ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วนะคะนับแต่เหตุสังหารเด็กและคุณครูที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเรายังคงไม่ลืมเหตุการณ์นี้ไป ยังคงเกาะติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด (ก็ไม่ใกล้เท่าไหร่นะ... ห่างกันหลายกิโล) เอาเป็นว่ายังคงติดตามข่าวกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เป็นห่วงเป็นใย อยากให้กำลังใจผู้ประสบเหตุ แล้วก็ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ไปด้วย ระคนกันไป

     หลายคนตามข่าวแล้วก็เศร้าไปกับเขานะคะ การเสพข่าวแล้วเครียดก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ

     แต่ทราบหรือเปล่าคะว่า จะมีบางคนที่มีอาการมากกว่า "แค่เสพข่าวแล้วเครียด" หากแต่เหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้น ทำให้ชีวิต จิตใจ และการรับรู้ของคนเหล่านั้นผิดปกติไป ไม่ใช่แค่เครียด แต่ทะลุไปเป็นความผิดปกติทางจิตใจไปเสียแล้ว

     นั่นคือภาวะที่เรียกว่า PTSD ค่ะ 

     วันนี้เรามากระโดด(Hop) ไปส่องอาการ PTSD กันดีกว่าค่ะ

     ตุ้บบ! (ตัวหนักใช้ได้)

     ภาวะ PTSD คืออะไร?

     PTSD ย่อมาจาก "Post-Traumatic Stress Disorder" หรือ "ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง" (ที่มา : เว็บไซต์ของ RAMA Channel) เป็นกลุ่มความผิดปกติทางจิตใจ ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยต้องเผชิญกับภาวะที่รุนแรง เช่น อุบัติเหตุ อุทกภัย การฆาตกรรม สงคราม การสูญเสียบุคคลที่รักกะทันหันจากเหตุเภทภัย ฯลฯ แล้วตนเองรอดชีวิตมาได้ แต่แม้จะรอดชีวิตมา แต่จิตใจกลับเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และไม่สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกต่อไป

     นอกจากประสบเหตุกับตัวเองแล้ว อาจมีบ้างบางรายที่เป็นบุคคลภายนอก ได้รับข่าวสารของเหตุการณ์โหดร้าย แล้วเกิดอาการอินมาก ก็อาจจะมีอาการเหล่านี้ได้เหมือนกัน 

     อาการที่พบ

     คำว่า "ไม่สามารถกลับมาดำรงชีวิตอย่างปกติสุข" จริงๆคือกล่าวถึงอาการโดยรวมของผู้ป่วยค่ะ ซึ่งก็มาจากการทำใจไม่ได้ ทำให้จิตใจและร่างกายเกิดภาวะต่างๆ เช่น

     - ฝันร้าย เกิดภาพหลอน หรือเห็นภาพเหตุการณ์ที่ตนประสบมาซ้ำๆ

     - ภาวะ Flashback คือ พอเห็นภาพหลอนใช่มะ ก็จะเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองหวนกลับไปอยู่ ณ ขณะเกิดเหตุการณ์อีกครั้ง ก็จะเกิดอาการตื่นตระหนกตกใจ กระสับกระส่าย ตื่นเต้น หัวใจเต้นแรง(หน้าแดงทุกที เฮ้ย ไม่ใช่) ตื่นกลัว ใจสั่น มือสั่น 

     - สิ่งที่ตามมาคือรู้สึกเป็นทุกข์ หมดอาลัยตายอยาก อาจถึงขั้นคิดสั้น 

     - กลัวและพยายามหลีกเลี่ยงภาวะที่คล้ายกับสิ่งที่ตัวเองเจอมา 

     เช่น จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา บุคคลที่น่าเป็นห่วงที่สุดคนหนึ่ง คือ คุณครูที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะเห็นคนร้าย รู้จักเหยื่อ รู้เห็นเหตุการณ์ตรงนั้นด้วยตัวเอง ภายหลังอาจเกิดภาวะเครียดหรือหลอนได้ เห็นตอนให้สัมภาษณ์นักข่าวแล้วแบบ โอ๊ย สงสาร ครูอาจเกิดอาการกลัวที่จะกลับไปที่ศูนย์เด็กเล็กไปเลยก็ได้

     ตอนดูข่าว(ดูในเนตอะนะ) เห็นหลายคนคอมเม้นท์ว่า คุณครูควรพบจิตแพทย์ นี่ก็ เออ เห็นด้วย ช่วยกันดูแลจิตใจคุณครูด่วนเลย เป็นห่วงจริงอะไรจริง 

     การดูแลรักษา

     จากเว็บไซต์ของโรงพยาบาลสมิติเวช(จริงๆเขากล่าวถึงอาการ PTSD ในเด็ก แต่เราว่า ผู้ใหญ่ก็น่าจะรักษาวิธีนี้ได้เหมือนกัน) กล่าวว่า อาการ PTSD สามารถดูแลเบื้องต้นคือ พบแพทย์ และให้คนรอบข้างช่วยกัน.. เอ่อ ดูแลจิตใจ แต่ถ้าแค่นี้ไม่หาย ก็ต้องรักษาจริงจัง ได้แก่ 

     1. การรักษาแบบจิตบำบัด ซึ่งอาจรักษาโดยให้ความสำคัญกับการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือจะทำการรักษาแบบจิตบำบัดรายบุคคล ก็ได้

     2. รักษาโดยใช้ยาในกลุ่ม SSRI ซึ่งเท่าที่อ่านผ่านๆ ยานี้น่าจะไปเพิ่มสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำให้สมองสงบลง และช่วยในการนอนหลับ คิดเองเออเองว่า คงให้ยาแบบนี้เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารที่ทำให้คนไข้สงบลงและเย็นลง เพื่อลดอาการกระสับกระส่าย  

     และนี่ก็คือรายละเอียดคร่าวๆของภาวะ PTSD จริงๆ เราเคยดูช่องยูทูปช่องหนึ่งเกี่ยวกับ PTSD เมื่อนานมาแล้ว และเราว่าเขาอธิบายไว้ดีมาก น่าจะมาจาก SciShow Channel แต่เราหาไม่เจอซะแล้ว 

     อย่างไรก็ดี เท่าที่พรมนิ้วค้นคำว่า PTSD ลงในช่องค้นหาในยูทูป ก็เจอรายละเอียดหลายวิดีโอนะคะ ใครสนใจก็ลองค้นๆดูได้ ตอนที่เรารู้จักเราว่าภาวะนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าใดนัก แต่ตอนนี้ข้อมูลน่าจะเยอะแล้วล่ะ  

     พูดถึง Sci Show ถ้าใครชอบเรื่องวิทยาศาสตร์หรือจิตวิทยา แนะนำยูทูปช่อง Sci Show ค่ะ มีวิดีโอเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากมายให้เรียนรู้กันฟรีๆ ได้ความรู้แล้วยังได้ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษอีกด้วย และบางวิดีโอจะมีคำบรรยายภาษาไทยให้ด้วยนะคะ (เข้าไปที่ ตั้งค่า แล้วเลือกเปิดคำบรรยายภาษาไทย ได้) มีบางวิดีโอที่เรามีส่วนในการถอดคำบรรยายเป็นภาษาไทยด้วย (ไม่เยอะค่ะ เท่าที่จำได้ ทำไม่เกิน 10 เรื่อง) ใครสนใจก็ลองเข้าไปฟังได้ค่ะ

     คุณผู้อ่านเองก็เช่นกันนะคะ เวลาติดตามข่าวสารต่างๆ ก็ต้องระวังตัวระวังใจกันนิดหนึ่ง ข่าวสมัยนี้ยิ่งชวนหดหู่เยอะ เดี๋ยวก็มีข่าวหมอโดนแก็งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกเสียเงินเป็นร้อยล้าน(หมอมีเงินเยอะจัง O_0) เดี๋ยวก็ข่าวเด็กโดนบังคับเสพยาและขืนใจ เดี๋ยวก็ข่าวคนพาแมวไปตัดขนแล้วร้านตัดขนตัดจนแมวตาย โอ๊ย มีชีวิตก็ต้องระวังตัว มีลูกก็ต้องห่วงอันตรายลูก มีสัตว์เลี้ยงก็ยังต้องห่วงสัตว์เลี้ยงอีก มีชีวิตอยู่ในโลกยุคนี้นี่มันวุ่นวายจริงๆ

     จะว่าไป คนที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวตายไปก่อนนี้ มองอีกมุมหนึ่ง เขาก็โชคดีเหมือนกันนะ... 

     ขอจบด้วยถ้อยคำเหมือนที่เคยชอบใส่เวลาทำรายงานสมัยมัธยมว่า หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านบ้าง ไม่มากก็น้อย นะคะ 

     สวัสดีค่ะ 

  

     แถม คำศัพท์ท้ายบท 

     Post : ปกติจะใช้ในบริบทที่แปลว่า ไปรษณีย์ แต่ในกรณีจะแปลว่า หลัง หรือ ภายหลัง 

     Traumatic : ที่ทุกข์ทรมาน(ใจ), ที่บอบช้ำ(ทางจิตใจ), ที่เกี่ยวกับบาดแผล

     Stress : ความเครียด, ความกดดัน 

     Disorder : ความผิดปกติ

     ถ้าให้แปลไล่ตามคำ PTSD ก็คือ อาการผิดปกติที่เกิดจากความเครียดหรือบอบช้ำทางจิตใจ อันเกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ที่ผ่านไป อะไรแบบนี้ 

     (Disclaimer) ทั้งนี้และทั้งนั้น ยัยคนเขียนเป็นแค่คนๆนึงที่ชอบจิตวิทยาและชอบภาษา ไม่ได้จบมาทางจิตวิทยาหรือภาษาโดยตรง เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขียนอาจไม่เป๊ะเท่านักจิตวิทยาหรือนักภาษาศาสตร์มาเล่าเอง เด้อ 

     ขอขอบคุณ

- เว็บไซต์ของโรงพยาบาลสมิติเวช

- เว็บไซต์ของ Rama Channel 

- เว็บไซต์ของโรงพยาบาลเพชรเวช 

- www.mayoclinic.org 

- กูเกิ้ล และ ยูทูป 

     ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)
ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
     https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
     ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
     จนกว่าจะพบกันใหม่
     สวัสดีค่ะ