เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Love in Translation [BL]Pettes
Love In Translation : Inleiding 1

  •                 เขาคิดว่ารูปกะโหลกของชายคนนั้นช่างอัปลักษณ์

                    กรามด้านล่างเป็นสันคมบานออก โหนกแก้มราบเรียบไปกับพื้นผิวหน้าจนดูไร้มิติ ใบหน้าของเขาดูเกือบๆจะเป็นรุปสี่เหลี่ยมสองมิติที่น่าอดสู ศีรษะใหญ่เทอะทะนั่นแทบทำให้มือของเขาหดหลับด้วยความขยะแขยง เป็นงานประติมากรรมที่ผิดพลาด หรือนี่คือมนุษย์เมื่อแรกเริ่ม เมื่อซุสปั้นพวกเขาขึ้นมาจากก้อนดิน? เขาคิด หลงลึกอยู่ในวังวนของความพิศวงและขยักขย้อน ฉันจะทำให้มันสวยงามขึ้น ดีพร้อมขึ้น

                    งานศิลปะชิ้นเอกครั้งสุดท้าย ก่อนที่พวกสุนัขตำรวจจะยื่นมือเข้ามาสอด

                    เขาก้มลงมองใบหน้าในมือ รู้สึกเหมือนนักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล โรเบิร์ต แมคคาฟี ชื่อนี้ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขามากกว่าข้อมูลที่ปรากฏในวิกีพีเดีย อายุ 52 ปี ซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของโลก มีส่วนเกี่ยวข้องกับความไม่สงบในโคโซโว และที่สำคัญ -- ชายตรงหน้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีตัวตน

                    ถอนใจเล็กน้อย แมคคาฟีจ้องมองเขาอย่างหวาดกลัว ความสามารถในการเคลื่อนไหวถูกขจัดออกไปด้วยยาชา นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเบิกกว้างและชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตา ริมฝีปากอ้าค้างเล็กน้อยในความหวาดผวาอย่างไร้เสียง ให้ตาย เขาทนมองไม่ได้อีกแล้ว เขาอยากจะอ้วก คงได้เวลาเริ่มทำงานเสียที

                    อัปลักษณ์ที่สุด

                    เขาจัดการกับร่างที่เหลือตามปกติ ศีรษะของอีกฝ่ายตั้งเหมือนถ้วยรางวัลอยู่บนโต๊ะข้างๆ เขาจัดการเคลือบแว็กซ์อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะนำชิ้นส่วนยัดใส่ถุงดำ แถวนี้มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์อยู่...อย่างน้อยเขาก็มั่นใจได้ว่าแมคคาฟีทำประโยชน์ให้ฝูงสุนัขเฝ้าปศุสัตว์ได้มากกว่าตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เขาน่าจะซื้อเวลาให้ตนเองได้สักระยะหนึ่ง มากพอที่จะสร้างตัวตนและปลอมแปลงประวัติของตนเอง และเริ่มชีวิตใหม่ได้ในอิตาลี สถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามอย่างแท้จริง

                    เขายิ้มน้อยๆ

                    อีกไม่นาน หลักฐานสุดท้ายที่บ่งบอกว่าเขาเป็นลูกชายของโรเบิร์ต แมคคาฟีก็จะหายไป

                    ชัยชนะให้ความรู้สึกเหมือนจุดสุดยอด มันหอมหวานและนุ่มนวลอยู่ในปากราวกับผลไม้ต้องห้ามในเทวตำนาน

                    เขาตั้งศีรษะไว้บนแท่น ประคองใบหน้าอีกฝ่ายไว้ในอุ้งมือ

                    “ผมบอกพ่อแล้วใช่ไหม--” เขาพ่นลมหายใจแรง “ถ้าพ่อไม่ยองมองผมตรงๆ ผมก็จะทำให้พ่อมองผมให้ได้ – ต่อให้ต้องเฉือนเปลือกตาพ่อออก ผมก็ยอม”

                    นัยน์ตาของโรเบิร์ต แมคคาฟีคือสิ่งเดียวที่สวยงามที่สุดในเครื่องหน้ายับเยินของเขา มันเปล่งประกายราวกับอัญมณี เหมือนเพชรงดงามที่จมลึกอยู่ในโคลนตม

                    “ตะเกียงเอียงกะเท่เร่อยู่เหนือหลุมศพเปิดอ้าของข้า” เขาท่อง หลับตาลงอย่างดื่มด่ำ นึกถึงบทกวี ลา กาแลร์ของ ฌอง เฌอเนต์ “ปกคลุมด้วยดินเลนและหมู่ผกา เมียงมองยอดรักผู้สิ้นชีวี”


     





    [1] กลอนมาจากบทหวีของ Jean Genet เรื่อง La Galère แปลจากอังกฤษอีกที 

    Entr'ouverts ces cercueils ornés de fleurs mouillées 

    Une lampe y demeure et veille mes noyées. 

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in