ได้เห็นข่าวอัพเดทกันมาเรื่อย ๆ กับการเปลี่ยนแปลง
ขบวนรถไฟใหม่ที่นำมาใช้งานกับเส้นทางหลัก ๆ ภายในประเทศของเรา
แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ใช้บริการสักหน
เพราะช่วงนั้นไม่ได้มีโอกาสวางแผนเดินทางไปไหน
จนกระทั่ง .. คอนเสิร์ต Coldplay ในช่วงเดือนเมษายนนั่นเอง!
เดิมทีเลยตั้งใจว่าจะเดินทางโดยเครื่องบินเหมือนเดิม
เพราะมันสะดวกแล้วก็ถึงไว ประหยัดเวลาเดินทาง นั่นนี่ บลา บลา บลา ..
แต่พอลองเช็คราคาตั๋ว ไม่ว่าจะราคาปกติ ราคาโปรโมชั่น ก็ไม่มีราคาไหนเตะตาเล้ย
เลยมานั่งคิดอีกที อ้ะ! เรายังมีอีกทางเลือกนึง นั่นคือ "รถไฟ"
ไม่รอช้า เข้าเว็บไซต์ของการรถไฟไปเพื่อเช็คข้อมูลและราคา
ตั๋วที่เราดูไว้จะเป็นตู้นั่งและนอนปรับอากาศชั้น 2
ถ้าเกิดว่าเข้าไปดูที่เว็ปไซต์ สังเกตว่าจะเป็นคำว่า ด่วนพิเศษ* มีดอกจันอยู่ข้างหลัง
ซึ่งจะเป็นรถไฟขบวนใหม่ที่เราจะจองกันนี่แหละ~
เส้นทางที่เราเดินทางจะเป็น เชียงใหม่-กรุงเทพ-เชียงใหม่
สนนราคาค่าตั๋วต่อเที่ยวต่อคนจะอยู่ที่
- เตียงบน 791 บาท
- เตียงล่าง 891 บาท
ถ้าใครไปกับเพื่อน มีคนร่วมเดินทางด้วย อยากได้เตียงอยู่ฝั่งเดียวกัน
แนะนำให้จองเป็นเตียงบน และเตียงล่าง เพราะถ้าจองเตียงบนหรือเตียงล่างทั้งคู่
นั่นก็แสดงว่าเราจะได้ไปนั่งกับคนอื่น ซึ่งเราไม่รู้จัก ไปจนถึงเวลานอนด้วย
แต่ถ้าใครไม่ใส่ใจอะไรเรื่องพวกนี้ อยากนอนเตียงล่างสบาย ๆ เหมือนกัน ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
ในส่วนของการจองตั๋ว จะเปิดให้ทำการจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ 60 วัน
เมื่อก่อนต้องไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟใกล้บ้าน หรือไม่ก็คอลเซ็นเตอร์ 1690 เท่านั้น
ตอนนี้สะดวกขึ้นเยอะแล้ว เพราะเพิ่งเปิดบริการจองตั๋วรถไฟออนไลน์
ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา
ภายในเว็บไซต์จะมีการบอกวันที่ไว้ด้วยว่า ณ วันที่นี้จำหน่ายตั๋วได้จนถึงวันที่เท่าไหร่
แต่การจองตั๋วรถไฟออนไลน์จะมีการบวกค่าบริการในการจองเพิ่มไปอีก 30 บาท
ถ้าใครไม่อยากเสียค่าบริการตรงนี้เพิ่ม ก็หยิบบัตรประชาชนตรงดิ่งไปสถานีรถไฟใกล้บ้านได้เล้ย
และในส่วนของน้อง ๆ ผู้หญิง
เพื่อความปลอดภัย ก็สามารถจองตั๋วเป็นตู้สำหรับเด็กและผู้หญิงได้
โบกี้นั้นทั้งตู้จะมีแต่ผู้โดยสารที่เป็นเด็กและผู้หญิง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน
ไม่มีค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติมนะคะ สามารถแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ได้เลย : )
------------------------------------------------------------------
ตัดภาพมาที่วันเดินทาง ..
รถไฟขบวนเราขาไป(เชียงใหม่-กรุงเทพฯ) ออกเดินทางเวลา 18:00 น.
มีหมายกำหนดว่าจะถึงกรุงเทพฯ เวลา 06:50 น. โดยประมาณ
ก็แอบคิดในใจนะว่าจะตรงเวลา หรือจะเลทมากเหมือนสมัยก่อนหรือเปล่า
เอาล่ะ .. ถึงเวลาออกเดินทางกันแล้ว!
ตู้รถไฟขบวนใหม่ มีความทันสมัยสูง
สิ่งอำนวยความสะดวก คือดีกว่าขบวนเก่าเยอะมากเลย
ในเรื่องของความปลอดภัย แต่ละโบกี้จะมีกล้องวงจรปิดเห็นภาพบริเวณตลอดทางเดิน
แต่จะไม่ส่องเข้าไปในที่นั่งของผู้โดยสารแต่ละคนนะ มันส่วนตัวไปหน่อยเนอะ
ประตูแต่ละตู้ จะมีไฟสีเขียว ๆ อยู่ ให้เราเอามือไปแตะตรงปุ่มได้เลย สักพักประตูก็จะเปิดเอง
ในส่วนของจุดเชื่อมแต่ละโบกี้ ก็มียางปิดไว้แน่นหนา ไม่มีลมแทรกเข้ามา
หรือเห็นภาพน่ากลัว (ว่าจะตกทางเชื่อมโบกี้เวลาเดินข้ามไปโบกี้อื่น) สบายม้าก!
นอกจากนี้แต่ละตู้ก็ยังมีการปิดล๊อคหลังเวลา 22:00 น. ด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าจะไปตู้เสบียง หรือไปหาเพื่อนตู้อื่น ๆ ก็รีบกลับมาให้ทันเวลาด้วยนะ
ไม่งั้นก็จะติดแหง็กอยู่โบกี้นั้น ๆ และกลับตู้ตัวเองไม่ได้จนเช้า ไม่รู้ด้วยน้าาา~
มีบริการแจกน้ำดื่มฟรีด้วยนะ
แจกให้คนละขวด ขวดขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย กำลังดีเลย : )
ในส่วนของที่นั่งสำหรับขบวนใหม่นี้
มีบริการปลั๊กไฟสำหรับชาร์จมือถือได้ด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด
มีทั้งเตียงบน เตียงล่างนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าใครที่นอนเตียงบนแล้วจะไม่มีปลั๊กไฟ
ในส่วนของการเดินทาง ไม่ต้องดูป้ายเวลาจอดสถานีใหญ่ ๆ ว่าถึงไหนแล้ว
เราสามารถดูจากหน้าจอที่ใกล้ที่นั่งของเราได้เลย
หน้าจอจะสามารถบอกว่า ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปสถานีไหน
เพิ่งผ่านสถานีไหนมา ใช้เวลาอีกเท่าไหร่ หรือแม้กระทั่งกำลังวิ่งที่ความเร็วกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพิ่มเติมคือบอกสถานะของห้องน้ำด้วยว่าว่างอยู่ (สีเขียว) หรือมีคนใช้งานอยู่ (สีแดง)
ในส่วนของห้องน้ำ เราสามารถใช้ห้องน้ำได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจอดหรือรถวิ่ง
ไม่เหมือนขบวนเก่า ๆ ที่จะมีข้อห้ามใช้ห้องน้ำเวลาที่รถจอดอยู่ที่สถานี
แต่ละตู้จะมีห้องน้ำอยู่ 3 ห้อง : โถฉี่ผู้ชาย 1 ห้อง, ชักโครก 2 ห้อง
ในส่วนของตู้เสบียง มีไวไฟฟรีให้บริการด้วย
แต่ไม่ได้เร็วปรู๊ดปร๊าดเหมือนไวไฟบ้านขนาดนั้นนะ
ด้วยความที่ไวไฟของเค้าเป็นคล้ายกับ Hotspot ที่เปิดและแชร์จากมือถือเครื่องเดียว
เพราะงั้นเรื่องความเร็ว หรือสัญญาณก็ทำใจหน่อยน้า
อาหารบนตู้เสบียงจะเป็นอาหารในเครือของซีพี
ซึ่งจะเป็นอาหารกล่องที่เวฟเอานั่นเอง เพราะว่าเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
จะไม่มีการใช้ไฟในการปรุงอาหารบนรถไฟ เลยใช้การเวฟอาหารแทนนะคะ
ส่วนของอื่น ๆ เครื่องดื่ม, กาแฟ, น้ำผลไม้ ก็มีให้บริการเช่นกัน
รวมไปถึงกระดาษทิชชู่, ผ้าอนามัย, ยาแก้ปวดอีกด้วย
ถึงเวลาปรับที่นั่งเป็นที่นอนกันแล้ว!
ได้เวลาสักสองทุ่มโดยประมาณ (หรืออาจจะไวกว่านั้น สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้)
เจ้าหน้าที่ก็จะมาปรับที่นั่งของเราเป็นที่นอนอันแสนสบายให้ เย้!
ในส่วนของเตียงบน ไม่ต้องห่วงไปมีบันไดให้ปีนขึ้นไปได้สบาย
และไม่ต้องห่วงว่าจะตกลงมาข้างล่างได้ง่ายขนาดนั้น
ถึงรถไฟจะโคลงเคลงเวลาที่เดินทางไปบ้าง แต่มันก็ไม่เหวี่ยงแรงขนาดตกลงมาได้หรอก
เพราะงั้นหายห่วงน้าา : )
-------------------------------------------------------------------------------
ตลอดเวลาการเดินทาง ไม่ได้มีเสียงดังกึ้งกั้ง ๆ อะไรขนาดนั้น
เสียงดังน้อยกว่าขบวนเก่าเยอะเลย
ส่วนตัวก็คิดว่าโอเคกับการเดินทางนะ ไม่มีปัญหาอะไรจุกจิกเลย
ในส่วนของเวลาที่ไปถึงกรุงเทพฯ
ช้ากว่ากำหนดไปราวครึ่งชั่วโมง (ก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียดเหมือนสมัยก่อน 555)
เราไปถึงสถานีหัวลำโพงเวลาประมาณ 07:30 น.
เพราะด้วยความที่รอรถไฟขบวนอื่นสวนมา แล้วก็แวะจอดสถานีหลัก ๆ ก่อนถึงหัวลำโพงด้วย
สรุปแล้วทริปการเดินทางด้วยรถไฟขบวนใหม่สำหรับเราถือว่าผ่าน
คราวหน้าถ้ามีโอกาส อยากลองนั่งปรับอากาศชั้น 1 ดูบ้าง
เห็นบอกว่า มีห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น สามารถอาบน้ำได้สบาย
ห้องแบ่งเป็นส่วนตัว มีสัดส่วนชัดเจน แต่ราคาพอ ๆ หรือเผลอ ๆ จะแพงกว่าตั๋วเครื่องบิน
เอาไว้มีโอกาสอีกครั้ง (พร้อมด้วยเงิน 555) เราจะลองดูนะ คุณปรับอากาศชั้น 1
หมายเหตุ: มีข้อสงสัยอะไรใด ๆ เพิ่มเติม หรืออยากถาม ถามได้ตลอดน้า : )
แล้วพบกันใหม่ โอกาสหน้า สำหรับการเดินทางทริปต่อไป.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in