เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกบรรณารักษ์tan_fx
แด่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ไบโพล่าร์ และคนที่คิดว่าตัวเองอาจจะเป็น
  •      แด่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ไบโพล่าร์ และคนที่คิดว่าตัวเองอาจจะเป็น เรามีอะไรจะเล่าสู่กันฟังแหละ

         มีคนถามเราบ่อยมากว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าจริงหรอ เป็นมานานรึยัง เป็นมากแค่ไหน รู้ได้ไงว่าเป็น หาหมอแล้วเป็นไงบ้าง ค่ายาแพงไหม สารพัด และเรายินดีที่จะตอบทุกครั้ง

         หลายคนที่เป็นไม่กล้าไปหาหมอ ไม่กล้าเล่าให้คนรอบข้างฟังด้วยซ้ำ คนที่ไม่เป็น ไม่เข้าใจ จะชอบหาว่าดราม่า อ่อนแอไม่เข้าท่า สำออย สารพัดเลย ยิ่งคนที่เป็นโรคซึมเศร้าที่ปกติเป็นคนร่าเริงตลกต่อหน้าคนอื่นด้วยนะ(แบบเรา) นี่แทบจะไม่มีใครเชื่อเลยว่าเป็น คนอื่นชอบพูดเหมือนกันหมดว่าตลกอย่างแกนี่นะจะมาเป็นโรคซึมเศร้า?

         โรคซึมเศร้าในกรณีของเรา เราขอเปรียบเทียบเป็นปีศาจที่เข้ามากัดกินเราเวลาที่เราอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่เวลาอยู่กับคนอื่นเราก็ฝืนยิ้มทำขำเรื่อยเปื่อยให้คนรอบตัวสบายใจไป เราไม่อยากจะไปเป็นภาระให้คนอื่น ไม่อยากให้เขาต้องมาห่วงมาลำบากใจ เพราะเราก็จะยิ่งรู้สึกผิดและโทษตัวเองไปอีก ว่าทำไมไม่ร่าเริงไม่ปกติซะที

         ในกรณีของเราโรคซึมเศร้าทำให้เราโทษตัวเองสารพัด โกรธตัวเองที่เศร้า ที่นิสัยไม่ดี ที่เป็นปกติอย่างคนอื่นไม่ได้ ทำให้คนอื่นต้องเครียด สารพัดเลย มันทำให้เรารักตัวเองไม่ได้ เพราะเรามองตัวเองว่าเป็นตัวน่าเกลียด ตัวร้าย ตัวนิสัยไม่ดี ตัวห่วย แต่เราก็โหยหาอยากจะได้ความรักมาเติมเต็มหลุมความรู้สึกที่กลวงโบ๋ในใจ บางทีมันก็ทำให้เราไปทุ่มความรักทำดีให้คนอื่น เพียงหวังให้เขาทำดีกับเรา สนใจเราบ้าง หรือบางทีเราก็กลัวคนอื่นจะทิ้งเรามากจัดจนเราไปทิ้งเขาก่อน

         ความเศร้าทำให้เราไม่อยากทำอะไร เพราะรู้สึกว่าทำอะไรก็ไม่มีความหมาย เหมือนโลกทั้งหมดไร้สีสัน แห้งแล้ง และมีเราตัวตนเดียวเดินหลงทางไปเรื่อยๆอยู่ในโลกเวิ้งว้างนั่น

         ในกรณีของเรา มีช่วงที่เราอยากตายทุกวัน อยากจะไปให้มันพ้นๆ ไม่ต้องเป็นภาระของคนรอบตัว ในเมื่อชีวิตมันไม่มีความหมายอะไรอยู่แล้ว จะอยู่หรือจะไปวันไหนมันก็มีค่าไม่ต่างกัน เราค้นหาวิธีการตายและวางแผนหลายอย่างไว้สำหรับวันที่ตัดสินใจจะไปจริงๆ

         เราผ่านการจะฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว ตอนนั้นเรามองไม่เห็นความรักของคนรอบตัวหรอก เราเห็นแต่ความเจ็บปวดที่รุมเร้าและความน่ารังเกียจของตัวเอง จะบอกใครว่าเป็นโรคซึมเศร้าก็ไม่กล้าบอก ใครเขาจะไปเชื่อ จะหาว่าบ้าเอา แต่นั่นแหละ เราคิดเองเออเองไปทั้งหมด จนวันนึงเราเลือกที่จะบอกคุณพ่อต้องขอบคุณป๊าที่มีแต่ความรักและความเข้าใจให้มาตลอดในหลายๆเหตุการณ์ และด้วยความที่อยู่เมืองนอก ค่ารักษาก็แพงเกินจะไปหาหมอไหว

         มีหลายเหตุการณ์ที่ผลักเราให้ตัดสินใจว่าเราจะต้องไปหาหมอแล้วแหละ เราจะไม่ให้โรคนี้มาควบคุมเราอีกแล้ว ทั้งการฆ่าตัวตายของน้องที่เราสนิทด้วยที่เป็นโรคนี้ซึ่งเราเคยไปหยุดการฆ่าตัวตายของเขาที่บ้านมาได้สำเร็จครั้งหนึ่ง แต่แน่นอนว่าเราไปเฝ้าใครตลอดเวลาไม่ได้ ทั้งกำลังใจจากคนรอบตัว เพื่อนที่รักเรา พี่น้องในทวิตเตอร์ ทั้งหมดทำให้เราติดสินใจบินกลับมาหาหมอที่เมืองไทย ต้องขอบคุณทุกคน ณ ตรงนี้เลย

         พอกลับมาเมืองไทย เราตัดสินใจเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่หมด ไม่เอาแล้วการนอนเกือบเช้า เราหันมาอ่านหนังสือที่สดใสขึ้น(ทั้งที่ปกติจะชอบอ่านแนวหม่นๆตลอด เพราะอ่านแล้วมันรู้สึกเหมือนว่ามีคนเข้าใจเรา) อ่านหนังสือสอนทำใจ อ่านจิตวิทยา นอนเร็ว ตื่นเช้า ออกไปวิ่ง สารพัดอย่างที่ทำให้ไม่นอนนิ่งเฉื่อยอยากตายไปเรื่อยๆ

          และแล้วเราก็ไปพบจิตแพทย์ที่รามา ไปกรอกประวัติ ไปสัมภาษณ์กับพยาบาล และได้ไปคุยกับหมอ ทุกอย่างมันดีกว่าที่คิด มันสบายใจ มันไม่น่ากลัวเลย ตอนไปรอที่รามาเราเห็นคนทุกแบบทุกอายุทุกเพศ ทุกคนที่เราเห็นคือคนธรรมดาทั่วไปนี่แหละ ทุกคนมารอพบหมอ เพื่อที่จะได้เข้าใจตัวเอง ได้รักษา และกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

         เวลาเจอหมอก็คือได้พูดคุย ได้เล่าเรื่องที่เจอ เล่าความรู้สึก และหมอก็ได้ช่วยให้เราได้มองชีวิตในอีกมุมที่ความเศร้าบดบังไว้ไม่ให้เราเห็น

         การไปพบจิตแพทย์มันไม่ใช่ไปถูกสะกดจิต นอนมองลูกตุ้มแกว่งไปมา หรือ นอนหงายบนโซฟาแล้วมีหมอหันหลังถือสมุดจดอยู่แบบในหนัง แล้วมันไม่ใช่ที่ๆเต็มไปด้วยคนบ้าส่งเสียงโหยหวนตลอดเวลา หนังมันหลอกเรา

         ในเคสเรา หมอจ่ายยาช่วยให้หลับสนิทขึ้นมา เพราะเราหลับไม่สนิทเลยมาเป็นปีๆ ส่วนยาซึมเศร้ายังไม่ได้ให้ เพราะหมอบอกคุณพยายามมามากและอาการดี ซึ่งเราก็คิดในใจว่า "ก็แน่สิหมอ คนมันอยากหายนี่ เปลี่ยนตัวเอง ไปออกกำลังกาย หาแรงบันดาลใจ อ่านหนังสือ ฟังเพลงสดใส ทำนู่นนี่สารพัดเพื่อ มันก็ต้องดีบ้างแหละ 55" แล้วก็รับยา จ่ายตัง ค่าหมอ 50 บาท ค่ายาตอนแรก 30 มั้งไม่แน่ใจจำไม่ได้ แล้วก็นัดอีกสองอาทิตย์ หลังจากนั้นก็กลับไปหาหมออีกตามนัดเรื่อยๆ ก็ดีขึ้น

         โรคซึมเศร้า มันไม่ใช่แค่เราจะไปพึ่งหมออย่างเดียวนะ เราต้องช่วยหมอด้วย คอยดูอาการ ดูจิตใจตัวเอง ปรับพฤติกรรมตัวเองด้วย จดบันทึกไว้คุยกะหมอ

         ป๊าบอกเราตลอดว่าเล่นทวิตเตอร์เนี่ย อย่าเอาแต่ไปอ่านอะไรหม่นๆและบ่นอย่างเดียว มันทำประโยชน์ได้นะ ถ้าเราหายจากโรคซึมเศร้า เราก็ช่วยคนอื่นได้ ก็นั่นแหละ เราก็ตั้งใจไว้ว่าเราจะหาย จะเอาตัวเองนี่แหละเป็นหลักฐานยืนยันเลยว่ามันหายได้ ถึงตอนนี้เราจะยังไม่หาย แต่มันก็ดีขึ้นมากได้นะ บอกตรงๆเลยว่าเราไม่อายที่จะบอกคนอื่นว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า เรายินดีที่จะยืดอกยอมรับ คนอื่นจะได้มองว่ามันเป็นโรคปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่บ้า

         ตอนนี้เรามีทวิตเตอร์ไว้เป็นที่แชร์ประสบการณ์ ไว้ให้กำลังใจคนที่เป็นแบบเรา ไว้ให้ข้อมูลเรื่องการหาหมอ ไว้ชวนคนอื่นเดินไปข้างหน้ากับเรา เรายินดีตอบทุกคำถามเท่าที่รู้ ยินดีให้กำลังใจกับทุกๆคน เพราะความรู้สึกแย่ๆที่คุณกำลังเจอ เราก็เจอมันมาเหมือนกัน เราเข้าใจคุณนะ

         เราอยากให้คุณรักตัวเองเยอะๆ แม้ว่ามันจะทำยาก อยากให้ออกกำลังกาย มันทำให้สดใสขึ้นได้จริงๆ ทำให้รู้สึกว่าเราควบคุมชีวิตได้ทีละนิด อยากให้คุณหาย สิ่งที่สำคัญคือ อยากให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ในโลกมืดหม่นใบนั้นคนเดียว มีคนอื่นอีกเยอะที่เป็นและต้องการกำลังใจ และอยากจะหายเหมือนคุณ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าไม่มีประโยชน์ เราเคยคิดแบบนั้น แต่แค่เราทำตัวเองให้อาการดีขึ้น ให้หายป่วย เราก็ทำให้คนอื่นมีหวังจะหายแล้ว คุณก็ทำได้ เราทั้งหมดเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันได้ คนนึงดีขึ้นก็ชวนก็ให้กำลังใจอีกคนให้ดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน อ่อนโยนกับตัวเองและให้เวลาตัวเองมากๆนะ

         สุดท้าย เราขอให้ทุกคนหายไวๆ ขอให้มีกำลังใจไปหาหมอ ไปดูแลตัวเอง ไปรักตัวเองให้เต็มที่ มีอะไรก็มาคุยกันมาถามกันได้ เรายินดีเสมอจริงๆ เราดีใจอย่างสุดหัวใจทุกครั้งที่มีคนมาบอกว่า ขอบคุณนะที่ทวีต ที่ทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว หรือเล่าว่าเริ่มไปหามาแล้วไรงี้ เราดีใจและขอบคุณคุณมากจริงๆ

         ปล.เราไม่ใช่หมอ คำถามบางอย่างเราก็แนะนำให้ไปปรึกษาหมอโดยตรงจะดีกว่า เราทำได้แค่เล่าให้ฟังในฐานะผู้ป่วยคนนึงที่กำลังรักษาและให้กำลังใจคุณอยู่

    ใครที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า/ไบโพล่าร์ ไปหาหมอที่รามาได้นะ 022011235 , 022011726 เราหาอยู่ที่นี่ ดีมากเลย แนะนำ ค่าหมอไม่รวมยา 50 บาท ไปเถอะ

    ส่วนคนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นไหม หรือสงสัยอยากรู้ ก็ลองเข้าไปตอบแบบคัดกรองภาวะซึมเศร้าของกรมสุขภาพจิตดูก็ได้ ตามลิ้งค์นี้เลย http://www.dmh.go.th/test/depress/asheet.asp?qid=1

    ขอบคุณที่ตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ :)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
เราก็เป็นเหมือนกัน
เศร้ามาก ทรมานใจและเจ็บปวด