เรื่อง : 餐桌上的愛情 (ชันจัวซ่างเตออ้ายฉิง)
เขียน : 水銀 (ซุ่ยหยิน) แปล: รอรายละเอียด
ตัวละครหลัก : ชิวหยวนเสียง, เซี่ยฝานเทียน
สำนักพิมพ์ไทยที่ได้ลิขสิทธิ์: สำนักพิมพ์ Deep
ชื่อเรื่องแปลไทย : กินกับเธอมื้อไหนก็อร่อย
**คำเตือน** เรื่องนี้สลับโพ
'คุณสนใจจะทำงานในตำแหน่งเพื่อนทานข้าวมั้ยครับ'
ภาพปกเวอร์ชั่นจีนโดย อ.Leila
เรื่องราวของ 'เซี่ยฝานเทียน' อดีตนักเขียนพาร์ทไทม์ของนตยสารอาหารผู้รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ กับ 'ชิวหยวนเสียง' CEO บริษัทอาหารที่มีปัญหาด้านการกิน (ไม่มีความอยาก/เบื่ออาหาร)
เพราะพิษเศรษฐกิจทำให้เซี่ยฝานเทียนตกงานกระทันหัน โชคดีที่เซี่ยฝานเทียนโดนแฟนเก่า(ปลิง)เทไปก่อนหน้านั้นแล้ว เลยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง และเพราะถือคติที่ว่าการให้รางวัลชีวิตด้วยอาหารทำให้ไม่เสียชาติเกิด(?) ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือแย่จะให้รางวัลตัวเองด้วยการกินเสมอ ทำให้ได้เจอกับคุณลุงท่าทางดูดีคนหนึ่งที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คุณลุงได้เห็นท่าทางการกินแสนเอร็ดอร่อยของเซี่ยฝานเทียน จึงมีความปรารถนาอยากให้เซี่ยฝานเทียนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านการกินให้คุณชายของตัวเอง จึงจ่ายค่าอาหารทั้งหมดให้พร้อมชักชวนให้เซี่ยฝานเทียนมาทำงานเป็นเพื่อนกินข้าวให้กับคนคนหนึ่ง (ตอนนั้นยังไม่ได้บอกว่าใคร)
เซี่ยฝานเทียนไม่ได้ตบปากรับคำในตอนนั้น แต่เพราะพ่อบังเกิดเกล้าดันเอาบ้านไปจำนองและไม่จ่ายเบี้ยกับธนาคาร ทำให้บ้านถูกยึดขายทอดตลาด ธนาคารให้เวลาเก็บของย้ายออกจากบ้านภายในหนึ่งเดือน ถึงคราวซวยของเซี่ยฝานเทียน ไม่มีกระทั่งที่ซุกหัวนอน ทวงเงินจากแฟนเก่าไม่ได้ หางานใหม่ไม่ได้ รถก็ยังต้องผ่อน ยืมเงินใครก็ไม่สำเร็จ แถมยังล้มขาหักอีก มองไปทางไหนไม่เห็นทางเลยลองโทรไปหาคุณลุงตามนามบัตรที่ได้มา
คุณลุงนัดสัมภาษณ์งานที่คฤหาสน์หลงใหญ่... เซี่ยฝานเทียนจึงได้รู้ว่าคุณลุงคือพ่อบ้านของชิวหยวนเสียง คุณพ่อบ้านนั้นติดธุระยังปลีกตัวออกมาเจอเซี่ยฝานเทียนไม่ได้ สาวใช้เลยให้เซี่ยฝานเทียนไปลองชิมฝีมือของพ่อครัวที่ห้องอาหารก่อน เซี่ยฝานเทียนพออาหารเข้าปากก็มัวแต่ฟินกับรสชาติ ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองโดนจับตามองโดยคุณพ่อบ้านกับเจ้าของบ้านผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อประเมินเพื่อนกินข้าวคนนี้ (เชฟแต่ละคนมาจากร้านอาหารในเครือบริษัทพระเอก ไม่ฟินก็แปลกละ)
แน่นอนว่าเซี่ยฝานเทียนผ่านเกณฑ์ คุณพ่อบ้านจึงเข้ามาคุยถึงรายละเอียดของงานคือ ให้กินข้าวกับคุณชายชิวหยวนเสียงวันละสี่มื้อ (มื้อหลัก 3 และ Afternoon Tea 1) มีบ้างที่ต้องไปกินนอกบ้าน ถ้ามื้อไหนชิวหยวนเสียงไม่ต้องการกินข้าวด้วยจะมีการแจ้งล้วงหน้า เซี่ยฝานเทียนไม่ต้องจ่ายค่าอาหารสักแดง เพราะชิวหยวนเสียงจะเป็นคนรับผิดชอบตรงส่วนนี้เอง สุดท้ายเซี่ยฝานเทียนยื่นข้อเสนอขอที่พักกับคุณพ่อบ้าน แน่นอนว่าคำขอนี้ได้รับการอนุมัติ ทำให้วันต่อมาเซี่ยฝานเทียนเก็บกระเป๋าขนของเข้ามายังคฤหาสน์
วันนั้นเองที่การพบกันและการร่วมมื้ออาหารครั้งแรกของชิวหยวนเสียงและเซี่ยฝานเทียนเริ่มต้นขึ้น เซี่ยฝานเทียนมาช้ากว่าเวลานัด เลยรู้สึกงุ่นง่านใจ แต่พอเห็นอาหารที่อยู่ตรงหน้า อารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่คุณพ่อบ้านแนะนำตัวทั้งสองฝ่ายเสร็จแล้วก็ปลีกตัวออกไป ทิ้งให้เซี่ยฝานเทียนอยู่ให้อยู่กับชิวหยวนเสียงตามลำพัง
คุณชายผู้หล่อเหลานั้นไม่ได้มีท่าทางสนใจเพื่อนคนใหม่หรืออาหารตรงหน้า ด้วยท่าทางที่ดูเย็นชาของชิวหยวนเสียง ทำให้แรกๆ เซี่ยฝานเทียนเกิดอาการกลัวคุณชายขึ้นมา แต่กลัวในที่นี้คือกลัวอาหารไม่ย่อย...
เซี่ยฝานเทียนถึงจะกระอักกระอ่วนใจ แต่เพราะความหิว เลยไม่สนใจคุณชายหน้านิ่งลงมือกินอาหาร พาร์ทนี้จะบรรยายถึงลักษณะการกินของเซี่ยฝานเทียน เสียงส้อมและมีดกระทบจานแผ่วเบา ยิ้มสะพรั่งบนใบหน้าเมื่ออาหารเข้าปาก ออมเล็ตเนื้อนุ่มสุกกำลังดี ชาดำร้อนส่งกลิ่นหอม ดื่มคู่กับอาหารเช้ามื้อนี้ ในขณะทานมื้ออาหารเซี่ยฝานเทียนคอยสังเกตท่าทางของชิวหยวนเสียงอยู่ตลอด พลางสงสัยว่าเขาไม่หิวเหรอ แถมยังเอาตัวเองไปเทียบกับคุณชายจนรู้สึกว่าตัวเองตะกละมาก นึกคิดไปว่าอาหารแบบไหนที่จะทำให้พระเอกยอมกินกันนะ (เซี่ยฝานเทียนยังไม่รู้ว่าชิวหยวนเสียงมีปัญหาด้านการกิน)
เซี่ยฝานเทียนโดนไหว้วานจากเชฟใหญ่มากฝีมือทั้งหลายให้ช่วยสังเกตว่าคุณชายสนใจอาหารมื้อไหนเสมอ จนทำให้เซี่ยฝานเทียนรู้สึกแปลกๆ เพราะทุกคนในคฤหาสน์แห่งนี้ ดูใส่ใจกับอาหารการกินมากๆ อาหารหลายอย่าง ปรุงอย่างพิถีพิถัน แต่คุณชายกลับไม่แตะต้องมันเลย รู้สึกว่าต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่ และต้องรู้ให้ได้!
ช่วงเวลาที่อยู่คนเดียวเซี่ยฝานเทียนมักจะคิดฟุ้งซ่าน เพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็รู้ได้เลยว่าชิวหยวนเสียงคือสเปคของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจมูกที่โด่ง หน้าคม จนต้องท่องในใจว่าชิวหยวนเสียงคือเจ้านายตัวเองไม่ควรล่วงเกิน
เหตุการณ์วนเวียนผ่านไปเรื่อยๆ ชิวหยวนเสียงค่อยๆ เริ่มแตะอาหารได้บ้าง มีกินข้าวที่บ้าน และกินข้าวข้างนอกบ้างประปราย
ในคืนหนึ่งระหว่างที่เซี่ยฝานเทียนกำลังเขียนบทความเกิดหิวขึ้นมา เลยลงไปต้มบะหมี่ที่ครัว แล้วไปเจอกับชินหยวนเสียงที่ยืนกุมท้องเพราะโรคกระเพาะเข้า จึงประคองไปนั่งหาหยูกยาให้ บะหมี่ที่ถือมาก็ปรุงให้คุณชายกิน คุณชายกินไม่หมด เซี่ยฝานเทียนจึงรับมากินต่อ ท่ามกลางความตกตะลึงของคุณชายว่าเซี่ยฝานเทียนเสียมารยาท(?) รู้สึกแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้รังเกียจ ทั้งยังรู้สึกอีกว่าท่าทางของเซี่ยฝานเทียนทำให้คนที่มองม่ีความรู้สึกอยากอาหารขึ้นมาซะอีก
ชิวหยวนเสียงมีปมบางอย่างที่คอยกัดกินจิตใจอยู่ แม้จะพบจิตแพทย์ แต่ไม่ยอมรับการรักษาแต่โดยดี เคยคิดจะรักษาบาดแผลในใจ ปล่อยให้มันทำร้ายตัวเองไปเรื่อยๆ ไหนจะปัญหาเรื่องเบื่ออาหารอีก ทำให้ทรุดถูกหามเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง จนเลขาของตัวเองคิดแผนเพื่อนทานอาหารขึ้นตามคำแนะนำของหมอว่าถ้ามีคนกินด้วยจะรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น แรกๆ เพื่อนทานอาหารจะเป็นญาติ ไล่มาจนถึงลูกน้องต่างๆ แต่เพราะคนเหล่านั้นเกร็งเวลาร่วมโต๊ะด้วย จึงทำให้ชิวหยวนเสียงระเบิดลงใส่คนในบ้านชุดใหม่ แต่เลขาและคุณพ่อบ้านก็ไม่คิดยอมยกเลิกแผนเพื่อนทานอาหารแม้แต่น้อย ผ่านไปสองปีเพื่อนทานอาหารมี้บางที่ลากออกเอง และโดนไล่ออก จนคุณพ่อบ้านมาเจอเซี่ยฝานเทียนนี่แหละ
ชิวหยวนเสียงถึงกับยอมรับว่าเป็นคนที่ทำให้ตัวเองผ่อนคลายจากเรื่องเครียดยามร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน นอกจากพ่อแม่ที่เสียไปแล้ว ก็มีแต่เซี่ยฝานเทียนนี่แหละที่ทำตัวเป็นธรรมชาติกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และเพลิดเพลินไปกับมัน เป็นเพื่อนทานอาหารคนเดียวในรอบสองปีที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด อีกทั้งในคืนที่ตนเองโรคกระเพาะกำเริบก็เหมือนกัน เซี่ยฝานเทียนไม่ได้ปริปากบอกใครตามที่ชิวหยวนเสียงบอก จึงเกิดความรู้สึกดีในใจเพิ่มพูนขึ้นไปอีก
วันหนึ่งไปชิวหยวนเสียงไปร่วมงานฉลองหมั้นของคู่หมั้น? ที่ถอนหมั้นไปตอนที่พระเอกป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล (จริงๆ แล้วรักกันแบบพี่น้อง แต่เพราะข้อตกลงของผู้ใหญ่เลยหมั้นกัน) แขกในงานก็มีบรรดาลูกน้องเก่ามากมายที่ไล่ออกจากบริษัทตอนที่ตัวเองขึ้นมาบริหาร
จริงๆ แล้วเลิกต่อกันด้วยดี แต่เพราะพ่อแม่ของคู่หมั้นเก่ากลัวว่าจะกระทบกับหุ้นของตัวเอง จึงปล่อยข่าวลือเสียหายว่าพระเอกเป็นคนทิ้งลูกสาวตัวเองไป ประกอบกับพระเอกไม่ได้คิดจะออกมาแก้ข่าวอยู่ล้ว ข่าวลือเลยยิ่งวลามไปไกลกว่าเดิม
ในงานเซี่ยฝานเทียนไปได้ยินเสียงเม้าท์มอยของบรรดาสาวๆ ในงานถึงข่าวลือเสียหายของชิวหยวนเสียงกับเลขา จากนั้นเกิดความวุ่นวายในงาน เพราะชิวหยวนเสียงไปมีเรื่องกับคู่หมั้นของคู่หมั้นคนเก่าเข้า เซี่ยฝานเทียนเลยดึงชิวหยวนเสียงออกจากงานมากก่อน แต่ก็ดันมีนักข่าวขับรถตามอีก หนีกันให้จ้าละหวั่น คืนนั้นเลยเข้าพักแทนที่โรงแรมแทนที่จะกลับบ้าน เซี่ยฝานเทียนเป็นห่วงกลัวโรคกระเพาะของชิวหยวนเสียงจะกำเริบ เลยสั่งซุปมาให้ทาน สังเกตว่าชิวหยวนเสียงทานไปได้ไม่กี่คำจึงตักมาป้อน ชิวหยวนเสียงทำท่าประหลาดใจ เซี่ยฝานเทียนที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปกำลังจะชักมือกลับ แต่ชิวหยวนเสียงกลับอ้าปากงับช้อน เซี่ยฝานเทียนจึงป้อนต่อไปเรื่อยๆ จนหมด ...
มื้อหลักจบไปต่อกันด้วยกรึ๊บไวน์ จู่ๆ ชิวหยวนเสียงก็ถามเซี่ยฝานเทียนว่าชื่ออะไร เพราะไม่เคยคิดว่าเซี่ยฝานเทียนจะทำงานได้นานขนาดนี้เลยไม่คิดจะจำ (ฮา) ชิวหยวนเสียงบอกว่าชื่อเซี่ยฝานเทียนเขียนยาก เลยได้ชื่อใหม่ไปโดยปริยาย คืนนั้นทั้งสองเปิดใจคุยกัน ชิวหยวนเสียงบอกกับเซี่ยฝานเทียนว่าถ้าผ่านคืนนี้ไปให้เตรียมรับมือกับการถูกขุดประวัติได้เลย เซี่ยฝานเทียนจะรับได้มั้ย ถ้ารับได้จะให้ผ่านทดลองงานและเพิ่มเงินเดือนให้ เซี่ยฝานเทียนถามชิวหยวนเสียงกลับว่าแล้วรับได้มั้ยที่ตัวเองเป็นเกย์ ชิวหยวนเสียงตอบว่ารู้ตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว ชิวหยวนเสียงดื่มไปหลายแก้ว เซี่ยฝานเทียนเลยแบกชิวหยวนเสียงไปนอนที่เตียง แต่ดันพลาดสะดุดล้ม คนสองคนล้มลงบนเตียง (ชิวหยวนเสียงอยู่ล่าง เซี่ยฝานเทียนคร่อมทับ) ชิวหยวนเสียงแปลกใจเล็กน้อยแต่ด้วยความง่วงงุนเลยหลับไปแบบที่จับแขนเซี่ยฝานเทียนไว้แน่น เซี่ยฝานเทียนกลัวขยับแล้วชิวหยวนเสียงจะตื่น เลยค่อยๆ ขยับตัวข้ามมานอนข้างๆ แล้วเอาหมอนหนุนให้ชิวหยวนเสียง พอชิวหยวนเสียงขยับตัวจัดท่าให้นอนสบายขึ้น เลยทำให้คนสองคนใกล้ชิดกันกว่าเดิม ตอนนี้แหละที่เซี่ยฝานเทียนเกิดความรู้สึกว่าชิวหยวนเสียงช่างน่าเอ็นดู อยากดูแลพระเอกขึ้นมาแล้วซิ!
ด้านชิวหยวนเสียงพอตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนจับมือเซี่ยฝานเทียนทั้งคืน ก็เกิดอาการหน้าร้อน จนต้องหนีเข้าห้องน้ำมาสงบจิตใจ เป็นไปตามที่คาด ขณะที่ชิวหยวนเสียงอ่านหนังสือพิมพ์ก็เจอพาดหัวข่าวเกี่ยวกับตัวเองและเซี่ยฝานเทียน กล่าวว่าเซี่ยฝานเทียนเป็นมือที่สามทำให้ชิวหยวนเสียงถอนหมั้นกับคู่หมั้น แน่นอนว่าเซี่ยฝานเทียนก็เห็นข่าวนี้ ชิวหยวนเสียนลอบสังเกตท่าทีของเซี่ยฝานเทียนเมื่อเห็นว่าท่าทีของนายเอกดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร จึงปล่อยเลยตามเลย พอเช็คเอ้าท์ออกมาเจอกองทัพนักข่าวอีก แต่ก็ฝ่าดงนักข่าวออกมาได้ บ่ายวันนั้นเองขณะที่ชิวหยวนเสียงกลับเข้าบริษัท ฝ่ายเซี่ยฝานเทียนที่ลอบสังเกตชิวหยวนเสียงมานานก็เรียกประชุมทุกคนในบ้านถึงแผนการใหม่ที่จะทำให้เซี่ยฝานเทียนยอมกินข้าวนั่นก็คือ การเปลี่ยนบรรยากาศนั่นเอง
สี่เดือนผ่านไป อาการไม่อยากอาหารของชิวหยวนเสียงก็เริ่มดีขึ้น ชิวหยวนเสียงค่อยๆ เปิดใจให้เซี่ยฝานเทียนเรื่อยๆ เพราะเซี่ยฝานเทียนมักจะมีลูกเล่นอะไรให้ตัวเองแปลกใจได้เสมอ มักจะให้เซี่ยฝานเทียนมานั่งในห้องทำงานด้วยกันเพียงเพื่อจะได้เห็นเค้าอยู่นสายตา อีกคนเคลียร์เอกสารของบริษัท อีกคนเคาะแป้นพิมพ์เขียนคอลัมน์
พอชิวหยวนเสียงดีขึ้น คนในบ้านทั้งหลายยิ่งเทิดทูนเซี่ยฝานเทียนเข้าไปใหญ่ ช่วงเวลานี้แหละที่เซี่ยฝานเทียนรู้ตัวว่าชอบชิวหยวนเสียงเข้าแล้ว แต่เพราะไม่อยากหวังสูงมากเกินไปจึงเก็บอาการและหันมาทุ่มเทกับการดูแลสุขภาพของเซี่ยฝานเทียนแทน
ชิวหยวนเสียงเอง เริ่มเคยชินกับการที่มีเซี่ยฝานเทียนอยู่ข้างๆ จากแรกเริ่มจนถึงวันนี้ก็เริ่มชอบขึ้นมากเรื่อยๆ พลางคิดวางแผนอนาคตไปว่าถ้าสังคมไม่ยอมรับ ตัวเองก็จะไม่สน จะเกษียณตัวเองก่อนกำหนดมาอยู่กับเซี่ยฝานเทียน ชิวหยวนไม่ได้บอกกล่าวกับเซี่ยฝานเทียนเป็นกิจลักษณะ เพราะอยากให้รักครั้งนี้ค่อยๆ พัฒนาไปแบบไม่หวือหวา ค่อยเป็นค่อยไป แต่ตัวเองรู้อยู่แล้วว่าเซี่ยฝานเทียนคิดเหมือนกัน จากการกระทำและพฤติกรรมของเซี่ยฝานเทียนชอบแอบมองใบหน้าตัวเองอยู่เสมอ
มีอยู่วันหนึ่งทั้งสองคนเปลี่ยนบรรยากาศไปทานของว่างที่สวนสาธารณะ แล้วนักข่าวถ่ายภาพไว้ได้ ขยายภาพของเซี่ยฝานเทียนจนใหญ่โต ชิวหยวนเสียงเห็นแล้ัวจึงแกล้งเอามาวางไว้บนโต๊ะเพราะอยากแกล้ง(?) อยากเห็นปฏิกิริยาของเซี่ยฝานเทียน เลยเรียกเซี่ยฝานเทียนมาคุยด้วยเรื่องหนัง ให้เซี่ยฝานเทียนนั่งรอที่โซฟาก่อน (ในมุมที่มองเห็นหนังสือพิมพ์ด้วยนะ) ตัวเองขอเคลียร์งานต่อ เซี่ยฝานเทียนพอได้เห็นรูปตัวเองก็เลิ่กลั่ก แอบหยิบหนังสือพิมพ์มาแง้มๆ ดู แล้วรีบเอาไปซ่น ชิวหยวนเสียงที่แอบมองอยู่แอบหัวเราะกับท่าทางนั้น พลางคิดว่าทำไมเซี่ยฝานเทียนถึงน่ารักขนาดนี้
ข้ออ้างจะให้สมจริงก็ตอนดูหนังกันจริงๆ ถูกไหม ตอนที่ดูหนังกันชิวหยวนเสียงอ้าปากให้เซี่ยฝานเทียนป้อนขนมให้ เซี่ยฝานเทียนมีอาการขัดเิขนแต่ก็ป้อนให้นะ เห็นชิวหยวนเสียงเคี้ยวหงุบหงับ มีเศษขนมติดมุมปากก็หน้าแดงจินตนาการไปไกล ชิวหยวนเสียงเห็นแบบนั้นก็หัวเราะและแซว เซี่ยฝานเทียนเขินจนเอามือปิดหน้า แต่ชิวหยวนเสียงไม่สนท่าทีขัดเขินนั้น แถมยังซบลงบนไหล่เซี่ยฝานเทียนแล้วพูดว่า 'พวกเราค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเนอะ' เซี่ยฝานเทียนได้ยินดังนั้นก็นิ่งอึ้งไป สงสัยในความหมายของคำพูดนั้น แต่ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง เห็นชิวหยวนเสียงหลับไปก็จับมือเค้าขึ้นมาจุ๊บ จังหวะนั้นชิวหยวนเสียงลืมตาขึ้นมามองสบตา บรรยากาศและสองเรานั้น ใช่..จูบแรกของทั้งสองคนก็เกิดขึ้น และก็ใช่อีก ชิวหยวนเสียงขอเซี่ยฝานเทียนเป็นแฟนในตอนนั้น
ความสัมพันธ์ครั้งนี้ของทั้งสองคนคือรักแบบผู้ใหญ่ คนสองคนค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน เติมเต็มกัน ทุ่มเทและเอาใจใส่ในทุกช่วงเวลา ความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ นี้ ค่อยๆ collect เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นความสุขของเซี่ยฝานเทียน
มีอยู่ครั้งนึงชิวหยวนเสียงรีบเคลียร์งานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อลาพักร้อนไปเที่ยวกับเซี่ยฝานเทียน ไปถึงโรงแรมเช็คอินเรียบร้อย ลงมาเดินเล่น มีสาวๆ แอบมองทั้งสองคนตลอดทาง เซี่ยฝานเทียนก็มัวแต่สนใจสาวๆ พวกนั้น เพราะรู้สึกไม่พอใจ(?) ชิวหยวนเสียงที่กำลังลองชิมไวน์เลยดึงเซี่ยฝานเทียนมาจูบปาก ป้อนไวน์ให้ คนรอบข้างตะลึงไป พอเห็นเซี่ยฝานเทียนเขินก็ทำให้คนขี้หึงพอหายหงุดหงิดไปได้
มาเที่ยวครั้งนี้มี cut นะคะคุณแม่ (คีย์เวิร์ด: บ่อออนเซ็น) XOXO *ข้าม*
ดราม่าเริ่มก่อตัว คนรักเก่าของเซี่ยฝานเทียนเป็นพวกต้มตุ๋น ชอบหลอกเอาเงิน พอได้เห็นช่าวของชิวหยาวเสียงกับเซี่ยฝานเทียน ขอนัดเจอเซี่ยฝานเทียน อ้างว่าให้มาเอาของที่ลืมไว้ พอเจอกันก็กลับมาตีโพยตีพาย โวยวายเสียงดังถามเซี่ยฝานเทียนว่าทำไมถึงทิ้งตัวเองไป เป็นเพราะคนในข่าวใช่มั้ย โวยวายเสียงดังให้คนรอบข้างสนใจ ทั้งยังวิ่งออกจากร้านเดือดร้อนเซี่ยฝานเทียนต้องวิ่งตาม พอตามถึงตัวจังหวะที่เซี่ยฝานเทียนไม่ทันระวังตัวก็คว้าตัวเซี่ยฝานเทียนมาจูบ เซี่ยฝานเทียนหมดความอดทน เลยพูดย้ำว่ารู้เรื่องทุกอย่างที่คุณนอกใจ และความสัมพันธ์ของสองคนจบไปตั้งนานแล้ว หยุดรื้อฟื้นได้แล้วแต่แฟนเก่าก็พยายามแสดงออกว่าตัวเองไม่ได้ยินดีที่จะเลิก พยายามติดต่อเซี่ยฝานเทียนอยู่เรื่อยๆ ช่วงนั้นชิวหยวนเสียงเริ่มงานยุ่งกว่าปกติเพราะจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทุกครั้งที่ได้เจอกันเซี่ยฝานเทียนจะมีท่าทีเหม่อลอยเสมอ ทำให้ชิวหยวนเสียงก็เริ่มรู้สึกแปลกใจ ไหนจะคำพูดของเลขาที่พยายามบอกว่านายเอกเป็นคนไม่ดี (คุณเลขาไปเห็นเหตุการณ์ตอนเซี่ยฝานเทียนโดนจูบ)
และเพราะชิวหยวนเสียงเริ่มมาท่าเหินห่างขึ้นเรื่อยๆ จนเซี่ยฝานเทียนแปลกใจ แรกๆ คิดว่าชิวหยวนเสียงงานยุ่ง แต่ในใจก็มีความสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะคุณเลขารึเปล่า ที่ทำให้ชิวหยวนเสียงเปลี่ยนไป (จริงๆ คือแฟนเก่าเซี่ยฝานเทียนตามรังควานชิวหยวนเสียงเหมือนกัน เพื่อจะขอเซี่ยฝานเทียนคืน)
เกิดเหตุการณ์แย่ๆ ในวันครบรอบของทั้งสองคน คุณเลขาถูกทำร้าย ชิวหยวนเสียงจึงพาตัวคุณเลขามาที่บ้าน แสดงความห่วงใยต่างๆ นาๆ ทั้งยังลืมนัดของเซี่ยฝานเทียน ปล่อยให้หยวนเสียงที่ทั้งวันมัวยุ่งอยู่กับการทำกับข้าว ทำเค้ก ต้องนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวในห้องพักของโรงแรมจนถึงห้าทุ่มชิวหยวนเสียงก็ไม่แม้แต่จะติดต่อมาหา จนเซี่ยฝานเทียนติดต่อพ่อบ้านถึงได้รู้เรื่องราว เซี่ยฝานเทียนยกอาหารทั้งหมดให้กับพนง.ที่โรงแรม กลับบ้านด้วยจิตใจขุ่นมัว ระหว่างที่ถือเค้กมีแม่บ้านที่ถืออ่างน้ำเดินมาชน เค้กลอยละลิ่วตกพื้น อ่างน้ำคว่ำจนทำให้ตัวเปียก ตัวชิวหยวนเสียงที่ได้ยินเสียงเอะอะจากในครัวจึงเดินมาดู เห็นภาพเซี่ยฝานเทียนตัวเปียกปอน ทั้งสองพยักหน้าให้กันแต่ไม่พูดอะไรกัน จากนั้นเซี่ยฝานเทียนจึงเดินขึ้นห้องแบบโซเซ
เวลานั้นเองที่พ่อบ้านพูดกับชิวหยวนเสียงเรื่องที่เซี่ยฝานเทียนรอชิวหยวนเสียงอยู่ที่โรวแรมเป็นค่อนคืน แต่ชิวหยวนเสียงพูดทำนองว่าก็ช่างมันสิ และเพราะคำพูดที่ไม่ได้ไตรตรองของพระเอกนี้เอง เซี่ยฝานเทียนที่เดินกลับมาเอาของในครัวได้ยินเข้า ในเวลานั้นชิวหยวนเสียงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าได้ทำเรื่องผดพลาดเข้าเสียแล้ว
ความระแคะระคายความเคลือบแคลงในความสัมพันธ์ที่สะสมนั้นถูกกักเก็บไว้ในใจของเซี่ยฝานเทียน และบังเอิญที่พ่อของเซี่ยฝานเทียนติดต่อกลับมาพอดี เซี่ยฝานเทียนจึงคิดจะไปเยี่ยมพ่อ เลยไปขอลาพักร้อนกับชิวหยวนเสียง แต่เซี่ยฝานเทียนตอบปฏิเสธแบบเย็นชา (มีประเด็นที่ทำให้ชิวหยวนเสียงเป็นแบบนี้จากแฟนเก่าของเซี่ยฝานเทียน) เซี่ยฝานเทียนตอบกลับว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะลา แต่ชิวหยวนเสียงตอบกลับทันควันว่านายจ้างก็มีสิทธิ์ตอบปฏิเสธ และเพราะคำว่า 'นายจ้าง' จากปากของชิวหยวนเสียงนี้เอง ที่ทำให้เซี่ยฝานเทียนรู้ตัวว่าที่แท้ชิวหยวนเสียงไม่เคยรักตัวเองเลย ทั้งสองคนไม่เคยก้าวพ้นความเป็นเจ้านายกับลูกน้องเลย ชิวหยวนเสียงสั่งเด็ดขาดว่าถ้าเซี่ยฝานเทียนก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนี้ ไม่ต้องกลับมาอีก และใช่...เซี่ยฝานเทียนรีบกลับไปเก็บของที่มีน้อยนิดของตัวเองใส่กระเป๋าเดินทาง บอกลาคนในบ้านทั้งหมด และก้าวออกจากบ้าน
หลังจากมีสติมากขึ้น ชิวหยวนเสียงถึงได้รู้ว่าตัวเองได้ทำเรื่องผิดพลาดเข้าซะแล้ว เพราะพอได้ไตร่ตรองให้ดี เวลาทั้งหมดของเซี่ยฝานเทียนนั้นมักจะทุ่มเทให้กับตัวเองเสมอนี่ เว้นก็แต่ตอนที่ปั่นต้นฉบับ หรือออกไปค้นคว้าข้อมูลข้างนอกนั่นแหละ ทำไมตัวเองถึงเชื่อลมปากคนอื่น ทำไมถึงไม่ยอมเชื่อใจคนรักของตัวเอง
แต่จะทำยังไงต่อไปล่ะ?
ไปติดต่อกันได้ในเล่มจ้า! 5555555555555
.
.
.
.
เราชอบนิยายเรื่องนี้นะ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยหวือหวา ค่อยๆ เป็นๆ ไป ได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร การกระทำของทั้งสองคน บรรยากาศรอบข้างมันอบอุ่นมากๆ เลยล่ะ อย่างเมนูอาหารที่บรรยายดีเทลจนหิวตาม ไม่ได้เน้นมาทั้งเล่มแต่ก็ชวนน้ำลายสออยู่บ้างตอนที่จินตนาการตาม เนื้อเริื่องค่อนข้างฟีลกู๊ดเลย แต่ไม่ได้ราบเรียบตลอดทั้งเรื่อง บรรยากาศที่คนรอบข้างของชิวหยวนเสียงคอยเชียร์ คอยเป็นกำลังใจให้เซี่ยฝานเทียนน่ารักมาก!
คือต่อให้คนภายนอกมองว่าชิวหยวนเสียงเป็นคนเงียบๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่อ่อนโยนใจกว้าง แถมสายเปย์สุดๆ แต่เพราะปัญหาด้านจิตใจเลยไม่เข้าหาและไม่เปิดรับใครก็ตามที่พยายามจะช่วยตัวเอง มีแฝงแง่คิดพอกรุบกริบ
ดราม่าก็ชวนให้หงุดหงิดใจอยู่นิดหน่อย แต่ชอบเอเนอร์จี้ของเซี่ยฝานเทียนนะ ถ้าเราเป็นเซี่ยฝานเทียนก็คงเดินออกมาเหมือนกัน การโดนคนรักทำตัวเฉยเมย ไม่สนใจ มันอึดอัดนะเออไหนจะการโดนไม่เชื่อใจอีก!
คำเตือนครั้งสุดท้าย เรื่องนี้สลับ position!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in