จั่วหัวเหมือนฉันเป็นอะไร... เปล่าหรอก... ไม่ใช่ฉัน... ไม่สิ... ก็ฉันนี่แหละ ฉันนี่แหละที่เดินเข้าแผนกจิตเวช เหมือนไปศึกษาดูงาน แต่คิดว่า จะเข้าไปเป็นคนไข้จริง ๆ ในเร็ว ๆ นี้...
ถามว่าฉันไปทำอะไรที่แผนกนั้น ฉันไปเยี่ยมเพื่อนน่ะ เพื่อนฉันป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ฉันไม่ได้เจอเพื่อนมาตั้งแต่กลับมาจากญี่ปุ่น เมื่อวานเจอกันครั้งแรก... เป็นการเจอกันที่แบบ... ไม่ค่อยจะสวยหรูเท่าไร แต่ไม่หรอก ในความไม่สวยหรู มันก็มีความสวยของมัน...
ฉันไปเยี่ยมเพื่อนในเวลาที่ใกล้ ๆ จะหมดเวลาเยี่ยม ... เราล้างมือฆ่าเชื้อ และรอบุรุษพยาบาลเข้ามาเปิดประตูให้เรา... ภายในนั้นเป็นห้องสีขาวสะอาด กลิ่นอ่อน ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยกลิ่นของยาฆ่าเชื้อ
พอเดินเข้าไป ก็เจอเตียงของเพื่อนเลย
เพื่อนเราผอมลงมาก ชุดของคนไข้เป็นเสื้อแขนยาว แต่พอเพื่อนยกแขน มันจะร่นลงมา ทำให้ฉันมองเห็นรอยแผลได้ชัดเจน มันเป็นรอยแผลจากการที่เอามีดกรีดตัวเอง...
เราก็ถามสารทุกข์สุขดิบกันว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง กินข้าวเยอะ ๆ นะ แล้วก็คุย ๆ กันไปเรื่อย ๆ จนเพื่อนทักเราว่า ไคโนะ... อย่าติดอินเตอร์เน็ตให้มันมากนักนะ เธอน่ะ เหงาใช่มั้ย หากิจกรรมทำสิ ออกไปเจอผู้คน อย่าติดอินเตอร์เน็ต มันอันตรายมาก
ฉันก็งง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เพื่อนเราก็พูดอีกทำนองว่า อะไรที่โพสขึ้น เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้นแหละ อย่าไปอิจฉาสิ...
ฉันก็เลยเริ่มเข้าใจว่าเพื่อนต้องการจะบอกอะไร แถมเพื่อนและพี่ที่พาไปก็ยังช่วยกันกล่อมเราให้วาง iPod ลงบ้าง... นี่ตกลงเราไปเยี่ยมเพื่อน หรือเราเข้าไปศึกษาตัวเองกันแน่นะ...
แต่สิ่งที่เราตกใจสุด ๆ ในแผนกจิตเวชก็คือ... คนไข้ส่วนมากดูปกติทั้งนั้น... มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งสวยมาก ผิวพรรณดีมาก จมูกโด่ง ปากเป็นรูปกระจับ ดวงตาเรียวและโตเหมือนเม็ดอัลม่อน แต่พี่เขาก็เข้ามาอยู่ที่นี่... น้องวิศวะโยธา ปี 2 ที่เป็นผู้หญิงคนเดียวของรุ่นก็เข้ามาอยู่ที่นี่... เกิดอะไรขึ้นกันนะ...
มีกฎข้อห้ามของที่นี่ว่า คุณจะถูกยึดมือถือ... ฉันต้องตายแน่ ๆ ถ้าฉันต้องเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่มันก็ดูสงบดีนะ... สงบมาก... สงบจนฉันคิดว่า... ให้ฉันมาสงบสติอารมณ์ที่นี่ก็ได้...(แต่อย่ายึด iPod ฉันไปนะ)
พอหมดเวลาเยี่ยม เราก็โบกมือลา... แต่ฉันไม่ได้แค่โบกมือ ฉันกอดเพื่อน... ฉันกอดเขาให้แน่น ฉันคิดว่าฉันเองก็อาจจะมีส่วนซึมเศร้าอ่อน ๆ ฉันถึงได้รู้ว่าการกอดอาจจะช่วยเพื่อนได้บ้าง... หลังจากนั้นฉันก็ไปขับรถเล่นรอบมหาวิทยาลัย... จำได้ว่าก่อนออกจากแผนก เพื่อนแนะนำให้ฉันมาปรึกษาแพทย์เรื่องติดโซเชียล... เพื่อนบอกว่าเดินเข้ามาเลย ไม่เป็นไรหรอก มาเจอหมอเถอะ...
ฉันคิด...
ช่วงเวลาที่อยู่ในแผนกจิตเวชเหมือนเราอยู่กันคนละโลกกับสิ่งที่เรามา มันเป็นสถานที่ที่สงบ แต่มันก็มีอารมณ์ของความแปรปรวนแปลก ๆ อยู่ในนั้น ฉันอธิบายไม่ถูกหรอก แต่ฉันรู้สึก นอกจากนั้น... เสียงนาฬิกา มันจะดังติ๊ก ติ๊ก... ติ๊ก... อยู่ตลอดเวลา
ฉันเกลียดเสียงนั่น...
แต่ฉันก็คิดอยู่นะว่า ถ้าฉันส่งเล่มวิจัย และฝึกสอนเสร็จ
ฉันอาจจะเดินเข้ามาตั้งหลักชีวิตที่แผนกนี้ก่อนซัก 2 อาทิตย์ อยู่กับตัวเอง ตัดตัวเองออกจากโซเชียล... จริง ๆ ไปวัดก็ได้นะ... แต่ฉันไปวัดบ่อยล่ะ ฉันอยากจะลองมีชีวิตในแผนกจิตเวชดูบ้าง....ไว้ถึงตอนส่งเล่มวิจัยและฝึกสอนเสร็จค่อยว่ากันอีกที
เป็นวันที่ดีอีก 1 วัน...
ขอให้เธอได้ออกจากแผนกนี้เร็ว ๆ นะ
ยินดีที่ได้พบกันอีก
หวังว่าพบกันครั้งหน้า ฉันจะเห็นรอยยิ้มจากเธอ
หรือไม่ก็... พบกันครั้งหน้า เธออาจจะเป็นคนมาเยี่ยมฉันที่แผนกจิตเวชก็ได้....
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in