วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่เกิดกับตัวเองเป็นการป่วยที่หนักหนาสาหัสเอาการ ต้องนอน รพ ถึง 12 วันกันเลยทีเดียว
เริ่มจากเราเป็นโรคช้อคโกแลตซีส หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นมาตั้งแต่ปี 2547 อาการที่เป็นก็จะปวดประจำเดือนมาก มากจนเป็นลม ก่อน ประจำเดือนจะมาก็จะปวดเอวมาก มากจน นอนไม่ได้ นั่งไม่ได้ ต้องกินยาแก้ปวดทุกวัน วันละ 4 เม็ด เรารักษาเริ่มด้วยการฉีดยาคุม เพื่อไม่ให้ประจำเดือนมา เลือดจะได้ไม่ไหลย้อนกลับ เรา ฉีดมาตั้งแต่ปี 2547 ตอนนั้นพึ่งเรียนจบเลย เริ่มจากฉีดเดือนละเข็ม มาเป็น 3 เดือนเข็ม และ 6 เดือนเข็ม พอยุบก็หยุดฉีด แต่มันก็กลับมาเป็นใหม่ ก็วนเวียนอยู่แบบนี้ จนอายุ 32 ตั้งใจจะมีลูก จึงทำการผ่าตัดเลาะพังผืดและซีสออก และปล่อยให้ประจำเดือนมาปกติ ปล่อยตามธรรมชาติ แต่เด็กน้อยก็ไม่มาซักที แต่ที่มาแทนคือ ช็อคโกแลตซีสกลับมาอีกแล้วค่า วนไปแบบเดิมฉีดยา จนปลายปี 2559 เราไม่ฉีดเพื่อต้องการมีลูกอีกครั้ง ทำการเตรียมพร้อมทำ IUI ฉีดสีดูท่อนำไข่ตันข้างซ้าย จึงทำ IUI แต่ไม่สำเร็จ
จากนั้นก็วนมาฉีดยา แต่บางเดือนในขณะที่ฉีดยา ประจำเดือนก็จะมาบ้าง แต่อาการที่เพิ่มเติม เรามีอาการแน่นหน้าอกขวา หายใจไมอิ่ม เจ็บสะบักหลังทุกครั้งที่ประจำเดือนมา ก็หาหมอ หมอบอกออฟฟิศซินโดรม กินยาก็ดีขึ้น แต่ทุกเดือน จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ล่าสุดคือ ปวดร้าวมาที่แขน และแน่นหน้าอก หายใจเข้าลึกๆเจ็บมาก แต่รอบนี้เราไม่ได้ไปหาหมอ เพราะเราไม่อยากกินยาแก้ปวด จึงปล่อยให้เป็นหนักขึ้น จนนอนไม่ได้ พอนอนหงาย กับตะแคงขวา หายใจไม่ออกเลย เราเลยไปหาหมอ เล่าอาการให้หมอฟัง หมอฟังปอด รู้สึกถึงความผิดปกติ จึงส่ง xray ปอด ผล xray หมอบอกปอดแตก หมอตกใจมาก เพราะปอดข้างขวาเราแฟบมาก ถ้าปล่อยไว้จะอันตรายถึงชีวิต หมอรีบส่งตัวเราไป รพ ประกันสังคมซึ่งใกล้ๆกัน พอไปถึงหมอรีบนำเข้าห้องฉุกเฉิน เพราะเราพูดและหายใจไม่ได้แล้วในตอนนั้น เพราะปอดเต็มไปด้วยอากาศ พอเข้าไปห้องฉุกเฉิน ผู้คนมากมายรายล้อมเตียงเราช่วยจับขา จับแขนเรา หมออธิบายว่า หมอจะเจาะบริเวณช่องว่างของซี่โครงเพื่อใส่สายระบายอากาศไปยังเยื่อหุ้มปอดให้ระบายอากาศออก เราก็พยักหน้า คิดในใจ เอาน่าเจ็บนิดเดียว เอาสายเข้าไปแล้วดูดอากาศออกมาก็จบ หมอพูดจบ ก็มีแรงกดตรงซี่โครง กดๆๆ เพื่อดูว่าจะเจาะตรงไหน แล้วก็มีความรู้สึกเหมือนมีดแทง คือนึกในใจ นี่ฉีดยาชาแล้วเหรอคะหมอ เจ็บแทบขาดใจ พอเจาะเสร็จ หมอบอกว่าเดี๋ยวแอดมิดนะครับ งงสิ นึกว่าดูดแล้วกลับได้ พอขยับตัวเท่านั้น โอ้แม่เจ้า สายยางอันใหญ่มากเสียบตรงซี่โครง แถมยังมีขวดแก้วที่ตามตัวอีก 3 ขวด ขยับก็เจ็บมากเหมือนมีดแทงอยู่ชัดๆ ถึงห้องพักต้องให้ออกซิเจนแบบครอบเพราะหายใจเองไม่ได้ พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ เรานอนเป็นผักแบบนั้นอยู่ 3 วันทำได้แค่ลืมตา ผงกหัว นอนตะแคงก็เจ็บนอนหงายจนหลังปวดมาก แต่ทุกเช้าต้องหอบหิ้วตัวเองขึ้นเตียงเพื่อ xray ปอด เจ็บจนไม่มีน้ำตาจะไหล พอวันที่ 4 เริ่มพูดได้ หมอให้ไตรโฟ มาเพื่อเป่า ไล่อากาศออก แต่คือ เป่าแล้วเจ็บตรงสะบักหลังมาก สูบหายใจเข้าทุกครั้งหมือนมีมีดแทงสะบักหลังเจ็บจนน้ำตาไหล แต่หมอบอกนี่เป็นวิธีเดียวที่จะไล่ลมออกจากปอดได้ โดยการทำให้ปอดขยาย เราแอบคิดว่า แค่ใส่สายแล้วมันดูดออกเอง เปล่าเลยค่ะ ตัวเราเองนี่แหละที่ต้องช่วยทำให้ปอดขยาย หมอบอกเจ็บก็ต้องทน ให้เป่าทุกวัน วันละ 300 ครั้ง คือ วันแรก เป่าได้ 5 ครั้งนี้ก็กระอักเลือดละ และตอนเป่าต้องยกแขน คือ เป่าก็เจ็บมากแล้วต้องขยับแขนที่มีเข็มยักษ์คาอยู่ที่ซี่โครง ทรมานสุดๆ มีวันนึงที่ทรมานมาก วันที่7 เรานอนไม่ได้เลยคุณหมอ งดให้ยาแก้ปวดแล้ว มีแต่ยาพาราที่ทานได้ แต่ไม่ช่วยอะไรเลย ทำได้คือ อดทน สามีบอกว่าไม่เป็นไร คืนนี้เค้าจะนั่งอยู่เป็นเพื่อน ไม่นอนก้อไม่นอน คืนนั้นเรานั่งทั้งคืน เอนก็ไม่ได้ปวดมาก ส่วนสามีหลับจ้า นอนอย่างสบาย (นึกในใจไอ้คนที่มันจะอยู่เป็นเพื่อนไปไหนวะ55) แต่เราก็ขำๆนะเพราะเค้าดูแลเรามา 7 วันแล้ว จนวันที่ 9 คุณหมอเอาสายออก แต่ปอดยังไม่เต็ม 100% ซึ่งจะให้สายเสียบอยู่ไม่ได้แล้วเพราะนานกว่านี้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ คุณหมอบอกว่า ถอดแล้วรอดูอาการ หากปอดยังแฟบลงอีก ต้องทำการผ่าตัดปอด ตอนนั้นใจเราเครียดมาก ผ่าปอดๆๆๆ ไม่เอานะ อ่านในเนต ผ่าแต่ก้อต้องใส่สายอีก ไม่เอาแล้วๆๆ สวดมนต์ทุกคืน พร้อมกับเป่าไตรโฟ เป่าๆๆเจ็บจนน้ำตาไหลก็อดทนเป่า จนวันที่ 12 คุณหมอบอกอากาศในปอดเหลือ 5% ปอดใกล้จะเต็มแล้วให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ โอ๊ย อย่างกะเสียงสวรรค์ แต่ ไม่จบค่ะ คุณหมอบอกว่า โรคนี้มีโอกาสรั่วซ้ำ เราฟังแล้วช้อคไปเลย อึ้ง นี่มันโรคอะไร รั่ว ซ้ำเหรอ การรักษาไม่ใช่แค่กินยาแล้วหายน่ะ แต่เจาะปอด และระยะเวลารักษานานมาก เราถึงกับอึ้ง ถามคุณหมอว่ามีวิธีป้องกันมั๊ย เอิ่มไม่มีค่ะ เพราะของเราสาเหตุที่วิเคราะห์คือ เกิดจากโรคช้อคโกแลตซีส เลือดมันไหลย้อนกลับไปที่ปอดด้วย จนเกิดพังผืด ทำให้ปอดรั่ว ไม่มีวิธีป้องกันเลย แต่หลังจาก ออกจาก โรงพยาบาลก็ต้องเฝ้าดูอาการเพราะปอดยังไม่เต็ม
กลับมาบ้านเราต้องทำการ เป่าไตรโฟและบริการปอดตามที่นักกายภาพบำบัดสอนมา จน หนึ่งอาทิตย์หมอนัดดูอาการ ทำการ rxey ปอด ดีใจมาก ปอดปกติแล้ว แต่ คุณหมอ ห้ามนั่งเครื่อง ดำน้ำลึก ขึ้นเขาสูงๆ เพราะทำให้ปอดรั่วได้ จนตินนี้ผ่านไป สองปีเราก็ยังไม่กล้านั่งเครื่องเลย คือ ไม่เอาแล้ว โรคนี้มันหลอนมากจริงๆ
...แต่การที่ปอดรั่ว ทำให้เราเรียนรู้อย่างหนึ่งว่า การมีลมหายใจ และการได้หายใจได้อย่างเต็มปอด มันมีความสุขจริงๆนะ......
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in