“People don’t realize this, but loneliness is underrated.”
ผู้คนไม่ค่อยตระหนักถึงความเหงา มันถูกประเมินค่าต่ำไป
จากภาพยนตร์ (500) Days of Summer
ถ้าความรักสามารถเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ใครสักคนทุรนทุรายปางตายได้ ความเหงาก็เหมือนก้อนกรวดในรองเท้าที่ดูเหมือนแค่ทำให้รำคาญใจในบางช่วง แต่อาจทำให้เกิดแผลเล็กๆ ที่กลายเป็นแผลร้ายในเวลาต่อมา ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้คนเจ็บปวดได้ลึกล้ำยาวนานที่สุด หลายคนคงต้องชั่งใจระหว่างความรักและความเหงา เพราะดูเหมือนจะใกล้เคียงกันมากเหลือเกิน
หลังจากที่ผู้เขียน ได้นำวิทยาศาสตร์มาพบกับความรัก (ความรู้สึกที่ดูไม่มีเหตุผลอย่างที่สุด) ในงานเขียนเล่มก่อน เมื่อมาถึงเล่มนี้ วิทยาศาสตร์ยังคงทำหน้าที่อธิบายความรู้สึกละเอียดอ่อนที่ “แมส” สุดๆ อย่างความเหงาได้ดีทีเดียว ใครๆ ต่างเคยประสบพบเจอกับความรู้สึกนี้กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเหงาเล็กๆ ในยามค่ำคืน เหงากลางๆ จากความโสด หรือเหงามากๆ ในเมืองใหญ่ แต่คนเรามักมองความเหงาด้วยสายตาเดียวกับที่มองคู่แข่งที่อ่อนด้อยกว่า ก่อนจะมาพบว่ามันทำให้เราหมดพลังงานชีวิตไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ
จะทนเหงาอยู่ทำไม หยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่านสิ
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามพื้นฐานว่า ทำไมคนเราทั้งหลายต้องเผชิญความเหงา ทำไมความเหงาจึงวนกลับมาทำร้ายเราซ้ำได้เรื่อยๆ ไปจนถึงตอบปัญหาที่หลายคนอาจไม่เคยรู้คำตอบ ว่าจะคลายอาการเหงาเหล่านี้ได้อย่างไร (แอบสปอยล์ว่ามีทริกเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนโสดด้วยนะ) และถึงแม้คุณจะยืนยันว่า “ตั้งแต่เกิดมา ฉันไม่เคยเหงา” ก็ยังอ่านเล่มนี้ได้สนุกเช่นกัน เพราะใครสักคนที่คุณรักอาจกำลังเผชิญความเหงา และรอให้คุณเข้าไปดูแลอยู่ก็ได้
ในยุคที่สังคมเมืองทำให้หลายๆ คนต้องเผชิญความโดดเดี่ยว สถิติคนเป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ (ซึ่งก็มีจุดเริ่มต้นมาจากความเหงาเล็กๆ ที่เราไม่ทันสังเกตนั่นแหละ) เราหวังว่าความเข้าใจในตนเองจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีได้ และจะดีที่สุดหากมันทำให้เราใส่ใจ และเห็นอกเห็นใจคนรอบข้างมากขึ้นเพราะมนุษย์เกิดมาเพื่ออยู่ร่วมกัน
สำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in