เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyfaiinormal
สวัสดี
  • ท้องฟ้าวันนี้ต่างจากท้องฟ้าของเมื่อวานตามธรรมชาติ
    ท้องฟ้าที่เขาเห็นในแต่ละรอบที่สองเท้าวิ่งวนที่สนามนั้นเปลี่ยนไปทุก ๆ วินาทีอยู่แล้ว
    เช่นว่า เมื่อวันก่อนตอนที่วิ่งรอบที่ 1 ปุยเมฆแผ่กระจายเต็มท้องฟ้า
    วิ่งวนรอบที่ 2 พระจันทร์ที่เคยเขินอายในยามกลางวันก็เหมือนจะโผล่ขึ้นมาแอบมองดูสรรพสิ่ง
    วิ่งวนรอบที่ 3 มวลหมู่เมฆเริ่มหลีกทางให้ท้องฟ้ากระจ่างด้วยแสงจันทร์

    ท้องฟ้าของวันนี้ก็เช่นกันที่ต่างจากเมื่อวาน
    ที่สุดสายตาตอนสองขาเริ่มก้าวเดินเขามองเห็นรุ้งสีจางที่ไม่เต็มโค้ง
    ฟ้าครึ่งหนึ่งสดใส แต่ฟ้าอีกครึ่งหนึ่งกลับมืดครึ้ม
    วันนี้เป็นวันที่เขายังไม่เจอกับเธอคนนั้น
    เธอคนที่เป็นสมาชิกใหม่ของสนาม คนที่มาเวลาเดิม 2 วันติดกัน

    ‘สงสัยวันนี้ไม่มาแล้วมั้ง’
    เขาคิดเพราะเลยเวลาเดิมที่เคยเจอเธอมาเกินกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
    ประกอบกับความครึ้มของเมฆที่คืบคลานมาเกินกว่าครึ่งของผืนฟ้าแล้ว

    เสียงแจ้งเตือนเวลาวิ่งครบ 1 ชั่วโมงมาพร้อมกับฝนหยดแรกที่สัมผัสแขน

    ‘อีกรอบค่อยกลับดีกว่า’
    เขาประวิงเวลาทั้งที่ฝนเริ่มโปรยปรายเผื่อว่าจะเจอใครบางคน

    สองเท้าก้าวเป็นจังหวะคงที่ไปเกือบครึ่งสนาม
    คนบางตาลงจนแทบจะไม่เหลือใครเพราะความแปรปรวนของฤดูกาล
    พลันนั้นสายตาก็ไปจับอยู่กับคนที่เพิ่งมาใหม่ เธอคนนั้นเอง
    สายตามองเธอวอร์มร่างกายแบบเร็ว ๆ

    ‘คงจะแข่งกับฝนสินะ’ เขาคิดพลางยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

    และเป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่มีสิ่งใดฝืนธรรมชาติได้
    จากฝนปรอยกลับกลายเป็นฝนห่าใหญ่
    เขารีบวิ่งเข้าไปหลบในซุ้มป้ายประชาสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่ข้างสนาม
    และรีบกวาดสายตาหาคนที่เพิ่งมาใหม่ จนเจอเธอกำลังเล่นน้ำฝน
    ใช้คำว่าเล่นคงไม่ผิด เพราะดูเธอจะไม่ยี่หระกับฝนที่ตกลงมา
    แต่กลับกางสองแขนออกพร้อมกับหยอกล้อกับสายฝนที่กระทบอยู่รอบตัว
    แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมุ่งหน้าเข้ามาในซุ้มป้ายเดียวกันกับเขา

    ชายหนุ่มส่ายหัวให้กับการเล่นสนุกของเธอที่ไม่กลัวฟ้ากลัวฝน
    ถ้าเป็นลูกเป็นหลานของเขาคงจะต้องโดนเอ็ดเสียทีเดียวแหละ

    คนสองคนที่ไม่รู้จักกัน ยืนอยู่กันคนละฟากฝั่งของซุ้มป้าย
    มีระยะห่างกันเพียงเมตรกว่า สายตาทั้งคู่จับไปที่สิ่งเดียวกัน
    นั่นคือสายฝนที่ยังไม่มีทีท่าจะซาลง

    เมื่อไม่รู้จะว่าเมื่อไหร่ที่ฝนจะหยุด
    ไม่รู้จะมองอะไร ก็หันมาสบตากัน

    “สวัสดี” คือเสียงสองเสียงที่ประสานขึ้นพร้อมกัน

    .

    .

    เมฆดำครึ้มนำพาสายฝนผ่านพ้นไปแล้ว บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยแสงแดดที่ตกกระทบกับต้นฉำฉาข้างสนาม
    มีสองร่างเดินเคียงคู่กันไปเป็นส่วนประกอบของสนามวิ่งผืนกว้าง

    ขอบคุณฝนหลงฤดูที่แวะเวียนมาทักทายในเดือนพฤศจิกายน

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Reader (@luvvipart)
ภาษาสวยมากเลย น่ารักมาก
faiinormal (@faiinormal)
@luvvipart หือออ ขอบคุณที่ชอบนะคะ ใจฟูเลย