักมาก หนักกว่าบุกไทยเสียอีก เพราะพี่จีนเขามีเงินเยอะ นอกจากนี้ค่าตัวของไอดอลเกาหลีก็ถูกกว่าค่าตัวของดาราจีนระดับแถวหน้า การจ้างไอดอลเกาหลีมาออกรายการทีวี มาเล่นละคร มาร้องเพลงในคอนเสิร์ต นอกจากจะมีแฟนกลุ่ม K-pop ช่วยหนุนแล้ว ยังเป็นการประหยัดงบประมาณอีกด้วย  ไอดอลเกาหลีจึงมาทำมาหากินที่แผ่นดินใหญ่กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน  รัฐบาลจีนก็พยายามส่งสัญญาณเตือนอยู่บ่อยครั้ง เพราะการปล่อยให้ดาราเกาหลีมาออกทีวีในจีนมากเกินไป มันเป็นการรุกรานทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง

    TFBOYS ที่เป็นไอดอลกรุ๊ปสัญชาติจีนแท้ๆ เลยกลายอัศวินขี่ม้าขาวที่ปรากฏตัวขึ้นมาถูกที่ถูกเวลา นอกจากผู้คนจะเอ็นดูในความเป็นเด็กแล้ว ความดังของน้องยังสามารถสร้างฐานแฟนคลับของตัวเอง แหวกกระแส K-wave ขึ้นมาและยังชนะได้อีกต่างหาก แม้จะเป็นการชนะในบ้านก็ตาม ซึ่งก็แน่ล่ะเพราะน้องยังไม่มีแผนโปรโมทนอกประเทศเลย  แค่งานในประเทศก็มีให้ทำไม่หวาดไม่ไหว รายรับก็มหาศาล ปีที่แล้วเด็กๆ ติดอันดับที่ 92 ของ Forbes China Celebrity 100 ทำรายได้ตลอดทั้งปีไป 13.5 ล้านหยวน (คูณ 5.4 เข้าไป) คาดว่าปีนี้อันดับน่าจะสูงขึ้นอีก นี่ขนาดเรียนไปทำงานไปนะ ถ้าเรียนจบทำงานเต็มตัวจะขนาดไหน

    จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมสื่อของรัฐบาลอย่าง CCTV ถึงได้รักน้องมากกกกกกกกกก TFBOYS ได้เข้าร่วมรายการสำคัญของ CCTV รัวๆ ไม่ว่าจะเป็น รายการบทเรียนแรกของการเปิดเทอม ปี 2014 และปี 2015 รายการพิเศษวันเด็ก ปี 2015 และ ปี 2016 เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง ปี 2014 และ ปี 2015 เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ 2015  รวมไปถึง รายการพิเศษช่วงตรุษจีน ปี 2016 ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรายการโทรทัศน์ที่มียอดผู้ชมสูงที่สุดในโลก คนดูระดับเดียวกับการถ่ายทอดสดนัดชิงของซุปเปอร์โบว์ล ประมาณนั้นเลย

    ถึงตรงนี้ต้องขอชี้แจงสักหน่อย ไหนๆ ก็เขียนถึงสื่อของรัฐบาลจีนพอดี แบบว่าเคยอ่านเจอแล้วไม่สบอารมณ์อย่างมาก มีคนบอกว่าที่ TFBOYS ดังกว่าวงเกาหลีในจีน นั่นเป็นเพราะคนจีนเขาชาตินิยม เหม่...รู้สึกว่าจะดูถูกกันไปหน่อยนะ ความรักความชอบมันบังคับไม่ได้กันหรอกค่ะคู้น ไอดอลนะไม่ใช่นักกีฬาโอลิมปิคที่จะต้องเชียร์ชาติใครชาติมัน  การที่น้องดังได้ก็เพราะน้องมีดีต่างหาก อีกอย่างคอนเซ็ปต์ของ TFBOYS เป็นอะไรที่ต่างจากคอนเซ็ปต์ของไอดอลเกาหลีที่จะต้องเป๊ะทั้งร้องเต้นและหน้าตา อย่างแรกได้จากการฝึกฝนอย่างหนักจนเด็กฝึกสาย K หลายคนต้องทิ้งการเรียนเพื่อมุ่งหน้าสู่ถนนสายไอดอล ส่วนอย่างหลังสบายหน่อยเพราะศัลย์เอาก็ได้

    ขณะที่คอนเซ็ปต์ของ TFBOYS กลับไปคล้ายกับไอดอลของฝั่งญี่ปุ่นมากกว่า กล่าวคือ เป็นไอดอลที่ยังไม่สมบูรณ์แบบและจะค่อยๆ เติบโตไปพร้อมๆ กับแฟนๆ และด้วยคอนเซ็ปต์นี้เอง ทำให้เราทนดู TFBOYS ช่วงก่อนจะดีบิวต์และช่วงดีบิวต์ใหม่ๆ แทบจะไม่ได้เลย เพราะมันกากกกกกกมาก  หวังจุนไคและหวังหยวนร้องเพลงได้ แต่เต้นไม่เป็นเลย  ส่วนเชียนซีถึงแม้จะเต้นได้ แต่หน้าตาบึ้งตึง พูดจาเสียงเบา ให้ร้องเพลงแสดงอารมณ์จะไหวเหรอ?  

    รายการ TF TEENS GO! ซีซันแรก ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้ของบริษัท TF ent. ที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ท และมี TFBOYS เป็นตัวหลัก ก็ถ่ายทำแบบง่อยๆ โปรดักชั่นโครตไม่ลงทุน คอสตูมเหลือจะรับ เด็กๆ ชอบแย่งกันพูด เกมที่เล่นก็ประหลาดๆ มุกแป้กประจำ และบางครั้งก็ปล่อยเดดแอร์ไปเฉยๆ  จนอดสงสัยไม่ได้ว่าแฟนๆ ที่ชอบน้องมาตั้งแต่แรกๆ นี่เค้ารู้ได้ไงว่าโตขึ้นแล้วน้องจะปัง (กัดผ้าเช็ดหน้า) เราเองตั้งแต่เกิดมาไม่เคยติ่งเด็กอายุต่ำกว่า 15 เลยสักครั้ง คือถ้าชอบเด็กป่านนี้คงตกหลุมเด็กในจอนนี่ย์แฟมสักคนไปนานแล้ว... จนกระทั่งได้ดู MV เพลงนี้


    Practise Book for Youth

    เป็นเพลงที่ดังที่สุดของ TFBOYS แบบที่ว่าตอนนี้ยังไม่มีเพลงไหนมาโค่นลงได้  บ้างว่าเป็นเพลงชาติของฉงชิ่ง หากคุณไปฉงชิ่งต้องมีสักครั้งที่จะได้ยินเพลงนี้  นั่นเพราะบริษัท TF ent. สตาร์ทอัพกันที่ฉงชิ่ง เด็กส่วนใหญ่ของค่ายก็เป็นคนฉงชิ่ง ทั้งหวังจุนไคและหวังหยวนเกิดและโตที่ฉงชิ่ง  TFBOYS จึงมีความเป็น OTOP สูง เข้าสูตรไอดอลกรุ๊ปที่ดีเป๊ะ

    เราฟัง Manual of Youth หลายรอบมาก ท่อน 你有没有爱上我 (แล้วเธอหลงรักฉันบ้างหรือเปล่า?) หลอนอยู่ในหัว เหมือนตัวเองโดนเชียนชีถามซ้ำไปซ้ำมา แต่ยังตอบไม่ได้ไง  มาตอบได้เอาตอนที่ดูรายการ Idol Notes แบบนันสต๊อบข้ามคืนนั่นแหละ
  • หลังจากนั้นเราก็ไล่ดูรายการของเด็กๆ อย่างบ้าคลั่ง ดูหมดทุกคลิปในยูทูป ทั้งซับ Thai ซับ Eng มาเป็นไฟล์ Raw อย่างเดียวก็ดู  ความติ่งไต่ระดับไปจนถึงขั้นทำซับเอง เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ทั้งแปลเอง ไทม์มิ่งเอง อัพคลิปเอง ไม่ได้เก่งกาจอะไรอาศัยใช้เครื่องมือง่อยๆ ของยูทูปทำซับ  

    ว่าแล้วก็โฆษณาแชลแนลของตัวเองเลยแล้วกัน ช่อง Run for TFBOYS ค่ะ ชื่อช่องได้มาจากการชื่อรายการ Run for Time ซึ่งเป็นรายการแรกที่เราทำซับ มันคือรายการ Run for Money ของญี่ปุ่นเวอร์ชั่นแผ่นดินใหญ่นั่นเอง รายการ Run for Time นี้มี TFBOYS เป็นผู้ร่วมรายการประจำในซีซัน 1 

    จบจาก Run for time ตอนนี้ก็ทำซับจิปาถะไปเรื่อยค่ะ เพราะแปลมาจากซับ Eng คือถ้ามันมีให้แปลก็แปลไป ที่ติดพันอยู่คือละครเรื่อง Finding Soul เวปซีรีส์ที่ TFBOYS นำแสดง ทั้งหมด 25 ตอนจบ แต่เพราะไปดูคอนน้องนี่แหละ ถึงทำให้ซับไทยยังคงค้างอยู่แค่ตอน 9 ไว้เขียนไอ้ที่อยากเขียนจนหมดแล้ว จะกลับไปก้มหน้าก้มตาทำซับต่อ

    เอาล่ะๆ เข้าเรื่องๆ เด็กวัยรุ่น หน้าตาดี มีเพลงดัง เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ TFBOYS ได้รับความนิยมแล้ว แต่จะให้ครบสูตร เมมเบอร์ต้องมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวเป็นที่จดจำง่ายด้วย จะได้สามารถแยกออกว่าใครเป็นใคร  ซึ่งบริษัทก็ได้เพิ่มความยากขึ้นไปอีกระดับด้วยการให้เด็กๆ ตัดผมทรงเดียวกันหมดทั้งค่าย (เป็นโรงเรียนประจำเรอะ)

    คนแรกในวงที่เราจำได้คือ มักเน่ของ TFBOYS "อี้หยางเชียนซี" เด็กหน้าบึ้ง ที่ชอบทำตัวขรึมๆ แต่จริงๆ เป็นคนตลก เวลายิ้มที นี่โลกเปลี่ยน  เชียนซีเกิดมาที่หูหนาน แต่ไปโตที่ปักกิ่ง พื้นฐานครอบครัวค่อนข้างดี  มีพ่อแม่เอาใจใส่ ตอนเด็กถูกส่งไปเรียนพิเศษเยอะมาก ทั้งเต้นรำประเภทต่างๆ ทั้งเขียนพู่กันจีน เลยดูมีวิชาเยอะกว่าพวก ดูเป็นเด็กเก่งที่ทำทุกอย่างได้ดีกว่ามาตรฐาน

    ผมตามธรรมชาติของน้องเค้าคือแสกกลาง แต่ต้องมาไว้หน้าม้าตามนโยบายค่าย เลยมักเป็นกังวลอยู่บ่อยๆ ว่าหน้าม้าตัวเองจะแตกรึเปล่า แฟนบางคนถึงขั้นแยกอัลบั้มรูปหน้าม้าแตกของเชียนซีไว้เป็นโฟล์เดอร์ต่างหาก (เอาไว้ประจานรึ) เราได้แต่หวังว่าน้องเขาจะได้เจอทรงผมที่เหมาะกับตัวเองสักที ถ้าค่ายยอมอนุญาตให้เปลี่ยนทรงนะ


    สายวาไรตี้ของวง "หวังหยวน" เป็นเด็กตัวเล็ก หน้าหวาน แต่พูดเก่งมาก (กินก็เก่งด้วย) เป็นความน่ารักสดใสของวง  ถ้าพูดว่าจุดแข็งของเชียนซีอยู่ที่ความเก่งกาจเกินเด็ก  จุดแข็งของหวังหยวนเห็นจะเป็น
    พรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เป็นพรสวรรค์ที่ทำให้คนหัวเราะและยิ้มได้  มันมีอยู่จริงๆ คนที่แค่ได้เห็นก็ทำให้ผู้คนรู้สึกมีความสุขแล้ว หวังหยวนเป็นคนแบบนั้นแหละ ยิ่งถ้าอ้าปากพูดนี่รอฟังเสียงฮาได้เลย  

    เห็นว่าหน้าหวาน ดูแบ๊วๆ อย่างนี้ แต่ตัวจริงดื้อมากเลยค่ะ


    "หวังจุนไค" ต้าเกอของ TFBOYS ควบตำแหน่งหัวหน้าวงและยังเป็นหน้าตาของวง ไปออกงานไหนต้องยืนเป็นเซนเตอร์เสมอ เรื่องตำแหน่งนี่แฟนๆ เค้าซีเรียสกันมากนะ ถ้าเมื่อไหร่จุนไคไม่ได้อยู่ตรงกลางล่ะก็เป็นเรื่องทุกที 

    แรกๆ เราดูไม่ออกว่าคาแรกเตอร์ของหวังจุนไคคืออะไร เพราะมันดูกลางๆ มาก ร้องก็ร้องได้ เต้นก็เต้นได้ จะวาไรตี้ หรือ MC ทำได้หมดทุกอย่าง เพียงแต่ยังไม่สุดสักทาง ขนาดหน้าตาจะดูให้หล่อหรือจะดูให้สวยก็ยังได้เลย  

    มาถึงบางอ้ัอตอนดูรายการ Impossible Challenge ในรายการมันแอบดราม่าไปนิดน่ะนะ แต่นั่นทำให้รู้ว่าหวังจุนไคมีลักษณะบางอย่างที่ทำให้คนอยากเอาใจช่วย เพราะเขาไม่ได้เก่งเทพอะไร อีกทั้งไม่ได้อ่อนจนเข็นไม่ไหว เป็นคนธรรมดาๆ ที่มีความพยายามและความมุ่งมั่นสูงมากจนบางครั้งก็ดูน่าสงสาร  คงติดนิสัยมาตั้งแต่ก่อนดีบิวต์ ที่เคยลำบากมาก ต้องพยายามทั้งๆ ที่ไม่เห็นทางข้างหน้าด้วยซ้ำ ตรงนี้แหละที่ทำให้หวังจุนไคสามารถกวาดหัวใจแม่ยกไปได้เรียบ เราเองก็โดนกวาดไปกับเขาด้วย (ชูมือหยอยๆ)



  • คร่าวๆ ก็ตามนี้แหละค่ะ เราใช่ว่าจะรู้จัก TFBOYS มากมายนัก เพราะเพิ่งตามได้ยังไม่ทันครบปีด้วยซ้ำ พอดีมันพีคมากจนต้องบินไปดูคอนเสิร์ตเท่านั้นเอง  เอ...แต่จะเรียกว่าคอนเสิร์ตได้รึเปล่านั้น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เรื่องของเรื่องก็คือ TFBOYS มีสัญญากับแฟนๆ ว่าถ้าดีบิวต์ครบ 10 ปี เมื่อไหร่จะจัดคอนเสิร์ตเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ซึ่งกว่าจะถึงสัญญา 10 ปีที่ว่า  ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ก็จะมีการจัดงานครบรอบดีบิวต์ขึ้นมา เป็นงานใหญ่ของ TFBOYS และเหล่าโคลเวอร์ (ชื่อแฟนคลับของ TFBOYS) จะได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน จนถึงตอนนี้งานครบรอบจัดมาได้ 3 ครั้งแล้วค่ะ

    ครั้งแรกจัดที่ปักกิ่ง ในรูปแบบของแฟนมีตติ้ง TFBOYS มานั่งแจกโปสการ์ดให้แฟนๆ ทุกคนที่เข้าร่วมงาน เข้าใจว่าน่าจะมีการแสดงด้วย เพราะเห็นคลิปที่เด็กๆ ซ้อมกันอยู่  แต่ข้อมูลเกี่ยวกับงานครั้งที่ 1 เรามีน้อยมาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้หารูปและคลิปได้ยากนัก เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้นานขนาดนั้นนะ คลิปเก่ากว่านี้ยังหาได้เลย เชื่อว่าคงมีปัญหาอะไรสักอย่าง People in News ก็บอกแค่ว่างานถูกระงับกลางคันเพราะคนมาร่วมงานมากเกิน


    สำหรับงานครบรอบครั้งที่ 2  ใช้ชื่อว่า "FANS' TIME" นี่ก็จัดที่ปักกิ่งเหมือนกัน แต่สถานที่จัดคือ Beijing MasterCard Center ซึ่งจุคนได้ 18,000 คน เรียกได้ว่าเว่อร์วังมาก เด็กๆ เข้าค่ายเก็บตัวกันเป็นเดือนๆ เพื่อขึ้นเวทีโชว์การร้อง การเต้น มีการเล่นเกม อ่านจดหมาย และการแสดงของทั้งแขกรับเชิญทั้งของเด็กฝึก ที่สำคัญมันถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ทด้วยล่ะเธอร์


    ตอนนั้นเรายังไม่ได้ติ่ง TFBOYS ไม่ทันดูถ่ายทอดสดกับเขาหรอกค่ะ เพิ่งมาได้ดูหลังจากผ่านมาแล้วสักพัก แล้วก็พบว่า "นั่นมันไม่ใช่แฟนมีตติ้งแล้ว นี่มันคอนเสิร์ตชัดๆ ถ้าจะจัดเต็มขนาดนี้น่ะ"  รู้สึกไม่อยากจะรอจนถึงคอนสิบปีแล้ว งานครบรอบดีบิวต์ของ TFBOYS ครั้งที่ 3 นี่แหละ เราจะต้องไปดูด้วยตาของตัวเองให้ได้  นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดในครั้งนี้...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in