มนุษย์ทั้งหลายต่างหลงใหลกับการปรับเปลี่ยนนิสัย
แต่การปรับเปลี่ยนนิสัยไม่ได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตได้

เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ถาวรมันไม่ได้เกิดขึ้นแบบนั้น

ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่เรียบง่าย
การทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร

ถ้าคุณอยากมีอิสระทางการเงิน
การสร้างนิสัยในการจับจ่ายให้ “ดีขึ้น” ก็จะไม่พาคุณไปถึงจุดนั้น

และถ้าหากคุณอยากใช้ชีวิตแบบมีสุขภาพที่ดีอย่างเต็มที่
การพัฒนาแต่เรื่องอาหารการกินอย่างเดียวก็ไม่ช่วยให้สุขภาพดีไปตลอดได้

จริงๆแล้ว ไม่ว่าคุณจะ ทำ อะไร
เพื่อเปลี่ยนชีวิตของคุณ
ชีวิตของคุณจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย

ทำไมอะเหรอ?

ก็เพราะคุณเริ่มต้นด้วยคำว่า “อย่างไร”
จนละเลยใจความสำคัญของคำว่า “ทำไม”

ทำให้พลาดไปเยอะเลยแหละ

แน่นอนคุณจะเอนจอยกับวิธีใหม่ๆในการใช้ชีวิต
หลากหลายเทคนิค เคล็ดลับใหม่ๆที่คุณเอามาปรับใช้

ซึ่งช่วยพัฒนาตัวคุณ ช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนนิสัยได้

เก็บเคลียร์ตู้รกๆ
จ่ายหนี้ให้หมด
ลดน้ำหนักลง

ในช่วงแรกที่ทำสำเร็จมันรู้สึกดีสุดๆ

แต่หลังจากนั้น1 วันผ่านไป

1 เดือนผ่านไป

1 ปีผ่านไป

เมื่ออุปสรรคใหม่เกิดขึ้นในชีวิต
คุณกลับเริ่มสงสัย

ว่านิสัยที่ปรับเปลี่ยนทำไมมันไม่อยู่กับคุณ
ทำไมนิสัยแย่ๆ มันถึงกลับมา

ทำไมน้ำหนักกลับมาเพิ่มขึ้น
ทำไมถึงกลับมาเป็นหนี้อีกแล้ว
ทำไมตู้ถึงกลับมารกอีกครั้ง


ก็เพราะว่าคุณยังไม่เข้าใจว่า “ทำไม”
คุณจะกลับไปทำและมีนิสัยตามเดิมของคุณ

คุณจะกลับไปหาพฤติกรรมเก่าๆของคุณอยู่เสมอ
และก็ไม่ใช่ความผิดอะไรของคุณ เพียงแต่เป็นสภาวะแวดล้อมที่ส่งผลเท่านั้น

คนเราถูกโปรแกรมให้ยกย่องยอมเชื่อในคำสั่ง
เราใช้ชีวิตเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิสัยให้ดีขึ้นตลอดเวลา

โดยลืมสังเกต ฟังเสียงข้างในลึกๆว่าเรามีบาดแผลอะไรกันแน่
สังคมสั่งสอนเราตลอดเวลา

ให้เราเติบโตต่อเนื่อง
ให้เราพัฒนาไม่หยุด
ให้เราทำเยอะขึ้นมากขึ้น

ให้เรา “แค่ลงมือทำ”

การลงมือทำสิ่งต่างๆ จะพาเราไปแค่ครึ่งทาง แล้วทิ้งเราไว้กลางทางอย่างนั้น

แต่ความเข้าใจจะพาเราไปถึงจุดหมาย

เวลาเราทำอาหารตามสูตร อาหารก็จะออกมาหน้าตาพอทานได้ประมาณนึง
ไม่ว่าการอบขนม หรือการจัดลิ้นชักใส่ถุงเท้า

นอกเหนือจากความรู้พื้นฐานที่สูตรให้คุณทำตาม
สูตสำเร็จยังเข้ามาขวางความเข้าใจคุณด้วย

เพราะคู่มือหรือ How to? ต่างๆ ไม่มีพื้นที่ให้คุณได้ให้ความสำคัญ

ไม่มีพื้นที่ให้คุณได้ตั้งข้อสงสัยกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ไม่มีพื้นที่ให้คุณได้ใช้ความคิดในแบบของตัวเองเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคของคุณเอง

ในโลกของความเป็นจริง

ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ไม่มีอะไรคงที่ถาวร

เพราะจริงๆวิธีการต้องแปรเปลี่ยนไปตามแต่ละอุปสรรคเพื่อให้เราก้าวข้ามมันได้อยู่เสมอ

ไม่มีทางอ้อม ไม่มีทางลัด

เมื่อไหร่ที่คุณทนไม่ไหวกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อไหร่ที่คุณสุดจะทนกับความอึดอัดทรมานจากการไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อไหร่ที่คุณรับไม่ได้กับสิ่งที่คุณแลกไปเพื่อให้มีชีวิตแบบที่เป็นอยู่

คุณจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเข้าใจ

ตอนนั้นเองที่การเปลี่ยนแปลงจะเข้ามามีบทบาทอย่างแท้จริงและเรียบง่าย
แน่นอนว่าความเรียบง่าย จริงๆแล้วมันต้องใช้ความพยายาม

แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยื่นเกิดจากการตระหนักรู้ด้วยตัวคุณเอง

และมันให้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าการลงมือด้วยการแค่เปลี่ยนนิสัยแบบครึ่งๆกลางๆ

เมื่อคุณตระหนักรู้ถึงความจริง

สิ่งของรกๆ ไม่ได้สามารถความไม่พอใจหงุดหงิดให้คุณ

การไล่ตามความพึงพอใจในโลกของการยึดติดกับคุณค่าทางวัตถุ
หรือทรัพย์สินต่างหากที่ทำให้คุณขุ่นเคือง

การที่เงินขาดมือไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกจน
แต่การไล่ตามความสุขในโลกสุขนิยมต่างหากที่ทำให้คุณรู้สึกขาด

อาหารไม่ได้ทำให้คุณอ้วน
ความพอใจจากการบริโภคมากเกินไปต่างหากที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น

เมื่อตระหนักเรื่องพวกนี้ได้ เมื่อนั้นเองที่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างจริงจัง

ต้นตอของความทุกข์ของคุณเติบโตจากสิ่งที่เป็นส่วนเกินในชีวิต
นิสัยแย่ๆ มันเป็นเพียงผลพวงจากการไม่ตระหนักรู้

ผมรู้เรื่องนี้ ก็เพราะหลายปีที่ผ่านมา  ผมพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต
ผมลงลงมือสร้างนิสัยที่”ถูกต้อง”

ณ ช่วงเวลาที่พยายามทำสิ่งที่ควร
ด้วยความตั้งใจและเครื่องมือตัวช่วยที่ดี

แม้จะพยายามเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของการดูแลการกิน
การคำนวนงบประมาณหรือการสร้างระบบระเบียบต่างๆให้เกิดขึ้น

ผมยังคงอ้วน เป็นหนี้ และรายล้อมไปด้วยข้างของรกๆ

แต่เมื่อผมได้ตระหนักรู้ถึงปัญหาที่แท้จริง
ปัญหาแท้ที่แฝงอยู่ภายใต้ปัญหาอื่นๆที่ผมเห็น

ผมจึงสามารถ ปล่อยวางจากวิธีการแบบที่สังคมกำหนดขึ้นมาได้

พูดง่ายๆก็คือ:

พยายามเปลี่ยนชีวิตเท่าไหร่
ชีวิตคุณจะไม่เปลี่ยน
การทำความเข้าใจเท่านั้น
จะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงชีวิตได้

เมื่อคุณเริ่มเข้าใจที่มาของปัญหาของคุณเอง
คุณจะเริ่มตระหนักรู้และเห็นความเป็นไปด้วยตัวเอง

เมื่อนั้นนิสัยของคุณจะเปลี่ยนไปเองโดยไม่ต้องพยายาม

เมื่อคุณเห็นและเข้าใจปัญหาทั้งหมดแล้ว

คุณจะไม่มีตัวเลือกอะไรเลย นอกจากต้องเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

------
บทความแปลจาก 
Changing Your Life Won’t Change Your Life
https://www.theminimalists.com/changing/